พระราชสาส์นเมืองจีน ปีจอ โทศก จุลศักราช ๑๑๕๒

พระราชสาส์นเมืองจีน

ครั้งรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์

เมื่อปีจอ โทศก จุลศักราช ๑๑๕๒ พ.ศ. ๒๓๓๓

----------------------------

พระราชสาส์นพระเจ้ากรุงจีน

ประกาศฉลองพระชันษาครบ ๘๐ ปี

กับบัญชีเครื่องราชบรรณาการ

----------------------------

สมเด็จพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ ทรงพระเมตตาแห่งสมเด็จพระเจ้ากรุงเทพมหานครศรีอยุธยายิ่งนัก ทรงจารึกพระอักษรให้โอวาทมาว่า เทพยดาทั้งหลายเชิญให้ลงมาเกิดเป็นพระมหากษัตริย์รักษาแผ่นดิน ครอบครองไพร่ฟ้าข้าขอบขัณฑเสมาให้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากภัยและเวทนาต่าง ๆ ตามคำเทพยเจ้าสั่งสอน

ครั้งหนึ่งพระเจ้าปู่ของเราได้เสวยราชสมบัติ พระชันษาท่านได้ ๖๑ ปี ได้ทำพิธีบั้นซิวเป็นมหามงคลกาล วันนั้นท่านตรัสแก่พระญาติพระวงศ์ทั้งปวง ไม่เห็นผู้ใดซึ่งจะครอบครองแผ่นดินรักษาไพร่บ้านพลเมืองได้ ท่านเห็นแต่เราผู้เดียว ได้ยินคำนี้จึงอุตสาหะประพฤติตามคำท่านสั่งสอน รักษารี้พลทั้งปวงเหมือนรักตัวตั้งอยู่ในใจทั้งกลางวันกลางคืนมิได้ลืม ก็สมคำท่านตรัส แต่รักษาแผ่นดินมาได้ ๕๕ ปี บัดนี้ชันษาก็ได้ถึง ๘๐ ปี ขุนนางข้าราชการหัวเมืองน้อยใหญ่ได้มั่วสุมกันมากระทำปั้นสิ้วคำนับเราทั้งแผ่นดิน ก็เห็นว่าคนทั้งปวงมีความกตัญญูยิ่งนัก เราก็ได้พระราชทานเครื่องอุปโภคให้ทุกเมืองน้อยใหญ่ ขุนนางและข้าราชการและไพร่บ้านพลเมืองทั้งแผ่นดินได้ให้โค้อีกครั้งหนึ่ง

ข้อหนึ่งได้ห้ามหัวเมืองใหญ่น้อยทั้งปวง อย่าเอาของมาปั้นสิ้วเลย เอาของมาทำปั้นสิ้วและจิ้มก้องนี้ เห็นว่ารักแต่ภายนอก ถ้าขุนนางและอาณาประชาราษฎรทั้งปวงอุตสาหะรักษาแผ่นดินโดยสัจธรรม ให้ไพร่บ้านพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ดีกว่าเอาของมาทำปั้นสิ้วและจิ้มก้องอีก เห็นว่ารักเราภายในจริง

ข้อหนึ่ง ยวนก่งเหงซึ่งเป็นข้าศึก ไม่ต้องรบก็ยอมเข้าหาเราโดยดี ปาลีปูแขกซึ่งมิได้เป็นข้าขอบขัณฑเสมา ก็มีน้ำใจสามิภักดิ์เป็นเมืองขึ้นเมี้ยนเตียน พม่าเป็นเมืองป่าก็แต่งทูตานุทูตคุมเครื่องราชบรรณาการมาถวาย อีกแขกเมืองนานาประเทศซึ่งมิได้เคยไปมา ก็มีน้ำใจจงรักภักดีไปมาเป็นอันมาก

ข้อหนึ่ง ข้าราชการใหญ่น้อยทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน พระเจ้าลูกเธอหลานเธอก็ให้ตั้งอยู่โดยยุติธรรมตามประเพณี มิให้กระทำผิดโดยกฎหมายอย่างธรรมเนียมสืบมาถึง ๕ ชั่วคน ก็ยั่งยืนได้เห็นกันอยู่ ซึ่งขุนนางและไพร่บ้านพลเมืองอายุถึงร้อยปี ทุกวันนี้มีอยู่พันเศษ ที่มีอายุมากขึ้นไปได้เห็นลูกหลานเหลนถึง ๕ ชั่วคน ก็ยังมีอยู่สองร้อยเรือน

ข้อหนึ่ง ขุนนางข้าราชการใหญ่น้อย หัวเมืองขึ้นน้อยใหญ่ และไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินต่าง ๆ มีแต่ความจงรักภักดีต่อเรา เราก็ยิ่งมีเมตตาปกแผ่แผ่นดิน ตั้งความอุตสาหะมิได้คิดแก่ลำบากยากเหนื่อย การเล่นหนังสือกาพย์ โคลง เพลง ซึ่งมิต้องการจะดูนั้นมิได้ ดูแต่กฎหมายอย่าธรรมเนียมกษัตริย์สืบมา ควรเลี้ยงรี้พลไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินโดยพิสัยสัจธรรมประเพณี มิให้เสียทีเทพยดาเจ้าเชิญมาบำรุงแผ่นดิน และพระญาติพระวงศ์ทั้งอาณาประชาราษฎรได้สถาพร บ้านเมืองจึงกว้างขวางบริบูรณ์ถึง ๕๕ ปีสืบมา ซึ่งการบุญได้ทำไว้ทุกข้อ

ข้อหนึ่ง มีภูเขาเป็นหลักแผ่นดินถึง ๕ ตำบล มีวัดเป็นอันมาก มีแม่น้ำใหญ่ ๔ ตำบล ให้แต่งเครื่องดอกไม้ธูปเทียน ให้ขุนนางไปกระทำสักการบูชาตามอย่างธรรมเนียมทุกปี

ข้อหนึ่ง ที่ศาลเทพารักษ์ซึ่งชื่อ ลม ฝน ฟ้า ไฟ เมฆ ทั้ง ๕ ตำบลนั้น ให้ชำระตกแต่งกระทำบวงสรวงตามอย่างธรรมเนียมด้วย

ข้อหนึ่ง ทุกบ้านทุกเมือง หนทางและสะพานทุกแห่ง ทุกตำบล รกเรี้ยวลุ่มดอนปรักหักพัง ให้เจ้าเมืองกรมการซ่อมแปลงทำให้ดี ให้คนเดินไปมาสะดวก

ข้อหนึ่ง ถ้าบ้านเมืองฝนแล้ง ไฟไหม้ น้ำท่วม ข้าวแพงก็ดี คนยากจน ให้จงตกหมูอี้ เจ้าเมืองเอาเงินจำนวนหลวง ออกจำหน่ายให้ราษฎรยืมซื้อข้าวกินและข้าวปลูก วัว ทำนา ให้สืบดู ถ้าเห็นมันยากจนจริงแล้วพระราชทานให้ยกเสีย อย่าให้เอา

ข้อหนึ่ง ให้มีศาลาไว้สำหรับพระราชทานคนแก่ไม่มีลูกเมีย หญิงไม่มีลูกผัว เด็กไม่มีพ่อแม่ คนพิการหาที่พึ่งมิได้ ให้จงตกหมูอี้เจ้าเมืองเอาเงินหลวงออกจ่ายให้กินอย่าให้ลำบาก

ข้อหนึ่ง ขุนนางก็ดี ไพร่ก็ดี มีอายุถึง ๗๐ ปี ๘๐ ปี ขึ้นไปถึง ๑๐๐ ปี ก็ดี พระราชทานเงิน ๑๐ ตำลึง แพรต้วนไม้ ๑ ข้าวหาบ ๑ หมูหนัก ๑๐ ชั่ง ไม้เท้าอัน ๑

ข้อหนึ่ง พระเจ้าลูกเธอ หลานเธอและพระญาติพระวงศ์ อายุ ๑๕ ปี ขึ้นไป ให้พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค

ข้อหนึ่ง ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน ซึ่งใช้สอยมิได้ราชการนั้น ให้ยกเสียจากที่ แต่ตัวนั้นทำราชการอยู่ให้ลิปอสืบดู ถ้าหาความผิดอื่นมิได้ ก็ให้ตั้งขึ้นไว้คงที่เหมือนแต่ก่อน

ข้อหนึ่ง ผู้มีกตัญญูต่อบิดามารดา และผัวเมียอยู่ด้วยกันแต่อายุ ๑๗ ปี ๑๘ ปี ถ้าเมียตายชายก็มิได้มีเมียจนตาย ถ้าผัวตายหญิงก็มิได้มีผัวจนตาย ให้ขุนนางเขียนชื่อใส่ศิลาไปปักไว้หน้าบ้าน

ข้อหนึ่ง กุฏิซึ่งใส่พระศพกษัตริย์มาแต่ก่อน กับกุฏิเซงหยินครูหนังสือนั้น ให้ขุนนางแต่งเครื่องธูปเทียนดอกไม้ไปทำสักการบูชาทุกปีอย่าให้ขาดได้ บ้านเมืองจึงจะอยู่เย็นเป็นสุขสืบไป

ข้อหนึ่ง เมื่อชันษา ๘๐ ปี ขุนนางและอาณาประชาราษฎรมาทำปั้นซิ่วนั้น ได้ทำนุบำรุงพระสนมกับภรรยาขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งมีอายุถึง ๖๐ ปีนั้น พระราชทานเพิ่มขึ้นอีก

ข้อหนึ่ง พระญาติพระวงศ์และขุนนางตาดจีนก็ดี ซึ่งโปรดให้ไปกินเมืองเอก เมืองโท เมืองตรี เมืองจัตวา ถ้าภรรยาอายุนั้นได้ ๖๐ ปี ก็พระราชทานเพิ่มขึ้นอีก

ข้อหนึ่ง ขุนนางฝ่ายทหารพลเรือนทำราชการดียั่งยืน ก็ให้เลื่อนที่ขึ้นกึ่งหนึ่ง ให้เปลี่ยนตราเสียใหม่

ข้อหนึ่ง ขุนนางผู้น้อยหาบำเหน็จความชอบมิได้ แต่ทำราชการมาช้านานแล้ว ก็ให้เลื่อนขึ้น หมื่นเป็นขุน ขุนเป็นหลวง

ข้อหนึ่ง ทหาร ๘ เหล่า จีนตาดก็ดี ซึ่งไปทำสงครามแต่ก่อนนั้น ถ้าชราอายุ ๗๐ ปี ๘๐ ปี พระราชทานแพรต้วนไม้ ๑ เงิน ๑๐ ตำลึง ข้าวหาบ ๑ หมู ๑๐ ชั่ง แม้อายุถึง ๑๐๐ ปี ให้ขุนนางเขียนชื่อใส่แผ่นศิลาไว้กับหน้าตึก

ข้อหนึ่ง คนโทษให้ขับเสียนอกเมืองก็ดี แดนต่อแดนก็ดี โปรดให้กลับเข้ามาอยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งโทษถึงตาย จำไว้ ณ คุกหัวเมือง ให้ชำระดูครั้งหนึ่ง บอกส่งขึ้นมาเห็นโทษมิควรตาย ก็โปรดให้พ้นโทษ

และได้ทำนุบำรุงแผ่นดินโดยประเพณีจนพระชันษาได้ ๘๐ ปี คนทั้งปวงมาทำปั้นซิ่ว ได้ทำทั้งนี้บ้านเมืองจึงอยู่เย็นเป็นสุขสืบมา

ลงพระราชสาส์นมา ณ วันเดือนอ้าย ขึ้น ๑ ค่ำ ศักราช ๑๑๕๒ ปีจอ โทศก ฯ

----------------------------

บัญชีเครื่องราชบรรณาการ

เครื่องราชบรรณาการพระเจ้ากรุงปักกิ่งตอบเข้ามาเป็นธรรมเนียม

ข้างหน้า

แพรกิม ๘ ม้วน
แพรแส ๑๒ ม้วน
แพรกกิมต้วน ๑๘ ม้วน
แพรต้วน ๘ ม้วน
แพรกินแสทอง ๑๘ ม้วน
แพรโล่ ๑๘ ม้วน
แพรโล่ทอง ๘ ม้วน
รวมแพรข้างหน้า ๘๐ ม้วน

ข้างใน

แพรกิมต้วน ๔ ม้วน
แพรต้วน ๖ ม้วน
แพรกิมแสทอง ๔ ม้วน
แพรแส ๖ ม้วน
แพรกิมโล่ทอง ๔ ม้วน
แพรโล่ ๖ ม้วน
รวมแพรข้างใน ๓๐ ม้วน
รวมแพรทั้งข้างหน้าข้างใน ๑๑๐ ม้วน

และของนอกธรรมเนียม คือ

อักษรหก
หยกมีพู่สำหรับกษัตริย์ทรง
เครื่องหยก ๒ อัน
เครื่องถ้วย ๔ อัน
เครื่องแก้ว ๔ สิ่ง
แผนที่กระดาษ ๑๐๐ แผ่น
กระดาษแพรใหญ่น้อย ๔ ม้วน
ศิลาฝนหมึก ๒ อัน
พู่กันเขียนหนังสือ ๓ หีบ
หมึก ๓ หีบ
กะบะกำมลอ ๔ ใบ

ส่งให้ ราซทต อุปทูต คุมเข้ามา ฯ.

----------------------------

 

  1. ๑. คัดจากสมุดไทยดำเส้นหรดาน ไม่มีหมายเลข กรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งมาให้กรมศิลปากรเมื่อ ๗ ก.ค. ๘๒

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ