ชุดที่ ๕ (ทัพผีปู่เจ้าปล้นแมนสรวง)
(ฉากรูปกำแพงเมือง เห็นนอกเมือง เห็นพระราชวัง และศาลพระกาฬ ตัวละคร มีราษฎรคนจนหาบกะบุงมาจากป่า พอเกิดโกลาหลก็หนีเข้าโรง เชิด เสียงผีปู่โห่เร้ายกมาทั้งทางอากาศและทางธรณี ผีรักษาเมืองตกใจวิ่งผวาออกมาตื่นอยู่กลางโรง)
ร้องลำเขมรตะเบ็ง ๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงปิศาจรักษาเมืองแมนสรวง รับเครื่องเซ่นสังเวยเคยบนบวง เห็นผีปู่จู่จ้วงกะชั้นเชียง กรูกันออกสะอึกรับอยู่สับสน กาหลครื้นครั่นสนั่นเสียง ครั้นผีแขกจะแดกเข้าในเวียง ผีแคว้นแล่นเรียงเข้าโรมรัน ๚ ๔ คำ เชิด (ผีปู่พังประตูปีนกำแพงเข้ามารบกันกับผีแคว้น ทั้งบนฟ้าบนดิน)
ร้องลำลาวเซิ้ง ๏ ผียะยุ่งรบกัน โรมรันฤทธิ์ราวี ผีทุ่มผีไล่แทง รอนแรงผันแผงผาด แผลงอำนาจรุกราน ผีบันดาลเพลิงคระคลุ้ม โขมงควันกลุ้มเวหา ฤทธิ์แรงยาแรงมนตร์ ผีแดนทนทานยาก จึงฝากข่าวแก่ลม กึกก้องขรมหึ่งหึ่ง ลัดบัดปรึงปรี่ไป ทูลเทพไทยพระเสื้อเมือง ฟ้าหล้าเหลืองอุบาทว์ เลือดแดงฉาดหยดเปื้อน เสียงสะท้านสะเทื้อนธรณีสนั่น ฟ้าครื้นครั่นปิ้มผ่า ใจเมืองบ่าดังจะผก หัวอกเมืองดังจะพัง พระเสื้อเมืองฟังฟะฟั่น ตกใจสั่นระรัว กลัวอิทธิฤทธิ์พระปู่ ครั้นจะอยู่สู้ก็อยู่มิรอด ครั้นจะดอดทิ้งเสียก็ห่วงหนัก ละล่ำละลักตื่นประหม่า ครั้นผีดากันหนี พระเสื้อเมืองตะลีตะลานโลด โดดจากศาลแล่นเตลิด เปิดเข้าป่ารกชัฏ ทิ้งจังหวัดวิ่งส้อน ผีปู่กรูกันต้อน พวกเข้าวังใน แลนา ๚ ๘ คำ เชิด (ผีแดนบ้างสู้บ้างหนี จนหนีหมด ผีปู่ก็ยกกรูกันปีนกำแพงเข้าราชวัง เจอผีแดนก็ไล่ล้าง เจ้าพนักงานและพลเมืองตกใจออกมา ขุนโทวาริกหับประตูเมืองลงเขื่อนขัณฑ์ นี่นันกาหลกัน)
ร้องเขมรไล่ควาย รับมะโหรี ๏ บัดนั้น ชาวนครร้อนอกหมกไหม้ เห็นดินฟ้าอาเพดบอกเหตุภัย มืดคลุ้มควันไฟโขมงเมือง เสียงโห่ร้องก้องกู่ดูออกทั่ว ไม่เห็นตัวแต่คะนองท้องฟ้าเหลือง ระส่ำระสายวายวุ่นขุ่นเคือง ไม่รู้เรื่องตื่นตายตะกายอึง เลือดฝาดแดงฉาดปลาดถล่ม ฟ้าเปรี้ยงเปรี้ยงเสียงขรมลมหึ่งหึ่ง เกิดขบถกลางเชียงเสียงตังตึง ปืนปึงปึงแลไปไม่เห็นคน ราษฎรร้อนใจดังไฟผลาญ อุ้มลูกจูงหลานวิ่งสับสน เหมือนเมืองแตกแหลกหล้าจลาจล กาหลกันไปทั้งไพร่นาย ๚ ๘ คำ เชิด (เล่นตลก ราษฎรตื่นออกมาเป็นพวกพวก)
(ปิดม่าน)
----------------------------