- อธิบาย
- กลอนสุภาพ ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ์
- โคลงและฉันท์ ของ “เอกชน”
- โคลงของนายชิณ รายะเลข
- ฉันท์ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ
- ลิลิตคำหลวง ของกรมพระนราธิปประพันธพงศ
- อปฺปมตฺตาโหนฺตุ
- โคลงกระทู้ ได้รางวัลในการประกวดสำนวน
- บทดอกสร้อย ได้รางวัลในการประกวดสำนวน
- กลอนสุภาพ ของขุนสารัตถ์ธุรธำรง
- กลอนกาพย์ ของ “เอกชน” กล่าวเรื่องสวรรคต
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องสวรรคต
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องถวายบังคมพระบรมศพ
- ฉันท์ “ของเอกชน”
- แหล่เทศน์มหาพน กล่าวเรื่องงารพระบรมศพและงารพระเมรุ
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์ไทย
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์
- ฉันท์บูชาพระคุณ ของคณะหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ (๒)
กลอนสุภาพ ของขุนสารัตถ์ธุรธำรง
๏ แสนระกำคร่ำครวญรัญจวนจิตต์ | |
ดังเศียรขาดกลาดกลางในทางทิศ | เจ้าชีวิตสวรรคตสลดใจ |
นิจจาเอ๋ยเคยรู้จักทรงทักถาม | สำเนียงนามข้าผู้ประตูใหม่ |
เคยถวายสาราพญาไท | ทรงปราไสแย้มสรวลยวนกมล |
ตัวเจ้าหรือขุนสารัตถ์ผู้จัดสาร | ศิโรกรานทูลฉลองถึงสองหน |
ไม่สู้คล่องว่องไวไขยุบล | พระจอมพลดำรัสตอบว่าขอบใจ |
เสียแรงรื้อของบุราณนานอโข | เอามาโชชวนให้อ่านสารสมัย |
รักษาชาติด้วยความเพียรจำเนียรใน | ประตูใหม่หมั่นสงวนสำนวนนาม |
โอ้พระจอมจุลดิลกเคยปกเกศ | เฉลิมเขตไทยถิ่นดินสยาม |
กระเดื่องหล้าธาตรีทั้งชีพราหมณ์ | นครคามเขตกว้างไม่สร่างครวญ |
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับรับว่าโศก | ตลอดโลกแสนเสียดายไม่วายหวน |
ต่างประเทศธานีทวีครวญ | พระมาด่วนรีบรัดตัดอาวรณ์ |
ระคินขุ่นฝ่ายุคลหรือกลไหน | ขาดอาลัยสิ่งประสงค์ทรงนุสร |
พระจอมจักรหลักหล้าสุธาธร | แสนอาวรณ์เช้าเย็นไม่เว้นวาย |
ทรงเฉลียวเชี่ยวชำนาญชาญกระแส | พระรู้แพ้รู้ชนะทรงกะหมาย |
รู้กำลังพวกพหลพลนิกาย | รู้อุบายรอบรู้กู้ไผท |
รู้ผ่อนสั้นผ่อนยาวเมื่อคราวขัน | ทุกสิ่งสรรค์รอบรู้ชูสมัย |
ถึงคราวอ่อนพระก็อ่อนหย่อนพระทัย | รู้ทางไล่ทางหนีทรงปรีชา |
นอกก็ไปในก็ป้องครองประโยชน์ | รักษาโสดสยามไว้จนใหญ่กล้า |
บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นอุ่นอุรา | ยิ่งบิดามารดรนิกรชน |
แผ่อำนาจกฤษฎาปัญญาวุธ | สติยุดมิได้วางในกลางหน |
เชื่อมไมตรีเปนกำแพงแผลงผจญ | ทรงอดทนหน่วงหนักเปนหลักชัย |
ทั่วแผ่นดินถิ่นประเทศในเขตเปลี่ยว | เสด็จเดี่ยวแดนราชขลาดไฉน |
ใครก็รู้ว่าศัตรูของกรุงไกร | พระก็ไม่เกรงหมู่ศัตรูตรง |
มหิศร์หาญชาญชัยใครจะเทียบ | พระเชาว์เฉียบยิ่งคิดพิศวง |
แม้จะเปลืองชีวารักษาธง | ไม่ลดลงจากเสาของเราไท |
สู้ลำบากยากเย็นเห็นประจักษ์ | จึงเปนหลักสืบมาจะหาไหน |
ทุกสถานบ้านเมืองเรืองอุไร | นี่หรือใครจะไม่รักพระจักรี |
ประจักษ์แจ้งว่าไทมิใช่ทาส | ครองอำนาจเฟื่องฟุ้งในกรุงศรี |
รักษาไทให้เปนไทด้วยไมตรี | ยิ่งหมื่นปีสืบชาติบาทยุคล |
ความเจริญเดิรเสมอไม่เผลอพลั้ง | หน้ากับหลังควรมองคลองถนน |
ทั้งบ้านเมืองเรืองเจริญเพลินกมล | ประชาชนคับคั่งพรั่งทบวง |
พลทหารชาญสงครามไม่ขามศึก | ก็ครื้นครึกทั่วทั้งพระวังหลวง |
เสนาบดีมีจบครบกระทรวง | คอยทักท้วงตรวจตราบัญชาการ |
ทั่วมณฑลเหนือใต้ไทประเทศ | ขจรเดชลือชามหาศาล |
เล็กก็จริงยิ่งกว่าเพ็ชร์เผด็จพาล | เห็นฝั่งธารอยู่ไรไรแล้วไทเรา |
พเอิญจวบเคราะห์กาจมาคลาดแคล้ว | ประทีปแก้วสู่สวรรค์เมื่อวันเสาร์ |
ยี่สิบสองตุลาคมนิยมเค้า | ศกร้อยยี่สิบเก้าให้อาดูร |
เห็นแต่ยอดปิยบุตรมงกุฏกษัตร | เถลิงรัชย์ฉัตรชัยมไหศูรย์ |
จะดับโศกทรวงข้าที่อาดูร | เหมือนพระทูลกระหม่อมแก้วที่แล้วมา |
ขอพระองค์ทรงดำเนิรราชกิจ | ดังทรงฤทธิอิศเรศเกศนาถา |
ให้ชุ่มชื้นชื่นกมลชนประชา | ดำรงฟ้าดำรงดินเพิ่มภิญโญ |
ทั้งนอกในภัยพิบัติอย่าขัดข้อง | ลอออ่องยศศักดิ์ยิ่งอักโข |
พระเกียรติก้องทั่วทิศมหิศโร | ทรงเดโชดุจองค์นารายณ์ เอย ฯ |
----------------------------