๒
เหตุการณ์และความรู้สึกต่าง ๆ ในวันแรก ที่บันดาลให้คน ๆ หนึ่งเข้ามาแนบอยู่ในชีวิตของเรานั้น ย่อมประทับอยู่ในความทรงจำของเราอย่างไม่มีวันลืม. เครื่องแต่งกายชุดสีน้ำเงิน มีดวงดอกขาวเล็ก ๆ หมวกสีขาว และรองเท้าสีขาว เป็นเครื่องแต่งกายของสุภาพสตรีชุดแรกที่เข้ามาฝังอยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า เป็นชุดที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่า มีสง่าและภาคภูมิอย่างยิ่ง หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นคนร่างอวบ แต่ว่าไม่ใช่คนใหญ่โต. สมบูรณ์และเปล่งปลั่ง ผิวอ่อน ดวงหน้านั้นเมื่อได้สังเกตเห็นโดยใกล้ชิดและบ่อยครั้ง ก็ยิ่งประจักษ์ในความสวยงามเด่นชัดทวีขึ้น. ดวงตาดำใหญ่ภายใต้ขนคิ้วยาว มีน้ำสุกใสหล่ออยู่ในดวงตานั้น. แก้มปลั่ง คางเล็กเชิดนิดหน่อยจนมีรอยบุ๋มอันน่าพิศวาสเหนือลูกคางนั้น. ริมฝีปากเรียวยาวและเต็ม ประทับด้วยรูปสามเหลี่ยมสีแดงสองรูปเบื้องบนและอีกรูปหนึ่งที่เบื้องล่าง ทำให้ริมฝีปากคู่นั้นมีความงามเหนือสิ่งใด ๆ หมด. ข้าพเจ้าต้องยอมสารภาพว่า ไม่เคยเห็นริมฝีปากงามคู่ใดที่จะได้เคยตั้งอยู่บนคางเล็ก ๆ นั้น และยังตบแต่งได้งามถึงปานนั้นด้วย.
ข้าพเจ้าทราบดีว่า เจ้าคุณอธิการบดีเป็นคนดีมาก และข้าพเจ้าเองก็มีความเคารพท่านเป็นอย่างยิ่ง แต่กระนั้นก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้ว่า ด้วยเหตุอะไรในโลกนี้หนอ ที่สนับสนุนให้ความสวยงามถึงปานนี้ได้วิวาห์กับวัยชรา ๕๐ ปี. ข้าพเจ้ามีความฉงนใจอย่างเด็กหนุ่ม ซึ่งอยากจะรู้อยากจะเข้าใจความเป็นไปต่าง ๆ ความฉงนใจของข้าพเจ้าไม่ได้เป็นไปอย่างจริงจังนัก และไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกส่วนตัวในผู้หนึ่งผู้ใดเลย. ข้าพเจ้าสังเกตว่า หม่อมราชวงศ์กีรติก็ดูมีความพออกพอใจ และมีความเบิกบานในชีวิตแต่งงานใหม่ ๆ ของเธอดีอยู่. นี่เป็นข้อที่เพิ่มความฉงนสนเท่ห์ใจของข้าพเจ้ายิ่งขึ้น. ข้าพเจ้าแน่ใจว่า หม่อมราชวงศ์กีรติมิใช่หญิงม่ายอยู่ก่อน เพราะความเปล่งปลั่งนั้นแลดูสดใสและใหม่เอี่ยมทุกประการ.
หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นคนสงบเงียบ สมตามคำที่ท่านเจ้าคุณได้บอกล่วงหน้า. ในระหว่างทางจากสถานีโตเกียวมาบ้านซึ่งรถวิ่งกินเวลาราว ๒๐ นาที เธอได้ปราศรัยกับข้าพเจ้าสองสามประโยค. เมื่อมาถึงบ้านข้าพเจ้าทราบได้ว่า เธอมีความชื่นชมในบ้านที่ข้าพเจ้าจัดเตรียมไว้รับรองนั้น ยิ่งกว่าที่ท่านเจ้าคุณเองจะรู้สึกได้เสียอีก. เธอตื่นเต้น ไม่ต้องสงสัย แต่เธอสามารถบังคับความตื่นเต้นไว้ได้. เธอเดินตรวจห้องและชมเครื่องตบแต่งต่าง ๆ ด้วยกิริยาการแช่มช้า ปราศจากอาการลุกลนตื่นเต้น. ในบางครั้งเธออุทานคำชมเชยด้วยเสียงซึ่งแสดงความยินดีอย่างลึกซึ้ง เธอไม่ได้พูดมากและบ่อยนัก แต่ข้าพเจ้าอ่านความชื่นชมยินดีของเธอได้จากดวงตา. ข้าพเจ้ารู้สึกในบัดนั้นว่า เธอไม่เหมือนกับสตรีโดยมากที่ข้าพเจ้าได้เคยพบมา.
ในระหว่างรับประทานอาหาร หม่อมราชวงศ์กีรติได้ไต่ถามข้าพเจ้าถึงเรื่องการศึกษา และความเป็นอยู่พอสมควร. ข้าพเจ้าแปลกใจที่เธอไม่ได้ซักถามถึงความสนุก และสิ่งที่น่าตื่นเต้นของนครโตเกียว ซึ่งเป็นธรรมดาของคนที่แรกมาถึงมักจะซักถาม. แต่เธอฟังท่านเจ้าคุณและข้าพเจ้าสนทนากันถึงเรื่องต่าง ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอดูเป็นผู้ใหญ่ จนข้าพเจ้ามีความยำเกรง แต่ความสาวและความสวยพริ้งของเธอ ก็ยังเป็นเครื่องฉงนสนเท่ห์ใจของข้าพเจ้าอยู่.
ในขณะที่เจ้าคุณอธิการบดีกับภรรยาของท่านมาถึงนครโตเกียวนั้น บังเอิญเป็นฤดูร้อน และมหาวิทยาลัยก็กำลังปิดเทอมใหม่ ๆ ข้าพเจ้าก็มีเวลาฟรีเต็มที่ เป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าจะสละเวลาให้แก่ท่านเจ้าคุณได้ตามแต่ท่านจะต้องการ. ท่านเจ้าคุณเองในชั้นแรกก็ไม่สู้พอใจ ที่ได้มาพบความร้อนอย่างเดือนเมษายนในกรุงเทพฯ ที่โตเกียว. อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการตัดสินใจของท่านเอง มิใช่โดยคำแนะนำของข้าพเจ้า. แต่เมื่อได้ทราบว่า การมาถึงโตเกียวในฤดูร้อนนั้นได้แลกกับโอกาสดีอย่างหนึ่ง คือการหยุดเทอมของข้าพเจ้า ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มากแก่ท่านในทางอื่น ท่านก็มีความพอใจ.
ในสัปดาห์แรก ข้าพเจ้าได้ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับท่านทั้งสองแทบตลอดทั้งวัน มี ๒-๓ ครั้งเท่านั้นที่ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นร่วมกับท่านทั้งสอง. ในตอนแรก ๆ ที่มาถึง ท่านเจ้าคุณต้องไปพบปะมิตรบางคนของท่าน ทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทย มีท่านอัครราชทูตเป็นต้น และนอกจากนั้นท่านอยากจะดูความเป็นไปของบ้านเมืองและสถานที่ต่าง ๆ ตามธรรมดาของคนที่แรกมาถึงต่างประเทศ. ข้าพเจ้าต้องประจำทำหน้าที่เป็นผู้นำทางของท่าน เพราะว่าถ้าปราศจากผู้นำทางที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้แล้ว การไปไหนมาไหนของท่านจะได้รับความลำบากมาก. ในระหว่างสัปดาห์แรกนั้น ท่านได้ไปในงานเลี้ยงต้อนรับท่านหลายครั้ง ทั้งโดยเพื่อนญี่ปุ่นและเพื่อนไทย. ในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง ๆ มีคนไปชุมนุมไม่น้อย. ข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสไปในงานนั้นด้วยทุกครั้ง.
ฉะนั้น เพียงชั่วสัปดาห์เดียว คนไทยในญี่ปุ่นก็ได้มีโอกาสพบปะท่านทั้งสองแทบทั่วกัน. ข้าพเจ้าได้ทราบว่า มีผู้ยินดีมากที่ได้รู้จักกับเจ้าคุณอธิการบดี แต่ข้าพเจ้ายังได้ทราบว่า หม่อมราชวงศ์กีรติได้รับความยินดีจากคนทั้งหลายมากกว่าที่สามีของเธอได้รับหลายเท่า ทั้งที่เธอเองเกือบจะไม่รู้จักใครที่นั่นมาแต่ก่อนเลย. หม่อมราชวงศ์กีรติได้บอกข้าพเจ้าในภายหลังว่า ในกรุงเทพฯ เธอรู้จักคุ้นเคยกับใครบ้าง แทบจะนับได้ถ้วนโดยมิต้องนึกนาน.
การณ์เป็นดังนี้ มิใช่ว่าเจ้าคุณดีไม่ทัดเทียมภรรยาของท่าน ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่า ท่านเจ้าคุณเป็นคนดีมาก แต่หม่อมราชวงศ์กีรติมีเสน่ห์เหลือเกิน. นี่แหละที่ทำให้ความยินดีที่ท่านทั้งสองได้รับจากคนทั้งหลายแตกต่างกัน. พวกผู้ชายมีความเบิกบานใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นสุภาพสตรีไทยที่ทรงโฉมประโลมตาอย่างหม่อมราชวงศ์กีรติ จากประเทศสยามมาเยือนนครโตเกียว ทำให้เขาทั้งหลายมีความภาคภูมิใจ ในเมื่อได้ประสบว่า ชนชาวญี่ปุ่นได้มองดูสตรีไทยของเราด้วยสายตาแสดงความนิยมชมชื่น ในความสวยงามที่อาจลึกซึ้งเกินกว่าความคาดหมายของเขา. พวกสุภาพสตรีไทยที่นั่นก็มีความตื่นเต้นสนใจในรูปโฉมของหม่อมราชวงศ์กีรติไม่น้อย แต่เป็นธรรมดาที่จะไม่พูดจาเกรียวกราวกันมากไป. ท่านสุภาพสตรีเหล่านั้น และรวมทั้งผู้ชายบางคนด้วย ได้พากันมาซักถามข้าพเจ้าถึงประวัติและความเป็นไปของหม่อมราชวงศ์กีรติ ก่อนที่จะแต่งงานกับเจ้าคุณอธิการบดี. ในเวลานั้นข้าพเจ้าก็ยังตอบอะไรไม่ได้ คนเหล่านั้นมีความประหลาดใจตรงกันอยู่ข้อหนึ่งว่า ด้วยเหตุผลกลใดหนอ ที่เธอได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการแต่งงานกับเจ้าคุณสามีของเธอ. เป็นที่คาดหมายกันว่า หม่อมราชวงศ์กีรติมีอายุไม่เกิน ๒๘ ปี และการที่หญิงงามทรงเสน่ห์มีอายุเท่านั้น แต่งงานกับท่านสุภาพบุรุษที่มีอายุตั้ง ๕๐ ปี แม้ว่าจะเป็นคนใจดีและภาคภูมิตามทำนองของคนแก่ก็ตาม คนทั้งหลายก็ไม่อาจจะปลดเปลื้องความประหลาดใจออกเสียได้.
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเองย่อมจะมีความภาคภูมิใจมากเป็นพิเศษ ในฐานที่ได้รับเกียรติยศเป็นเสมือนองครักษ์ของหม่อมราชวงศ์กีรติ. ตามความรู้สึกของข้าพเจ้า ดูเหมือนว่าหม่อมราชวงศ์กีรติเองก็น่าจะได้ทราบว่า คนทั้งหลายมีความพอใจเธออย่างไร. เธอแสดงกิริยาสงบเสงี่ยมอ่อนโยนอยู่เนืองนิตย์ก็จริง แต่ใคร ๆ ก็อาจที่จะแลเห็นความหรรษาของเธอดารดาษอยู่บนผิวหน้าสีชมพูอ่อนนั้นได้.
โดยที่ได้ใช้เวลาอยู่กับท่านทั้งสองแทบตลอดทั้งวัน และแทบทุกวัน ความรู้สึกสนิทสนมระหว่างข้าพเจ้ากับหม่อมราชวงศ์กีรติ ก็ได้มีทวีอย่างค่อนข้างรวดเร็ว. ข้าพเจ้าเป็นคนติดคนง่าย และหม่อมราชวงศ์กีรตินั้น ใคร ๆ ก็จะต้องลงความเห็นว่าเป็นคนที่น่าติดเหลือเกิน. ในเมื่อได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกัน เธอมักจะแสดงความปรานีต่อข้าพเจ้าเนือง ๆ เป็นต้นว่าในเวลารับประทานอาหารก็มักจะคอยช่วยเหลือดูแลให้ความสะดวกแก่ข้าพเจ้า ราวกับข้าพเจ้าเป็นเด็ก ๆ. ครั้งหนึ่งเธอพบรอยปริที่เน็กไทของข้าพเจ้า เธอได้ขอให้ข้าพเจ้าถอดออกแล้วก็จัดแจงเย็บให้ด้วยตนเอง อีกครั้งหนึ่งเธอพบโคลนเปื้อนปลายแขนเสื้อของข้าพเจ้า เธอก็เรียกไปแปรงให้. ตามธรรมดาข้าพเจ้าไม่เคยเอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านี้ และไม่เคยสนใจในความพะเน้าพะนอช่วยเหลือในสิ่งเล็กน้อยเช่นนี้. อย่างไรก็ตาม การที่ออกมาอยู่ต่างประเทศเสียตั้ง ๓ ปี ไม่มีญาติพี่น้องคอยพะเน้าพะนอเอาใจ ต้องหมกมุ่นกับการเล่าเรียน ต้องอยู่กินอย่างประหยัดและมีชีวิตอย่างแห้งแล้ง นานแสนนาน ได้มาพบความปรานีเช่นนี้ และได้พบในยามเปล่าเปลี่ยวใจ ได้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในความปรานีนั้นมาก. ความซาบซึ้งนั้นเป็นไปอย่างข้าพเจ้าเองก็นึกประหลาด ข้าพเจ้าค้นหาเหตุผลไม่พบว่า ในระหว่างเวลาที่หม่อมราชวงศ์กีรตินั่งเย็บเน็กไทอยู่ และข้าพเจ้านั่งรออยู่ใกล้ ๆ อย่างเงียบ ๆ คอยตอบคำถามของเธอบางครั้ง เหตุใดข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่ามีความสุขเสียเหลือเกิน.