พระราชสาส์นไปเมืองจีน ปีมะเมีย อัฐศก จุลศักราช ๑๑๔๘

พระราชสาส์นไปเมืองจีน

ครั้งรัชกาลที่ ๑ กรงรัตนโกสินทร์

เมื่อปีมะเมีย อัฐศก จุลศักราช ๑๑๔๘ พ.ศ. ๒๓๒๙

----------------------------

สุวรรณพระราชสาส์น

สมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุธยา ขอจำเริญทางพระราชไมตรีมาแต่สมเด็จพระเจ้าต้าฉิงผู้ใหญ่

ด้วย ณ ปีมะเมีย อัฐศก ต่อกัน เจ้ากรุงรัตนบุรอังวะยกกองทัพพม่า มอญ ลาว เงี้ยว กะแซ ลงมากระทำรบพุ่งแก่กรุงพระมหานครศรีอยุธยา ทั้งทิศตะวันตก ตะวันออก และทิศเหนือ ทิศใต้ โดยรอบคอบ ประมาณพล ๓๐ หมื่น สรรพไปด้วยช้างม้าปืนใหญ่ปืนน้อย เครื่องศัสตราวุธเป็นอันมาก และฝ่ายสมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุธยา กับสมเด็จพระมหาอุปราชอนุชาธิราชเจ้า กรมพระราชวังบวร ฯ เสด็จ ฯ ยกกองทัพแยกไปปราบ ได้กระทำการรบพุ่งโดยสามารถ ฝ่ายพม่า มอญ ลาว ข้าศึกก็แตกพ่ายอัปราชัย ไพร่พลทหารฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุธยา ไล่พิฆาตฆ่าฟันพม่า มอญ ลาว ข้าศึกล้มตายในน้ำบนบกเป็นอันมาก แต่จับได้เป็นเอาขังไว้ ณ เรือนตรุทั้งนายและไพร่ ๕๐๐๐ เศษ แล้วกวาดได้ช้างม้าปืนใหญ่ปืนน้อยเป็นอันมาก ฝ่ายเจ้ากรุงรัตนบุรอังวะก็แตกหนียกเลิกกลับไป

อันกรุงรัตนบุรอังวะกับกรุงพระมหานครศรีอยุธยาเห็นจะได้ทำการรบพุ่งติดต่อกันไปกว่าจะยับเยินข้างหนึ่ง คิดจะใคร่ขอกองทัพกรุงปักกิ่งให้ยกไปช่วยอีก แต่ทว่าเป็นระยะท่าทางไกล จะลำบากแก่ทแกล้วทหารพลกรุงปักกิ่งนัก จะต้องราชประสงค์แก่เกราะทองเหลือง ๒๐๐๐ สำหรับทหารจะได้ทำการรบพุ่งเอาชัยชนะแก่พม่า ครั้นจะให้ออกมาจัดซื้อแต่อำเภอ ฝ่ายกรุงจีนเป็นสิ่งของต้องห้าม จึงบอกออกมาให้กราบทูลแต่สมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ ขอจัดซื้อเกราะทองเหลือง ๒๐๐๐ ได้ส่งตัวอย่างเกราะออกมาด้วยแล้ว และขอให้สมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ช่วยทำนุบำรุงกรุงพระมหานครศรีอยุธยาให้ได้เกราะทองเหลือง ๒๐๐๐ เข้าไปตามราชประสงค์ จะได้ทำการรบพุ่งกับพม่าข้าศึก ป้องกันรักษากรุงพระมหานครศรีอยุธยาสืบไป ฯ

----------------------------

พระราชสาส์นคำหับ

พระราชสาส์น สมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุธยา ปราบดาภิเษกตามบุราณราชประเพณี มีพระราชรำพึงถึงทำนองคลองพระราชไมตรี ราชไมตรีและไมตรี แห่งสมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ ซึ่งมีมาแต่กาลก่อน

แต่งให้พระยาสวัสดิสุนทร ราชทูต พระบวรเสน่หา อุปทูต ขุนพจนาพิจิตร ท่องสื่อ หมินพิพิธวาจา ปั้นสื่อ จำทูลพระสุพรรณบัฏรัตนพระราชสาส์น และเชิญเครื่องมงคลราชบรรณาการ ออกมาจิ้มก้องสมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ ตามขนบบุรพราชประเพณี และเครื่องราชบรรณาการนั้น ครั้นจะจัดออกมาจิ้มก้องให้ครบตามตำรากฎหมายแต่ก่อน ครั้งนี้กรุงพระมหานครศรีอยุธยาพึ่งสร้างใหม่ แล้วก็เกิดศึกรบพุ่งกันเป็นจลาจล ลูกค้านานาประเทศเข้าออกไปมาค้าขายน้อย จะจัดซื้อหาขัดสน จัดได้แต่

ช้างพลาย สูง ๓ ศอก ๔ นิ้ว ช้างหนึ่ง ช้างพัง สูง ๓ ศอก ๗ นิ้ว ช้างหนึ่ง รวม ๒ ช้าง

กฤษณาทอดน้ำจม ข้างหน้าหนัก ๒ ชั่ง ข้างในหนัก ๑ ชั่ง รวม ๓ ชั่ง

การบูน ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

ชันปึก ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

ผลกะเบา ข้างหน้าหนัก ๓ หาบ ข้างในหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

แก่นไม้มะเกลือ ข้างหน้าหนัก ๓ หาบ ข้างในหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวม หนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

นอระมาด ข้างหน้า ๖ ยอด ข้างใน ๓ ยอด รวม ๙ ยอด

ผลกะวาน ข้างหน้าหนัก ๓ หาบ ข้างในหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

งาช้าง ข้างหน้า ๔ ลำหาบ ๑๖ กิ่ง หนัก ๓ หาบ ข้างใน ๔ ลำหาบ ๖ กิ่ง หนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวมงาช้าง ๑๘ กิ่ง หนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

ดีปลี ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

อำพัน ข้างหน้าหนัก ๑ ชั่ง ข้างในหนัก ๘ ตำลึง รวมหนัก ๑ ชั่ง ๘ ตำลึง

จันทน์ชมด ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

หางนกยูง ข้างหน้า ๑๐ หาง ข้างใน ๕ หาง รวม ๑๕ หาง

กากเพชรจันทบูรณ์ ข้างหน้าหนัก ๗ ตำลึง ข้างในหนัก ๓ ตำลึง รวม หนัก ๑๐ ตำลึง

เปลือกสีเสียด ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

เปลือกกานพลู เอาเปลือกสมุนแวงแทน ข้างหน้าหนัก ๑ หาบ ข้างในหนัก ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง

รง ข้างหน้าหนัก ๓ หาบ ข้างในหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

พรม ข้างหน้า ๒ ผืน ข้างใน ๑ ผืน รวม ๓ ผืน

ผ้าโมรีแดง ข้างหน้า ๑๐ ตรา ข้างใน ๕ ตรา รวม ๑๕ ตรา

กรักขี ข้างหน้าหนัก ๓ หาบ ข้างในหนัก ๑ หาบ ๕๐ ชั่ง รวมหนัก ๔ หาบ ๕๐ ชั่ง

ฝาง ข้างหน้าหนัก ๓๐ หาบ ข้างในหนัก ๑๕ หาบ รวมหนัก ๔๕ หาบ

ปีกนก ข้างหน้า ๖๐๐ ข้างใน ๓๐๐ รวม ๕๐๐ ปีก

ให้ออกมาจิ้มก้องสมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ ขอให้ของกรุงพระมหานครศรีอยุธยาเข้าไปตามขนบบุรพราชประเพณี จะได้เป็นศรีสวัสดิมงคลแก่กรุงพระมหานครศรีอยุธยา จำเริญทางพระราชไมตรี ราชไมตรี และไมตรี ทั้งสองกรุงพระมหานครสืบไป ถ้าและราชทูต อุปทูต ตรีทูต ออกมาถึงกรุงปักกิ่งแล้ว ขอสมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่เห็นแก่ทางพระราชไมตรี ได้ให้รับพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการไว้ แล้วขอได้ให้นำ ราชทูต อุปทูต ตรีทูต ข้าหลวงมีชื่อเข้ากราบถวายบังคมตาม ขนบธรรมเนียม สำเร็จราชการแล้วขอให้ ราชทูต อุปทูต ตรีทูต ข้าหลวงมีชื่อได้กลับเข้าไปแจ้งราชการยังกรุงพระมหานครศรีอยุธยาโดยสะดวก ถึงกำหนดจิ้มก้องแล้ว จะได้ให้ออกมาจิ้มก้องตามราชประเพณีสืบไป

พระราชสาส์นคำหับปิดตราโลโต ครั้งนี้หาตราโลโตมิได้ ปิดตราพระไอยราพตมาเป็นสำคัญ

พระราชสาส์นมา ณ วันจันทร์ เดือน ๗ ขึ้น ๙ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๔๘ มะเมีย อัฐศก ฯ

----------------------------

 

  1. ๑. คัดจากสมุดไทยดำเส้นหรดาน ไม่มีหมายเลข ซึ่งกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งมาให้กรมศิลปากรเมื่อ ๗ ก.ค. ๘๒

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ