เอแลน บาลอง

เบื้องหน้าของเรากำลังเป็นสวรรค์ของเดียรัจฉาน...ภายในน้ำ ในถังแก้วแปดเหลี่ยมขนาดสองฟุต มีวิหารแบบ “จามป์” ก่อด้วยหินเคลือบสีแดงชมพูหลังหนึ่ง หลังคาวิหารตอนปลายชายมีใยสาหร่ายดอนหยดลงมาจากผิวที่กระเพื่อมของแผ่นน้ำรอบๆกลุ่มของความเขียวคล้ายสีแก้วของน้ำ ซึ่งพลั่งทางออกเป็นทวยพลิ้วได้รับความรู้สึกของเราอย่างรัดรึง และบนเกลียวของทวยที่ค่อยๆ แตกออกนั้น ปลาสีเงินยวงสองตัวกำลังวิ่งไล่กันอย่างระเริงใจ สองสามครั้งที่มันพลาดจังหวะเคลียคลอ ครีบสีเลือดทั้งคู่ได้ปาดใยสาหร่ายกระจุย ตะวันเป็นดวงเดือนสำหรับมัน สีเพชรแพรวพรายทั่ววิมานได้จับตา และสะเทือนความรู้สึกของผู้เห็น

ในเวลาเกือบทุกสองวินาที ปลาตัวเมียจะสลัดมูลตกลงที่ประตูใหญ่ของวิหาร เป็นก้อนคลี่ สีน้ำตาลใส แต่ก่อนที่มูลนั้นจะถึงพื้น ปลาตัวผู้จะแหวกลงจิกและกลืน “อาหาร” ของผู้เป็นนายแล้วโผขึ้นสำออยคู่สวาทของมันด้วยลักษณะวิ่งวนเยี่ยงทาสผู้ซื่อสัตย์ประจบ และเยี่ยงสัตว์ทุกครั้งไป!

แต่ในอารมณ์ของเรากำลังเป็นนรกของปุถุชน...

“เธอต้องไม่ฆ่าเขา เอแลน” ข้าพเจ้าพยายามสรุปเรื่องทั้งหมด อย่างจริงใจและอย่างเบา “การที่เตื่องทรยศต่อเธอไม่ใช่เพราะความงาม หรือความเป็นโสเภณีของมารี ฉันรู้ เขาหลงดูมาส์มากเกินไป เขาหลง Dame aux Camélias ความรู้สึกอันจริงใจของเขายังรักเธอเท่ากับที่กลัวเธอ...”

เนตรอันเต็มไปด้วยการประหัตประหารของเอแลน หันสั่นจาก “สวรรค์ของปลา” มาเขม็งข้าพเจ้า “ริมฝีปากรูปหัวใจ” ของสตรีคนเดียวที่ข้าพเจ้าเห็น บัดนี้ขาวซีดและเม้มเรียบเหมือนเชือกที่เกลียวหวาน

“ฉันรักเขาเพราะต้องการให้เขาทำการปฏิวัติ แต่เขากลับทำลายความดีสูงสุดเพราะ...เพื่อนหญิงโสเภณี เขาตีราคาการเสียสละเพื่อบ้านเกิดของพ่อแม่-เพื่ออิสรภาพ ด้วยความอ่อนแอส่วนบุคคล” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “เธอก็เป็นเหมือนคนตะวันออกที่อ่อนแอทุกคน ที่รักเพื่อน หลงเพื่อน โดยเข้าใจว่าเพื่อนทุกคนจะรักเธอเท่าที่รักเขา อะไรเป็นความดีที่เหลืออยู่ในตัวเตื่อง ที่เธอเห็นว่าเขาไม่ควรตาย?”

“เธอไม่ใช่เพชฌฆาต เอแลน” ข้าพเจ้าตอบเลี่ยง

หญิงสาวหัวเราะเยาะอย่างขมขื่น และจับแขนข้าพเจ้าอย่างแรง

“สุจริต เธอเรียนปรัชญาเพื่อจะเป็นคนโง่ที่สุดในเรื่องสตรีเช่นนี้หรือ? เธอต้องไม่โกรธ ในเมืองญวนเราไม่มีผู้หญิงคนไหนจะไม่มีความหึง ก่อนแม่ตาย ท่านขออย่างเดียว แม้ฉันจะเลวอย่างไรก็ตาม ฉันจะสองใจไม่ได้เป็นอันขาด มีหลายคนพูดว่าฉันเป็นคนสวยและสวยที่สุด เธอคงได้ยิน เดี๋ยวนี้ฉันต้องมอบความรู้สึกอันบริสุทธิ์ของฉันให้กับเพื่อนของเธอ-ให้ผู้ดี! ด้วยเหตุผลอันเลวที่สุด!”

เธอหยุดทบทวนอย่างจวนลืมตัว “อย่าว่าแต่จะเป็นเพชฌฆาตฆ่าคนเพียงคนเดียว อย่าว่าแต่จะฆ่าเตื่อง ฉันอาจจะฆ่ามากกว่านี้ และอาจจะฆ่าได้ทั้งโลก! ฉันจะเป็นเพชฌฆาต ฉันต้องฆ่ามัน ฉันต้องฆ่ามัน ฉันต้องฆ่ามารี ฉันรู้ว่าหญิงลูกครึ่งคนนี้ได้ทำลายความทะเยอทะยานของเพื่อนร่วมชาติของฉันไม่น้อยกว่าสี่คน และเธอไม่รู้”

“แต่เพื่อนรัก ชีวิตของเธอคือการปฏิวัติไม่ใช่หรือ? ในประเทศญวนมีคนอย่างเธอกี่คน? และเธอเชื่อหรือว่า การระเบิดเพียงตูมเดียวของเธอจะทำให้ฝรั่งเศสวิ่งออกจากอานมทั้งหมด?” เตื่องอาจจะเป็นกำลังที่เลวที่สุดของเธอ เมื่อเขาไม่สามารถจะเป็นกำลังที่ดีที่สุด แม้แต่เขาไม่เป็นคู่รักของเธอ แม้แต่เขาไม่อาจแต่งงานกับเธอ”

“จริงซิ! เธอพูดเพราะเสมอ! และเธอขี้ขลาด!”

“แต่จ๊ะ เอแลน...” ข้าพเจ้าตอบอย่างสะกด และชาไปหมดและพูดได้เท่านี้ หญิงสาวนิ่ง ดวงหน้าอันงามนั้นถมึง ข้าพเจ้าลุกขึ้นไปชิด ‘สวรรค์ของปลา’ ยังแลเห็นระยะโถมจิบมูลอันน่าอิจฉาของปลาตัวผู้ ซึ่งทำให้ใยสาหร่ายเล็กควงปลิวตกลงไปยังพื้นวิหาร ข้าพเจ้าพยายามพูดกับปลาอย่างใจลอย

“เจ้าคงตกใจไม่น้อย เรื่องทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องของข้า มนุษย์ผู้ที่ไม่มีความเศร้านั้นเดี๋ยวนี้ไม่สมกับเป็นมนุษย์ แต่ข้าอยากเป็นเจ้าเหลือเกิน...” ในทันใดที่หญิงสาวได้ละลายความหุนหันของเธอด้วยเสียงอันพึมพำ เธอถลามาที่อกข้าพเจ้า สะอื้นอย่างสำนึก เธอกอดข้าพเจ้าแน่น

“ฉันเป็นผู้หญิง ยกโทษให้ฉัน-สุจริต ฉันลืมตัว ฉันรักเตื่องมากเกินไป ทำไมเตื่องจึงไม่มีลักษณะจริงจังและไม่รู้เปลี่ยนแปลงเช่นเธอ? เธอย่อมรู้ดีว่าเมืองญวนเต็มไปด้วยความทารุณโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม เธอเป็นนักเรียนที่เคราะห์ร้ายที่สุดที่มาเรียนหนังสือที่นี่ เธอมาพบชีวิตที่ตกต่ำที่สุดที่นี่ และเธอมารู้จักพวกเรา... กลับบ้านของเธอวันใด หากพวกฝรั่งเศสไม่ยอมเทียบปริญญาให้เธอ เธอจะดูหน้าเพื่อนร่วมชาติของเธอได้อย่างไร?”

“ฉันเป็นเพื่อนของเธอ” ข้าพเจ้าปลอบ “เธอต้องการอะไรที่พูดเช่นนี้”

“ฉันต้องการให้เธออยู่ที่นี่” เธอตอบ เงยหน้าอันงามขึ้น “และเป็นคนที่นี่จนวันตาย บางทีเธอคงจะคิดบ้างว่าฉัน...ฉันจะสวยพอและดีพอถ้า...ถ้า...”

“แต่เธอคงไม่หมายแนะให้ฉันกลับสัตย์จาก...” ข้าพเจ้าชะงักหยุดสำนึกถึงความบกพร่องและความหวังอันมีต่อบุคคลผู้เดียวเบื้องหลัง

“เปล่า! ไม่ใช่อย่างนั้น” เธอร้องเบาๆ “ฉันจะขอเพียงแต่รักบุคคลที่สงสารฉัน และเห็นใจฉันเงียบๆ และลำพัง ฉันบูชาเธอสุจริต ถ้าเธออนุญาต ฉันจะขอเป็นทาสเธอ และติดตามเธอเหมือนไฟที่คุตามกำลังของฟืนโดยไม่มีเวลาห่าง จนกว่าเธอจะเห็นใจฉันและสนใจในอุดมคติของฉัน จนเป็น ‘ฉัน’ พอ จนอาจช่วยฉันขุดรากฐานของพวกซากของการปฏิวัติใหม่ พวกสุนัขตับขาวคั่งไปด้วยกามารมณ์เหล่านี้โยนออกจากทวีปเอเชีย และจนในที่สุด เราจะ ‘รัก’ กันและหนีไปอยู่ซุกอยู่ซ่อนด้วยกัน และแต่งงานกัน...”

ในฐานะที่เป็นคนไทยที่ถูกสาปด้วยวาทะ ‘รกโลกไม่ได้’ มาแต่วัยน้อย ข้าพเจ้าจะตอบความต้องการและอันยุ่งและรุนแรงของเอแลนอย่างไร เอแลน บาลองมีการศึกษาสูงและสวยอย่างบาดตาบาดใจ แม้จะมีชื่อเป็นฝรั่งเศส แต่เธอเป็นหญิงสาวชาวญวนที่บริสุทธิ์เกิดในฝรั่งเศสและอยู่ในปารีส ๑๑ ปี เธอเพิ่งกลับมาเมืองญวนได้ ๓ ปี

ข้าพเจ้ายังจำคำชมของเตื่อง-วาน-เหยา จากคตินิยมญวนโบราณโดยไม่มีวันลืม

“ตางามดุจนกอินทรี-มัด-ฟุง

คิ้วระยับเหมือนหมอนไหม-ใหม่ตาม

ส้นเท้าเป็นหมึกสีแดง-ก๊ดซอง”

“และ” ข้าพเจ้ายังจำคำล้อของข้าพเจ้าได้เสมอว่า

“...และผมของเธอ อา! เอแลน บาลอง ผมของเธอดำที่สุดไม่หนาและยาวที่สุด” แล้วเราก็หัวเราะประสานกันอย่างอาจปลุกเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลายได้ แต่เดี๋ยวนี้ ในสายตาของเธอ เอแลนกลับเห็นคุณที่ไม่เคยได้ชื่อว่าเป็น “คนดี” เช่นข้าพเจ้า อาจเป็นยอดมานพแทนเพื่อนที่หนีไปอยู่ซุกอยู่ซ่อนของข้าพเจ้า!

เรื่องทั้งหมดเกิดจากปากกาของ อเล็กซองดร์ ดูมาส์ มันเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่พิมพ์จำหน่ายออกไปทั่วโลก ข้าพเจ้าไม่ทราบอิทธิพลจากทั้งโลก แต่ทราบจากความเปลี่ยนอย่างฉับพลันของเตื่อง-วาน-เหยา เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย หนังสือเล่มนั้นชื่อDame aux Camélias ข้าพเจ้าเคยเห็นแปลในหนังสือพิมพ์ ‘ไทยใหม่’ เราแข่งกันอ่านหนังสือเล่มนี้ในสนามหลังครัวทุกเวลาเช้ามืด เราเคยทะเลาะกันและสุขและเศร้าด้วยกันเพราะเรื่องนี้ แต่เตื่องหลงและลืมตัวยิ่งกว่าข้าพเจ้า ความรักของหญิงโสเภณีซึ่งไม่มีในโลก แต่มีในปากกาของดูมาส์ มันบังคับ...มันทำให้เตื่องลืมเอแลนและอยากเป็นเหมือนในหนังสือ อยากเป็นนักศึกษาอย่างอาร์มองด์ ดูวาล ที่หนุ่มที่หรูและอาจจะ ‘รู้จัก’ ความรักของหญิงหากินชั้นสูงเช่นของมารี-ยัง-โฮน “กุหลาบดอกสีพลับพลึงแห่งยาดีน” ในที่สุดเขาทั้งสองก็หนีไป ‘แต่งงาน’ ต่อหน้าแม่ที่ตาบอดของเขาที่นครหมีทอ เตื่องโทรเลขขอให้ข้าพเจ้าช่วยทำความเข้าใจให้เอแลน โดยที่เขายอมรับผิดทั้งหมด... แต่เอแลนไม่เป็นหญิงใจง่ายอย่างที่เตื่องนึก เธอไม่ยอมเปลี่ยนใจ เธอเกลียดฝรั่งเศส เพราะเธอศึกษาฝรั่งเศส เธอต้องการปฏิวัติเพราะรู้ว่าฝรั่งเศสไม่สามารถปกครองอินโดจีน ข้าพเจ้าเห็นใจในความรักอันประหลาดของเอแลน ในขณะเดียวกันเธอไม่ต้องการเป็นสตรียิ่งไปกว่าวีรสตรี...

แต่เหตุการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่านึก!

สิบห้าวันจากวันที่คำปลอบใจของข้าพเจ้าไม่สบความต้องการของเธอ แม้แต่จะพยายามทำด้วยความเศร้าและความสงสาร หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนประจำเดือนพฤศจิกายนได้ลงข่าวฆาตกรรมของ“กุหลาบดอกสีพลับพลึง” ที่สถานเต้นรำตาบาแรง และคนที่ทำการฆาตกรรมคือ เอแลน บาลอง ลูกสาวคนโตของห้างขายสบู่ใหญ่แห่งบูรวาร์ด โบนาร์ต

ในศาลของวันที่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นที่สุดเป็นประวัติการณ์ ข้าพเจ้านั่งเบียดหญิงนิโกรที่เหม็นและสกปรก สวมหมวกปีกใหญ่สีแดง ท่ามกลางคนฟังการพิจารณานับด้วยพัน เอแลนแต่งตัวด้วยกระโปรงสีเทาสลับขาวตัดริ้ว ดวงหน้าของเธออิ่มเอิบ ปากค่อนข้างซีด ความเศร้าและความกล้าได้รวมกันเป็นความหยิ่ง ตาของเธอแข็ง-ตาย เมื่อเริ่มคดี-เธอได้สารภาพทั้งหมด เธอได้เปิดความรู้สึกแค้นและอาฆาตของเธอด้วยเสียงอันดังและด้วยเหตุผลอันบังคับให้หมอกฎหมายที่มี ‘ลิ้น’ เป็นพระเจ้า นิ่งเงียบเหมือนตัวทากที่สิ้นน้ำ...

“ข้าพเจ้าฆ่ามารี-ยัง-โฮน เพราะหญิงโสเภณีผู้นี้ได้ทำลายเครื่องมือที่ข้าพเจ้าตัดสินใจเลี้ยงมันด้วยพรหมจรรย์ของข้าพเจ้าเพื่อปฏิวัติให้ชาติญวนเป็นไทพ้นจากความอยุติธรรมของชาติฝรั่งเศส ข้าพเจ้ามีชีวิตเดียวในโลกนี้ แต่ข้าพเจ้าต้องการปลดเปลื้องความถูกทรมานของเพื่อนมนุษย์อีก ๒๓ ล้านคน ที่ต้องเป็นทาสรีดเลือด - ปั้นเป็นแรงงานทำกำไรและความสุขให้แก่พวกท่านผู้เป็นนาย เราต้องการอิสรภาพเช่นเดียวกับนักปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส ซึ่งบางคนที่มีบรรพบุรุษเป็นนักปฏิวัติ-เพื่อความยุติธรรมของสมัยที่ดีแล้วมาเราต้องการภราดรภาพ เพราะทุกชั่วโมงที่เราลืมตามองเห็นร่างกายของเรา ชีวิตจิตใจของเราและรู้ถึงความจริงของความต้องการของเรา ท่านก็ไม่มีอะไรที่จะแปลกจากเรา เรารู้ว่าพวกท่าน พวกชาวฝรั่งเศสได้จงใจตัดประเทศชาติของเราออกจากโลก โดยท่านได้ปิดแผ่นดินญวนด้วยภาษีและลูกปืน แล้วหลอกลวงโลก เราต้องการสมภาพ เพราะบนหลุมศพของพวกท่าน บนเปลของพวกท่าน เมื่อท่านตายและท่านเกิด เมื่อท่านไม่อาจจารึกหน้าที่และปริญญา และประกาศนียบัตรอันหรูหราทั้งหมด ท่านก็เป็นเช่นเรา ตะเกียกตะกายหากิน แก่งแย่งกัน ทะเลาะวิวาทกันเพื่อกามารมณ์และหลับ และตาย มีอะไรที่ท่านวิเศษกว่าเรา...”

“นอกเรื่อง!! นอกเรื่อง!”

เสียงตวาดสองสามเสียง ดังออกมาจากทางบัลลังก์ ข้าพเจ้าไม่อาจจะทราบว่าเป็นใครบ้าง

“แต่ท่านผู้พิพากษา...” หญิงสาวกล่าวต่อ “อะไรคือเรื่องภายในกรอบ หากไม่ใช่ความง่ายของเรื่องอันไม่เป็นอันตรายแก่เสื้อคลุมของท่านเล่า?”

“จริงซิ!” คนขายเนื้อแต่งกายรุ่มร่วมคนหนึ่งลุกขึ้นตะโกน... “เจ้าพวกปลอกคอสูง! เจ้าพวกหาโอกาสสร้างกำแพงหากิน!”

ก่อนตะโกนต่อ ทหารฝรั่งเศสคนหนึ่งได้เอาหอกปลายปืนแทงคนขายเนื้อล้มลง ร้องว่า คนขายเนื้อจะเข้าไปทำร้ายผู้พิพากษา ขณะนี้คนฟังได้แตกตื่นกันหมดการรวนก็เกิดขึ้น จนกระทั่งอัยการศาลต้องเรียกตำรวจมาระงับเหตุการณ์ มีคนร้องตะโกนว่า

“จงปล่อย เอแลน บาลอง! สุภาพสตรีสาวสวยคนนี้ไม่มีความผิด! เธอเป็นคนอ่อนโยน และควรจะได้รับความปรานี!”

อีกสองสามอาทิตย์ต่อมา หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ลงเรื่อง “มนุษยธรรมในอานัม” มีข้อความย่อว่าคดีฆาตกรรมมารี-ยัง-โฮน โดยเอแลน บาลอง หญิงขายสบู่แห่งบูรวาร์ดซึ่งศาลได้พิจารณาลับเป็นพิเศษนั้น ศาลสืบได้ความปรากฏว่า คนเคราะห์ร้ายที่ถูกหญิงใจร้ายผู้นี้ประหารยังมีนักสืบลับอีกสองคน คดีได้ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดและ “อย่างยุติธรรม” ที่สุด และเมื่อวันที่ ๑๑ เดือนนี้ศาลได้ตัดสินจำคุกเอแลน บาลองมีกำหนด ๕ ปี เธอจะเดินทางไปใช้ “ความรักชาติ” อันเปล่าประโยชน์ของเธอที่คุกลาว-บาว-แยน วันนี้

ในเวลาเย็นของวันนั้น ขณะที่ชมการแข่งขันปิงปองที่ตำบลเหวี่ยง-ทีน-นิน ไซ่ง่อนใต้ มีเด็กเมตีล นิโกรคนหนึ่งนำจดหมายมาให้ข้าพเจ้าฉบับหนึ่ง ข้อความในจดหมายฉบับนั้นจะทำให้ผู้รับรู้สึกอย่างไรเมื่อตั้งต้นและจบลงด้วยคำเหล่านี้:

“สุจริต บุคคลเดียวที่ฉันไม่อาจลืม”

ฉันเห็นเธอท่ามกลางคนขี้ขลาดทั้งปวง เมื่อวันเริ่มคดีของฉันครั้งแรกที่ฉันจะไม่เขียนจดหมายฉบับนี้ ถ้าพรุ่งนี้ฉันจะไม่ต้องเดินทางไป ลาว-บาว-แยน เธอจะต้องไม่โทษประเทศญวน ซึ่งได้เพิ่มพูนความขมขื่นและความเศร้าให้กับเธอผิดกับประเทศทั้งหลายในโลกนี้ เพราะชาวฝรั่งเศสได้นำน้ำนรกของเขามาจากปารีสมาตั้งไว้ที่นี่ และบังคับให้ชาติเราดื่ม เราต้องเป็นปีศาจ เราต้องถูกยิงและถูกแทง ในชีวิตจิตใจของเราทั้งชาติจะมีอะไรพยาบาทยิ่งไปกว่าพวกฝรั่งเศสเป็นไม่มีแล้ว

เกิดเป็นผู้หญิงที่มีคู่รักที่ทรามทั้งเกียรติและการกระทำอย่างฉันเป็นความลำบากยิ่ง และเธอไม่รู้ ฉันพยายามที่จะเชื่อเธอ แต่จะเชื่อได้อย่างไร เมื่อฉันขอพบเตื่องเป็นครั้งสุดท้าย ภรรยาของเขาหาว่าฉันจะพรากผัวของเขาไป... เขาวิ่งร้องว่า ฉันจะมาแย่งเตื่อง เหมือนกับชะนีตัวเมียไหปลาร้าหักที่หมอต้องมัดและฉีดยา ฉันตบหน้าเตื่องทีเดียวและยิงเมียของเขาเหมือนยิงลูกสุนัขบ้าของรีโบลด์สองสามที่และไม่ทราบว่าตาย จนกระทั่งฉันถูกบอกเล่าในศาล เธอคงเห็นใจฉันบ้างว่า คนที่แย่งความสุขของคนอื่นนั้น ไม่สมควรไม่ใช่หรือที่จะอยู่เพื่อปะปนกับเพื่อนมนุษย์ผู้รู้จักกำจัดความกระหาย

แต่ - สุจริต เธอคงเชื่อไม่ใช่หรือว่าฉันเป็นหญิงใจร้าย? ในเรื่องราวของความรัก ฉันเป็นคนดีสมกับเป็นลูกแม่ แต่ในเรื่องราวของการอุทิศและบูชา ฉันเป็นคนเลว ฉันได้หลงบุคคลที่ไม่อาจแบ่งความรู้สึกที่เต็มแล้วของบุคคลหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่เสียใจเท่ากับไม่ได้สนองบุญคุณของมาดามหวิน-แม่ของเตื่อง แกรักฉันเหมือนลูกและแกตาบอด ต่อสิ่งนี้ ฉันขอวิงวอนเธอช่วยกรุณาฉันเป็นครั้งสุดท้าย เธอโปรดไปที่หมีทอ ช่วยเตื่องโดยให้ซูซานแต่งงานกับเขา บอกว่าพี่สาวของเขาต้องการเช่นนั้น แม้แต่ซูซานยังเรียนไม่สำเร็จก็ตาม เธอคงเห็นใจ ฉันไม่อาจทนที่จะทราบว่าเตื่องต้องเสพฝิ่นตลอดชีวิต

กลับกรุงเทพฯ วันใด โปรดเล่าเรื่องของฉันให้พี่สาวของฉันฟัง คิดถึงฉันบ้าง แม้แต่เราไม่อาจเขียนจดหมายถึงกันได้ตลอดชีวิตนี้

ขอลาก่อน ยอดมานพ ฉันจะคอยเธอใน “โลกใหม่” ที่เธอบอกว่าจะต้องมี และเป็นที่ที่เธอให้ความหวังว่า เธออาจจะรักฉันได้

จากเพื่อนที่อาภัพของเธอที่เชื่อในสุจริตใจของเธออย่างที่สุด”

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ