- อธิบาย
- กลอนสุภาพ ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ์
- โคลงและฉันท์ ของ “เอกชน”
- โคลงของนายชิณ รายะเลข
- ฉันท์ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ
- ลิลิตคำหลวง ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ
- อปฺปมตฺตาโหนฺตุ
- โคลงกระทู้ ได้รางวัลในการประกวดสำนวน
- บทดอกสร้อย ได้รางวัลในการประกวดสำนวน
- กลอนสุภาพ ของขุนสารัตถ์ธุรธำรง
- กลอนกาพย์ ของ “เอกชน” กล่าวเรื่องสวรรคต
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องสวรรคต
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องถวายบังคมพระบรมศพ
- ฉันท์ “ของเอกชน”
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องงารพระบรมศพและงารพระเมรุ
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์ไทย
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ (๒)
แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องถวายบังคมพระบรมศพ
๏ รูปจะกล่าวถึงชาวบุรี | ที่รู้คดีโดยบัตรหมาย |
ว่าทรงอนุญาตให้ชนหญิงชาย | ได้ถวายบังคมพระโกษฐ์ทอง |
๏ ไม่ว่าชาวนาแลชาวไร่ | ทั้งผู้ดีไพร่หมดทั้งผอง |
ท่านทรงเมตตาข้าทูลลออง | ให้ไปสนองใต้ฝ่ายุคล |
๏ ถึงวันที่หนึ่งแลที่สิบห้า | พวกชาวประชาทุกแห่งหน |
ไม่ว่าคนมีแลคนจน | ทั่วทุกตำบลพากันมา |
๏ ทั้งเมืองเหนือแลเมืองใต้ | บ้างขึ้นรถไฟคลาศคลา |
เสียเงินเท่าไรก็ไม่ว่า | ขอให้ได้มาถวายบังคม |
๏ ทั้งหนุ่มแก่แม่หม้ายสาว | นุ่งห่มขาวไม่หวีผม |
ด้วยดวงจิตต์คิดเกรียมกรม | เสียดายพระร่มโพธิ์ทอง |
๏ ถึงที่พระโกษฐ์พระจอมไกร | เสียงแต่ร้องไห้กันกึกก้อง |
ให้คิดอาไลยใต้ฝ่าลออง | บ้างก็ร่ำร้องแล้วรำพรรณ์ |
๏ ว่าโอ้โอ๋พระจอมโมลี | มาละข้านี้ไปสวรรค์ |
เคยปกเกล้าชาวเขตคัน | เกษมสันต์แสนสำราญ |
๏ ทรงชุบเลี้ยงโดยเที่ยงธรรม์ | ดังพระสุริยันต์ส่องแสงฉาน |
น่าแค้นขัดมัจจุมาร | ช่างมาล้างผลาญพระร่มโพธิ์ทอง |
๏ ถ้าแม้นพระกาลมีกายปรากฎ | จะแทนทดพระคุณสนอง |
จะอาสาใต้ฝ่าลออง | คิดต่อยุทธป้องกันพระองค์ |
๏ นี่ไม่เห็นตัวมัจจุราช | จึงหมดอำนาจจะรณรงค์ |
เสียดายนักพระจักรพงศ์ | พระไม่คงพระชนมา |
๏ บ้างจุดธูปเทียนจำเนียรน้อม | ทั้งดอกไม้หอมนานา |
ถวายกุศลผลศีลา | ให้สู่มหาพระนิพพาน |
๏ จะกล่าวเรื่องให้เนื่องกันไป | ให้แจ้งใจตามโวหาร |
ที่กระทรวงนครบาล | ท่านแจกข้าวสารแก่ชาวประชา |
๏ ราษฎรออกซ้อนซับ | ไปคอยรับซึ่งธัญญา |
คนละทนานให้ทานทั่วหน้า | ให้ซื้อผักปลาอิกสองสตางค์ |
๏ ที่บางคนโลภล้นเหลือ | คิดแผ่เผื่อให้กว้างขวาง |
เตรียมกระสอบลอบไปวาง | แอบไว้ที่ข้างนอกกำแพง |
๏ พอรับได้แล้วใส่ที่ | ความยินดีเดิรยิ้มแฉ่ง |
เต็มที่ใส่ได้พอแรง | แล้วจัดแจงขายเสียที |
๏ จะกล่าวเนื่องถึงเรื่องประกาศ | ของไทธิราชเจ้ากรุงศรี |
ให้ชาวประชาในธานี | ตั้งภักดีบำเพ็ญทาน |
๏ อาราธนาพระสวดมนต์ | เพื่อกุศลเปนแก่นสาร |
วันที่สิบห้าวัดวาบ้าน | ทั่วทุกสถานพร้อมเพรียงกัน |
๏ วันที่สิบหกรุ่งขึ้นเช้า | ทั้งหวานคาวเร่งจัดสรรค์ |
พร้อมมูลดีกับปีย์จังหัน | แล้วผายผันไปวัดวา |
๏ บรรดาของฉันนั้นมีอุดม | แกงต้มส้มไข่มากนักหนา |
ทั้งเณรทั้งพระปะปนกันมา | อนุโมทนาในผลทาน |
๏ แต่ตัวรูปมัธยัต | รับอาหารภัตร์แต่พอประมาณ |
ไม่ละโมภโลภเกินการ | ยังได้รับทานสามปิ่นโต |
๏ มีไข่เป็ดเจ็ดแปดใบ | มีแกงมีไก่อิกสามโถ |
ใส่คละปะปนจนล้นโอ | ขอให้ภิญโญทั่วทุกคน |
๏ ขอหยุดเบื้องเรื่องกินไว้ | ขืนว่าไปไม่เปนผล |
จะกล่าวข้อต่อยุบล | โดยนิพนธ์อิกต่อไป |
๏ ที่กระทรวงเกษตรา | มีศรัทธาจิตต์เลื่อมใส |
บำเพ็ญทานการสมัย | โปรดคนเข็ญใจแลคนจน |
๏ เพื่อไว้ทุกข์กันทั่วหน้า | ตามบรรดาคนขัดสน |
แต่ชาวนานั้นชอบกล | ท่อนล่างบนไม่เหมือนกัน |
๏ หล่อนไว้ทุกข์นั้นอย่างไร | เมื่อคิดไปก็น่าขัน |
นุ่งผ้าดำขำไม่บัน | แต่หล่อนสรรค์ห่มสีดอกแดง |
๏ ครั้นถึงวันที่สิบเจ็ด | รูปไม่เอาเท็จมาแถลง |
จะกล่าวกระทู้ให้รู้แจ้ง | เรื่องรับแย่งซึ่งผ้าดำ |
๏ ไม่ว่าเด็กแลผู้ใหญ่ | พากันไปออกคลาคล่ำ |
ทั้งมอญไทยแลไหหลำ | ดูมืดดำวิถีทาง |
๏ ที่เปนเจ๊กนั้นขันนักหนา | เอาขาวม้าขึ้นปิดหาง |
ปลอมเปนไทยเข้าไปบ้าง | ยืนเอียงข้างซ่อนผมเปีย |
๏ แม่สาวสาวที่เข้าไปรับ | เพราะขัดสนทรัพย์จะซื้อจะเสีย |
ต้องเบียดดันกันละเหี่ย | จนอ่อนจนเพลียกันไปก็มี |
๏ ที่ประตูดูคนยัดเยียด | ต้องเบียดเสียดกันเสียอึงมี่ |
ชายหญิงเด็กแก่ล้วนแต่ยินดี | รับทานโดยที่ท่านเมตตา |
๏ ฝ่ายท่านเจ้าพนักงาร | ก็แจกผ้าเปนทานไปแทบทั่วหน้า |
จำนวนคนผู้ดูเหลือคณนา | ได้รับแจกผ้าแล้วพากันไป นั้นแหล่ ฯ |
----------------------------