โคลงของนายชิณ รายะเลข

โคลง ๔ ศรีอยุธยายศล้ำ เลอเวียง
สุขส่ำสมบัติเพียง ภาคฟ้า
สาสนเจริญเรียง ปิฎกรุ่ง เรืองแฮ
ปลุกกมลชนทั่วหน้า มนัสน้อมนิยมชม ฯ
๏ โลกระบือบารเมศร์เจ้า จุลจอม จักรแล
ครั่นพระยศนิยมยอม ยอบเกล้า
โอนอ่อนศิรประนอม เนืองราช บรรณานา
สู่พระเดชผ่านเผ้า พึ่งท้าวทรงบุญ ฯ
๏ เวียงวังมหานิเวศน์ท้าว อมรสถาน เทียบฤๅ
โสภิตภาคยไพศาล เอี่ยมเอื้อม
นพศูลสอดคัคณานต์ งำเมฆ
ตละยอดยลอยู่เงื้อม แง่ฟ้าฝังสวรรค์ ฯ
๏ พระปฏิมากรแก้วก่อ เกศเมือง
บูชิตไตรรัตน์เรือง ค่ำเช้า
รื่นรสพระธรรมประเทือง ทวยทิศ
วิสุทธิอาวาสเจ้า อริยพร้อมเพรียงสงฆ์ ฯ
๏ ปราการแก้วเขื่อนข้าม โขดเขา
แข่งคู่สูริยเงา เช่นเงื้อ
ทศทิศวินิจมเหา ฬารรุ่ง เรืองแฮ
หมื่นโยชน์ระยะเนื้อ ที่เวิ้งวงเวียง ฯ
๏ พลยุทธยงยิ่งเหี้ยม หาญรณ
แสนส่ำพยุหพล เพียบพื้น
อัศวรถคชอึงอล คับคั่ง
ดุจล่มโลกครื้น ครั่นให้ทำลาย ฯ
๏ พระศรีสุรเศวตอ้าง ออกนาม
เรืองฤทธิ์อิศรสาม ภพแพ้
พาหนะพระสยาม ยศโยค
ประดับพระเดชท่านแล้ ธิราชเรื้องฦๅชา ฯ
๏ มวญหมื่นนงโพธแผ้ว ผ่องลักษณ์
ราชบริหารจุลจักร อยู่ห้อม
อับสรสุรางค์พนัก งารอเนก
ปิ่นปักษ์อัคเรศพร้อม รัตนแก้วกัลยาณิ์ ฯ
๏ บรมพงศ์เพ็ญเพียบด้วย ขัตติยา
สมบูรณ์ราชรัชทา ยาทแล้ว
พระโอรสราชธิดา อดุลยกนิฐ อเนกแล
ผองพระประยูรญาติแผ้ว ฝ่ายเฝ้าเคียมคัล ฯ
๏ มวญหมู่มุขมาตย์พื้น ภักดี
มั่นสัตยกัตเวที ต่อจ้าว
ฤๅเกลื่อนฤๅแกลนหนี แหนงพระบาท
บูชิตชีพถวายท้าว ท่านไท้ภูบาล ฯ
๏ ปรากฎพระยศซึ้ง ประเสริฐแสน ฉนี้แล
สพรั่งราชบริหารแหน ห่วงเฝ้า
ศฤงคารคู่ดินแดน จักรพรรดิ์
โอ้พระจุลจอมเกล้า หน่ายน้ำพระทัยหนี ฯ
๏ ทรงแสวงศิวโมกข์ข้าม มัคคา
ปางประจวบพระพยา ธิท้น
ละเทศเขตสวรรยา ธิปัติปก ปวงแล
เสวยทิพย์เทวโลกพ้น ฉเพาะอ้างองค์เคียว ฯ
๏ เปนมหันต์มหิทธิ์เศร้า โศกศัลย์ ราษฎร์แล
เสริญพระคุณรำพรรณ พร่ำถ้อย
ปริเทวะทรวงรัน ทดทั่ว แลแฮ
นองเนื่องน้ำเนตรย้อย ยากห้ามใจจริง ฯ
๏ ร่ำรื้อฤๅจักสิ้น โศกกษัย สร่างฤๅ
แสนกัปหมื่นปีไป ห่อนแคล้ว
บ่เคลื่อนบ่คลายใจ จอดจ่อ ราชนา
สูรย์ดับจันทร์ลับแล้ว รักข้ายังคง ฯ
๏ ปวงชนโทมนัสน้ำ ใจสลาย แหลกเวย
คิดพระคุณฤๅวาย ว่างร้าง
พระสฤษฎิ์กิจผดุงหลาย ล้วนเลิศ ประโยชน์นอ
เจริญรอบกอบสุขสร้าง ระลึกแล้วพลันเห็น ฯ
๏ เพราะพระองค์เอกอ้าง อัครบุรุษ ราชนอ
ทรงร่มรัฐสัตว์มนุษย์ เทพท้าว
จาตุระทวีปสุด ขอบโลก
ทรงพระคุณหน่วงน้าว มนัสน้อมนับถือ ฯ
๏ ข่มโศกวิโยคด้วย ไญยธรรม วินิจแล
กลืนกลัดอัสสุชลบำ ราสเศร้า
แจ้งในอนิจลักษณะสำ หรับโลก
พอประทังทุกข์เกล้า กระหม่อมครั้งคราเดียว ฯ
๏ ขอเชิดพระยศไท้ ธิบดินทร์
เบญจรัฐสยามินทร์ อคร้าว
จงเสถียรสถิตภิญ โญยิ่ง ยืนแฮ
เกริกพระเกียรดิ์เลิศท้าว ธิราชเบื้องบรรพ์ครอง ฯ
๏ ทวยราษฎร์ปราสทุกข์แผ้ว พูลผล
โดยพระเดชภูวดล ปกเกล้า
บำเทิงทั่วรัฐมณ ฑลเกษตร สยามแฮ
วายทุกข์ขุกเข็ญเศร้า สร่างสิ้นสบเกษม ฯ
๏ รมณียสถานถิ่นด้าว แดนไท ท่านนา
ชื่นฉ่ำประชาไศรย สู่หล้า
เนืองนิตย์กิจกำไร กูลกอบ
เสรษฐกิจพาณิชย์ค้า ค่ำซื้อวันขาย ฯ
๏ ทรงเปนสัตบุรุษแท้ ถ่องธรรม
อนุเคราะห์วิญญูปถัมภ์ ทั่วหล้า
มั่นในพระกมลบำ รุงโลก
สุขทุกข์ราษฎร์อมาตย์ข้า พระเอื้ออารี ฯ
๏ พระทรงเสพย์สัจซร้อง สุนทรา ศรัยแล
มธุรสธรรมสภา ผ่องถ้อย
ดำรัสขัตติยปกา สิตสมิทธิ์ มวญแฮ
กลเหลี่ยมรัตนร้อย สลักไว้ในผา ฯ
๏ พระโฉมงามเงื่อนไท้ เทวัญ
เสด็จจากดุสิตสวรรค์ ผ่องแผ้ว
ศุภลักษณวิลัยพรร โณภาส
เล่ห์รัตนหลอมหล่อแก้ว เอี่ยมอ้างอรโฉม ฯ
๏ ยามพระเยือนยั่วยิ้ม ปราไส
สัณห์เสนาะสนิธใน เสน่ห์น้อม
ภักดีอดิสัย สุจริต ท่านนา
ชื่นฉ่ำกมลพร้อม พร่ำด้วยศุภสุนทร์ ฯ
๏ ทรงยศทศพิธแผ้ว เพ็ญญาณ
ดุลยวินิจวิจารณ์การ แกล่ใกล้
เชิงชอบประกอบสาร ประโยชน์ยิ่ง ใหญ่นา
บุรณระบอบไว้ แต่ต้องคลองธรรม ฯ
๏ ทรงรัฐประศาสน์ซึ้ง แสนชาญ
บ่งเล่ห์กลีลาญ แหลกผ้าย
เติมตัดดัดเกลากราน ตรากฎ โทษแล
ทนุถนอมออมเปลี่ยนย้าย ยิ่งด้วยคุณสาร ฯ
๏ พระองค์คือท่านท้าว เทพบิดร ไทยนา
เทวษบุตรสุดอาวรณ์ ยิ่งไซ้
ยกทาสราษฎร์กรรมกร การข่ม ขี่นา
คาขื่อรื้อเลิกใช้ ขนบเหี้ยมมหันต์ทัณฑ์ ฯ
๏ ธทรงพิริยภาพพ้น พรรณา
บั่นบากพระอิริยา บถพร้อม
เสด็จจากอโยธยา ยังยุรป โพ้นแล
นำประโยชน์คุณน้อม เนื่องใช้ในสยาม ฯ
๏ พระหฤทัยเทียมแห่งห้วง พระมหา สมุทร์นอ
กว้างใหญ่ในพระกรุณา ท่านนั้น
พระรักชาติสาสนา สนิทแน่น
แบ่งสุขช่วยทุกข์กั้น เกี่ยงเกื้อการุญ ฯ
๏ ทรงเสวยพิบากล้ำ ล่าแรง พระนา
โอบชาติสาสนแสวง สวัสดิ์พร้อม
สุขทุกข์ขุกเข็ญแคลง คลังราช
ปัจนึกแหลมหล่อล้อม เล่ห์ล้วนลำเค็ญ ฯ
๏ ทูตานุทูตตั้ง เต็มอำ นาจแล
รับร่วมกรณีย์ประจำ จอดด้าว
ต่างแดนแผ่นดินบำ รุงสื่อ สาส์นเฮย
ผูกมิตรสนิธเสน่ห์น้าว เนื่องน้อมนิจกาล ฯ
๏ คมนาการสดวกด้วย ทางเดิร
รถจักรเรือไฟเหิร หักอ้อม
วิทยูทูรศัพท์ดำเนิร สารส่ง เสนอแล
ยานยวดรวดเร็วพร้อม แกล่ใกล้ไกลถึง ฯ
๏ สมบูรณ์เกษตรส่ำสร้าง สมธันย์
ฉ่าชุ่มฤดูวสันต์ ตกต้อง
มั่วมูลมัจฉะพรรณ ผลาพืช ผลแล
จ้าแจ่มจำรัสห้อง แห่งห้วงเวหน ฯ
๏ ธรรมการสารกิจเกื้อ การสงฆ์
วัตกิจพินิจคง ควบไว้
ดรุณเรืองวิทยายง ญาณยิ่ง แลแฮ
ซร้องศาสตรสามารถให้ เล่ารู้การเรียน ฯ
๏ นคราบาลแบ่งเบื้อง นอกใน
ตราตรวจตำรวจไว เวียดล้อม
ระงับทุกข์ฉุกเฉินภัย พาลเล่ห์ โจรนา
หาญหักดักดุมด้อม เดาะด้วยอาญา ฯ
๏ ศาลาขุนคู่ค้ำ ยุติธรรม ท่านนา
ว่องวิทย์นิติศาสตร์ชำ นิถ้วน
อินทภาษประกาศกำ หนดกฎ หมายแล
ปราศจากอคติล้วน ระงับถ้อยกระทงแถลง ฯ
๏ ใดราษฎร์ครุโทษด้วย มหันต์ทัณฑ์
ต้องบทอัยการพลัน ชีพมล้าง
พระโปรดกรุณาบรร เทาโทษ
ผันผ่อนหย่อนแต่ข้าง ลหุให้คงปราณ ฯ
๏ ทรงอภัยโทษพ้น จองจำ
ปลดปล่อยนักโทษสำ เร็จถ้วน
เนื่องนับพระคุณธรรม ทางเมต ตานา
บริรักษ์ราษฎร์แต่ล้วน หลั่งล้นพระกรุณา ฯ
๏ เถลิงรัฐเศวตฉัตร์ร้าง แรมสยาม ยุคนา
รวมรวบสี่สิบสาม พัสส์พร้อง
ประสบสิ่งสรรพความ สวัสดิ์สืบ ทวีแล
มวญมนุษย์แลเทพซร้อง แซ่ซร้องสรรเสริญ ฯ
๏ อวสานกาลสิ้น สนองคุณ
สุดสมัยพระจอมจุล จักรเกล้า
ข้าบาทคนึงบุญ ฤทธิ์ร่ำ คนึงแฮ
จึงประพันธ์พระเกียรติ์เจ้า ประจักษ์แจ้งกตัญญู ฯ
๏ ชีพมลายกายข้าเน่า ในดิน
หล้าลับดับสุริย์สินธุ์ สุดแล้ว
สุเมรุมอดเมืองอินทร์ เปนเท่า
ขอพระเกียรติ์นี้แคล้ว คลาศไหม้ประลัยกัลป์ ฯ
๏ สรุปย่อยอยศเจ้า ปกเศียร
เต็มสติปัญญาเรียน รอบรู้
บ่ถ่องบ่แท้เทียร ฆชาติ แลนา
ใดพลาดปราชญ์ช่วยกู้ กล่าวเกื้อการุญ ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ