ฉากที่ ๓ (พระลอสู่ปราสาทเมืองสรอง)

(ฉากรูปในพระตำหนักพระเพื่อนพระแพง ตัวละครมีสองพระนางประทับณสุวรรณอาสน์)

ร้องลำญวนเคล้า รับมะโหรี ๏ เมื่อนั้น สองพระราชธิดาฟ้าเมืองสรอง เนาบรรยงก์รัตนาสน์ปราสาททอง หม่นหมองกมลชะม้อยคอยพี่เลี้ยง สุริยนสนธยาราตรีแล้ว ไยจึ่งแคล้วนัดหมายเงียบหายเสียง พี่โรยรื่นก็มีคืนมาวังเวียง ยิ่งหวาดก็ยิ่งเพียงพินาศแด หรือเกิดเหตุบิตุเรศทรงทราบเรื่อง พระขุ่นเคืองข่าวลับกลับกริ้วแหว หรือพี่เลี้ยงเลี่ยงเลี้ยวเที่ยวเชือนแช ยิ่งนึกยิ่งไม่แน่ยิ่งโศกา ๚ ๖ คำ โอด

ร้องลำเขมรประชุม ๏ เหลือบเห็นนางโรยรื่นยืนเมียง มาเคียงสามหนุ่มคลุมภูษา คนงามฟ้อชะรอยพระลอราชา คนเดิรหน้านั่นนายแก้วไม่แคล้วทาย คนเดิรหลังระวังวุ่นนั่นขุนขวัญ ฝูงกำนัลถูกขับเงียบลับหาย สมคิดสมจิตต์สมอุบาย พระโฉมฉายหรรษารีบมาพลัน ๚ ๔ คำ เพลงฉิ่ง

(สองนางพี่เลี้ยงพาพระลอและสองขุนพี่เลี้ยงหลบเลี่ยงมาพบนางเฒ่าแก่และชะแม่พระกำนัลบ้าง ก็ทำกลมารยาเลี่ยงหลบมาจนเข้าในม่าน)

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ พระเอยพระลอเจ้า ยลสองเยาวะมิตรยวนธสรวลสันต์ กรตระกองกอดน้องร่วมชีวัน เฝ้ารับขวัญแสล้มรื่นชื่นพระทัย ๚ ๒ คำ

ร้องลำสร้อยลาว ๏ สองเอยสองธิดา วันทายิ้มย่องสนองไข เชิญเสด็จพระลอหน่อไท้ เข้าในแท่นที่มณีพราว ๚ ๒ คำ เสมอ

ร้องลำลาวกะแซ รับมะโหรี ๏ เถลิงบัลลังก์สุวรรณรัตน์รัชชวาล ภายใต้เพดานร่มขาว ห้อยพวงคำจัมปาดาราวาว สองพระสาวหมอบเมียงเคียงองค์ ๚ ๒ คำ

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ บัดนั้น สี่พี่เลี้ยงรื่นรมย์สมประสงค์ พะวงหวังบังคมพระโฉมยง จะเลี่ยงลงไปห้องสองพี่เลี้ยง ๚ ๒ คำ เจรจา

พระลอ เอ่ เอ่ พี่แก้วพี่ขวัญ ค่ำวันนี้หาวนอนแต่หัวค่ำจริงเจียวหนะ

นายแก้ว เพชะคะ ก็จริง เกรงจะหาวประทม

นายขวัญ ยังไง ยังไงก็ได้ แล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พระลอ พูดละโยกโคลงเจ้าสำนวนนัก

พระเพื่อน พี่รื่นก็จะรีบไปไหนด้วย

นางรื่น ก็เสร็จราชการงานเมืองแล้วนิเพขะ พระแม่เจ้า เหนื่อยมาวันยังค่ำกะตาแล้วนิ ก็ต้องพักมั่งซิ้

พระแพง พี่โรยเห็นจะร่วมใจกะพี่รื่นด้วยสิหนา

นางโรย เพค้า เพค้า ก็ร่วมใจกันทั้งนั้นนั่นแหละ เพค้า เพค้า

พระลอยิ้ม ตามใจพี่จะไปก็ไปเถิดซี

นางโรย นั่นแหมล่า

พระเพื่อน ปากจัดนัก

นางโรย ก็จัดมั่งซีเพค้า ทูลกระหม่อมแก้ว (เข้าโรงทั้งสี่พี่เลี้ยง)

ร้องลำลาวดำเนิรทราย รับมะโหรี ๑ ๏ สามกษัตริย์ โสมนัสส์ แย้มสรวล ยวนเสน่หา สามปรีดาร่าเริงบันเทิงสมร ๚

๒ ๏ แสนสุดรัก รักน้อง สองบังอร สองฉะอ้อนน้อ สองฉะอ้อนอ่อนคลอจ้อจำนรรจ์ โอ้พระทอง ของสองยุพราช พระแสนสุดสวาทสองสาวสวรรค์ ได้ชื่นได้ชมภิรมขวัญ บุญเพรงหากสรรสมเอย พระเชยโฉม พระโลมวรนุช สองนางเอย แสนรักสาว สองสาวสวยสุด เอ๊ะ สวยยอดมนุษย์ หยุดลมบหยุดรักอร ๚

๑ ๏ พระเพื่อนไท้ วอนไหว้ถวายสลา พระลอสรวล พระแพงชวน ชื่นชู้ หยิบพลูป้อน ๚

๒ ๏ พระเชยปราง นางแนบแอบกำกร จุมพิตสมร น้อ จุมพิตสมรเมาสวาท ไม่คลาดคลอ โอ้อกใครในพิภพ อกเอ๋ยไม่ลบพระลอแล้ว เสียวสร้านร่านจิตต์ เชยชิดพระน้องแก้ว เป็นตายไม่แคล้วองค์เอย โฉมฉ่องฟ้า ชื่นหล้าฤๅจาง สองสาวเอย ถึงสูญดิน สูญดินสิ้นฟ้า เอ๊ะ ความรักสองรา ไฉนรู้ซาสร่างเอย ๚ (ปี่พาทย์ทำเพลงกล่อม)

ร้องลำลาวล่องน่านเล็ก ๏ บัดนั้น สาวสุรางค์นางกำนัลเฒ่าแก่ เห็นอาการจอมขวัญผันแปร ต่างคอยแต่เสือกสอดดอดมอง สงสัยไยไม่เสด็จออก พี่เลี้ยงบอกแต่ประชวรอยู่ในห้อง ดูทีวิปริตผิดทำนอง มีแต่สองแม่เจ้าเข้าข้างใน สะกิดกันซุบซิบกระหยิบตา ลอบนินทาสืบสวนป่วนกันใหญ่ คนหนึ่งเห็นเนื้อเต้นตลุ่นใจ โจษกันไปพาวพาวจนข่าวดัง ๚ ๖ คำ เจรจา

(เฒ่าแก่กำนัลแอบมองซอกๆ ที่เห็นก็โจษกันไปต่อๆ จนข่าวทราบถึงพระเจ้ากรุงสรองเสด็จมา)

ร้องลำลาวพุงดำ ๏ เมื่อนั้น ท้าวพิชัยพิศณุกรร้อนคลั่ง พอทราบข่าวพระลอเข้ามาในวัง บังอาจทำลำพังอหังการ กริ้วโกรธพิโรธดังไฟฟ้า เสด็จมามองดูอยู่นอกม่าน เห็นพระลอคลอสองนงคราญ งามปานนารายน์ก็หายเคือง ชะรอยบุญเขาสร้างแต่ปางบรรพ์ เทพะสรรค์ภิเษกสวัสดิ์อุบัติเบื้อง เป็นเกียรติยศปรากฏเฉลิมเมือง งามประเทืองถูกอารมณ์สมปอง พระทรงปรีดีทวีนัก สมศักดิ์สกูลหงส์วงศ์เมืองสรอง ฤทธิ์ปราโมทย์โปรดดูพระคู่ครอง เลยยิ้มย่องเยี่ยมแกล้งสำแดงองค์ ๚ ๘ คำ เจรจา

ท้าวพิชัย เมื่อแรกพอรู้ข่าวก็โกร๊ธโกรธ เพราะเธอเป็นศัตรู หมายว่าจะมาจู่ดูถูก มิรู้ว่าธรักลูกเต้าเราสุจริต คิดจะเป็นสัมพันธมิตรราชไมตรี ที่จริงก็น่ารับขวัญ ด้วยสมกันชูสง่าราศี นึกนึกก็น่ายินดี หะหะ มากกว่าน่าโกรธ

ร้องลำล่องน่านเล็ก ๏ เมื่อนั้น สองบุตรีศรีเมืองเรืองระหง ชายเนตรเห็นสมเด็จบิตุรงค์ โฉมยงถวายอัญชลี ๚ ๒ คำ

ร้องลำลาวแพนน้อย ๏ เมื่อนั้น พระลอเลิศฟ้ารุ่งราศี กระซิบถามพระน้องสองบุตรี แจ้งว่าจอมธรณีก็บังคม ขอพระราชทานโทษโปรดเกล้า ที่กล้าเข้าเคียงคู่สู่สม เพราะฤทธิ์แสนเสน่ห์น้องอ่องอารมณ์ ทิ้งอุดมราไชศวรรย์มา ขอฝากกายถวายชีวาตม์ แทบพระบาทจงโปรดเกศา สุดแท้แต่พระราชบิตุลา จะทรงพระกรุณาปราณี ๚ ๖ คำ

ร้องลำล่องน่านใหญ่ ๏ เมื่อนั้น เจ้าแผ่นดินปิ่นสรองกรุงศรี ชื่นชอบตอบสุนทรวาที ลุงนี้ไม่ถือโทษทัณฑ์ เธอก็เป็นเจ้าแคว้นกรุงแมนสรวง ลุงไม่หวงกันน้องสองจอมขวัญ สมศักดิ์สมสกูลเสมอกัน สองเขตต์ขัณฑ์จะได้เป็นไมตรี ไพร่ฟ้าประขาชนจะพ้นทุกข์ เกษมสุขปรองดองสองกรุงศรี ค้าขายไปมาสองธานี ดังสุพรรณปัถพีแผ่นเดียวกัน ลุงจะให้โหราหาฤกษ์เอก อภิเษกก่อนจึ่งไปไอศวรรย์ พระกอดสามขัตติยาปรีดาครัน สรวลสันต์แล้วเสด็จจรลี ๚ ๘ คำ เพลงเร็ว

ร้องลำสร้อยลาว ๏ บัดนั้น นางรื่นโรยพี่เลี้ยงสาวศรี ตื่นเต้นไม่เป็นสมประดี รีบตะลีตะลานคลานเข้ามา ๚ ๒ คำ เจรจา

นางรื่น ตายละหล่อน เกิดความใหญ่ไม่เป็นตัวละเราคราวนี้ เพียงหลังลายตลอดต้นคอไปอยู่คุกก็เป็นบุญ ขอแต่อย่าให้คอขาดตายกลิ้งอยู่ที่หัวตะแลงแกงบุกตะหลั่วเลย

นางโรย บอกว่าเถอะ คนมันอิจฉาเราหนะหล่อนหนะ เราอยากริคิดปิดควันไฟนิ ถึงกรรมมันก็จำต้องโฉ่อยู่เอง

ร้องลำสร้อยลาว ต่อ ๏ เห็นพระจอมปัถพีลีลาแล้ว อกแผ่วๆพล้ำเผลอกะเล่อกะล่า คลานเข้าไปซักไซ้พระธิดา หน้าตาซีดสะทกตกใจ ๚ ๒ คำ เจรจา

สองนางพี่เลี้ยง ยังไงมั่งเพขะ ร้ายฤๅดี

(สองพระนางกับพระลอทรงพระสรวล)

สองนางพี่เลี้ยง ดูสิเอ้า เออๆ เผือค่อยมีใจแล้วละ เห็นพระทูลเกล้าของเผือทรงพระสรวลออก

(สองพระนางก็ตรัสเล่าเรื่องให้ฟัง พี่เลี้ยงอือออดีอกดีใจมาก)

ร้องลำลาวล่องน่านเล็ก ๏ พอทราบเรื่องเบื้องดีสองพี่เลี้ยง ดีใจเพียงขึ้นสวรรค์ถึงชั้นไหน ถวายพรพระบุตรีนิกะไร จูบกอดสองอ่อนไท้ทั้งพระลอ ๚ ๒ คำ เจรจา

(ปิดม่าน)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ