หนังสือพระยานุภาพไตรภพ

ข้าพเจ้า พระยานุภาพไตรภพ เจ้าเมืองนครเสียมราบ พระองค์แก้ว พระยาวิเศษสุนทร พระฤทธิฦๅไชยเจ้าเมืองบำเหน็จณรงค์ พระยาเสนาราชกุเชน ขอบอกปรนนิบัติเข้ามายังท่านพระยาพิเรนทรเทพ ขอได้นำขึ้นกราบเรียนแต่พณหัวเจ้าท่านสมุหนายก เจ้าคุณแม่ทัพใหญ่ผู้สำเร็จราชการได้ทราบ ด้วยข้าพเจ้ากราบลาใต้เท้าพระกรุณาเจ้ายกออกไปถึงเมืองชีแครง พบพระยาเสนาราชกุเชน ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๖ ค่ำ แล้วข้าพเจ้าพร้อมกันยกเลยไปถึงเมืองสโทงณวันเดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำปีชวดโทศก และครอบครัวในพระยาเดโชเจ้าเมืองกะพงสวาย ได้ยกครอบครัวจากเมืองกะพงสวายมาตั้งพักอยู่ณบ้านกระเบาแขวงเมืองสโทงฟากตะวันตก เกวียน ๑๐ เล่ม สำมะโนครัวชายหญิงใหญ่น้อยประมาณ ๑๐๐ คน แต่ครอบครัวพระยาพระเขมรไพร่บ้านพลเมือง ๆ ชีแครงเมืองสโทงเมืองกะพงสวายยังซุ่มซ่อนเรี่ยราดอยู่ในป่าดงแห่งละ ๒-๓ ครัว แห่งละ ๒๐ ครัว ๓๐ ครัวก็มีบ้าง เจ้าเมืองกรมการยังหาทันได้รวบรวมให้เป็นหมวดเป็นหมู่เป็นที่ตั้งที่ตำบลใดไม่ ข้าพเจ้าจึงจัดให้พระยาเสนาราชกุเชน ขุนหมื่นนายไพร่ ๒๐๐ คน หลวงภักดีสงครามเมืองเดชอุดม นายไพร่ ๑๐๐ คน ปืนคาบศิลา ๑๒๕ บอกออกไปตั้งอยู่ช่วยป้องกันพิทักษ์รักษาครอบครัวพระยาเดโช แต่พระยาเดโชภักดีอีตั้งอยู่ณบ้านกระเกาะแขวงเมืองกระพงสวาย ข้าพเจ้าได้มีหนังสือให้หาตัวยังหากลับมาไม่ ถ้าพระยาเดโชเจ้าเมืองกะพงสวายได้กลับไปจากเมืองปัตบองถึงแล้ว ข้าพเจ้าจะปรึกษากับพระยาเดโชและเจ้าเมือง ๆ ขึ้นกับเมืองกะพงสวาย กรมการทั้งปวง ถ้าเจ้าเมืองกรมการเห็นว่าจะตั้งรวบรวมครอบครัวอยู่ที่แห่งไหนเป็นแน่มั่นคงแล้ว พระยาเดโชเจ้าเมืองกะพงสวายรวบรวมกะเกณฑ์ไพร่พลได้สักเท่าใด จะไปกิจราชการที่ตำบลบ้านแห่งใด ข้าพเจ้าจะให้พระยาเสนาราชกุเชน พระยาเดโชภักดีอี ไปช่วยกิจราชการกับพระยาเดโชเจ้าเมืองกะพงสวาย ตามท้องตราพระราชสีห์ ซึ่งโปรดเกล้าโปรดผมออกไป และข้าพเจ้ามิไว้ในแก่ราชการ ได้จัดให้ขุนมโนสงครามและขุนหมื่น ๗ คน ขี่ม้า ๘ ม้าไปชันสูตรดูค่ายอ้ายญวนณท่ากะพงธมแต่ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๒ ค่ำปีชวดโทศก ยังหากลับมาไม่ ถ้ากลับมาได้ความประการใด ข้าพเจ้าจะบอกกราบเรียนเข้ามาให้ทราบครั้งหลัง และอยู่ณวันจันทรเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำปีชวดโทศก มีหนังสือพระยาวงศาสัตรี ว่าที่พระยากลาโหมมาถึงข้าพเจ้าฉะบับ ๑ พระองค์แก้วฉะบับ ๑ ถึงพระยาเสนาราชกุเชนฉะบับ ๑ ใจความต้องกันว่า ณวันเดือนยี่แรม ๓ ค่ำปีชวดโทศก อ้วยองดีดกไพร่ญวนประมาณ ๒๐๐๐ คน ลงเรือแงโอเรือดาวแลประมาณ ๗๐ ลำ ยกจากเมืองพนมเปญไปทางคลองทะเลธม เลยขึ้นไปค่ายเมืองสมบุก แล้วกลับลงมาถึงบ้านหันไช ณวันเดือนยี่แรม ๑๔ ค่ำ และได้ความว่าอ้ายสำเอ่นแขกเป็นโดย มันพากองทัพอ้ายญวนขึ้นไปรบไล่ พระยาศรีธรรมาธิราช พระยาราชเดชะ นายทัพนายกองเมืองกะพงเสียมซึ่งไปอยู่ตั้งรักษาครัวณบ้านหันไช อ้ายญวนมันไล่ได้เรือแงซายลำ ๑ เรือยาวลำ ๑ เรือโกลน ๓ ลำ ม้าตัว ๑ แต่ณวันเดือน ๓ ขึ้น ๓ ค่ำ กองทัพอ้ายญวนเอาเรือขึ้นไปจอดณท่าแพรกโกรด แล้วอ้ายองดิดกใช้ให้อ้ายโดยสาเอน อ้ายโปประหืมแขก ไปล่อลวงตวนลีแขกซึ่งเป็นที่พระยาพิบูลย์ลงมาหาองดิดก ๆ กักเอาตัวพระยาพิบูลย์ตวนลีไว้ แล้วองดิดกใช้ให้อ้ายโดยสาเอน อ้ายโปประหืม ไปกวาดเอาครอบครัวบุตรภรรยาตวนลี และครอบครัวจีนจาม ซึ่งอยู่ณท่ากะพงรัดมาลงเรืออ้ายองดิดกณท่าแพรกโกรด แล้วอ้ายองดิดกใช้ให้ตวนลีเป็นที่พระยาพิบูลย์ และอ้ายโดยสำเอน อ้ายโปประหืมแขก พากองทัพญวนขึ้นเดิรทางท่ากะพงรัด จะไปชิงกวาดเอาครอบครัวจามจีนเขมรแขวงเมืองตโบงขมุม ทางแต่ปากคลองเรืออ้ายญวนจอดขึ้นไปทางเช้าชั่วเพน แล้วพระยาวรชุนกับน้องชายตวนลีซึ่งเป็นที่พระยาพิบูลย์ คุมไพร่ประมาณ ๑๐๐ คนยกขึ้นมาสู้รบกับกองทัพอ้ายญวนณท่ากะพงรัด แล้วพระยาวรชุนน้อยตัวกลัวกองทัพอ้ายญวนจะชิงกวาดเอาครอบครัวแขวงเมืองตโบงขมุมไปได้ จึงมีหนังสือมาขอกองทัพพระยาวงศาสัตรีว่าที่พระยากลาโหมแขวงเมืองกะพงเสียม ๆ เกณฑ์ได้กำลังประมาณ ๔๐๐ คน ยกไปพบกองทัพพระยาวรชุน และนายทัพนายกองพากันระดมสู้รบกับกองทัพอ้ายองดิดก สู้รบกันแต่เช้าจนสาย ได้ยิงฆ่าฟันอ้ายญวนตาย ๑๑ คน อ้ายญวนเจ็บป่วยเป็นอันมาก กองทัพอ้ายญวนถอยทัพจากท่ากะพงรัดไป พระยาวรชุนกับพระยากลาโหมก็ถอยมาตั้งอยู่ที่เนินสังแกงโดด แล้วได้ความว่าอ้ายญวนจะยกกองทัพเลยไปกวาดเอาครอบครัวที่บ้านสะสำมอ บ้านระกาปรมอีกนั้น ว่าพระยาวรชุน พระยาวงศาสัตรี ว่าที่พระยากลาโหมได้ยกออกไป ทางไกลแต่ท่ากะพงรัดประมาณ ๕๐ เส้นเศษ ได้สู้รบฆ่าฟันกองทัพอ้ายญวนตาย ขุนนางอ้ายญวนชื่ออ้ายองเป็นเบียน ๒ คน โดยคน ๑ กาย ๒ คน กับไพร่ญวนประมาณ ๖๐ คน ไพร่ญวนเจ็บป่วยเป็นอันมาก ได้ปืนใหญ่บอก ๑ ปืนคาบศิลา ๒๕ บอก ทวนญวน ๒๐ เล่ม กลองญวนใบ ๑ แล้วอ้ายญวนหนีถอยลงไปตั้งอยู่ที่ท่ากะพงรัด เพลากลางคืนประมาณ ๓ ยามเศษ ตวนลีเป็นที่พระยาพิบูลย์ลุกขึ้นฆ่าฟันกองทัพอ้ายญวนที่ทากะพงรัด ย้ายญวนถอยทัพหนีลงไปอยู่ท่าแพรกโกรด พระยาพิบูลย์ลีตามลงไปชิงเอาครอบครัวแขกจามชายหญิงใหญ่น้อยได้ประมาณ ๑๐๐๐ คน อ้ายญวนได้ครอบครัวบุตรภรรยาพระยาพิบูลย์ลีกับครอบครัวแขกจามประมาณ ๓๐๐ คน อ้ายญวนใส่เรือล่องลงไปณเมืองพนมเปญ พระยาพิบูลยมีกับนายทัพนายกองจะยกลงไปตามชิงเอาครอบครัวกับอ้ายองดิดกณเมืองพนมเปญ และอยู่ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๖ ค่ำ ข้าพเจ้าได้จัดให้ขุนณรงค์ภักดีถือหนังสือข้าพเจ้าแต่เมืองชีแครงไปถึงพระยาเชตว่าที่ฟ้าทะละหะณเมืองบูราย ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ขุนณรงค์ภักดีถือหนังสือพระยาเชตว่าที่ฟ้าทะละหะกลับมาถึงข้าพเจ้าฉะบับ ๑ ใจความว่า พระยาเดโชภักดีอีจับได้ญวน ๕ คนมาถาม อ้ายญวน ๕ คนให้การว่า เมื่ออ้ายองเตียนกุนกับไพร่ญวน ๔๐๐๐ คนถอยกลับไปจากค่ายกะพงธม อ้ายองเตียงกุนจัดให้อ้ายองเชียงลัน อ้ายองเชืองเว อ้ายองขเวียนภู ๓ นาย ไพร่ญวน ๓๐๐๐ คนอยู่รักษาค่ายกะพงธม แล้วอ้ายองเชียงลัน อ้ายองเชืองเว อ้ายองชเวียนภูให้ทำค่าย ชักปีกกา ๓ ชั้นทั้ง ๒ ฟาก แล้วอ้ายญวนให้ทำค่ายที่ทางกะพงธม อ้ายองจันไพร่ญวน ๒๕๐ คนอยู่รักษาค่ายแห่งหนึ่ง ให้ทำค่ายที่ท่าตำรีฉลองค่ายหนึ่ง ให้อ้ายองภบไพร่ญวน ๒๕๐ คนอยู่รักษาค่ายแห่งหนึ่ง แล้วว่าอ้ายญวนเอาเรือใหญ่เรือน้อย ๑๖ ลำบรรทุกเข้าสารมาแต่เมืองพนมเปญ มาส่งที่ค่ายทั้งสองแห่งเป็นระยะทางขึ้นมา แล้วว่าอ้ายญวนให้ทำทางทั้งสองฟากคลองมาจนถึงค่ายกะพงธม พระยาเชตว่าที่ฟ้าทะละหะ พระยาเดโชภักดีอี พระยามนตรีเสน่หาเจ้าเมืองไพรกะดี ได้แต่งไปให้ชันสูตรดูเห็นเหมือนคำอ้ายญวนทั้ง ๕ คนให้การ และราชการทางฟากเมืองสมบุกสมบูรณ์นั้น ณวันเดือน ๔ ขึ้น ๖ ค่ำปีชวดโทศก พระยาศรีธรรมาธิราชมาแต่เมืองสมบุก แจ้งความกับพระยาเชตว่าที่ฟ้าทะละหะใจความว่า อ้ายญวนในค่ายเมืองสมบุก อ้ายองอานภู อ้ายองทำตาน ไพร่ญวน ๑๕๐๐ คน และว่าเรือขึ้นไปเมืองสมบุกอีกนั้น เรือแงโอแงซายเรือโกลนใหญ่น้อย ๕๖ ลำ ซึ่งราชการที่เมืองตโบงขมุมนั้น ด้วยอ้ายโปประหืม อ้ายโดยญีก อ้ายสำเอนกับตวนลีเข้าคิดกับกองทัพอ้ายญวน จับเอาบุตรภรรยาตวนลีและครอบครัวชายหญิงใหญ่น้อย ๓๐๐ คนใส่เรือลงไปนั้น พระยาวรชุนกับนายทัพนายกองแจ้งความตวนลี ๆ อาสาไปเอาตัวบุตรภรรยาของตวนลีกลับขึ้นมาได้ และข้าพเจ้าได้มีหนังสือไปถึงพระยาเชตว่าที่ฟ้าทะละหะ พระยาแสนท้องฟ้าเจ้าเมืองบูราย พระยามนตรีเสน่หาเจ้าเมืองไพรกะดีและหัวเมืองตะวันออก ให้รวบรวมเอาเข้ากับราษฎรที่มีเข้ามากและน้อย ให้คิดเฉลี่ยและจัดซื้อขึ้นไว้สำหรับราชการ ถ้าเจ้าเมืองกรมการรวบรวมได้เข้ามากน้อยเท่าใด ให้มีหนังสือบอกจำนวนเข้ามาให้ข้าพเจ้าทราบ บัดนี้ข้าพเจ้าแต่งให้หมื่นชำนิภักดีถือบอกเข้ามากราบใต้เท้าพระกรุณาเจ้าแจ้งราชการ ข้าพเจ้าได้ส่งต้นหนังสือพระยาพระเขมร บอกข้อราชการ ๘ ฉะบับเข้าผนึก มอบให้หมื่นชำนิภักดีเข้ามาด้วยแล้ว ควรมิควรสุดแล้วแต่จะโปรด ข้าพเจ้าปรนนิบัติมาได้ทราบ ณวันอังคารเดือน ๔ แรม ๒ ค่ำปีชวดนักษัตรโทศก ศักราช ๑๒๐๒

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ