ใบบอกเจ้าพระยาบดินทรเดชา

หนังสือเจ้าพระยาบดินทรเดชา ที่สมุหนายก มาถึงพระยามหาอำมาตย์ ได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ด้วยข้าพระพุทธเจ้าบอกเข้ามาแต่ก่อนว่า พระยาสังขโลกคนเก่า พระยาอุไทยธิราช พระยาเอกราช แต่งให้หมื่นอุมบุตรพระยาสังขโลก พาตัวพระภักดีนุชิตบุตรเขยพระยาอุไทยธิราชเจ้าเมืองสำโรงทอง พระยาเสนาราชกุเชน พระเทพนุชิต นายเหล็กบุตรพระยาไชยโยธาเจ้าเมืองไพรกะบาด ถือหนังสือพระยาพระเขมรเข้าชื่อปิดตรา ๑๒ ดวง บอกข้อราชการเมืองเขมรฉะบับ ๑ ได้ส่งต้นหนังสือและจดหมายพระยาพระเขมรเข้ามาแจ้งราชการ แจ้งมาในบอกข้าพระพุทธเจ้าแต่ก่อนนั้นแล้ว ครั้นณวันเดือน ๓ ขึ้น ๒ ค่ำปีชวดโทศก พระยาสังขโลก พระยาเอกราช พระยาอุไทยธิราช แต่งให้พระเสน่หาภักดี หมื่นแบนกับไพร่ ๔ คนถือหนังสือพระยาสังขโลก พระยาราชนเรศร์ พระยาอุไทยธิราช พระยาธนาบดี พระยาพลเทพเกษตราธิบดี และพระยาพระเขมรเข้าชื่อกัน ๑๐ คนฉะบับ ๑ กับหนังสือพระยาสังขโลก พระยาเอกราช พระยาอุไทยธิราชฉะบับ ๑ หนังสือพระยานรินทราธิบดี พระยาชำนิพิทักษ์ พระยาเสนานุชิต พระศรีนครบาล มีมาถึงพระยาสังขโลกฉะบับ ๑ กับคำให้การญวน ๒ ฉะบับเข้ามาณเมืองปัตบอง ให้แปลออกเป็นตัวอักษรไทยได้ความว่า นายทัพนายกองในพระยาพระเขมรจับญวนได้ครั้งหนึ่ง ๑๕ คน ครั้นณวันเดือนยี่แรม ๘ ค่ำ นายทัพนายกองในพระยาพระเขมรจับญวนได้อีก ๑๑ คน ครั้นณวันเดือนยี่แรม ๑๐ ค่ำ ญวนเข้าหานายข้าพเจ้านายกองพระยาพระเขมรซึ่งไปตั้งอยู่คลองสตึงมีไชย ญวนตัวนายสอง ๒ กับไพร่ญวน ๑๐๖ คนเข้ากัน แต่พระยาพระเขมรได้ญวนไว้ที่เมืองสำโรงทอง ๑๓๔ คน พระยาสังขโลกและพระยาพระเขมรทั้งปวงไม่ไว้ใจแก่ราชการ เห็นว่าญวนหนีมาจากค่ายเมืองพนมเปญมาก เกลือกจะคิดเป็นกลอุบายประการใดไม่ทราบ จึงแต่งให้พระยาพลเทพเกษตราธิบดี พระยาเสน่หาธิบดี กับไพร ๒๐๐ คนคุมญวน ๑๓๔ คนขึ้นไปไว้ค่ายบ้านกะพงคลอง แขวงเมืองสำโรงทองข้างเหนือ ฉะบับ ๑ ว่า พระยานรินทราธิบดี พระยาชำนิพิทักษ์ พระเสนานุชิต พระศรีนครบาล เข้าชื่อกันมีหนังสือปิดตรามาถึงพระยาสังขโลกว่า ซึ่งพระยาสังขโลกมีหนังสือไปถึงพระยาเสนานุชิตนายทัพนายกอง พระยาเสนานุชิตนายทัพนายกองรู้หนังสือพระยาสังขโลกมีน้ำใจยินดีคิดถึงพระเดชพระคุณยิ่งนัก พระยาเสนานุชิตนายทัพนายกองได้เกณฑ์ทัพ ๕๐๐ คนยกไปรบกับอ้ายญวนๆ ก็ยกมารบกับกองทัพพระยาเสนานุชิต อ้ายญวนตาย ๒๑ คน เขมรเจ็บป่วย ๒ คน ญวนก็ยกถอยเข้าค่าย พระยาเสนานุชิตนายทัพนายกองมีความวิตกด้วยราชการ เกลือกจะทนสู้รบญวนนานไปมิได้ กับองกายเหียบ องกายเลและญวน ๓๐ คนให้การว่า ที่ค่ายเมืองพนมเปญ องจันลันบิน องภอลันบิน อยู่รักษาค่ายมีไพร่ญวนประมาณ ๑๐๐๐ คน แต่องทำตานยกขึ้นไปตามองเตียนกุน ที่เมืองพนมเปญเกิดความไข้ลงราก ไพร่ญวนเขมรในค่ายเจ็บป่วยตายเป็นอันมาก ญวนในค่ายเมืองพนมเปญก็คิดกันจะหนีออกมาอีกมากอยู่ เมื่อณวันเดือนยี่แรม ๘ ค่ำ องเหียบ องกายเล เห็นองตกโบกับไพร่ญวนประมาณ ๙๐๐ คนเรือแงโอแงซายเรือบันล่งกับเรือครัวญวน แจวลงไปเมืองไซ่ง่อนเป็นอันมาก กับพระยาสังขโลกคนเก่าบอกมาว่า ได้ช้างพังสีประหลาดไว้ที่เมื่องสำโรงทองช้าง ๑ สูง ๔ ศอกเศษ ขนและผิวหนังช้างเหมือนกับขนและผิวเนื้อพระยามงคลหัษฎินที่ล้ม และมีข้อความในต้นหนังสือพระยาพระเขมรเป็นหลายประการ ข้าพระพุทธเจ้าได้จัดให้จมื่นมณเฑียรพิทักษ์ พระยานรินทรโยธาปลัดเมืองปัตของ คุมไพร่ ๕๐๐ คนลงไปรับญวน ๑๓๔ คนขึ้นมาณเมืองปัตบอง ถ้าจมื่นมณเฑียรพิทักษ์คุมญวน ๑๓๔ คนมาถึงเมืองปัตบอง ข้าพระพุทธเจ้าจะส่งเข้ามาณกรุงเทพพระมหานคร แล้วพระยาเสนาภูเบศร์มาปรึกษากับข้าพระพุทธเจ้าว่า จะขอทำราชการฉลองพระเดชพระคุณยกลงไปอยู่เมืองสำโรงทองกับพระยาสังขโลก พระยาอุไทยธิราช พระยาเอกราช จะได้สืบสวนข้อราชการกองทัพญวนกับเขมรสู้รบกัน ทั้งจะได้ดูใจพระยาพระเขมรทำราชการฉลองพระเดชพระคุณด้วย แล้วกระแสพระราชดำริทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดแจงแต่งบ้านเมืองให้เจ้าองค์ด้วงอยู่ที่เมืองโพธิสัตว์จะเอาเมืองโพธิสัตว์เป็นเมืองใหญ่ พระยาเสนาภูเบศร์ลงไปตั้งอยู่ณเมืองสำโรงทอง เป็นท่ามกลางหว่างเมืองพนมเปญและหัวเมืองทั้งปวง จะได้ฟังชั้นเชิงท่วงทีพระยาพระเขมรจะเต็มใจให้เจ้าองค์ด้วงตั้งอยู่ณเมืองโพธิสัตว์ หรือไม่เต็มใจประการใดจะได้ทราบ ถ้าพระยาพระเขมรเต็มใจให้เจ้าองค์ด้วงตั้งอยู่ณเมืองโพธิสัตว์ ก็จะผ่อนครัวเข้ามาณเมืองโพธิสัตว์ ข้าพระพุทธเจ้าจึงจัดข้าราชการที่แข็งแรงกับไพร่ ๑๐๐๐ คนไปกับพระยาเสนาภูเบศร์ ลงไปตั้งฟังราชการอยู่ณเมืองสำโรงทอง แล้วข้าพระพุทธเจ้าได้มีหนังสือไปถึงพระยาสังขโลกและพระยาพระเขมรทั้งปวงว่า อ้ายกายเหียบอ้ายองกายเลให้การว่าค่ายเมืองพนมเปญมีไพร่ญวนประมาณ ๑๐๐๐ คน แล้วญวนในค่ายก็คิดจะหนีตามกันออกมาอีกเป็นอันมาก แล้วว่าองดกโบกับไพร่ญวนประมาณ ๙๐๐ คนพาครอบครัวลงเรือแจวกลับลงไปเมืองไซ่ง่อน ไพร่พลญวนเขมรซึ่งอยู่ในค่ายก็เกิดความไข้ลงรากเจ็บป่วยตายเป็นอันมาก ไพร่พลในค่ายเมืองพนมเปญยังจะมีอยู่อีกสักเท่าใด พระยาพระเขมรและนายทัพนายกองทั้งปวงพอจะยกกองทัพเข้าตีเอาค่ายเมืองพนมเปญก็จะได้ ข้าพระพุทธเจ้าให้พระยาเสนาภูเบศร์ออกไปสำเร็จราชการคิดราชการกับพระยาพระเขมรแทนข้าพระพุทธเจ้า ถ้าพระยาเสนาภูเบศร์และพระยาพระเขมรคิดอ่านปรึกษาหารือกัน เห็นการควรจะเป็นทีที่จะกระทำได้ประการใด สะเบียงอาหารจะพอรับจับจ่ายไพร่พลได้สักเพียงใด พระยาเสนาภูเบศร์บอกเข้ามาจะได้ยกกองทัพอุดหนุนออกไปช่วยกันระดมตีอ้ายญวนให้ยับเยินให้จงได้ ที่พระยาสังขโลกบอกมาว่าได้ช้างสีประหลาดไว้นั้น ถ้าเห็นเป็นราชการพอจะทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายได้ ก็ให้หลวงจำเริญคชสาร หลวงอินทรคชไกรกรมช้างคุมเอาช้างพังสีประหลาดเข้ามาณเมืองปัตบองด้วยทีเดียว จมื่นมณเฑียรพิทักษ์ พระนรินทรโยธาปลัดเมืองปัตบอง หลวงจำเริญคชสาร หลวงอินทรคชไกร กรมช้าง ได้กราบถวายบังคมลายกจากเมืองปัตบองแต่ณวันเดือน ๑ ขึ้น ๔ ค่ำปีชวดโทศก แต่พระยาเสนาภูเบศร์ ข้าพระพุทธเจ้าให้รอคอยเจ้าองค์ด้วงอยู่ก่อน เจ้าองค์ด้วงไปถึงเมืองปัตบองวันใด ข้าพระพุทธเจ้าจึงจะให้พระยาเสนาภูเบศร์นายทัพนายกองกับพระยาพิบูลยราชพระยาพระเขมรซึ่งเข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกลับไปบ้านเมืองพร้อมกับพระยาเสนาภูเบศร์ด้วยทีเดียว ข้าพระพุทธเจ้าได้ส่งต้นหนังสือพระยาสังขโลก พระยาอุไทยธิราช พระยาเอกราชและพระยาพระเขมรซึ่งบอกเข้ามาแต่เมืองสำโรงทอง ๓ ฉะบับ คำให้การญวน ๒ ฉะบับ เข้าผนึกปิดตรามอบให้หมื่นเดชสังหาร หัวหมื่นพระตำรวจใหญ่ขวา หมื่นวิเศษจัตุรงค์ หัวหมื่นพระตำรวจในขวา เข้ามาแจ้งราชการแล้ว หนังสือมาณวันพหัสบดีเดือน ๓ ขึ้น ๖ ค่ำปีชวดนักษัตรโทศก ศักราช ๑๒๐๒

 

  1. ๑. ดูคำให้การฉะบับที่ ๑ ที่ ๒ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ