แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องถวายบังคมพระบรมศพ

๏ รูปจะกล่าวถึงชาวบุรี ที่รู้คดีโดยบัตรหมาย
ว่าทรงอนุญาตให้ชนหญิงชาย ได้ถวายบังคมพระโกษฐ์ทอง
๏ ไม่ว่าชาวนาแลชาวไร่ ทั้งผู้ดีไพร่หมดทั้งผอง
ท่านทรงเมตตาข้าทูลลออง ให้ไปสนองใต้ฝ่ายุคล
๏ ถึงวันที่หนึ่งแลที่สิบห้า พวกชาวประชาทุกแห่งหน
ไม่ว่าคนมีแลคนจน ทั่วทุกตำบลพากันมา
๏ ทั้งเมืองเหนือแลเมืองใต้ บ้างขึ้นรถไฟคลาศคลา
เสียเงินเท่าไรก็ไม่ว่า ขอให้ได้มาถวายบังคม
๏ ทั้งหนุ่มแก่แม่หม้ายสาว นุ่งห่มขาวไม่หวีผม
ด้วยดวงจิตต์คิดเกรียมกรม เสียดายพระร่มโพธิ์ทอง
๏ ถึงที่พระโกษฐ์พระจอมไกร เสียงแต่ร้องไห้กันกึกก้อง
ให้คิดอาไลยใต้ฝ่าลออง บ้างก็ร่ำร้องแล้วรำพรรณ์
๏ ว่าโอ้โอ๋พระจอมโมลี มาละข้านี้ไปสวรรค์
เคยปกเกล้าชาวเขตคัน เกษมสันต์แสนสำราญ
๏ ทรงชุบเลี้ยงโดยเที่ยงธรรม์ ดังพระสุริยันต์ส่องแสงฉาน
น่าแค้นขัดมัจจุมาร ช่างมาล้างผลาญพระร่มโพธิ์ทอง
๏ ถ้าแม้นพระกาลมีกายปรากฎ จะแทนทดพระคุณสนอง
จะอาสาใต้ฝ่าลออง คิดต่อยุทธป้องกันพระองค์
๏ นี่ไม่เห็นตัวมัจจุราช จึงหมดอำนาจจะรณรงค์
เสียดายนักพระจักรพงศ์ พระไม่คงพระชนมา
๏ บ้างจุดธูปเทียนจำเนียรน้อม ทั้งดอกไม้หอมนานา
ถวายกุศลผลศีลา ให้สู่มหาพระนิพพาน
๏ จะกล่าวเรื่องให้เนื่องกันไป ให้แจ้งใจตามโวหาร
ที่กระทรวงนครบาล ท่านแจกข้าวสารแก่ชาวประชา
๏ ราษฎรออกซ้อนซับ ไปคอยรับซึ่งธัญญา
คนละทนานให้ทานทั่วหน้า ให้ซื้อผักปลาอิกสองสตางค์
๏ ที่บางคนโลภล้นเหลือ คิดแผ่เผื่อให้กว้างขวาง
เตรียมกระสอบลอบไปวาง แอบไว้ที่ข้างนอกกำแพง
๏ พอรับได้แล้วใส่ที่ ความยินดีเดิรยิ้มแฉ่ง
เต็มที่ใส่ได้พอแรง แล้วจัดแจงขายเสียที
๏ จะกล่าวเนื่องถึงเรื่องประกาศ ของไทธิราชเจ้ากรุงศรี
ให้ชาวประชาในธานี ตั้งภักดีบำเพ็ญทาน
๏ อาราธนาพระสวดมนต์ เพื่อกุศลเปนแก่นสาร
วันที่สิบห้าวัดวาบ้าน ทั่วทุกสถานพร้อมเพรียงกัน
๏ วันที่สิบหกรุ่งขึ้นเช้า ทั้งหวานคาวเร่งจัดสรรค์
พร้อมมูลดีกับปีย์จังหัน แล้วผายผันไปวัดวา
๏ บรรดาของฉันนั้นมีอุดม แกงต้มส้มไข่มากนักหนา
ทั้งเณรทั้งพระปะปนกันมา อนุโมทนาในผลทาน
๏ แต่ตัวรูปมัธยัต รับอาหารภัตร์แต่พอประมาณ
ไม่ละโมภโลภเกินการ ยังได้รับทานสามปิ่นโต
๏ มีไข่เป็ดเจ็ดแปดใบ มีแกงมีไก่อิกสามโถ
ใส่คละปะปนจนล้นโอ ขอให้ภิญโญทั่วทุกคน
๏ ขอหยุดเบื้องเรื่องกินไว้ ขืนว่าไปไม่เปนผล
จะกล่าวข้อต่อยุบล โดยนิพนธ์อิกต่อไป
๏ ที่กระทรวงเกษตรา มีศรัทธาจิตต์เลื่อมใส
บำเพ็ญทานการสมัย โปรดคนเข็ญใจแลคนจน
๏ เพื่อไว้ทุกข์กันทั่วหน้า ตามบรรดาคนขัดสน
แต่ชาวนานั้นชอบกล ท่อนล่างบนไม่เหมือนกัน
๏ หล่อนไว้ทุกข์นั้นอย่างไร เมื่อคิดไปก็น่าขัน
นุ่งผ้าดำขำไม่บัน แต่หล่อนสรรค์ห่มสีดอกแดง
๏ ครั้นถึงวันที่สิบเจ็ด รูปไม่เอาเท็จมาแถลง
จะกล่าวกระทู้ให้รู้แจ้ง เรื่องรับแย่งซึ่งผ้าดำ
๏ ไม่ว่าเด็กแลผู้ใหญ่ พากันไปออกคลาคล่ำ
ทั้งมอญไทยแลไหหลำ ดูมืดดำวิถีทาง
๏ ที่เปนเจ๊กนั้นขันนักหนา เอาขาวม้าขึ้นปิดหาง
ปลอมเปนไทยเข้าไปบ้าง ยืนเอียงข้างซ่อนผมเปีย
๏ แม่สาวสาวที่เข้าไปรับ เพราะขัดสนทรัพย์จะซื้อจะเสีย
ต้องเบียดดันกันละเหี่ย จนอ่อนจนเพลียกันไปก็มี
๏ ที่ประตูดูคนยัดเยียด ต้องเบียดเสียดกันเสียอึงมี่
ชายหญิงเด็กแก่ล้วนแต่ยินดี รับทานโดยที่ท่านเมตตา
๏ ฝ่ายท่านเจ้าพนักงาร ก็แจกผ้าเปนทานไปแทบทั่วหน้า
จำนวนคนผู้ดูเหลือคณนา ได้รับแจกผ้าแล้วพากันไป นั้นแหล่ ฯ

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ