องก์ที่ ๔

[ตอนนำ]

(มโนรมาออก)

มโนรมา. (เดือดร้อน) โอ้โอ๋, พระเทวีช่างกริ้วอยู่นานจริงๆ! ทำไมหนอท่านจึ่งไม่ทรงสงสารอารัณยกาเพื่อนรักของดิฉัน, ผู้ที่ต้องจำจองอยู่เปนนานแล้ว. (ร้องไห้) แม่สาวคนนั้นมิได้เดือดร้อนในเรื่องที่ตนเองต้องจำนั้นเท่าในข้อที่หมดหวังที่จะได้เฝ้าล้นเกล้าล้นกระหม่อมอีก. และความที่หล่อนมีทุกข์มากน่ะ วันนี้เองดิฉันต้องพยายามมากที่จะห้ามปรามหล่อนเมื่อหล่อนจะฆ่าตัวเอง. ดิฉันพึ่งจะได้บอกวสันตกะบัดนี้ว่าให้นำชาวทูลเจ้านายด้วย.

(กาญจนมาลาออก)

กาญจนมาลา. อย่างไรหนอ ดิฉันได้เที่ยวหาคุณนายสังกิจจาอณีแล้วก็ยังไม่พบเลย (เหลียวแล) เออ, ดิฉันจะต้องถามมโนรมานี่เสียด้วย. (เข้าใกล้) มโนรมา, หล่อนรู้ไหมว่าคุณนายสังกิจจาอณีอยู่ที่ไหน?

มโนรมา. (เหลียวดูและเช็ดน้ำตา) อ้อกาญจนมาลา. ฉันได้เห็นท่านอยู่; แต่หล่อนอยากพบท่านทำไม?

กาญจนมาลา. นี่แน่ะมโนรมา, วันนี้ได้มีหนังสือฉะบับหนึ่งมาจากพระนางอังคารวดี.(๕๓) พอได้ทรงแล้ว, พระเนตรของพระเทวีก็เต็มไปด้วยน้ำพระเนตรและทรงเดือดร้อนมาก ฉันจึ่งเที่ยวหาคุณนายเพื่อจะได้ไปทูลปลอบ.

มโนรมา. เออหล่อน, ในหนังสือนั้นมีความว่ากระไรล่ะ?

กาญจนมาลา. ว่าดั่งนี้ : ‘น้องสาวของฉันก็เหมือนแม่ของเธอ. ทิฒวัมมะผู้เปนภรรดาของน้องสาวนั้นก็เหมือนเปนพ่อของเธอ. แต่ฉันจะต้องบอกเธอเช่นนี้ทำไม. กว่าปีหนึ่งมาแล้ว พญาองค์นั้นได้ถูกอ้ายเจ้ากลิงค์ร้ายนั้นจับขังไว้. ฉะนั้น ไม่ควรเลยที่ภรรดาของเธอ, ผู้มีอำนาจมากและอยู่ใกล้, จะนิ่งนอนใจเสียเมื่อได้ทรงทราบข่าวเคราะห์ร้ายนี้.’

มโนรมา. แต่ก็, กาญจนมาลา, ใครเล่าได้อ่านหนังสือนี้ออกดัง ๆ, เมื่อล้นเกล้าล้นกระหม่อมได้ตรัสสั่งไว้แล้ว ว่าไม่ให้ใครอ่านเรื่องนี้ถวายภัฏฏินี?

กาญจนมาลา. เมื่อฉันกำลังอ่านของฉันอยู่เองเงียบ, ภัฏฏินีทรงแย่งเอาไปจากมือฉัน แล้วก็เอาไปทรงอ่านเอง.

มโนรมา. เช่นนั้นก็ไปเถอะ. เทวีประทับอยู่ที่นี่เองกับคุณนายที่ในหองานั่น.

กาญจนมาลา. ฉันจะไปเฝ้าภัฏฏินีละ. (เข้าโรง)

มโนรมา. ตั้งแต่ดิฉันจากแม่อารัณยกามาก็นานแล้ว. แม่เคราะห์ร้ายคนนั้นเบื่อชีวิตเสียที่สุดแล้ว. อาจจะเกิดเหตุร้ายอะไรอย่างหนึ่งเมื่อไร ๆ ก็ได้. ดิฉันจะต้องตรงไปหาหล่อนเสียหน่อยละ. (เข้าโรง)

จบตอนนำ

(วาสวทัตตาออกนั่ง, ใจคอไม่สบายมาก, และมีสางกฤตยายนี และบริวารอยู่ตามลำดับด้วย)

สางกฤตยายนี. ราชบุตรี, งดการหมองพระหฤทัยเสียเถิด. วัตสราชหาเปนเช่นนั้นไม่. วัตสราชจะทรงนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไรเมื่อทรงทราบว่าพระภรรดาของพระมาตุจฉาตกอยู่ในความลำบากเช่นนั้น?

วาสวทัตตา. (ร้องไห้) ภควดี, คุณเปนคนซื่อเกินไป. เมื่อท่านไม่ทรงมีเยื่อใยต่อตัวดิฉันแล้ว, ท่านจะทรงมีเยื่อใยอะไรต่อพวกของดิฉัน. การที่พระมารดาทรงมีลายพระหัตถ์มาถึงดิฉันเช่นนี้ก็ควรอยู่ แต่ท่านหาทรงทราบไม่ว่าวาสวทัตตาไม่เหมือนแต่ก่อนเสียแล้ว. แต่คุณสิได้เห็นกิจการเรื่องอารัณยกาแก่ตาของคุณเองแล้ว. ฉะนั้น คุณจะกล่าวเช่นนี้อย่างไรได้

สางกฤตยายนี. ก็เพราะหม่อมฉันได้เห็นแก่ตาเองนั่นสิ, หม่อมฉันจึ่งได้พูดเช่นนั้น. ที่จริงว่านก็เปนแต่ทรงเล่นขัน ๆ เช่นนั้นที่งานเกามุทีเพื่อให้พระนางทรงพระสรวล.

วาสวทัตตา. ภควดี, นั่นเปนความจริง. ดิฉันถูกเขาหัวเราะเยาะนักจนแทบจะยืนอยู่ตรงหน้าคุณมิได้แล้วทีเดียวเพราะความอาย. ฉะนั้นพูดอย่างนั้นจะมีประโยชน์อะไร. ดิฉันตกอยู่ในที่เช่นนี้ก็เพราะความหลงนี่เอง. (ร้องไห้)

สางกฤตยายนี. อย่าทรงพระกรรแสงไปอีกเลย, ราชบุตรี. วัตสราชหาเปนคนเช่นนั้นไม่. (เหลียวดู) แต่ท่านก็เสด็จมานี่แล้วเพื่อทรงปลอบพระองค์ให้ทรงบรรเทาความเสียพระหฤทัย.

วาสวทัตตา. นี่เปนแต่เพียงความหวังของคุณเองเท่านั้น.

(พระราชาและวิทูษกออก)

ราชา. เกลอเอ๋ย, มีอุบายอย่างไรบ้างบัดนี้ที่จะให้แม่ที่รักได้รอดออกมาได้.

วิทูษก. พ่อเจ้าประคุณ, คลายความเหี่ยวพระหทัยเสียเถิด. ข้าพระเจ้าจะบอกอุบายให้.

ราชา. (ยินดี) เออเกลอ, บอกมาสิ, เร็วๆเข้า.

วิทูษก. เจ้าประคุณ, พระองค์เองก็มีพระพาหาอยู่สองข้างที่ได้เคยสำแดงเรี่ยวแรงมาแล้วในเวลารบเปนหลายครั้ง; นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงมีกองทัพอันหาใครๆสู้มิได้, พร้อมด้วยช้าง, ม้า และพลเดินเท้า. ฉะนั้น จงทรงยกกำลังพลทั้งหมดเข้าโจมตีวังในและช่วยให้อารัณยการอดออกมาจงได้บัดนี้เทียว.

ราชา. อ๊ะเกลอ, ที่สูว่ามานั้นเหลือที่จะทำได้ละ.

วิทูษก. มีอะไรที่เหลือที่จะทำได้บ้าง? เพราะในนั้นก็ไม่มีผู้ชายคนไรนอกจากคนค่อม, คนเตี้ย กับกรมวังแก่ ๆ.

ราชา. (มันไส้) ตาบ้า, ทำไมพูดเหลวใหลเช่นนั้น, ทางที่จะให้เจ้าหล่อนพ้นโทษได้ไม่มีอย่างอื่นนอกจากทำให้เทวียกโทษ. ฉะนั้นบอกฉันทีเถิดว่าทำอย่างไรจึ่งจะให้เทวียกโทษได้.

วิทูษก. เจ้าประคุณ, อดข้าวเสียเดือนหนึ่งเถอะ. บางทีเทวีผู้กริ้วอยู่มากจะหายกริ้วได้.

ราชา. (สำรวล) เล่นตลกพอแล้ว. บอกหน่อยว่าทำไฉนจึ่งจะให้เทวียกโทษได้.

ฤๅเราควรจะสะกัดพระเทวิและวิหัสน์(๕๔) แล้วพลันกระหวัดศอ ปริยา?

ฤๅเราควรจะแสดงสุจาฏุวจนา(๕๕) นับร้อยและพาเธอ สราญ?

ฤๅเราควรจะประทับณบาทวธุสะคราญ วอนเยาวมาลย์ขอ อภัย?

จริงหนอจริงนะอโหมิแจ้งณกลไร เพื่อเทวิไสร้หาย พิโรธน์.

ฉะนั้น มาเถิด, เรามาตรงไปหาเทวีเถิด.

วิทูษก. เจ้าประคุณ, จะเสด็จก็เสด็จสิ. แต่ข้าพระเจ้าพึ่งจะหลุดมาจากที่คุมขังโดยยาก, ฉะนั้น ข้าพระเจ้าไม่ไปละ.

ราชา. (สำรวล, จับคอและบังคับให้กลับมา) ตาบ้า, ไปเถิดน่า, ไปเถิดน่า. (เดินไปมาและเหลียวแล) นี่แน่ะเทวีประทับณกลางหองา. ฉันจะเข้าไปหาละ. (เดินเข้าใกล้ด้วยอาการขวยเขิน)

(วาสวทัตตาลุกขึ้นอย่างช้า ๆ จากที่นั่ง)

ราชา.

ใยลุกล่ะจากพระวรอาสน์ และลำบากเพราะฉันด้วย?

ข้าแม่สะเอวอระระทวย บมิควรนะเพื่อฉัน.

เสียแรงดนูหทยหวาม เพราะพระเนตร์ประสพพลัน

มาต้องกระดากเพราะวรกัน- ยกระทำเสงี่ยมตัว.

วาสวทัตตา. (จ้องหน้า) ทูลกระหม่อมแก้ว, บัดนี้ทรงกระดากด้วยหรือ?

ราชา. แม่ที่รัก, ฉันกระดากจริงนะ, เพราะว่าแม้เมื่อหล่อนได้เห็นความผิดของฉันแก่ตาก็ตาม, ฉันก็ยังจงใจอยู่ที่จะทำให้หล่อนหายเคือง.

สางกฤตยายนี. (ชี้อาสนะ) เชิญประทับเถิดล้นเกล้าล้นกระหม่อม.

ราชา. (ชี้อาสนะ) เชิญเทวีนั่งที่นี้เถิด.

(วาสวทัตตานั่งลงกับพื้น)

ราชา. อ้าว, เทวีนั่งลงกับพื้นแล้ว. ฉันก็จะนั่งที่นั้นบ้างละ. (นั่งลงกับพื้น, กระทำกิริยาเคารพ) แม่ที่รัก, ขอโทษ, ขอโทษเถิด. เหตุไฉนหล่อนจึ่งกลับแสดงความเคืองยิ่งขึ้น, เมื่อฉันได้มาระยอบกายอยู่ต่อหน้าหล่อนแล้ว.

อ้าเจ้าผู้วรเนตระงามบ่มิขมึง ร้องไห้ไฉนจึ่ง บ่หย่อน?

ริมฝีโอษฐ์บ่มิไหวไฉนวธุสะท้อน ถอนใจบ่เห็นผ่อน ชะงัก;

เจ้าไม่เผยพจนารถและก้มพระวรพักตร์ ดูราวคะนึงนัก นะนาง;

ความโกรธนี้นะสิทำดนูกมลหมาง ราวเจ็บณแผลพราง ณกาย.

แม่ที่รัก, ขอโทษ, ขอโทษเถิด. (นั่งลงที่ใกล้ตีนนาง)

วาสวทัตตา. พระองค์ทรงพระสำราญอยู่แล้วมิใช่หรือ ฉะนั้น ทำไมจึ่งมาทรงรบกวนผู้ที่มีทุกข์? เสด็จลุกขึ้นเถิด. ใครโกรธขึ้งอะไรที่นี้.

สางกฤตยายนี. เสด็จลุกขึ้นเถิดล้นเกล้าล้นกระหม่อม, นี่จะเปนเรื่องอะไร. มีสิ่งอื่นแท้ ๆ ที่ทำให้พระนางไม่ทรงสบาย.

ราชา. (โดยเร็ว) อะไรอีกเล่า, ภควดี?

(สางกฤตยายนีกระซิบทูลที่พระกรรณ)

ราชา. (สำรวล) ถ้าเช่นนั้น, อย่ารำคาญอีกเลย. ฉันเองก็ได้ทราบแล้ว. แต่ฉันไม่ได้บอก. เพราะนึกอยู่ว่าจะได้แสดงความยินดีต่อเทวีเมื่อการได้กระทำไปสำเร็จแล้วทีเดียว ถ้ามิฉะนั้น เหตุไฉนฉันจะนิ่งอยู่ได้ในกิจการที่เกี่ยวกับทฤฒวรมัน. นั่นแหละ, หลายวันมาแล้วได้มีข่าวเรื่องท้าวนั้นมาถึง; และเหตุการณ์ได้เปนดั่งนี้.

อันแสนยะซึ่งวิชยเส- นะวิเนตระสู่ราษฏร์

ได้รบทำลายวรอำนาจ และสง่ากลิงค์หาย,

จนต้องปราชิตะและต้อน พลเข้าณเมืองหมาย

ปราการะเปนสรณกาย เพราะว่ะอื่นบ่มีกัน.

และเมื่อเปนเช่นนี้แล้ว

ซุดโทรมโดยถูกกระหน่ำนั้น และพลพยุหอัน ถ่อยก็ถอยถั่น บ่อาจหาญ,

เมื่อจวนถึงความละลายลาน คชหยพลล้าน แสนยะแตกฉาน บ่แขงขลัง,

เมื่อค่ายคูป้อมประตูพัง เพราะพยุหจะประทัง ทุ่มพลังโรม ณเร็วนี้,

คุณคงทราบข่าวกลิงค์ชี- วิตะมรณณที่ รบฤมีผู้ กระลึงไว้.

สางกฤตยายนี. ราชบุตรี, หม่อมฉันได้ทูลแล้วแต่แรกมิใช่หรือว่า วัตสราชจะทรงนิ่งดูดายไม่ตีโต้ได้อย่างไร.

วาสวทัตตา. ถ้าเช่นนั้น, ดิฉันก็ปลื้มใจ.

/*105 */เฝ้าที่. ทรงพระจำเริญยิ่ง ๆ เถอะล้นเกล้าล้นกระหม่อม ท่านวิชัยเสน, พร้อมด้วยท่านกัญจุกินของพระเจ้าทิฒวัมมะ, ผู้มีตาแววอยู่ด้วยความยินดีและใคร่เพื่อจะกราบบังคมทูลข่าวดี, มายืนคอยอยู่ที่พระทวารแล้วละเพคะ.

วาสวทัตตา. (ยิ้ม) ภควดี, ดิฉันเห็นว่าทูลกระหม่อมแก้วได้ทรงทำให้ดิฉันพอใจโดยเต็มที่แล้ว.

สางกฤตยายนี. หม่อมฉันลำเอียงต่อวัตสราชอยู่, ฉะนั้น ไม่ขอทูลอะไรอีกละ.

ราชา. ให้เขาเข้ามาบัดนี้.

เฝ้าที่. เพคะ (เข้าโรง)

(วิชัยเสนกับกัญจุกินออก)

วิชัยเสน. นี่แน่ะท่านกัญจุกิน, กระผมรู้สึกปลื้มใจมากเหลือที่จะเปรียบได้ เมื่อนึกถึงการที่จะได้เฝ้าฝ่าพระบาทเจ้านายณวันนี้.

กัญจุกิน. ท่านวิชัยเสน นั่นเปนข้อที่เถียงไม่ได้ เพราะว่าแม้ในคราวอื่นนอกนี้ ข้าย่อมยินดี ยามเมื่อได้เฝ้าเจ้านาย, แต่ต้องยินดีมากมาย เมื่อได้ทำลาย อริพลังดั่งใช้.

ทั้งสอง. (เข้าใกล้) ชยตุ ชยตุ พระเจ้าข้า.

(ราชากอดทั้งสองคน)

กัญจุกิน. เทวะ, ข้าพระเจ้าขอถวายพระพรแด่พระองค์.

วิชัยเสนมีชัย ปราบริปูได้ สำเร็จดั่งราชบรรหาร,

ฆ่าท้าวกลิงค์ใจพาล แล้วเชิญผู้ผ่าน พิภพของข้าคืนเมือง.

วาสวทัตตา. เออ ภควดี, ท่านจำกัญจุกินผู้นี้ได้หรือ?

สางกฤตยายนี. ทำไมหม่อมฉันจะจำไม่ได้. ท่านผู้นี้เองเปนผู้ที่ได้รับฝากลายพระหัตถ์ของพระน้ามา.

ราชา. สาธุ! วิชัยเสนกระทำการใหญ่ได้สำเร็จดี.

(วิชัยเสนลงกราบแทบพระบาท)

ราชา. เทวี, ฉันยินดีด้วย. ทฤฒวรมันได้กลับขึ้นทรงราชย์อีกแล้ว.

วาสวทัตตา. (ยินดี) หม่อมฉันพอใจมาก.

วิทูษก. ในเมื่อเวลาที่มีความชื่นชมยินดีในราชตระกูลเช่นนี้ มีกิจอันควรกระทำอยู่คือ- (ชี้พระราชาและทำท่าดีดพิณ) บูชาครู (ชี้สายธุรัมของตน) สักการะพาห์ม, (กล่าวถึงอารัณยกา) ปล่อยนักโทษทั้งหมด.

ราชา. (ดีดนิ้วโดยมิให้วาสวทัตตาเห็น) สาธุ, เพื่อน, สาธุ!

วิทูษก. พระนาง, ทำไมไม่มีรับสั่งอะไรสักอย่างหนึ่งเล่า?

วาสวทัตตา. (แลดูสางกฤตยายนีและยิ้ม) ตาคนนี้ก็เท่ากับสั่งให้ปล่อยอารันยกาแล้วนะเจ้าคะ.

สางกฤตยายนี. จะยึดเขาไว้อีกจะได้ผลดีอะไรเล่าเพคะ.

วาสวทัตตา. ก็แล้วแต่คุณจะพอใจเถิดเจ้าคะ.

สางกฤตยายนี. ถ้าฉะนั้น หม่อมฉันจะไปสั่งปล่อยเขาเอง. (เข้าโรง)

กัญจุกิน. อนึ่งพระเจ้าทฤฒวรมันได้มีพระกระแสสั่งมาดั่งนี้ว่า: ‘โดยพระบารมีของพระองค์ สิ่งทั้งปวงได้เปนไปแล้วสมใจของข้าพระเจ้า. ฉะนั้น ชีวิตของข้าพระเจ้าเปนของพระองค์. พระองค์จะทรงทำอย่างไรก็สุดแท้แต่จะโปรดเถิด.’

(ราชายืนก้มพระพักตร์อยู่ด้วยความถ่อม)

วิชัยเสน. เทวะ, เปนการพ้นวิสัยที่จะกราบบังคมทูลได้ว่าพระเจ้าทฤฒวรมันทรงรักใต้ฝ่าละอองพระบาทมากเพียงไร.

กัญจุกิน. (๕๖) ‘แม้เปนเคราะห์ร้ายที่สัมพันธไมตรียังมิได้กระทำแก่กัน, เพราะเหตุที่ข้าพระเจ้าต้องพรากจากลูกหญิงปรียทรรศิกาที่ได้มั่นไว้กับพระองค์แล้วนั้นก็ดี, แต่ข้อบกพร่องนี้ก็ได้สิ้นไปเพราะพระองค์ได้วาสวทัตตาเปนพระชายา.’

วาสวทัตตา. (น้ำตาไหล) ท่านกัญจุกิน, น้องสาวของฉันหายไปอย่างไร?

กัญจุกิน. ราชบุตรี, ในระหว่างเวลาที่ท้าวกลิงค์ผู้ใจพาลได้ยกไปย่ำยี, เมื่อพวกชาววังกำลังวิ่งหนีไปมาอยู่นั้น, เผอิญเกล้ากระหม่อมได้เห็นท่านพระองค์หญิง, และเมื่อคิดเห็นแล้วว่าท่านมิควรที่จะคง

ประทับอยู่ณที่นั้นอีก, เกล้ากระหม่อมจึ่งได้เชิญเสด็จออกพ้นและออกเดินทางจะมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้าวัตสราช. ต่อนั้น, ครั้นเมื่อได้ใคร่ครวญดูอีกแล้ว, เกล้ากระหม่อมจึ่งได้เชิญเสด็จพระองค์หญิงไปฝากไว้กับท้าววินธยเกตุแล้วไปต่อไป. ครั้นเมื่อเกล้ากระหม่อมกลับไปอีก, จึ่งได้เห็นว่าได้มีข้าศึกไปล้างผลาญทั้งสถานที่นั้นทั้งตัวท้าววินธยเกตุเสียสิ้นแล้ว.

ราชา. (ยิ้ม) วิชัยเสน, เจ้าจะว่าอย่างไร?

กัญจุกิน. และเกล้ากระหม่อมก็ได้ค้นหาดูที่นั้นทั่วแล้ว, แต่ก็หาพบท่านพระองค์หญิงไม่. ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ก็ไม่มีใครทราบว่าท่านเสด็จอยู่ณหนไหน.

(มโนรมาออก)

มโนรมา. ภัฏฏินี, แม่สาวนั้นจะตายอยู่ละมาร่อแล้วเพคะ.

วาสวทัตตา. (ร้องไห้) อะไรเจ้าได้รู้กิจการของปรียทรรศนาด้วยหรือ?(๕๗)

มโนรมา. หม่อมฉันไม่ได้ทราบกิจการของปรียทรรศนาดอกเพคะ แต่แม่อารัณยกา, น่ะเพคะ, ได้ดื่มยาพิษเข้าไป, เปนของที่มีผู้เอาไปให้โดยอ้างว่าเปนเมรัย, และร่อแร่จะตายอยู่แล้ว นี่เปนข้อที่หม่อมฉันมาทูล. โปรดช่วยด้วยเถิด. (กราบตีนร้องไห้)

วาสวทัตตา. (พูดกับตน) โอ้โอ๋! โอ้โอ๋! เรื่องของอารัณยกานี้ร้ายยิ่งไปกว่าความทุกข์ของเราในเรื่องปรียทรรศนาเสียอีก. โลกนี้ช่างชั่วร้ายเสียจริงๆ. บางทีจะติโทษเราผิดๆไปก็ได้. ฉะนั้น เราต้องทำเช่นนี้เถอะ (พูดดัง, ระส่ำระสาย) มโนรมา, ไปพาเขามาที่นี้เดี๋ยวนี้. ทูลกระหม่อมแก้วทรงชำนาญในเรื่องนี้, เพราะได้ทรงเรียนรู้วิชชายาพิษมาจากนาคโลก.

(มโนรมาเข้าโรง)

(มโนรมาพะยุงอารัณยกา, ซึ่งแสดงอาการว่าต้องยาพิษแล้วนั้น, ออกมา)

อรัณยกา. มโนรมาจ๋า, ทำไมจึ่งพาฉันเข้ามาในที่มืดเล่า?

มโนรมา. (สิ้นคิด) ตาย, ตาย! ตาของหล่อนเสียไปด้วยแล้วเพราะพิษยานั้น. (แลดูวาสวทัตตา) ภัฏฏินี, เร็ว ๆ เพคะ, โปรดช่วยหล่อนด้วย, โปรดช่วยหล่อนด้วย. พิษยาจะทำให้หล่อนถึงที่สุดเสียแล้ว.

วาสวทัตตา. (ระส่ำระสาย, จับพระหัตถ์ราชา) ทูลกระหม่อมแก้ว, เชิญเสด็จ, เชิญเสด็จเถอะ. แม่สาวคนนั้นอาการทรุดลงเร็วเต็มทีแล้ว. (ทุกคนแลดู)

กัญจุกิน. (มองดู) แม่คนนี้ดูคล้ายพระปรียทรรศิการาชบุตรีของเจ้านายเรามากทีเดียว. (พูดกับวาสวทัตตา) ราชบุตรี, สาวน้อยนี้มาจากไหน?

วาสวทัตตา. อ๋อท่าน, เขาเปนลูกสาวของท้าววินธยเกตุ วิชัยเสนผู้ที่ได้ฆ่าพ่อเขาตายได้พาเขามาที่นี้.

กัญจุกิน. อะไรลูกสาวเขา? เธอเปนพระราชบุตรีของเจ้านายเกล้ากระหม่อมต่างหาก. โอย, เกล้ากระหม่อมนี่เคราะห์ร้ายจริง ๆ เปนถึงที่ละ (ทรุดตัวลงกับพื้น, แล้วฝืนลุกขึ้น) ราชบุตรี, นี่คือพระปริยทรรศิกา, พระภคินีของพระองค์.

วาสวทัตตา. ทูลกระหม่อมแก้ว, โปรดช่วยด้วย, โปรดช่วยด้วย. น้องสาวของหม่อมฉันจะตายอยู่แล้ว.

ราชา. ใจดี ๆ ไว้, ใจดี ๆ ไว้. ขอฉันดูก่อน. (พูดกับตน) เคราะห์ร้าย, โอ้ เคราะห์ร้าย.

ผึ้งเหินนภาพรจะลิ้ม รสดวงกมลอ่อน,

รวยรื่นระคนอมฤตะวร มธุที่กมลกลั่น,

แต่บัวสิเซียเพราะหิมะแสน ศิตะมากระทบพลัน !

ยามร้ายผิเราฤดิจะฝัน ก็บ่สิทธิผลไร.

(พูดดัง) มโนรมา, ถามหล่อนดูทีหรือว่ารู้สึกตัวหรือไม่.

มโนรมา. เพื่อน, หล่อนยังรู้สึกตัวอยู่หรือ? (ร้องไห้, เขย่าตัวอีก) เพื่อน, ฉันถามหล่อนว่าหล่อนรู้สึกตัวไหม?

ปรียทรรศิกา. (พูดไม่ค่อยชัด) จริง ๆ นะ, พระนางท่านเปนผู้ที่เห็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมต่างหาก. ไม่ใช่ฉันรู้จักเลย. (พูดได้เพียงกึ่งประโยคแล้วก็ล้มลงกับพื้น)

ราชา. (ร้องไห้, พูดป้อง)

หล่อนหลับสองนยนาก็กูประดุจะยล ทั่วพื้นนภาอน – ธการ;

ศอหล่อนอัดก็อโหประหนึ่งวจนผ่าน ศอกูก็กันดาร ละนา;

ลมหล่อนหมดก็อโหกระไรประดุจะพา ให้ตัวดนูชา กระด้าง;

น่ากลัวว่าพิษคงจะซาบณดนุนาง อ้ากูทุกข์ปาง จะตาย.

วาสวทัตตา. (ร้องไห้) ปรียทรรศิกา, ลุกขึ้น, ลุกขึ้นเถิด. ดูแน่ะ, ล้นเกล้าล้นกระหม่อมเสด็จมายืนอยู่นี่. อะไรนี่ไม่รู้สึกตัวเสียแล้วด้วยหรือ? พี่ได้ทำความร้ายอย่างไรแก่น้องโดยมิได้ตั้งใจ, น้องจึ่งโกรธและไม่พูด. ฉะนั้น ขอโทษ ขอโทษเถิด. ลุกขึ้น, ลุกขึ้นเถิด. พี่จะไม่ทำผิดเช่นนั้นอีกเลย. (แลขึ้นไปสูง) โอย, กรรมของดิฉัน. ดิฉันได้ทำผิดร้ายอย่างไรหนอจึ่งต้องมาเห็นน้องสาวเปนเช่นนี้? (ซบลงกอดปรียทรรศิกา)

วิทูษก. เจ้าประคุณ, ทำไมจึ่งทรงยืนอยู่เหมือนสิ้นคิดอย่างนั้น? นี่ไม่ใช่เวลาที่จะทำใจเสีย. พิษยานั่นมันกำลังแสดงอาการน่ากลัวมากอยู่นะ. ฉะนั้น ทรงสำแดงเดชวิชชาให้เห็นหน่อยเถิดพระเจ้าข้า.

ราชา. ข้อนั้นจริงอยู่ (แลดูปรียทรรศิกา) ฉันมัวตกตะลึงอยู่ตลอดเวลาที่ล่วงมา. ฉันจะแก้ให้หล่อนฟื้นขึ้น, น้ำ, น้ำ.

วิทูษก. (เข้าโรงแล้วกลับออก) นี่พระเจ้าข้า, น้ำ.

(ราชาเข้าไปใกล้ ณ วางพระหัตถ์ที่ตัวปรียทรรศิกา, แล้วแสดงท่าเล่ามนตร์. ปรียทรรศิกาลุกขึ้นช้า ๆ)

วาสวทัตตา. ทูลกระหม่อมแก้ว, น้องสาวหม่อมฉันกลับขึ้นแล้ว.

วิชัยเสน. เออ, อำนาจวิทยาของพระผู้เปนเจ้ามากนักหนา.

กัญจุกิน. เออ, กระไรเลยความสง่าและความทรงรอบรู้เลิดของพระผู้เปนเจ้า.

ปรียทรรศิกา. (ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง, หยัดกาย, แล้วพูดอย่างละเหี่ยและไม่ค่อยชัด) มโนรมา, ฉันหลับไปเสียนาน.

วิทูษก. เจ้าประคุณ, ความชำนาญของพระองค์เห็นชัดเทียวละ.

(ปรียทรรศิกาแลดูพระราชาด้วยความรัก, ยืนก้มหน้าอยู่หน่อยหนึ่งด้วยความเจียมตัว)

วาสวทัตตา. (ยินดี) ทูลกระหม่อมแก้ว, ทำไมหล่อนจึ่งยังแสดงท่าทางแปลกอยู่?

ราชา. (ยิ้ม)

เพราะสายตาของหล่อนยัง มิปกติและอีกทั้ง พจะมิชัด;

และกายของหล่อนเสียวจัด อวยวถนัดเส- ทะประทุซ่า;

และโดยเหตุที่องคา- พยพะอระเทิ้มพา อุระระทด,

ก็พอเห็นได้ปรากฏ ว่ะพิษะบ่มิคลายหมด ณวรกาย.

กัญจุกิน. (พูดกับปรียทรรศิกา) ราชบุตรี, เกล้ากระหม่อมคือข้าของพระบิดา. (กราบลงที่ตีนนาง)

ปรียทรรศิกา. (แลดู) อ้อ, ท่านกัญจุกิน, ท่านวินัยวสุ. (ร้องไห้) โอ้พระพ่อ, โอ้พระแม่.

กัญจุกิน. ราชบุตรี, อย่าทรงกรรแสงอีกเลย. พระบิดามารดาทรงสบายอยู่. พระองค์ได้กลับคืนกรุงแล้ว ด้วยเดชะพระอำนาจของสมเด็จพระวัตสราช.

วาสทัตตา. (น้ำตาคลอ) มานี่เถอะแม่ช่างปลอมตัว. มาแสดงความรักกันฉันพี่น้องหน่อยเถอะ. (กอดคอนาง) บัดนพี่สบายใจแล้ว.

วิทูษก. พระนาง, พระองค์ทรงยินดีแล้วโดยได้กอดพระศอพระภคินี, แต่ทรงลืมกำนลของนายแพทย์เสียแล้วละ.

วาสวทัตตา. ไม่ลืมดอก, วสันตกะ.

วิทูษก. (ยิ้มพลางพูดกะพระราชา) แพทย์, ยื่นพระหัตถ์มา. ข้าพระเจ้าจะให้ได้ทรงรับพระหัตถ์ของพระภคินีเปนกำนล.

(ราชายื่นมือไป, วาสวทัตตาเอามือปรียทรรศิกาวางในมือของพระราชา)

ราชา. (หดมือไป) ฉันเกี่ยวข้องอะไรกับแม่คนนี้. ฉันพึ่งจะได้ดีกับเธอด้วยความลำบากเมื่อกี้นี้เอง.

วาสวทัตตา. ทูลกระหม่อมแก้วจะไม่ทรงรับอย่างไรได้. พระพ่อของเธอนี้ได้ยกเธอถวายแต่เดิมทีมาแล้ว

วิทูษก. เจ้าประคุณ, ต้องทำตามเทวีรับสั่ง, อย่าขัดพระหทัยท่าน.

(วาสวทัตตาดึงพระหัตถ์ราชาไปและให้ปรียทรรศิกา)

ราชา. (ยิ้ม) เทวีบังคับได้. เราจะกระทำอย่างอื่นได้อย่างไร.

วาสวทัตตา. ทูลกระหม่อมแก้ว, จะโปรดให้ทำอะไรอีกบ้างหรือไม่?

ราชา. ฉันประสงค์อะไรยิ่งกว่านี้อีกเล่า? ดูเถิด.

อันองค์ท้าวทฤฒวรรมะไสร้ก็บริบูรณ์ ในราชะไอศูรย์ สุขี;

ฝ่ายเธอผู้บ่มิสุขเพราะโกรธก็ขณะนี้ หายโกรธและกลับดี กะฉัน;

ฝ่ายนวลนางปริยารรศนาภคินินั้น คืนชีพและพบกัน กะเธอ;

อันตัวฉันจะประสงค์อะไรล่ะจะเสมอ เหมือนรักณตัวเธอ วิมล.

และขอจงเปนดั่งนี้ด้วย,

(ภรตวากย์) (๕๘)

ขอให้วาสพประทานฝน ประดุจะนิกรชน ชอบและเชยผล สุพีชา;

ขอให้ทั้งผองสุยัญญา ณวรสุรคณา ซึ่งวิปราทำ สมิทธี;

ขอให้ความพร้อมณชนดี ประลุผลและบ่มี เสื่อมและโสตถี ตลอดกัลป์;

ขอให้คำคนบ่เที่ยงธรรม์ ปิศุนะวจนอัน เปรียบกะปูนพลัน พินาศเทอญ. (๕๙)

(เข้าโรงทั้งหมด)

จบองค์ที่สี่

จบนาฏิกาชื่อปรียทรรศิกาเท่านี้แล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ