ชุดที่ ๖ (พระลอคลั่งจนจากเมืองแมนสรวง)

(ฉากรูปในพระราชมนเทียรพระลอ ตัวละครมีพระลอประทับบนพระแท่นราชาอาสน์ พระชนนีและมเหสีถนอมอยู่ พระสนมรอบล้อมพระบาทบำเรอ พระหมอเฒ่าสิทธิชัยสองพระพี่เลี้ยง และเจ้าพนักงานพิทักษ์อยู่นอกพระฉากเสียงโกลาหล อาเพดกัมปนาทนฤโฆษ)

ร้องลำสังขารา เคล้าซออู้ ๏ บัดนั้น พระหมอเฒ่าสิทธิชัยใจคอหาย นิ่งนั่งสังเกตเหตุร้าย สาธยายมนตร์ครูรู้ทางใน ว่าผีสางสุรารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ มาประชิดเคี่ยวขับรับไม่ไหว โทมนัสส์อัดอั้นตันใจ คลานเข้าไปกราบทูลพระพันปี ว่าปู่เจ้าเขาแต่งทัพปิศาจ บุกรุกอุกอาจอำนาจผี พระเสื้อเมืองเรืองฤทธิ์ของเรานี้ ก็พ่ายหนีทิ้งแคว้นแสนร้ายนัก ๚ ๖ คำ เจรจา

(พระชนนีมิใคร่เข้าพระทัย และมิใคร่อยากจะเข้าพระทัย ว่าทูลฉะนั้น ก็ตรัสซัก พระหมอเฒ่าก็ซ้ำทูลจนจะไม่เข้าพระทัยฉะนั้นมิได้ พระมเหสีสนมในพากันตกใจไปตามกัน)

ร้องลำลาวเล็ก ๏ เมื่อนั้น องค์พระชนนีมีศักดิ์ ฟังหมอเฒ่าแถลงข่าวพระลูกรัก สะอื้นฮักทุ่มทรวงโศกี ๚ ๒ คำ โอด

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ โอ้ว่ากรรมจะทำไฉนหนอ มดหมอก็กลัวออกตัวหนี แม้นหมอเม็ตตาตูดูอีกที เผื่อจะมีโชคช่องช่วยป้องกัน ๚ ๒ คำ เจรจา

พระชนนี พุทโธ่ ๆ ตาหมอสิทธิชัยเฮย ช่วยตูข้ามั่งซี ฉุกละหุกขึ้นมาไม่ทันไร ก็จะสะบัดมือพล่อย ๆ ทิ้งขุนหลวงเสียง่าย ๆ (สะอื้น)

ร้องลำไทยน้อย ๏ บัดนั้น พระเฒ่าหมอข้อรัวเนื้อตัวสั่น ถอนใจฮือยกมือบังคมคัล หยูกยาสารพันก็พ่ายแพ้ ๚ ๒ คำ เจรจา

สิทธิชัย เฮอ เพชะคะ พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม หยูกยาอาคมก็อปราชัยเขาหมดเสียแล้ว พระทูลกระหม่อมแก้ว ข้าพระบาทจะรู้ทำกระไรได้

ร้องลำลาวครวญ ๏ แสนเอยแสนสังเวช ปิ่นเกศสาวสุรางค์พระนางแม่ นิ่งนั่งฟังหมอท้อแท้ ก่นแต่สะอื้นโอ้โศกา ๚ ๒ คำ โอด

เกริ่นสยอง ๏ ผีภายในแล่นออก ผีภายนอกแล่นเข้า ตามพระปู่เฒ่าธสั่ง ดังพระปู่เฒ่าธสอน บ่ยิ่งหย่อนทุกขนาน พระปู่ทราบสารแล้วไส้ ธก็ตรัสใช้สลาเหิน เดิรเวหามาสู่ เป็นแมลงภู่ทองน้อย บินล่อยๆฉับเฉียว บัดเดี๋ยวลับตาแล ลอยเข้าแกลมนทิราลัย ว่อนว่องไวบมิวก ตกในพานพระขันหมากบัดดล ปนพระศรีเสวยท่านไท้ ฤทธิ์เดชเวทปู่ใช้ เชี่ยวด้วยอาคม ขลังนา ๚ ๘ คำ (ปี่พาทย์ทำรัว)

เกริ่นอนาถ ๏ เบื้องบรมะขัตติยะเรืองลอ พอพระเอื้อมพระกรหยิบ หมากดิบมาเคี้ยวจะไจ้ สะท้านพระหฤทัยยอดยุพราช พระใจจะขาดอยู่รอนรอน ถึงสาวสมรพี่น้อง คิดบลุเลยข้อง ข่อนแค้นอาดูร อยู่นา ๚ ๔ คำ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ กราบทูลลาสมเด็จท้าวชนนี จากบุรีเที่ยวเล่นไพรสณฑ์ ลูกแรมวังคลั่งคลุ้มกลุ้มกมล ร้อนรนเหนื่อยหน่ายระคายใจ ๚ ๒ คำ เจรจา

พระลอ โฮย ลูกอัดใจเต็มทนแล้ว พระแม่ทูลหัวของลูก ลูกขอถวายบังคมลา ไปเล่นไพรสักพักหนึ่งเถิด โฮย ลูกอัดใจเต็มทนแล้ว พระชนนี เพคะ

ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย ๏ เมื่อนั้น แม่เจ้าประคุณบุญเหลือสะอื้นไห้ ประโลมพ้อพระลอหน่อไท้ พ่อคิดไยไม่ถูกหนะลูกอา เขาปล่อยยาอาคมถมทุกทาง ผีสางสุรารักษ์ก็หนักหนา วันใดพ่อพรากจากพารา ชีวาแม่คงม้วยด้วยอาลัย ๚ ๔ คำ โอด

เกริ่นโศก ๏ แสนสงสารพระลอราช เสน่ห์อำนาจหน่วงพระหฤทัย ทูลลาบได้ดังมนัส ท้าวธยิ่งกลุ้มกลัดแกล่ทุกข์ ไอศวรรย์บเป็นสุขเสวยพระโศก พระแม่วิโยคละโลมเล้า พระมเหสีเฝ้าแนบประคอง พระสนมสนองบำเรอยุคละบาท ถนอมภูวราชรอบข้าง ท้าวธก็บมิรู้สร่างคลั่งเพ้อ มะเมอถึงพระเพื่อนพระแพงทอง เฝ้าวอนฉลองทูลลา ครั้นพระพันวรรษายิ่งทูลทัด ท้าวธก็ยิ่งโทมะนัสส์หม่นไหม้ หัตถ์ทุ่มทรวงสะอื้นไห้ ละห้อยโหยหวนอยู่นา ๚ ๘ คำ โอด

ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย ๏ แรงฤทธิ์วิทยาสลาเหิน บังเอิญร้อนทุรนด้วยมนตร์ผี ผ่าวคะนึงถึงสองเทวี เร่าฤดีกะสับกะส่ายไปมา แว่วสำเนียงเหมือนเสียงทูลเตือน ว่าพระเพื่อนแพงคอยละห้อยหา ประหลาดแล้วน้องแก้วพี่ตามมา ผ่านฟ้าเฝ้าชะแง้แลตะลึง พอเหลือบมาสบหน้ามเหสี เอะนางนี่ชะรอยจะคอยหึง ทำไมมานั่งตะบอยคอยเคล้าคลึง ดูประหนึ่งนายระวังนั่งคุม ทั้งตาหมอสิทธิชัยก็ไม่หยอก กลับกลอกทำราวกะเจ้าหนุ่ม ลูกเขาเมียเขามาเร้ารุม รุมมะตุ้มตัณหาน่าแค้นใจ ข้างอีเหล่าสาวสนมก็อมหื่น แทบจะขืนตาครูกูหมั่นไส้ ฉวยได้พระแสงแกว่งไกว เลี้ยวไล่พิฆาตฟาดฟัน ๚ ๑๐ คำ

ร้องลำลาวพวน ๏ เหม่เหม่มเหสีเอก โหยกเหยกเอาอย่างอีแม่สาวสรรค์ ลอยหน้าพากันเย้ยหยันเยาะกู หมอเฒ่าเคล้าเคล้น หน้าทะเล้นเหลือดู แดะแด๋แสร่ชู้ กูรู้เท่าอีมัน ชีวิตคงม้วย ลงด้วยคมขรรค์ ฉิวฉุนหุนหัน ไล่ฟันวุ่นไป ๚

๏ พระเอ่ยพระผ่านฟ้า พระอย่าไหลหลงสงสัย ผองสนมนางใน เขาไม่สับปลับ หมอครูอยู่ห่าง ท้าวนางกำกับ พระฟังมิศัพท์ ด่วนจับกริ้วไย พระองค์หลงเสน่ห์ เคลิ้มเขวคลั่งไคล้ เวทมนตร์ดลพระทัย จึ่งได้โกรธา ๚

๏ อีเอยอีใจชั่ว ยังเล่นตัวตะบอยลอยหน้า ชาติหญิงแพศยา ว่าให้กูอาย คารมข่มกู คบชู้สู่ชาย แก่เฒ่าไม่เลือก ดั๋นเสือกตาลาย ฆ่าเสียให้ตาย เสียดายมึงไย เมียชู้กูมาก ไม่ยากหาใหม่ เงื้อพระแสงแกว่งไกว เลี้ยวไล่พัลวัน ๚ เชิด

ร้องลำสร้อยลาว รับมะโหรี ๏ เมื่อนั้น สมเด็จพระชนนีไม่มีขวัญ เห็นพระลอโฉมตรูคู่ชีวัน คลั่งไคล้ไล่ฟันกำนัลนาง วิ่งเข้าฉวยฉุดยุดพระกร คืนบรรจถรณ์แท่นทองหมองหมาง พระลอกันแสงกำสรวลครวญคราง สะอื้นพลางทูลพลางอ้างจะลา ขืนอยู่วังตั้งแต่จะดูถูก ชีวิตลูกคงม้วยเหมึอนช่วยฆ่า เห็นสุดขัดทัดทานพระผ่านฟ้า นางพญาเสด็จออกทันใด ๚ ๖ คำ เสมอ

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ ตรัสเรียกสองพี่เลี้ยงโหรา อัครมหาเสนาบดีใหญ่ ทั้งพระหมอเฒ่าสิทธิชัย เข้าไปปรึกษาพระอาการ ๚ ๒ คำ เจรจา

(พระชนนีตรัสใช้ผู้รับสั่ง ให้ไปหาตัวโหร และอัครมหาเสนาบดีเข้ามาเฝ้าพร้อมกันแล้ว ตรัสเล่าพระอาการพระขัตติยราชโอรสให้ฟังแต่ต้นจนอวสาน ทรงปรึกษาจะควรปฏิบัติฉันใดดี)

ร้องลำเขมรอกโครง ๏ บัดนั้น พระหมอเฒ่าน้อมเกล้าสนองขาน ว่าผีสางเวทางค์เขารางควาน อติสารสามารถฉกาจนัก แม้ขุนหลวงถูกหน่วงไว้บุรี คงจะเสียชีวีไม่ดีหนัก ถึงมีหมอเทวดามาพิทักษ์ ก็สุดจักเกี่ยงแก้แพ้ทุกอัน ขุนโหรคำนวณพระชันษา พระชาตาบอกเหตุจากเขตต์ขัณฑ์ พระพี่เลี้ยงเสนาปรึกษากัน เห็นควรสื่อสารสุวรรณไปว่าวอน ขอสองพระธิดายุพาเอก มาอภิเษกสมจิตต์มหิศร ผูกไมตรีปรองดองสองนคร สโมสรไปชั่วกัละปา ๚ ๘ คำ เจรจา (ที่ปรึกษาต่างคนต่างทูลความเห็น)

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ เมื่อนั้น พระพันปีฟังคดีที่ปรึกษา เห็นงามตามคำเสนา นางพญาเสด็จขึ้นข้างใน ๚ ๒ คำ เสมอ (ขุนนางเข้าโรงหมด)

ร้องลำลาวแพนน้อย ต่อ ๏ ตระกองกอดพระลอวรบุตร กำสรดสุดชี้แจงแถลงไข แม่ปรองดองขอสองอ่อนไท้ มาอภิเษกสมพระทัยจงสำราญ ๚ ๒ คำ เจรจา

พระชนนี แม่ออกไปปรึกษาข้าราชการผู้ใหญ่เขาเห็นเหมือนใจแม่ ว่าจะมีพระราชศาสน์แต่งราชทูตเชิญเครื่องมงคลราชบรรณาการไปเจริญทางพระราชไมตรีต่อพระมหากษัตริย์เจ้ากรุงสรอง ขอพระเพื่อนพระแพงทองมาอภิเษกกะพ่อสมพระทัยแล้ว อย่าทรงกะวนกะวายอีกต่อไปเลยนะ พ่อคุณ ทูลหัวของแม่

ร้องลำลาวครวญ ๏ เมื่อนั้น พระลอขัตติยามหาศาล คลุ้มคลั่งฟังพระแม่แดดาล เถียงพระมารดาตามความเป็นจริง เมืองเราเป็นศัตรูคู่อมิตร เห็นสุดคิดขอสองพระน้องหญิง ถึงจะยกทัพหลวงไปช่วงชิง ลูกก็กริ่งเกรงเราสุดเอาชัย ขอถวายวันทาลาพระแม่ ไปคิดแก้เสน่ห์พามาจงได้ พระมารดรอย่าร้อนพระหฤทัย ลูกไปไม่ช้าจะมาคืน ๚ ๖ คำ

ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย ๏ พระลูกเอยพระลูกรัก แม่สุดจักทูลทัดขัดขืน พระเคราะห์ร้ายโหรทายว่าไม่ฟื้น เหมือนยางยืนกลางพนมล้มซวน เนื้อสู่เสือฤๅเสือจะยั่น พ่อทรงปัญญาไวจงไต่สวน จะเดิรป่าฝ่าดงคงประชวร แม่นี้ตรองเห็นล้วนแต่หนักใจ ตัวแม่แก่แล้วลูกแก้วแม่ เห็นแต่พ่อนี้ฝากผีไข้ แม้ขืนไปก็ไม่ห้ามตามพระทัย ร่ำพลางแม่ไท้ก็โศกี ๚ ๖ คำ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ พระเอยพระลอราช สะอื้นอนาถเสน่ห์เคล้าเศร้าศรี กราบบาทพระราชชนนี ลาจากบุรีมิฟังวอน ๚ ๒ คำ เจรจา (พระลอกันแสงทูลลา)

เกริ่นประสาท์น ๏ เมื่อนั้น พระพันปี ชนนีนาถรันทด สลดพระหฤทัยดังจะหะว่า พระนางว่าเจ้าลอลักษณ์ แม่รักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่นี้จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี ศรีกษัตริย์มีหลายสิ่ง พระมิ่งของแม่จงจำ ยำน้ำคำแม่อย่าคลา รีตพญาอย่าคลาด อย่าประมาทละเมอตน อย่าระคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึ่งทำ คิดทุกคำจึ่งออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกทะบวง อย่านิยมลวง หลงมารษา ถ่องกรุณาเกื้อทางธรรม ที่จะค้ำค้ำจงมั่น ที่จะคั้นคั้นจงเป็นกล สองต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรีโดยยุกติ์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญศัตรูเพรียงเมือง อาชญาเรืองเรื้อยราษฎร์ กันนิกรกาจเกื้อไพรี ดับกระลีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแช่ง แต่งตนให้คนรัก ชักชวนคนเมือฟ้า ม้วยหล้าอย่าม้วยประสงค์ จงดำรงพระยศพ่อ จงจำข้อแม่สอน จงจำคำแม่วอนสั่งเจ้า จงสุขทุกค่ำเช้า พ่อเอ้ยสุดใจ แม่รา ๚ ๒๓ คำ

๏ จงเจริญศรีสวัสดิ์เรื้อง เดชา
ทุกข์โศกโรคภยา อย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลา เร่งพ่าย ฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้อง ขุ่นแค้นอารมณ์ ๚
๏ ขอลุสมจิตต์ได้ สองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทาง เสน่ห์รั้ง
ขอคิดอย่าใจจาง คำแม่ สอนนา
ขอพ่อรีบคืนกั้ง เกศแคว้นแมนสรวง ๚
๏ ขอฝากปวงอมรไท้ เทวินทร์
อากาศพฤกษาสินธุ์ ป่ากว้าง
อิศวรนารายน์อินทร์ พรหมเมศวร์ พระเอย
ช่วยรักษาเจ้าช้าง เผือกพ้นผองภัย ๚
๏ ได้คืนชีพิตเจ้า จอมกษัตริย์
จักตกแต่งธวัชฉัตร์ เพริศแพร้ว
เทียนทองระย้ารัตน์ งามรื่น ตาแฮ
เป็ดไก่บายศรีแก้ว นอบแก้บนถวาย ๚

ร้องลำลาวกะแซ ๏ พระเอยพระลอราช ฟังโอวาทบังคมประณมไหว้ รับพรพระแม่เจ้าใส่เกล้าไท้ ภูวไนยออกหน้ามนเทียรทอง ๚ ๒ คำ เสมอ

ร้องลำลาวสร้อย ๏ โองการสั่งมหาเสนา ให้พิทักษ์นัคราประชาผอง ลูกขุนในให้ชุมนุมปรองดอง ปกครองตามวิสัยอัยยการ ทั้งถนอมบาทยุคลพระชนนี โฉมพระลักษณวดียอดสงสาร ถ้วนสนมเสนาข้าราชการ ให้เบิกบานปานกูอยู่เวียงชัย ขุนพลเร่งเตรียมพลทัพ พร้อมสรรพพยุหบาทขะบวนใหญ่ แบบจัตุลังคบาทประพาสไพร พร้อมไว้ทันรุ่งพรุ่งนี้ ๚ ๖ คำ

ร้องลำลาวล่องแก่ง ๏ บัดนั้น สองมหาเสนาบดีศรี รับราชโองการภูมี บังคมงามสามทีฟังบัญชา ๚ ๒ คำ

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ เมื่อนั้น พระลอวรลักษณ์เลิศหล้า รัญจวนป่วนฤทัยอาทวา เสด็จมาสู่ห้องบรรทมใน ๚ ๒ คำ เสมอ

ร้องลำลาวเล็กตัดสร้อย ๏ ลดองค์ลงเหนืออาสน์มณี เคียงองค์ลักษณวดีศรีใส ปลอบประโลมลาโฉมอ่อนไท้ เสน่หาอาลัยพันทวี ๚ ๒ คำ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ สงสารเอยสงสารพักตร์ พระนางลักษณวดีมเหสี สะอื้นอนาถกราบบาทพระสามี ยุพะดีพ่างเพียงจะขาดใจ ๚ ๒ คำ โอด

ร้องลำลาวเล็ก รับมะโหรี ๑ ๏ พระทูลหัว ข้าน้อยค่อยรักเหลือ พระจะเมื้อ มรรคา ไปป่าใหญ่

๒ ๏ จะลำบาก จะเหนื่อยยาก จากเวียงไชย ไม่มีใคร ๆ คอยเสนอ บำเรอถนอม อาลัยเอ๋ย อาลัยพระโฉม อาลัยจะโทรม จะเศร้า ทั้งลมทั้งแดด จะแผดจะเผา จะเงียบจะเหงาระทมพระทัย พระทูลหัวเอ๋ย ไหนเสือสีห์ ไหนหมี ไหนช้าง ไหนหนาวน้ำค้าง อ้างว้าง กลางไพร สุดจิตต์สุดใจ จะจากเวียงไยพระเอย ๚

๑ ๏ โอ้น้องเอย จะจากเชย เคยคิดถึง ไปบหึง คงกลับ มารับขวัญ ๚

๒ ๏ แม้นโศกหา ถึงพี่ยา อย่าจาบัล เชิญจอมขวัญ ๆ ถนอมบาทมาตุรงค์ สงสารเอย สงสารพระเมียรัก สงสารพักตร์จะหมองหม่น สงสารน้องนาง จะหมางกมล สงสารจะบ่นสงสารพี่ยา หนาชื่นใจเอ๋ย เพราะกรรมพี่ ใครบลี้ หนีกรรม ถึงชอกถึงช้ำ ก็จำไคลคลา อย่าโศกอย่าเศร้า อย่าง่วงอย่าเหงาเลยเอย ๚

๑ ๏ พระเหลือบเห็น สนมน้อย ละห้อยโหย ค่อยชายโชย โปรยปลอบให้ชอบชื่น ๚

๒ ๏ แม้รักกู สูจงคอย สักหน่อยคืน อย่าสะอื้น ๆ ฉะอ้อนเห็น จะเป็นลาง ชื่นใจเหลือ ชื่นใจผองเขือ ชื่นใจจะเมื้อเมืองลาแล้ว หัวใจกูหมองไม่ผ่องแผ้ว ชื่นใดจะแคล้วพระลอลา หนาชื่นใจเอ๋ย ขอจูบสั่ง สมหวังพอชื่น ใช่ไปบคืน ขืนคิดรั้งรา จะโหยจะไห้ จะ ห่วงจะใยไยเอย ๚

๑ ๏ สาวสนม น้องเอ๋ย กราบบาท ลอราชเจ้า ต่างเกลือกเกล้า สะอื้นร้องก้องปรางค์ศรี ๚

๒ ๏ สาวโหยไห้ ห่วงอาลัย พระภูมี เคยชื่นชม ๆ พระบาระมี จะแรมร้าง อาลัยเหลือ อาลัยพระโฉมงามอะเคื้อ อาลัยจะเมื้อลับแล้ว สนมนางทั้งผองสุดผ่องแผ้ว สนมจะแคล้วพระบาทยุคล พระลอราชเอ๋ย เหลือจะเหนี่ยว เหลือจะหน่วง เหลือถ่วง ถึงแสนจะหวง เหลือหน่วงภูวไนย จนจิตต์จนใจ จำจากจำไกลบาทเอย

๑ ๏ มเหสี สาวสนม ระงมโศก แสนวิโยค ๆ อาวรณ์ ฉะอ้อนไห้ ๚

๒ ๏ พระเชยชู้ พระยิ่งดู ยิ่งอาลัย โอ๋ยสุดใจ สุดใจเสียแล้ว นางแก้วของกูนิเอ๋ย น่าสยอง เสียงโศกศัลย์สนั่นก้อง น่าสยดสยองหัวใจ ก่นใจจะผก ก่นอกจะไข้ แสนสุรางค์อาลัยพระโฉมงาม พระรูปทองเอ๋ย ถึงจะปลอบ จะปลอบจะสั่ง สาวเจ้าบหวัง บวายวังเวง เสียงโอดเสียงอ้อน สะท้านสะท้อนมนเทียรเอย ๚ โอด

ร้องลำลาวครวญ ๏ โอ้อนาถพระบาทเรืองลอเอ๋ย เผ้าชมเชยช้ำอุราลาสนม อาลัยเหล่าสาวสุรางค์หมางอารมณ์ ท้าวมิทันบรรทมภิรมยา จนแสงทองส่องฟ้านภาขาว เผือดดาวศรีสางสว่างหล้า ฝืนหมองจากห้องนิทรา เสด็จมาสู่ที่สรงชล ๚ ๔ คำ เสมอ

ร้องลำลงสรงลาว รับมะโหรี ๏ นางในไขท่อปทุมถวาย น้ำฝอยปรอยปรายดังสายฝน ทรงแป้งร่ำน้ำอบปรบสุคนธ์ ค่อยแช่มชื่นฟื้นกมลทุรนทุราย ผจงจับสนับเพลาเพราตา ทรงภูษาสุวรรณเลิศเฉิดฉาย รัตตะพัตรรัดพระองค์พรรณะราย พิศะชายไหวยะยาบทาบชายแครง สะอางองค์สดทรงสนอบกรู กรองสออินทร์ธนูประเสริฐแสง สร้อยสังวาลตาบประดับทับทิมแดง ทับทรวงแผลงพาหุรัดจินดา ทองกรแก้วก่องทองแกม ธำมรงค์งามอร่ามหัตถา กระหมวดมุ่นเมาฬีศรีจุฟ้า เสียบจุฑามณีรัตนามัย ทรงปรัดผัดพักตร์เพริศแพร้ว มกุฎแก้วก่องเพ็ชร์เม็ดใหญ่ เฉลิมรัชทัดกระเจี้ยงจอมไม้ จับพระขรรค์สวมมาลัยไคลคลา ๚ ๑๐ คำ เสมอ

ร้องลำลาวเดิรดง รับมะโหรี ๏ เหลียวหลังสั่งสาวรัก สะอื้นอลักเอลื่ออุรา ข่อนขุ่นวุ่นวิญญา เสียดายวนิดาจะลาไกล เคยชื่นชมนาง นับวันอ้างว้าง เริสะร้างแรมไพร แสนสาวสวยสม รื่นรมย์หฤทัย เหนสุดอาลัย เยียใดด่วนจร โฉมนาง โฉมนางน่าสวาท ถนอมบาทบอนาทร เคยขับเคยฟ้อน สโมสรเสมอมา แต่นี้จักโศก จะวิโยคหวนหา เปลี่ยวอกอาทะวา สนมของข้านิเอย ๚

๏ จักไปก็อยากไป ใคร่ชิดโฉมชะไมมิวายเลย อยากอยู่ก็อยากเชย แสนสนมกูเอ๋ย จะทำฉันใด ผิวะได้พระแพงเพื่อน สองแม่มาเยือน พี่เสมือนหมายใจ จักแสนสุขเขษม ปลื้มเปรมหฤทัย พร้อมพรั่งนางใน เฉลิมไอศวรรย์ทวี โฉมตรู ๆ พระคู่สมัคร ยอดรักลักษณะวดี แสนสนมนารี น่าปราณีเสน่หา หาไหนไม่เทียบ เปรียบสาวสุรางค์ข้า มิจากจำลา เพราะเวราเรียมเอย ๚

๏ พระเอยพระมาตุเรศ พระเกิดเกศเกิดกาย เกิดกรรมจำผันผาย ลูกรักขอถวายบังคมลา พระอยู่เดียวเปลี่ยวแด สมเพชพระแม่ ก่นแต่จะโศกา เห็นแต่แสนสาวศรี ลักษณวดีกันยา ประยุรเสนิคณา บริรักษ์บาทบงสุ์ ไฉนหนอ ไฉนหนอพระลอราช กล้าไกลบาทพระมาตุรงค์ เที่ยวสัญจรดอนดง เดิรพงเดิรไพร เห็นเหลือดูแล พระแม่เมือไกล ยามประชวรครวญไข้ ไหนจะเห็นกันเอย ๚

๏ หวนห่วงประชาราษฎร์ พระประยูรญาติ มาตยะโยธี ยามกูอยู่บุรี โสมนัสส์สวัสดีปรีดา จะพึ่งใครเล่า ๆ จะเงียบจะเหงา จะเปล่ามโนนิรา ไฉนเห็นขวัญราช ชื่นชีวาตม์ชาวประชา เห็นแต่พระพันวรรษา ก็ทรงชราครามครัน โอ๋ชาว โอ๋ชาวเมืองแมนสรวง จะเซาทรวงตามกัน บรู้กี่ปีกี่วัน กูจะพลันคืนกรุง หมายไปเยียใด มันจะได้เหมือนมุ่ง หรือจะรบพุ่งยุ่ง ยิ่งนึกยิ่งนุง แดเอย ๚

๏ สงสารพระมเหสี แสนสุรางค์นารีสนมใน ท้าวเฒ่าแก่ชะแม่สาวใช้ มาตยาอาลัย จะไกลฝ่าธุลี เสียงโหยเสียงไห้ แซ่สนั่นหวั่นไหว เสียวใจแสนทวี แสนสาวเฒ่าหญิง เกลือกกลิ้งโศกี แก้กระหมวดโมฬี ลาดธรณีต่างพรม โอ๋พระทูล โอ๋พระทูลกระหม่อมแก้ว จะจากแล้วเชิญเหยียบผม อนาถนิกรร้อนระงม ก้องขรมกำสรวล พระอุตส่าห์ฝ่าฝืน อัดสะอื้นแกลครวญ ว้าเหว่เรรวน อักอ่วนอาดูรเอย ๚ โอด (มะโหรีทำทะยอย ปี่พาทย์ทำโอด)

ร้องนางโหยเคล้าเพลงทะยอย บทต้น ๑ ๏ ข้าพระบาทเคยพี่งพระบารมี พระจะเสด็จนิราศเสียจากพระบุรี เสมือนมิทรงพระเม็ตตาปราณี โอ้ครั้งนี้จะเห็นใครเล่าเอย ๚

๒ ๏ ข้าพระบาทเคยชมพระโฉมยง พระจะเสด็จสู่ด้าวดง เสมือนมิทรงพระสังเวชสนมนาฏ ให้ได้กราบพระยุคละบาท ให้ได้เห็นพระอรองค์ แต่นี้จะหลง ชมใครเล่าเอย ๚

๓ ๏ พระทรงพระการุญอุ่นเกล้า พระจะทิ้งฝูงสาวสุรางค์นางข้าเฝ้า โอ้ตั้งแต่นี้ นับวันจะมีแต่เงียบแต่เหงา แต่โศกแต่เศร้า เฝ้าแต่กินน้ำตา ทุกทิวาราตรี ๚

๔ ๏ ยามพระเสด็จเนาพระนิเวศ ได้พึ่งพระเดชดุษฎี พระมหานครนิหรือก็แสนจะสโมสรเกษมศรี สนุกนิเหลือจะรำพัน ด้วยมหรสพครบสรรพะกีฬาปรีดาทวี โอ้แต่นี้นับวันจะมี แต่เสียงโศกา ๚

๕ ๏ คิดถึงเคยเฝ้าเคยแหน ปลื้มจิตต์นิหรือแสนจะโสมะนัสสา ยามพระเสด็จร้างพระราชวัง จะมิฟังพระวาจา จะมิได้รับพระกรุณา นับวันแต่ว่าจะท่วมทุกข์ระทมกรมอุรา จะกรอกโสตแต่เสียงสุระโฆษปริเทวนา โศกาลัย ๚

ลูกคู่รับพร้อมกันทั้ง ๕ บท ๏ พระลอราชของข้าพระบาทนิเอย พระทูลกระหม่อมแก้ว ๚

ปิดม่าน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ