ฉากที่ ๖ (พิฆาตพระลอ)

(ฉากรูปในพระตำหนักพระเพื่อนพระแพง ตัวละครมีพระลอกับสองนางประทับพระแท่น)

ร้องลำลาวสมเด็จ รับมะโหรี ๏ เมื่อนั้น พระลอเลิศลบจบไตรจักร์ (ช่อดอกอโศกพระลอลือโลกของเผือนี่เอย) เนาในมนเทียรทองกับน้องรัก สุวพักตร์แพงเพื่อนเหมือนชีวี (พุ่มพวงปรู พระเพื่อนแพงโฉมตรูของสูนิเอย) ภิรมรื่นชื่นชมบรมสุข นฤทุกข์ปรีเปรมเกษมศรี (ช่อพุทธชาต สามกษัตริย์สุดสวาทของเผือนี่เอย) หยอกเย้าเคล้าคลอซ้อซี้ จนราตรีเที่ยงคีนชื่นฤทัย (ช่อประยงชิด พระชื่นชีวิตของเผือนิเอย) ๚ ๔ คำ กล่อม

ร้องลำลาวล่องน่านเล็ก รับมะโหรี ๏ พระแว่วสุรสำเนียงเสียงโห่ร้อง กึกก้องสนั่นหวั่นไหว เหมือนฝีเท้าเหล่าพหลพลไกร เพรียกไปรอบราชมนเทียรคำ สามกษัตริย์ไม่ประหวัดระแวงเหตุ จะอาเพดฉุกมาเพลาค่ำ ยิ่งเอียงกรรณฟังให้แม่นยำ ยิ่งกระหน่ำกัมปนาทประหลาดนัก ๚ ๔ คำ เจรจา

พระลอ พระเพื่อนธได้ยินอะไรบ้างไหม ยังไงพี่แว่วๆเหมือนเสียงใครโห่ร้อง ครั้นยิ่งฟังๆ ไป กลายเป็นก้องฝีเท้าทหารไปก็เป็นได้

พระเพื่อน เพค้ะ หูหม่อมฉันก็แว่วไปเช่นนั้นเหมือนกันนั่นและ พวกสาวใช้กำนัลนางเขาเห็นจะเล่นอะไรกันสนุกสนานหรือกระไรนั่นและ

พระแพง เล่นอะไรกันเดือนมืด พระพี่ก็ พวกทหารอาสากองนอกเขาซ้อมรบกันที่สนามชัย และว่าไม่ถูก

พระลอ เออ พระแพงซิตรัสชอบกล แต่จะเป็นอะไรหรืออะไรก็ช่างมันประไรหนา มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกันกะเผือ พี่ขอชื่นใจกับดวงชีวิตของพี่สององค์เท่านี้แล้ว ก็ไม่ต้องอยากรู้ว่าหูจะได้ยินเสียงอะไร

พระเพื่อน พระน้องจะกราบทูลตอบว่ากระไรเล่า

พระแพง ก็พระพี่ละเพขะ

พระลอ พี่ตอบแทนพระน้องทั้งสององค์ได้แหมล่า ตอบว่าจริงเพขะ ถูกไหม

พระเพื่อน พระลอรับสั่งแล้วนิเพขะ ไม่จริงไม่ถูกมีบ้างหรือ

พระแพง เปล่งจากพระโอษฐ์พระลอแล้ว ถึงอย่างไรๆ ก็ชื่นใจหนะขะพระพี่

ร้องลำสร้อยลาว ๏ เหลือบเห็นนายแก้วนายขวัญ ทะลึ่งถลันลนลานอาการหนัก ไม่ส่งเสียงแอมไอให้ตรัสทัก คลานกึกกักมาทูลมูลคดี ว่าบัดนี้มีทหารอาสา กรูกันมาล้อมรอบมนเทียรนี่ ชะรอยกลศึกท้าวเจ้าบุรี ยกโยธีมืดค่ำมาทำร้าย ๚ ๔ คำ เจรจา

พระลอ พลทหารมากอยู่หรือพี่

นายแก้ว เพชะคะอโขอยู่

นายขวัญ เห็นจะกว่าหกร้อยเจ็ดร้อย

ร้องลำมหาชัย ๏ พระเอยพระขัตติยะประเสริฐ เรืองลอดิลกเลิศเฉิดฉาย ฟังข่าวท้าวธยิ้มพริ้มพราย มิกลัวตายองอาจฉกาจฤทธิ์ งามสง่าดังพญาราชลีห์ กรคระวีศาสตราอาชญาสิทธิ์ เผ่นผงาดมาดกำจัดปัจจามิตร เลิกคิดระย่อท้อผองภัย ๚ ๔ คำ

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ บัดนั้น นายแก้วนายขวัญไม่หวั่นไหว ขันอาสาเจ้าหล้าไปทันใด ขอตายก่อนภูวไนยไม่อาทร ๚ ๒ คำ

ร้องลำลาวเล็ก ๏ เมื่อนั้น พระเพื่อนไท้แพงทองสองอัปสร เยื้อนยิ้มพริ้มพักตร์บังอร ชุลีกรกราบบาทสวามิศ พระตระโบมโลมลูบจูบน้อง อย่าหม่นหมองประหวั่นพรั่นจิตต์ แม้นพี่ยายังเป็นคงเห็นฤทธิ์ มิปล่อยให้ดวงชีวิตอันตราย (นาง) สองเผือก็เชื้อขัตติยะชาติ ใจบขลาดบพรั่นขวัญหาย เกิดเป็นตัวแล้วจะกลัวอะไรตาย มิยอมชายอื่นจู่เป็นคู่ครอง ตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง เมื่อไรถึงจะได้พบประสพช่อง ยามเป็นเห็นพระพี่อย่าหนีน้อง ขอสนองวรบาทไม่คลาดแคลน มิขอให้ข้าไทดูหมื่น ล่อยลิ้นท้าทายละอายแสน สิ้นอาลัยพ่อแม่และด้าวแดน แม้นพระเมื้อเมืองแมนนิคาลัย เผือขอตายตามเบื้องบาท ได้ชื่นชมสมสวาทในชาติใหม่ ทูลพลางสองพระนางเปลื้องสะไบ สะพักไหมอ่อนพันกระศัลทรง (รัว) วิ่งผวาคว้าได้พระแสงดาพ เปลือยปลาบเริงฤทธิ์พิศวง ฟ้อนตาวงามฤๅขามคอยณรงค์ อยู่เคียงองค์จอมถวัลย์พระภรรดา ๚ ๑๔ คำ

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ บัดนั้น นางโรยนางรื่นตื่นตามหา กราบบาทสามราชขัตติยา ทูลอาสาสมจิตต์คิดเห็นงาม พระสู่ฟ้าเผือเป็นข้าผู้ใดเล่า ใครเขาจะยำเยงเกรงขาม สิ้นเจ้าแล้วข้าน้อยคอยตายตาม เป็นข้าสามบุญเรืองอยู่เมืองฟ้า สองนางต่างแปรเป็นชาย ห่มเสื้อดาพกรายเงื้อง่า ฝ่ายซ้ายนายขวัญกับภรรยา ฝ่ายขวานางรื่นกับสามี ๚ ๖ คำ (กลองแขกรำดาพฟ้อน)

ร้องลำลาวเจ้าซู รับมะโหรี ๏ น่ามหัศจรรย์จอมราช พระบาทธเสด็จอยู่กลาง สองพระนางแนบสองข้าง เจ้าช้างจูบสองศรี สองกษัตรีจูบท้าว สองนายน้าวจูบสองนาง กอดกันพลางชมเชย มินานเลยเขาโห่เร้า เข้าพังทวารปราสาท สามขัตติยราชสะอึกออกยืน นางโรยรื่นถลันพิฆาต นายแก้วฟาดดาพฟัน นายขวัญแทงสุดตาว ฉาวผองพลพ่ายหนี เขาก็ตีกันปือขึ้นคลุก ท้าวธก็รุกโรมฟัน ตายทับกันกลากลาด หัวขาดตกเป็นกลุ่ม เขาเร่งทุ่มหินผา ดากันมาออกยะยุ่ง ไม้ไล่กะทุ้งถล่มทลาย ส่วนสองนายพระพี่เลี้ยง รำร่อนรับอยู่เพี้ยง ผัดช้างเมามัน แลนา ๚ เชิด รบขึ้นลอย

ร้องลำลาวเซิ้ง ๏ หันเข้าบุกรุกรบ หลบหลีกปืนบให้ตอก หลบหลีกหอกบให้ต้อง คอยจ้องจะฟันจะแทง คอยทมัดทแมงจะเอาชีวิต มิได้คิดแหยงศัตรู มิได้รู้ยั่นสยอง เขาก็เร่งซะซ้องปืนยะยุ่ง ซะซ้องพุ่งหอกยะย้าย ข้างซ้ายเร่งมาหนา ข้างขวาเร่งมามาก เข้าทุกปลากทุกโรม สองนายโจมฟันแม่น ขาแขนตัวหัวขาด เขาก็เร่งกันสาดปืนกระหน่ำ ตำนายแก้วหลายตึง กรึงนายขวัญหลายนัด ยังฮึดฮัดใจบ่คร้าม โจมจู่สู้สุดด้ามบแพ้ ภัยยอม ยั่นนา ๚ เชิด (ฆ่าศัตรู)

ร้องลำลาวครวญ ๏ เสียงปืนปึงตึงตอกอกนายแก้ว ถลาแล้วลุกเถลือกกะเดือกดิ้น เปรี้ยงติดกันถูกนายขวัญกะดอนดิน สองขุนสิ้นชีวาตม์ขาดใจ ๚ ๒ คำ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ นางรื่นรุกรบฟันถลันแทง นางโรยแกว่งตาวร่าเงื้อง่าไล่ เขาไม่รู้ว่าหญิงมาชิงชัย ปล่อยปืนไฟลั่นลูกถูกสองนาง ๚ ๒ คำ เชิดโอด (นางรบอย่างบ้าเลือด)

ร้องลำลาวครวญ ๏ วิ่งมาที่ผีผัวทอดตัวทับ ชักหงับหงับเลือดปรี่ตรงสีข้าง กระพอกโลหิตออกครอกครอกคราง สักครู่นางแด่วดิ้นสิ้นชีวา ๚ โอด

ร้องลำลาวเล็ก ๏ เมื่อนั้น พระลอเลอสรรหรรษา เห็นพี่เลี้ยงทั้งสี่สิ้นชีวา ผ่านฟ้าชื่นชมนิยมนัก น่ารักเขาไฉนเราจะเหมือนบ้าง เขาตายอย่างชายชะนิดสิทธิศักดิ์ สองพระอวลสรวลยิ้มพริ้มพระพักตร์ สนองพระผัวรักไปดังใจ เขาสิมิกลัวภัยพินาศ ฤๅเผือขัตติยชาติจะแพ้ไพร่ ตายหรือเป็นไม่เห็นประหลาดใด ขอกอดบาทภูวไนยไม่ไกลแล้ว ตายเมื่อใดจะได้ตายดั่งนี้ หวงชีวีไยหนะทูลกระหม่อมแก้ว มาชื่นชมสมสวาทอย่าคลาดแคล้ว น้องกล้าแกล้วใจเผือเหลือสบาย พระฟังสองน้องท้าวอะคร้าวหัว ยิ้มยั่วเย้าหยอกโฉมฉาย ปลื้มฤดีมิได้มีจะกลัวตาย รำร่ายแสงขรรค์กระชั้นชิด สามกษัตริย์แกล้วกล้าสามารถ องอาจเดชาประกาศิต สาวกอดองค์พระก็ทรงพระจุมพิต อวดอมิตรเหม่อทลึงถมึงดู ๚ ๑๒ คำ เชิด

ลาวพวน ๏ ไล่ฟอนฟันผันแทง แว้งวัดตัดหัวฆ่า ดูมหึมาทั้งสาม งามเงื่อนพญาราชสีห์ กรคระวีวราวุธองอาจ เอิบอำนาจบมิยั่น ยิ้มแย้มหยันบมิย่อ ตรัสจ้อล้อเล่นพลาง กางกรร่อนรำรบ รื่นรมย์พิภพสำทับ เขาก็ขับกันเข้ารบรอบ ตายหมอบเหมือนแมลงเม่า บินโผเข้าหาไฟ เขาอยู่ไกลบมิกล้า สร้าโทรมยิ่งสามกษัตริย์ ธก็เอาดาพปัดป้องพระกาย เขาระดมหลายเหลือป็อง จึ่งปืนต้องพระลอราช สองสุรนาฏบมิพรั่น หันเอาองค์ออกรับปืน ยืนประคององค์พระจอมราช เขาก็เร่งสาดสรสุรพิษ ติดสามกษัตริย์สะพรั่ง พระโลหิตหลั่งนองลง สามอรองค์อิงกัน ผันพระพักตร์ต่อศัตรู พิศดูดุจนฤมิต น่าสยองจิตต์เสียวใจยั่น พระองค์พระลอธสั่นอยู่ทะท้าวๆ พระองค์พระน้องสาวธสะดุ้งอยู่ระรัวๆ น่ากลัวน่าสังเวช พระนัยเนตรธก็กลับ หับพระอรโอษฐ์แสล้ม เสมือนหนึ่งจะแย้มสรวลสักนิด สิ้นพระชีวิตพร้อมกัน ยืนอยู่ฉันบมิม้วย เผยอพระยศปรากฏด้วย ท่านแกล้วกลางณรงค์ บารนี ๚ โอด เชิด

(พวกทหารเข้ามาดู เห็นสามกษัตริย์ยืนพิงกันอยู่ ตกใจกลัวฝีมือโดดหนี ต่อรู้ว่าพระลอชีพิตักษัยแล้วจึ่งเข้ามาดู ครั้นเห็นสองพระราชธิดาสิ้นพระชนมชีพด้วยก็ตกใจ พากันรีบหนีไป ท้าวพิชัยพิศณุกร กับเสนาสนิทออก)

ร้องลำล่องน่านใหญ่ ๏ เมื่อนั้น ท้าวพิชัยร้อนพระทัยดังไฟจี้ เห็นสองพระลูกหญิงอิงอินทรีย์ พระลอโลหิตปรี่โทรมองค์ ยังยืนอยู่มิรู้ว่าอาสัญญ์ ทรงธรรม์อั้นอึ้งตะลึงหลง ตรัสเรียกพระเขยขวัญหวั่นพะวง ไฉนทรงแน่นิ่งพิงกัน ๚ ๔ คำ เจรจา

ร้องต่อ ๏ พระพินิจพิศดูสักครู่หนัก จึ่งรู้ว่าลูกรักและเขยขวัญ ถูกปืนยืนตายวายชีวัน พระทำฉันบมิโกรธเอาโทษกร ตรัสให้ขนกเลวรากซากผี คนที่ตายออกไปนอกก่อน เชิญพระศพเขยประคองสองบังอร พักไว้บนบรรจถรณ์แท่นสุวรรณ ๚ ๔ คำ เจรจา

ยกศพ (ปิดม่านพอจัดแล้วเปิดใหม่)

ร้องลำสร้อยลาว ๏ พระแสร้งดำรัสสั่งเสนา ใครอาสาฆ่าขบถอาสัญญ์ มีความชอบจะตอบรางวัล หัวหน้านั้นยังจะเพิ่มเติมบำนาญ ๚ ๒ คำ เจรจา

(สั่งกะทบหลอกเป็นกลเม็ด)

ร้องลำเขมรไล่ควาย ๏ บัดนั้น พละขลาดชาติเขลาเหล่าทหาร ล้วนหงำหงอกพวกนอกราชการ ตื่นทะยานลาภยถาตาพอง ๚ ๒ คำ เจรจา

(ต่างคนต่างประมูลกันจนเกินจริงว่าตัวได้ทำ)

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ เมื่อนั้น ท้าวพิชัยกริ้วกราดตวาดก้อง ให้ผูกมัดร้อยหอกออกเป็นกอง จดบาญชีชื่อท่องทุกคนไป พวกไพร่นั้นให้ตัดหัว แต่ตัวผู้ร้ายนายใหญ่ ให้ลงโทษทวะดึงส์ให้ถึงใจ ตามในราชกำหนดขบถเมือง ๚ ๔ คำ เจรจา

(ทหารต่างกลับแก้ตัวซัดกันยุ่ง)

ร้องลำเขมรอมตุ๊ก ๏ บัดนั้น ทหารรุเสือกอาสาหน้าเหลือง เพ็ชฌฆาตก์ฉุดออกไปนอกเมือง อารามเคืองรีบพิฆาตซิวา ๚ ๒ คำ เชิด โอด

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ เมื่อนั้น ท้าวพิชัยไม่คลายโทษา ตรัสให้ตำรวจสนมเสนา ไปกุมองค์เจ้าย่ามาบัดนี้ ๚ ๒ คำ เจรจา

(ตำรวจถวายบังคมเข้าโรงไป พาเจ้าย่าออกมาเฝ้า)

ร้องลำเขมรคางเหลือง ๏ เมื่อนั้น พระนางย่าโศกาหน้าเหมือนผี อ้อนวอนงอนง้อขอชีวี แก้ตัวตามมีทุกสิ่งอัน ๚ ๒ คำ เจรจา

ร้องลำสังขาราเคล้าซออู้ ๏ โอ้พ่อเจ้าประคุณขุนหลวง อย่าจาบจ้วงถึงฆ่าแม่อาสัญญ์ เสียแรงอุประถัมภ์องค์ทรงธรรม์ แต่วันพระมารดาพิราลัย อันความผิดคิดร้ายภายนี้ แก้แค้นแทนสามีที่ตักษัย หวังดีต่อพ่อจ้าวของท้าวไท เพราะน้อยใจดูถูกลูกศัตรู นึกว่าปล่อยลูกนกลูกแก เวทะนาคนแก่อย่าแล่ถู ขอเข็ดจนวันตายไม่สู่รู้ จะบวชชีพี่งเจ้ากูอยู่วัดวา ฉะอ้อนพลางนางย่าชราโรค สะอื้นโฮกสะท้านสะทกตกประหม่า กราบปลกยกมือวันทา กลัวฆ่ากลัวตายตะกายอึง ๚ ๘ คำ โอด

ร้องลำสร้อยลาว ๏ เมื่อนั้น ท้าวพิชัยกริ้วหนักพระพักตร์บึ้ง ยายจัณฑาลไม่สงสารหน้ามึง ชั่วชาติลึกซึ้งสามานย์ ตรัสสั่งราชมันตัวกล้า ให้กุมตัวเจ้าย่าใจหาญ ไปแล่เนื้อเกลือทาสมสาธาร ทาระกรรมให้นานจึ่งฆ่าฟัน ๚ ๔ คำ เจรจาสั่ง

ร้องลำเขมรกล่อมลูก ๏ บัดนั้น ราชมันตัวดีขมีขมัน ฉุดคร่าย่าอุบาทว์ลงราชทัณฑ์ ตามพระบัญชาสั่งทุกประการ ๚ ๒ คำ เชิด โอด

(เจ้าย่าอ้อนวอนร้องโร่ ๆ จนเขาลากเข้าโรง)

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ เมื่อนั้น พระทูลเกล้าเมืองสรองมหาศาล สร้วมกอดสองลูกไท้ที่วายปราณ ภูบาลโศกาอาดูร ๚ ๒ คำ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ โอ้แม่เพื่อนแพงทองของพ่อเอ๋ย มิควรเลยชีพน้อยๆมาพลอยสูญ เจ้างามแพร้วเป็นแก้วของตระกูล ถึงยามพูนทุกข์เท่าใดเมื่อได้ยล ทุกข์ก็หายสบายฉ่ำเหมือนน้ำทิพย์ แต่นี้ลิบลอยคว้างหายกลางหน พ่อเคลิ้มคลั่งคั่งคับแสนอับจน เหลือจะทนเทวษฝืนสะอื้นฮัก ๚ ๔ คำ โอด

ร้องลำลาวเล็ก ๏ เมื่อนั้น สมเด็จดาราวดีมีศักดิ์ ทรวงผะผ่าวทราบข่าวพระลูกรัก นงลักษณ์พ่างเพียงจะบรรลัย สนมสองประคองช่วยระทวยเทวษ พระชลเนตรแถวถั่งหลั่งไหล พอแลเห็นพี่น้องสองดนัย อ่อนไท้ทุ่มทรวงโศกี ๚ ๔ คำ โอด

เกริ่นโศก ๏ พระนางทอดองค์ตีอก ผกกลิ้งเกลือกไปมา แม่มาหาแก้วแม่ เคียดใดแก่แม่รา เจ้ามิเจรจาด้วยแม่ เจ้ามิแต่งแง่ให้แม่ชม เจ้าหมิหวีผมให้แม่เชย เจ้ามิเงยพักตร์ให้แม่จูบ เจ้ามิลูบน้ำดอกไม้ไล้พระอรองค์ เจ้ามิทรงกระแจะจันทน์ชะมด เจ้ามิเสวยสรรพะรสะโภชนา สองเจ้าจรลีสู่ฟ้า ละแม่ไว้เป็นกำพร้าแม่เอ้ย ปราณี แม่รา ๚ ๔ คำ โอด

๏ คณามาตย์พระญาติโอ้ อึงอุตตม์ โหยแฮ
สรบส่ำสาวสนมทรุด ท่าวไห้
กำนัลโศกศัลย์สุด ถึงไพร่ เมืองนา
คนหนึ่งฤๅอดได้ เกลือกกลิ้งกลางดิน
๏ เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ ทุกเรือน
อกแผ่นดินดูเหมือน จักขว้ำ
บเห็นตะวันเดือน ดาวมืด มัวนา
แลแห่งใดเหินน้ำ หย่อมน้ำตาคน

(ร้องนางโหย เคล้าปี่พาทย์ทำเพลงกลองโยน ต้นบท)

ท้าวพิชัย ๑ ใดผิดไยสองเจ้า ควรเคียดฤๅจึ่งเต้า
แขกฟ้าทั้งสอง แม่เอย
มเหสี ๒ หมองใจใดจึ่งผ้าย สองอย่าคิดยินร้าย
แก่แม่ร้าณหัว แม่เอย
มเหสี ๓ ทรงปรัดผัดหน้า แต่งแง่สวยสะอิ้งผ้า
อย่างเยื้องมาหา แม่รา
มเหสี ๔ สองมาเรียงดอกไม้ ถวายธูปเทียนทองไหว้
พระบาทสร้อย สรรเพ็ชญ์ หนึ่งรา

มเหสี ๕ แล้วเสด็จมาทนท์เจ้า เจ้าแม่มาเสวยข้าว แก่แม่ร้า สุดใจ หนึ่งรา แม่เอย

มเหสี ๖ แม่เตือนฉันใดเจ้าก็บมิพร้อง แม่ต้องฉันใดเจ้าก็มิติง แม่องค์อิงกันอยู่กะด้าง ลอบพิตรเจ้าช้าง ห้ามบให้สองขาน แม่ฤๅ

กำนัล ๗ ปรีชาไวแว่นแท้ ใจแก่นกษัตริย์กล้าแล้ จึ่งตั้ง ใจตรง พระเอย

กำนัล ๘ ยามตายงามเลิศแล้ รู้ว่าใจเจ้าแท้ บให้ ใครปูน พระเอย

กำนัล ๙ ทั้งสองขุนพี่เลี้ยง พระรื่นพระโรยเพี้ยง เทพะไส้ ไป่ปาน ท่านเอย

กำนัล ๑๐ ใจหาญตายก่อนเจ้า เป็นเพื่อนตายคลึงเคล้า คู่โอ้ รักใจ บารนี

ลูกคู่รับพร้อมกัน โอ้พระเพื่อนแพงทอง สองพระยุพะราช ของข้าพระบาทนิเอ๋ย สิ้นแม่เจ้าเสียแล้ว ใครเลยจะอุ่นเกล้า ๚

(ปิดม่าน)

----------------------------

ถวายพระพร ร้องลำแป๊ะ

๑ ๏ นิจจาเอ๋ย โอ้อนาถ น่าน้อยใจ ไฉนราษตรี กรีมกระมลถวิลยินดี คืนนี้ นี่พิลึก ด่วนดื่นดีก นึกก็เหลือ เร็วเกิน ยามจะเพลิน จริตเจริญ ก็พลาดหวังบังเอิญ ผิดประเมินหมาย ๚

๒ ๏ หมดโอกาส วาสนา สนองพระคุณกรุณา น่าเลียดาย จำถวาย บังคมลา นิราศบาทมุลิกา ทั้งอาลัย ๚

(สร้อย) ชื่นเอ๋ย ชื่นชีวิต ได้เยี่ยมสวนดุสิต ชื่นชูใจ ชื่นอารมณ์ จะชมอะไร ก็ชื่นตาไป มิรู้วาย เอย ๚

๑ ๏ ชื่นใจเอ๋ย ชื่นสิ่งใด ชื่นแสนชื่น ชื่นไฉน ไม่ระรื่น ชื่นชีวิตจับจิตต์ชุ่มชื้น ภิรมระรื่น ชื่นเกล้า เช่นชื่นเฝ้า บาทยุคล (ขับฟ้อน) สมจงรัก สวามิภักดิ์ สโมสร เยื้องกายกรายกรรำ ละครถวาย ๚

๒ ๏ ชื่นพระคุณ อุ่นเกล้า พวกข้าพระพุทธเจ้า ทุกเพรางาย ชื่นหัวใจ ไทยทั้งหลาย ทุกหญิงชายทั่วถ้วน ล้วนจงรัก ๚

(สร้อย) หอมมาลึที่หอมห่อนหอมกรุ่น เหมือนหอมพระเกียรติคุณหอมประจักษ์ หอมหวนทวนลมน่าชมนัก เฉลิมศักดิ์สยามะรัฐขัตติยะวงศ์ เอย ๚

๑ ๏ เดชะเอ๋ย ขอพระบาท สยามินทร์นรินทรราช บรมนารถ ที่รักที่พึ่งประหนึ่งชีวาตม์ สิระโยภาส ของชาติไทย เถลิง พิชัย อมราดิสัย มไหศวริยภิรม ใดทรงนิยม ใดทรงชื่นชม นั่นนั้นด่วนอุดม สมประสงค์ ๚

๒ ๏ สรรพะโศก โรคนิราศ อุปัททะวันตรายประหลาด พระ บาทบงสุ์ แสนสุขทรง เกษมสันต์ พระวงศาข้าบาทอนันต์ นิรันดร ๚

(สร้อย) ขอชาติไทยศิวิไลส์เลิศะโลก เปรื่องประโภคชีนิสะโรสมร พูนพณิชย์พิทยาสถาพร พระนคร รุ่งเรืองประเทือง เอย ๚

----------------------------

สรรเสริญพระบารมี

ข้าวรพุทธเจ้า เหล่าคณานุภักดี ฯ ล ฯ

ปี่พาทย์ทำวา

ปิดม่านหน้าโรง

ศุภมัสดุ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ