องก์ที่สาม

[ตอนนำ]

(มโนรมาออก)

มโนรมา. ดิฉันได้รับรับสั่งพระเทวีวาสวทัตตาว่าดั่งนี้: ‘นี่แน่ะ มโนรมา, วันนี้, ที่งานโกมุที,(๓๐) พวกเจ้าจะต้องเล่นต่อเรื่องละคอนที่สังกิจจาอณีได้แต่งแสดงเรื่องของพระสามีกับตัวกู’ นี่แหละ, เมื่อวานนี้ แม้อารัณยกาเพื่อนเรารำไม่ดีเลย, เพราะใจลอยอยู่. ถ้าเจ้าหล่อนรำเปนตัววาสวทัตตาอย่างนั้นอีกละก็, พระเทวีคงกริ้วเปนแน่ละ. ฉะนั้นบัดนี้ดิฉันจะไปหาตัวหล่อนที่ไหนดีหนอเพื่อต่อว่า. (เหลียวแลไป) นั่นแน่ อารัณยกากำลังเดินเข้าไปที่ซุ้มต้นกล้วยที่ข้างขอบอ่าง, บ่นอะไรกับตนเองอยู่อย่างหนึ่ง. ฉะนั้น ดิฉันจะแฝงอยู่หลังกอไม้นี่และฟังคำที่หล่อนบ่นโดยไม่รู้ตัว.

จบตอนนำ

(อารัณยกาออกนั่ง, แสดงท่าพะวงด้วยรัก)

อารัณยกา. (ถอนใจ) โอ้โอ๋! ใจของเรา, ไฉนเล่าเจ้าจึ่งมาปรารถนาผู้ที่เจ้าได้ด้วยยาก ทำให้เราได้ทุกข์นัก?

มโนรมา. เออนี่เองแหละเปนเหตุให้เจ้าหล่อนใจลอย. แต่ก็หล่อนคิดถึงอะไรเล่า? เราจะต้องฟังดูให้ดีก่อน.

อารัณยกา. (น้ำตาไหล) ทำไมหนอพระมหาราชเจ้า, ผู้มีพระโฉมอันสง่าเห็นปานนั้น, จึ่งทรงทำให้เราเดือดร้อนได้เช่นนี้ อัศจรรย์, อัศจรรย์ (ถอนใจ) ตรงกันข้าม, เปนเคราะห์ร้ายของเราเอง, ไม่ใช่โทษผิดของพระมหาราชเจ้า.

มโนรมา. (ร้องไห้) อะไร, เจ้าหล่อนคิดถึงพระมหาราชเจ้านั่นเองแหละหรือ? ดีแล้ว, เพื่อนรัก, ดีแล้ว. ความปรารถนาของหล่อนสมควรแก่กำเนิดสูงของหล่อน.

อารัณยกา. ที่เราจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครดีเล่าแล้วจะได้ผ่อนทุกข์เพียงให้มีเวทนาพอทนได้. (ตรองดู) เออเรามีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่งชื่อมโนรมา, ผู้เปนเหมือนคนใจเดียวกันกับเราทีเดียว. แต่ถึงแม้แก่แม่คนนั้นเราก็ไม่กล้าจะเล่าให้ฟังได้เพราะความอาย. นอกจากความตายแล้ว, เราจะได้สิ่งอื่นที่จะระงับใจเรามาจากไหน โดยประการทั้งปวง?

มโนรมา. (น้ำตาไหล) โอ้โอ๋, โอ้โอ๋! ความรักของแม่สาวคนนี้เปนที่สุดที่แล้วละ. ฉะนั้น เราจักทำอย่างไรดีในเรื่องนี้?

อารัณยกา. (ด้วยความคิดถึง) นี่เองเปนที่ที่เราได้ถูกแมลงภู่กวน, เราได้เกาะพระองค์ไว้และพระองค์ได้ทรงปลอมเราด้วยคำว่า ‘อ้าภีรุอย่ากลัว.’

มโนรมา. (ดีใจ) อ้อ! ล้นเกล้าล้นกระหม่อมได้ทอดพระเนตรเห็นหล่อนแล้วหรือ? ท่าจะมีหนทางช่วยชีวิตของหล่อนได้ละ, เราจะต้องตรงเข้าไปปลอบหล่อน (เข้าไปใกล้โดยพลัน) ถูกแล้วที่ใจของหล่อนมีความขวยอยู่บ้าง.

อารัณยกา. (ด้วยความขวย, พูดกับตน) โอ้โอ๋, โอ้โอ๋. เขาได้ยินเสียหมดแล้ว. ฉะนั้น การที่จะพูดออกมาตรง ๆ ก็เปนการควร. (พูดดัง, จับมือนาง) เพื่อนรัก, อย่าเคือง, อย่าเคือง. ความ ขวยเขินในที่นี้ ย่อมเปนผิด.

มโนรมา. (ดีใจ) เพื่อนเอ๋ย, อย่าสงกาอีกเลย. บอกฉันหน่อยเถอะ, หล่อได้เฝ้าล้นเกล้าล้นกระหม่อมแล้ว, จริงหรือไม่?

อารัณยกา. (ก้มหน้าเพราะขวย) เพื่อนรักก็ได้ยินเสียหมดแล้ว.

มโนรมา. ถ้าหล่อนได้เฝ้าล้นเกล้าล้นกระหม่อมแล้วละก็, อย่าร้อนใจไปอีกเลย; พระองค์ท่านเองก็คงจะอยากทรงหาหนทางที่จะพบหล่อนเหมือนกัน.

อารัณยกา. นั่นหล่อนพูดอย่างเพื่อนที่ลำเอียง. แม่ช่างประ จบ, มันจะเปนไปเช่นนั้นได้อย่างไร เมื่อพระองค์ท่านถูกมัดมั่นอยู่ด้วยความงามของพระเทวี.

มโนรมา. (หัวเราะ) อุ๊ย, แม่คนพาซื่อ! แมลงภู่, ถึงแม้ความรักของมันจะฝังอยู่ที่ดอกบัวหลวงก็ตามที, เมื่อมันแลเห็นดอกมะลิเลื้อยและอยากดอมกลิ่นหอมใหม่, มันจะยอมนิ่งทนไม่ไปหาละหรือ?

อารัณยกา. การคิดของที่เหลือจะเปนประโยชน์อะไร. ฉะนั้น มาเถอะ. เนื้อตัวของฉันแสบร้อนไปด้วยความร้อนแห่งฤดูสารท และหาทางรอดพ้นจากความเดือดร้อนนั้นไม่ได้เลย.

มโนรมา. อุ๊ย, แม่ขี้อาย, ไม่ควรเลยที่หล่อนจะปิดความรู้สึกในใจ, เมื่อหล่อนเปนอยู่เช่นนี้.

(อรัณยกาก้มหน้า)

มโนรมา. อุ๊ย, แม่ช่างปิดความ, ทำไมปิดอยู่อีก? ความรักของหล่อน, ซึ่งรู้ได้ด้วยการถอนใจใหญ่หลายๆ ครั้งทั้งกลางวันกลางคืน เหมือนเสียงหวือ ๆ แห่งลูกศรของพระกุสุมศร (๓๑) อันตกพรู ๆ อยู่ฉะนั้น, ยอมสำแดงชัดอยู่แล้วมิใช่หรือ? (พูดกับตนเอง) แต่ที่จริงนี่ก็ไม่ใช่เวลาที่ควรจะต่อว่ากัน. ฉะนั้น เราจะต้องหาใบนิโลบลไปทาบที่ตรงใจของหล่อนเสียหน่อย. (๓๒) (ลุกขึ้นและเก็บใบบัวจากอ่างและเอาไปทาบที่ตรงใจแห่งอารัณยกา) ขอให้สบายใจเถอะ, เพื่อนเอ๋ย, รอให้สบายใจเถอะ.

(วิทูษกออก)

วิทูษก. ความที่พระเพื่อนรักของเรารักนางอรัณยกามากมายนัก, จนทรงทอดทิ้งรั้วงานร่าอะการ และมัวทรงพะวงอยู่แต่ในเรื่องจะหาทางพบกับเจ้าหล่อนเท่านั้น. (ตรึกตรอง) นี่เราจะได้พบตัวแม่คนนั้นที่ไหนหนอ? เออ, เราจะไปหาดูที่ริมอ่างนั่นละ. (เดินไปมา)

มโนรมา. (ฟัง) ฉันได้ยินอะไรเหมือนฝีตีน, ฉะนั้น เราเข้าแอบที่กอกล้วยแล้วก็มองดูเถอะว่าเปนใคร.

(ทั้งสองทำเช่นนั้นและมองดู)

อารัณยกา. อ๋อ, นี่คือพราหมณ์ที่ตามเสด็จล้นเกล้าล้นกระหม่อมอยู่.

มโนรมา. อ้อ, วสันตกะน่ะหรือ? (ดีใจ, พูดกับตนเอง) ขอให้เปนจริงเช่นกันเถอะ.

วิทูษก. (เหลียวแลไปทั่วด้าน) นี่อารัณยกากลายเปนนางป่าไปเสียจริง ๆ หรือ ?

มโนรมา. (ยิ้ม) เพื่อน, พราหมณ์ผู้เปนพระสหายของล้นเกล้าล้นกระหม่อมเขาพูดถึงหลอนแน่ะ. ฉะนั้น เราจงตั้งใจฟังให้ดี.

(อารัณยกาฟังด้วยความใคร่รู้และขวยเขิน)

วิทูษก. (ด้วยร้อนใจ) ตั้งแต่พระเพื่อนรักของเรา, ผู้ต้องทนทรมานอยู่ในความเร่าร้อนจากความรักอันใหญ่หลวง, ตรัสใช้เราด้วยพระหฤทัยอันปั่นป่วน; เราก็ได้ไปเที่ยวค้นแล้วในที่ประทับของพระนางวาสวทัตตา, พระนางปัทมาวดี, และที่ประทับแห่งพระนางองค์อื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้พบเจ้าหล่อน, ฉะนั้น เราจึ่งมาที่อ่างแก้วที่มีผู้ได้เห็นหล่อนด้วย. แต่ที่นี่ก็ไม่อยู่. เราจะทำอย่างไรต่อไปดี?

มโนรมา. ได้ยินไหม, เพื่อนรัก?

วิทูษก. (ตรึกตรอง) เมื่อมาคำนึงดู, พระเพื่อนรักของเราได้ตรัสว่า: ‘ถ้าแม้ไม่พบตัวหล่อนเมื่อเที่ยวค้นหาละก็, อย่างน้อยก็จงเก็บเอาใบบัวที่ได้เพิ่มความเย็นขึ้นเปนสองเท่าเพราะมือของเจ้าหล่อนได้แตะต้องแล้วนั้น จากอ่างมาด้วย.’ แต่ว่าเราจะรู้อย่างไรได้เล่าว่าใบไหนเปนใบควรเก็บ.

มโนรมา. นี่เปนช่องของเรา (เดินเข้าใกล้และจับมือวิทูษก) วสันตกะ, มาเถอะ ดิฉันเองจะเปนผู้บอก.

วิทูษก. (ออกกลัว) หล่อนจะบอกใคร? พระเทวีหรือ? ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่นะ.

มโนรมา. วสันตกะ, ไม่ต้องหวาดหวั่น ความไม่สบายพระหทัยของพระสหายของท่านเพราะอารัณยกานี้, ตามที่ท่านได้กล่าวมา ก็เพียงกึ่งหนึ่งแห่งความไม่สบายใจของเพื่อนรักของดิฉันเพราะเจ้านายของเรา. ฉะนั้น ดูเถอะ, ดูเถอะ. (เดินเข้าใกล้ ชี้อารัณยกา)

วิทูษก. (เห็นนาง, ดีใจ) ความบากบั่นของฉันก็ได้ผลแล้ว. สวัสดีเถอะคุณ.

(อารัณยกาวางใบบัวด้วยกิริยาขวยแล้วลุกขึ้น)

มโนรมา. ท่านวสันตกะ, ความไม่สบายใจของเพื่อนรักของดิฉันเหือดหายไปแม้เพียงเมื่อได้เห็นท่าน, เพราะหล่อนได้วางใบบัวนั้น ๆ ลงเองแล้วละ. ฉะนั้น เชิญเก็บเอาไปสิเจ้าคะ.

อารัณยกา. (ระส่ำระสาย) อุ๊ย, แม่ช่างเยาะ. ทำไมหล่อนทำให้ฉันขวยเช่นนี้. (ยืนเมินหน้านิด ๆ)

วิทูษก. (พูดตัด) ช่างเถอะอ้ายใบบัวนั่น. เพื่อนรักของหล่อนขี้อายเหลือเกิน. บัดนี้เราจะจัดการอย่างไรดีเพื่อให้ทั้งสองนั้นได้พบกัน?

มโนรมา. (ตรองอยู่ครู่หนึ่ง, แล้วจึ่งพูดด้วยความดีใจ) วสันตกะ, เห็นจะอย่างนี้. (กระซิบในหูเขา)

วิทูษก. ดีมาก, แม่คุณ, ดีมาก (พูดป้อง) ในระหว่างเวลาที่หล่อนทั้งสองแต่งตัวอยู่, ฉันจะไปตามพระเพื่อนของฉันแล้วมา. (เข้าโรง)

มโนรมา. แม่ใจน้อย, ลุกขึ้น, ลุกขึ้นเถอะ. เราต้องเล่นละคอนตอนที่ยังเหลืออยู่อีก. ฉะนั้น มาเถอะ, เราไปที่โรงละคอนเถอะ. (เดินไปมาและเหลียวแลโดยรอบ) นี่โรงละคอน. มาเถอะนะ, เราเข้าไปเถอะ. (แสดงท่าเดินเข้าไป, แล้วเหลียวดูโดยรอบ) ดีมาก, ดีมาก. พร้อมหมดแล้ว. พระเทวีเห็นจะเสด็จละ.

(เทวีออก, พร้อมด้วยสางกฤตยายนี (๓๓) และบริวารตามลำดับ)

วาสวทัตตา. ภควดี, (๓๔) ท่านช่างเปนกวีเก่งเสียจริง ๆ ละ. เพราะละคอนเรื่องพระสวามีกับตัวดิฉัน, พร้อมด้วยความเปนไปอันลึกลับ, แม้ดิฉันเองได้รู้เห็นแล้ว, ยังทำให้ดิฉันรู้สึกจับใจอย่างมากที่สุด, ราวกับมิได้เคยทราบมาก่อนเลย.

สางกฤตยายนี. อายุษมดี, (๓๕) ความเลิดแห่งเนื้อเรื่องนั้นเอง มีมากจนกาพย์, ซึ่งแม้จะจืดๆ, ก็ยังอาจทำให้ผู้ฟังสบายหูได้. ดูเถิด.

โดยมากไม่ว่าสิ่งไร ย่อมเลิดขึ้นได้ โดยถูกกับของเลิดดี,

แม้เถ้าถ่านเมื่อทาที่ ศีรษะกรี ถูกมันก็เปนของงาม.

วาสวทัตตา. (ยิ้มพลาง) ภควดี, เปนสิ่งที่รู้กันอยู่ที่ว่าใคร ๆ ก็ยอมรักลูกเขย. ฉะนั้น จะพูดกันอย่างนั้นต่อไปอีกทำไม. ดูละคอนนั้นเองดีกว่า. (๓๖)

สางกฤตยายนี. เช่นนั้น. อินทีวริกา, นำทางไปโรงละคอน.

เจฏี. เชิญเสด็จเพคะ, ภัฏฏินี. (๓๗)

(ทั้งหมดเดินวนไป)

สางกฤตยายนี. (เหลียวแลดู) เออ, โรงที่ดูนี้น่าดูนักหนา. (๓๘)

งามเสาสุวรรณรตนร้อย รุจิรายระยับตา

อีกมุกตะกรองประดุจะมา- ลยย้อยระย้ายาน

เต็มด้วยคณายุวดิสวย ชะนะอัปสราคราญ

เปรกษาคฤห์แม้นสุรวิมาน มณิโรจนาศรี.

มโนรมาและอารัณยกา. (เข้าใกล้) ทรงพระเจริญ, ภัฏฏินี, ทรงพระเจริญ!

วาสวทัตตา. มโนรมา, นี่เวลาก็เลยพลบมาแล้ว. ฉะนั้น เจ้าทั้งสองจงไป, แต่งตัวเร็วๆเข้าเถิด.

ทั้งสอง. หม่อมฉันรับรับสั่ง. (เริ่มจะไป)

วาสวทัตตา. อารัณยกา, ไปห้องแต่งตัวและประดับกายของเจ้าด้วยอาภรณ์ที่ข้าประดับอยู่นี้เถิด (เปลื้องอาภรณ์จากองค์และส่งให้แก่อารัณยกา) มโนรมา, ส่วนเจ้าก็จงรับอาภรณ์, ที่พระบิดาของข้าประทานทูลกระหม่อมแก้วด้วยความพอพระหฤทัย เมื่อทรงจับช้างนลคิรีได้นั้น, (๓๙) จากอินทีวริกา, แล้วเข้าไปในห้องแต่งตัวและแต่งกายของเจ้าให้ละม้ายล้นกระหม่อมมากที่สุดที่จะทำได้เถิด.

(มโนรมารับอาภรณ์จากอินทีวริกา แล้วเข้าโรงพร้อมด้วยอารัณยกา)

อินทีวริกา. นี่เพคะที่ประทับ. เชิญภัฏฏินีประทับ.

วาสวทัตตา. (ชี้ที่นั่ง) เชิญนั่งเถิด, ภควดี.

(ทั้งสองนั่ง)

ครรภนาฏกะ.(๔๐)

(กัญจุกินผู้หนึ่งแต่งตัวเปนละคอนออก)

กัญจกิน.

เรารักษอันเต- ปุรแน่วณทางดี,

ผิบาทสะดุดมี วรทัณฑะกันพลาด,

ชราก็ถือเยี่ยง นฤปรักษ์ประชาชาติ

ทั่วโดยประสาทราช วรธรรมะเที่ยงตรง.(๔๑)

เออ, ข้าพเจ้าได้รับพระราชบัญชาแห่งสมเด็จพระเจ้ามหาเสนะพระนามช่างเหมาะจริงๆ ละ เพราะพระองค์มิได้ทรงย่อท้อเลยแต่แสนยาศัตรู-ดั่งนี้ว่า: “จงบอกแก่บรรดานางในเถิดว่า, พรุ่งนี้เราจะมีงานฉลองท้าวอุทัยน์, ฉะนั้นให้เขาทั้งหลายไปยังสวนพระเจ้ารัก, พร้อมด้วยข้าหลวงตามหลัง, และให้เขาทั้งหลายแต่งกายงาม ๆ ให้สมแก่งาน.”

สางกฤตยายนี. (ชี้กัญจุกิน) ราชบุตรี, ละคอนเริ่มเล่นแล้วละ. (๔๒) ทอดพระเนตรสิ.

กัญจุกิน. ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะต้องสั่งเขาให้มาพร้อมด้วยข้าหลวง, แต่หาต้องสั่งไม่ว่าให้เขาทั้งหลายนั้นแต่งกาย, เพราะว่า-

อันข้อบาทก็ใส่กำไลและนริคาด สร้อยรัดสะเอวนาฏ จรัล,

ต่อสวมเกยุรทั้งณพาหุฤก็พัน ผูกพาหุรัตน์อัน วิศิษฏ์,

กรรณกอบกุณฑะละกรประดับวลยจิตร์ เกศาก็ติดสวัส- ติกา,

ดั่งนี้แม้คณะนาริบาทบริจา- ริกของพระชายา ก็สวย.

ท่าทางจะไม่ต้องเปนห่วงแน่ละในข้อนี้. ข้าพเจ้ารับพระราชบัญชามาก็ด้วยตั้งใจที่จะกระทำตามรับสั่ง. ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะทูลพระกระแสรับสั่งนอกจากนี้ แต่พระราชบุตรี. (เดินไปมาและเหลียวแล) อ้อ, พระวาสวทัตตาเสด็จมานี่แล้ว และกำลังจะเสด็จเข้าไปในคนธรรพศาลา (๔๓) พร้อมด้วยกาญจนมาลาถือพิณตามเสด็จ. ข้าพเจ้าจะไปทูลณบัดนี้. (เดินไปมา)

(อารัณยกา, แต่งตัวเปนวาสวทัตตา, ออกนั่ง, พร้อมด้วยกาญจมาลาผู้ถือพิณอยู่ในมือ)

อารัณยกา. กาญจนมาลา, ทำไมท่านวีณาจารย์จึ่งล่าไปอีกวันนี้ ?

กาญจนมาลา. นั่นแหละเพคะ, ท่านได้พบคนบ้าคนหนึ่ง แล้วก็, เพราะเกิดชอบใจเมื่อได้ฟังมันพูด, ท่านยังยืนหัวเราะเยาะมันอยู่นั่นเอง.

อารัณยกา. (ตบมือและหัวเราะ) เจ้าเอ๋ย, ที่เธอถามมันเช่นนั้นก็ควรอยู่. เขากล่าวกันว่า “คนเช่นไหนก็ชอบคนเช่นนั้น.” นี่ก็คือบ้าทั้งสองคนนั่นเอง.

สางกฤตยายนี. หม่อมฉันเห็นท่าทางของหล่อนเหมือนเปนเจ้านาย; เมื่อหล่อนมีท่าทางเช่นนั้น, หม่อมฉันแน่ใจว่าเขาคงเล่นเปนพระองค์ได้เพียงพอ.

กัญจุกิน. (เข้าใกล้) ราชบุตรี, ล้นเกล้าล้นกระหม่อมมีพระราชบัญชาดั่งนี้ ‘พรุ่งนี้เราจะต้องฟังเธอดีดพิณเปนแน่ละ ฉะนั้น ให้เธอเตรียมตัวไว้พร้อมด้วย (พิณ) โฆษวดีขึ้นสายใหม่’

อารัณยกา. ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้ท่านวีณาจารย์มาโดยด่วนเถิด.

กัญจุกิน. ข้าพเจ้าเองจะไปทูลวัตสราชให้เสด็จมา. (เข้าโรง)

อารัณยกา. กาญจนมาลา, ส่งโฆษวดีมาให้เรา, เพื่อเราจะได้ตรวจดูสาย.

(กาญจนมาลาส่งพิณให้. อารัณยการันพิณไปวางบนตักแล้วตรวจดู)

(มโนรมา, แต่งตัวเปนวัตสราช, ออก)

มโนรมา. (พูดกับตนเอง) ล้นเกล้าล้นกระหม่อมล่าไป. นี่วสันตกะไม่ได้ทูลกระมัง? หรือท่านทรงกลัวพระเทวี. ถ้าท่านเสด็จมาเดี๋ยวนี้ละก็, จะน่าชื่นใจเทียวละ.

(พระราชา, คลุมพระองค์, ออกพร้อมด้วยวิทูษก)

ราชา.

วันนี้แสงศศิเย็นบ่ยังฤดิดนู งึมเหงาฤหู่เช่น ประถม,

ความแห้งใจดุจะไฟผะผ่าวพิษะระบม ไม่เร้าระทมเช่น ณก่อน;

อีกความเปล่าณมโนและองคะระอุอ่อน นั้นเล่าก็ดูหย่อน และลด;

อันความทุกขทุเลาณดวงหทยหมด เมื่อนึกมโนรถ จะสม.

นี่แน่ะเกลอ, มโนรมาได้กล่าวจริงหรือว่า: ‘เพราะเหตุที่แม่เพื่อนรักของดิฉันถูกพระเทวีกันไว้มิให้ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทอดพระเนตรเห็น, มีอุบายอยู่อย่างนี้เพื่อให้เขาได้พบกัน. ค่ำวันนี้เราจะเล่นละคอนถวายพระเทวีเรื่องหนึ่งชื่อ อุทัยนจริต. (๔๔) ในเรื่องนั้นอารัณยกาจะเปนวาสวทัตตา และดิฉันจะเปนวัตสราช. จำจะต้องศึกษาให้ตรงกับกิจการที่ได้เปนไปจริงๆ. ฉะนั้น ให้พระองค์ท่านเสด็จมาเองและทรงเปนพระองค์เองแล้วที่จะได้ทรงพระสำราญโดยได้พบกัน.’

วิทูษก. ถ้าไม่ทรงเชื่อก็, นั่นแน่มโนรมา, แต่งเครื่องของพระองค์. เชิญเสด็จเข้าไปถามเขาดูเองสิ.

ราชา. (เข้าไปใกล้มโนรมา) มโนรมา, ข้อความที่วสันตกะนำไปเล่าน่ะ จริงหรือ?

มโนรมา. เพคะ, จริงทีเดียว. เชิญทรงอาภรณ์เหล่านี้เถิดเพคะ (เปลื้องอาภรณ์จากตัวแล้วส่งถวายพระราชา)

(ราชารับไปทรงแต่ง)

วิทูษก. คราวนี้เราได้เห็นพระราชาถูกนางทาสีบังคับให้ออกเปนตัวละคอนละสิ. เออ, มันพิลึกกึกกือละ!

ราชา. (สำรวล) ตาบ้า! นี่ไม่ใช่เวลาเล่นตลก. ค่อยๆเลี่ยงเข้าไปในจิตรศาลากับมโนรมา แล้วก็อยู่ดูการเล่นละคอนของเราณที่นั้นเถิด.

(ทั้งสองทำเช่นนั้น)

อารัณยกา. กาญจนมาลา, ช่างเถอะพิณ ข้าอยากถามอะไรเจ้าอย่างหนึ่ง.

ราชา. เราจะต้องฟังดูให้รู้ว่าหล่อนกล่าวถึงอะไร. (ฟังด้วยความตั้งใจจริงจัง)

กาญจนมาลา. ตรัสถามเถอะเพคะ.

อารัณยกา. พระบิดาของข้าได้ตรัสจริงหรือว่าดั่งนี้: ‘ถ้าวัตสราชทำให้กูชอบใจได้โดยดีดพิณละก็, กูจะปล่อยพระองค์เธอนั้นให้พ้นพันธนา’ ?

ราชา. (ออก, ปัดม่านเร็วๆ, (๔๕) ยินดี, ขอดชายผ้าห่มข้างหนึ่ง (๔๖)) เปนเช่นนั้นเทียว. มีข้อสนเท่ห์อะไร ?

เมื่อทำให้ประโท๎ยตนั้น กับข้าพร้อมกัน พิสมัยโดยดีดวีณา

แล้วเราก็จะลักพา วาสวทัตตา; ไม่ยอมดูดายอยู่นาน.

เพราะเยาคันธรายณได้เตรียมการไว้เรียบร้อยทั้งสิ้นแล้ว. (๔๗)

วาสวทัตตา. (ลุกขึ้นโดยด่วน) ทรงพระเจริญยิ่ง ๆ เถิดทูลกระหม่อมแก้ว !

ราชา. (พูดป้อง) อะไร! นี่เทวีจำเราได้หรือ?

สางกฤตยายนี. (ยิ้ม) ราชบุตรี, อย่าทรงหลงไปเลย. นี่เปนละคอน.

ราชา. (พูดป้อง, ยินดี) หายใจได้คล่องอีกละ.

วาสวทัตตา. (นั่งลงและยิ้มอย่างเก้อ ๆ) อะไร, นั่นมโนรมานั่นเอง. ดิฉันนึกว่าทูลกระหม่อมแก้วของดิฉันไปได้. ดีมาก, มโนรมา, ดีมาก. เล่นดีจริง ๆ.

สางกฤตยายนี. ราชบุตรี, สมควรแล้วที่มโนรมาได้ทำให้ทรงหลงไป. ทอดพระเนตรสิ.

นี่เทียวเห็นวรโฉมประโลมนยนงาม อีกเครื่องพระทรงราม รุจี;

นี่เทียวเห็นพระดำเนินประหนึ่งวรกรี ซับมันและซ้ำมี สง่า;

นี่เทียวเห็นพระลิลาศและฟังพระวจนา ปานเมฆกระหึมฟ้า คะนอง;

นี่เทียวเห็นวรวัตสรารชะวิรต้อง ตาชมฉลาดของ ละคอน.

วาสวทัตตา. อินทีวริกา, เมื่อทูลกระหม่อมแก้วทรงสอนกูดีดพิณ, พระองค์ทรงเครื่องพันธนาอยู่, ฉะนั้น จงทำเครื่องพันธนาถวายด้วยพวงนิโลบลนี้เถิด. (เปลื้องพวงนิโลบลจากหัว และส่งให้ไป)

(อินทีวริกา, เมื่อได้ทำตามรับสั่งแล้ว, นั่งลงใหม่)

อารัณยกา. กาญจนมาลา, บอกข้าหน่อย, บอกข้าหน่อย. พระบิดาได้ตรัสจริง ๆ หรือว่า: ‘ถ้าวัตสราชทำให้กูเพลินใจได้โดยดีดพิณละก็, กูจะปล่อยให้เธอพ้นจากความคุมขังไปแน่ทีเดียวละ.’

กาญจนมาลา. เพคะ, จริง, ขอจงทรงดีดให้ดี ๆ เพื่อวัตสราชจะได้ทรงชมเชยมาก ๆ

ราชา. ฉะนั้น กาญจนมาลาก็ได้ทำให้เปนไปเช่นที่เราใคร่แล้วละสิ:

อารัณยกา. ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะต้องดีดด้วยความประจงละ. (ขับลำพลางดีดพิณพลาง)

ราชหงส์ม่งมองณฟากฟ้า เห็นเมฆคลุ้มเวหาไม่ผ่องใส

ก็คิดถึงมานัสทะเลไกล ชวนเมียรักรีบไปณรวงรัง;

วัตสราชแลห้องที่ต้องจำ ก็เจ็บช้ำกมลจนจวนคลั่ง

พระคำนึงถึงเขตต์นิเวศน์วัง พระก็ตั้งหัทยาพาคู่จร.(๔๘)

(วิทูษกทำท่านอนหลับ)

มโนรมา. (เขย่าเขาด้วยมือ) วสันตกะ, ดูหน่อย, ดูหน่อยเถอะ. เพื่อนรักของฉันกำลังรำอยู่

วิทูษก. (ขัดใจ) อีลูกขี้ครอก. เจ้าก็จะไม่ยอมให้กูหลับบ้างละ. ตั้งแต่เมื่อพระเพื่อนรักของกูได้เห็นอารัณยกาแล้ว, เวลากูอยู่กับท่านละก็, กูไม่มีเวลาหลับได้จนงีบเดียวทั้งกลางคืนกลางวัน. ฉะนั้น กูจะไปหาที่นอนแห่งอื่นละ. (ลุกออกไปนอน)

อารัณยกา. (ร้องอีก)

๏ ผึ้งเอยผึ้งน้อย เที่ยวล่องลอยลมรสมธูหวาน

รู้สึกรักหนักดวงกมลมาลย์ โดยเดือดดาลรักใหม่ไม่สมปอง

นึกใคร่เห็นตัวผู้ที่ตรูเนตร ทุกข์เทวษหวานใจให้หม่นหมอง

โอ้ไฉนจะสมอารมณ์ปอง เปนคู่ครองคลึงเคล้าเย้ายวนเอยฯ (๔๙)

ราชา. (พอได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใกล้โดยพลัน) ดีมาก, ราชบุตรี, ดีมาก. เออ, ทั้งคำขับและเสียงที่คลอ! เพราะว่า

เธอขับพยัญชนะชัดเพราะว่าทศวิธี เธอใช้ก็ถูกดี และเลิด;

อีกทั้งจังหวะก็ครบณสามวิธิประเสริฐ, เร็ว, กลาง, และช้าเฉิด ศุภา;

อีกการหยุดฤก็ครบณสามดุจะตำรา, โคปุจฺฉะเปนอา- ทิเที่ยง;

อีกทั้งวาทิตะสามวิธีสุรสำเนียง, อ่อย, อึง, และกลางเกลี้ยง บ่อขาด.(๕๐)

อารัณยกา. (กอดพิณและลุกขึ้นจากที่นั่ง แลดูพระราชาด้วยความรัก) ครู, หม่อมฉันถวายบังคม. (๕๑)

ราชา. (ยิ้ม) สิ่งซึ่งฉันจงใจพึงเปนไปแก่เธอเถิด.

กาญจนมาลา. (ชี้อาสนะของอารัณยกา) เชิญพระครูเสด็จประทับที่นี่เถอะเพคะ.

ราชา. (นั่ง) ก็บัดนี้ราชบุตรีจะประทับที่ไหนเล่า?

กาญจนมาลา. (ยิ้ม) พระองค์หญิงก็ได้ทรงรับความยกย่องแล้ว โดยพระองค์ได้ทรงชมวิชชาของท่าน, ฉะนั้น ท่านก็สมควรอยู่ที่จะได้ประทับบนแท่นเดียวกับพระครู.

ราชา. ถ้าฉะนั้นให้เธอประทับบนอาสนะนี้กึ่งหนึ่งตามที่ควรนั้นเถิด. ราชบุตรี, เชิญประทับ.

(อารัณยกาแลดูกาญจนมาลา)

กาญจนมาลา. (ยิ้ม) ประทับเถอะเพคะ. จะมีผิดร้ายอะไรนี่นะ. พระองค์เปนศิษย์วิเศษเทียวนี่.

(อารัณยกานั่งลงด้วยความอาย)

วาสวทัตตา. (อาย) ภควดีแต่งบทละคอนนี้เกินไปหน่อย. ดิฉันไม่ได้เคยนั่งอาสนะเดียวกับทูลกระหม่อมแก้วของดิฉันเลยเมื่อคราวโน้น.

ราชา. ราชบุตรี, ฉันอยากใคร่ฟังเธออีก. จงดีดพิณเถิด

อารัณยกา. (ยิ้ม) กาญจนมาลา, เพราะเหตุที่ข้าได้ดีดมานานแล้วก็ออกจะเหนื่อย. อวัยวะของข้าบัดนี้ไม่มีแรงเสียแล้ว, ฉะนั้น ข้าจะดีดอีกไม่ได้ละ.

กาญจนมาลา. พระครูเพคะ, พระองค์หญิงทรงเหนื่อยมากเสียแล้ว. ดูเถอะ, พระเสโทหรือเปนเมล็ด ๆ อยู่ที่พระปราง, และนิ้วพระหัตถ์ก็สั่น. ฉะนั้น ให้ท่านทรงพักสักครู่เถอะเพคะ.

ราชา. กาญจนมาลา, เจ้าพูดถูก. (ทำท่าจะจับมืออารัณยกา ฝ่ายอารัณยกาหดมือไปเสีย)

วาสวทัตตา. (ออกเคือง) ภควดี, ตอนนี้คุณก็แต่งเกินไปอีก ดิฉันคงไม่ถูกกาญจนมาลาหลอกด้วยกลเลยเทียวละ.

สางกฤตยายนี. (หัวเราะ) อายุษมดี, แบบกาพย์ก็มักเปนเช่นนี้เสมอ.

อารัณยกา. (ทำเปนเคือง) ไปให้พ้น, กาญจนมาลา, ไปให้พ้น ข้าไม่ชอบเจ้าแล้วละ.

กาญจนมาลา. (ยิ้ม) เมื่อหม่อมฉันอยู่นี่ไม่เปนที่พอพระหฤทัย, หม่อมฉันก็ต้องไป. (เข้าโรง)

อารัณยกา. (ตกใจ) กาญจนมาลา, อยู่ก่อน, อยู่ก่อน พระหัตถของท่านมาต้องข้าอยู่แล้ว.

ราชา. (จับมืออารัณยกา)

ฤๅนี่คือปัทมตูมเย็น เพราะวะศิศิระกระเซ็น ต้องณกลีบเห็น จะปานกัน?

ความเบิกบานแห่งปทุมนั้น ขณะรวิบ่มิทัน ร้อนณเริ่มวัน บ่เท่านา;

น้ำค้างที่หยาดณทั้งห้า นขะรชนิกรา แห่งยุพาฤๅ จะร้อนได้?

เสโทที่พลั่งพะพรูไหล ดุจะอมตวิไล แน่ละนวลใย บ่หยุดหย่อน. (๕๒)

อนึ่ง-

ด้วยหัตถ์โฉมยงองค์อร อันเอื้อมแล้วหล่อน แย่งงามจากปะการัง,

ณกลางหทัยเผือจัง จริงนะหล่อนฝัง ซึ่งรักถนัดแน่นไว้.

อารัณยกา. (แสดงความรู้สึกแปลกเมื่อแตะต้อง, พูดกับตนเอง) เออ, เออ! พอเราแตะต้องมโนรมานี่เข้า, ดูเนื้อตัวของเรามันทราบซ่านพิลึกละ.

วาสวทัตตา. (ลุกขึ้นโดยพลัน) ภควดี, คุณจะดูก็ตามใจ, แต่ส่วนดิฉันนี้จะทนดูละคอนที่เล่นผิดเช่นนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว.

สางกฤตยายนี. ราชบุตรี, นี่คือวิวาหแบบคนธรรพซึ่งมีอยู่ในพระธรรมศาสตร์. มีข้อควรอย่างไรหรือที่จะไม่พอพระหฤทัย? นี่เปนเรื่องละคอน. ฉะนั้น ไม่สมควรเลยที่จะเสด็จไปเสียในเวลาที่ผิดและตัดความสนุก

(วาสวทัตตาเดินไปมา)

อินทีวริกา. (เหลียวไป) ภัฏฏินี, วสันตกะนอนหลับอยู่ที่ประตูจิตรศาลาแน่ะเพคะ.

วาสวทัตตา. (เพ่งดู) นี่วสันตกะจริงแหละ (คำนึง) ถ้าฉะนั้นพระราชาก็คงเสด็จอยู่นี่ด้วย. ฉะนั้น เราจะต้องปลุกแกขึ้นถามดู (ปลุกเขา)

วิทูษก. (งัวเงียลุกขึ้น, และเหลียวแลไปโดยพลัน) มโนรมา, พระเพื่อนรักของฉันกลับจากเล่นละคอนแล้วหรือยังเล่นอยู่?

วาสวทัตตา. (เอะใจ) อะไร, ทูลกระหม่อมแก้วทรงเล่นละคอนด้วยหรือ? ถ้าฉะนั้นมโนรมาไปไหนเล่า?

วิทูษก. อยู่ในจิตรศาลานี่เอง.

มโนรมา. (ตกใจ, พูดกับตน) อะไร, พระเทวีได้รับสั่ง ทรงหมายความอย่างหนึ่ง, แต่อีตาบ้าคนนี้แกเข้าใจเสียอีกอย่างหนึ่ง แล้วเลยทำเอาเสียรอยไปหมดแล้วละสิ.

วาสวทัตตา. (ยิ้มอย่างเคือง) ดีมาก, มโนรมา, ดีมาก! เจ้าเล่นดีมากเทียวละ.

มโนรมา. (ตัวสั่นด้วยความตกใจและหมอบลงแทบพระบาท) ภัฏฏินี, หม่อมฉันไม่มีผิดเลยในเรื่องนี้. ตาขรัวคนนี้แย่งเอาอาภรณ์ไปด้วยกำลัง, จับหม่อมฉันขังไว้ในนี้, แล้วนั่งอยู่ที่ประตู, หม่อมฉันได้ร้องขึ้น, แต่ไม่มีใครได้ยินเสียง, เพราะตาบ้านี่แกร้องกลบเสียงเสียหมด.

วาสวทัตตา. นางตัวดี, ลุกขึ้น. กูเข้าใจหมดแล้ว. วสันตกะเปนนายโรงละคอนเรื่องกิจการของอารัณยกา.

วิทูษก. ขอให้ทรงหยุดคำนึงหน่อย. วสันตกะเกี่ยวข้องอะไรกับอารัณยกา ?

วาสวทัตตา. มโนรมา, มัดแกให้แน่นแล้วก็มาทางนี้, กูจะได้ดูว่าแกน่าดูสักปานไร.

มโนรมา. (พูดกับตน) หายใจออกละเรา! (มัดมือวิทูษก, แล้วพูดดังๆ) ตาคนชั่ว, แกจงรับผลแห่งความผิดของตัวแกเถอะ.

วาสวทัตตา. (ระส่ำระสาย, เข้าไปเฝ้า) ทูลกระหม่อมแก้ว, ขอลางร้ายจงเคลื่อนคลายไปเสียเถิด. (พูดดั่งนี้แล้วก็แก้พวงนิโลบล, แล้วพูดประชด) ขอประทานโทษ, ทูลกระหม่อมแก้ว, ที่พระองค์ได้ทรงถูกพันธนาด้วยพวงนิโลบลโดยสำคัญว่าเปนมโนรมา.

(อารัณยกาหลีกออกไปด้วยความตกใจและยืนนิ่งอยู่)

ราชา. (ลุกขึ้นโดยพลัน, เห็นวิทูษกและมโนรมาแล้ว, พูดกับตน) อะไร! พระเทวีจำเราได้แล้วหรือ? (แสดงท่าขวยเขิน)

สางกฤตยายนี. (แลดูเขาทั้งหลาย, ยิ้ม) เออ, ละคอนนี้มันกลายเปนอะไรอื่นไปเสียแล้ว. ที่นี้ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเราเสียแล้วละ. (เข้าโรง)

ราชา. (พูดกับตน) การกริ้วเช่นนี้ผิดจากแต่ก่อน. เห็นได้ว่าการที่จะดีกันในคราวนี้น่าจะยาก. (รำพึง) เราทำเช่นนี้เถิดเห็นจะดี. (พูดดัง) เทวี, เธอจงงดกริ้วเสียเถิดนะ.

วาสวทัตตา. ใครโกรธเคืองที่นี้นะเพคะ?

ราชา. อะไรเธอน่ะหรือไม่โกรธ?

แม้เมื่อดวงนยนาชำเลืองบ่มิทุเลา ลักษณ์รักก็ตาเจ้า สีเขียว;

แม้ยังมีมธุรสณเสียงฤก็เฉลียว เมื่อยินชะงักเทียว ณถ้อย;

แม้ถอนใจจะระงับก็เห็นว่ะบ่มิถอย โดยดูพระทรวงคอย จะอัด;

แม้ความโกรธวนิดาจะมุ่งมนะถนัด ข่มแล้วก็เห็นชัด นะเจ้า

(คุกเข่าที่ตีนนาง) ขอโทษเถิด, ขอโทษเถิด.

วาสวทัตตา. แน่ะอารัณยกา, ทูลกระหม่อมแก้วทรงสำคัญว่าหล่อนโกรธ, จึ่งทรงวิงวอนขอโทษโดยตรัสว่า ‘ขอโทษเถอะชื่นใจ’ ฉะนั้น เข้ามาใกล้ๆ อีกเถอะ. (พูดดังนี้แล้วจึงเอามือจับนางฉุดเข้าไปใกล้)

อารัณยกา. (ตกใจ) ภัฏฏินี, หม่อมฉันมิได้รู้เห็นอะไรด้วยเลย.

วาสวทัตตา. อะไร, อารัณยกา, เจ้าไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลยหรือ? ข้าจะสั่งสอนให้เจ้าเข้าใจ. อินทีวริกา, จับมัน.

วิทูษก. พระนาง, วันนี้ในงานโกมุที พระเพื่อนรักของเกล้ากระหม่อมได้ทรงจัดละคอนขึ้นเพื่อให้ทรงสำราญพระหฤทัย.

วาสวทัตตา. เมื่อข้าดูละคอนลามกของพวกเจ้านี้, ข้าก็ต้องสำราญ.

ราชา. เทวี, จงงดความระแวงผิดเสียเถิด. ดูเถิด.

เหตุไรพักตร์วนิดาวิไลดุจะศศี จึ่งนิ่วมิควรที่ นะจ๋า;

เหตุไรริมวรโอษฐะสั่นดุจะผะกา พันธูกะวาตา ระบัด;

ทั้งเอวเธอฤก็รับสภาระอุระอัด อั้นจนสะเทือนทัด สะท้อน;

จงงดโกรธเถอะนะเธอเพราะจัดวรละคอน ขึ้นเล่นก็เพื่อหล่อน สราญ.

เทวี, ขอโทษ, ขอโทษ. (เธอคุกเข่าที่ตนนาง)

วาสวทัตตา. นางตัวดี, ละคอนเลิกแล้วนะ, ฉะนั้น เข้าไปข้างในเถอะ. (เข้าโรง)

ราชา. (เหลียวมอง) อ้าว, เทวีเข้าไปเสียแล้วโดยมิได้ยกโทษละหรือ?

คนหนึ่งหน้าฤขมวดเพราะโกรธก็ขมึง น่ากลัวเพราะเหงื่อซึ่ง พะพราย;

อีกหนึ่งผู้วรเนตระเปรียบอุบลส่าย แสนกลัวประดุจทราย กระโดด;

ยามกูเห็นวรพักตระเทวิสวิโรธน์ กับเห็นวธูโสตถิ์ ปรียา,

กูตกอยู่ณสถานลำบากณมนสา คือเกรงและซ่านซ่า เพราะรัก.

บัดนี้เราจะไปสู่ที่นอนและตรองหาอุบายที่จะทำให้เทวียกโทษ.

(เข้าโรงทั้งหมด)

จบองก์ที่สาม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ