๒๓

รุ่งขึ้นเวลาเช้าเสด็จออกข้างหน้าพร้อมด้วยขุนนางทั้งปวง จึงรับสั่งว่าเมื่อครั้งแผ่นดินพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้นั้น ได้อักษรว่าฮองโตลกจือครั้งหนึ่งก็เป็นการอันดีแล้ว มาบัดนี้เราได้อักษรว่าโตลกจือ แปลความไม่เหมือนกัน และในโตลกนั้นเราพิจารณาดู มีชื่อพระอาทิตย์ พระจันทร์และชื่อดาว จำเราจะจัดขึ้นให้เป็นตำราไว้จะได้สั่งสอนกุลบุตรต่อไปภายหน้า จึงรับสั่งให้ขุนนางคนหนึ่งชื่อฮีฮัว เป็นเจ้าพนักงานตรวจดูพระอาทิตย์พระจันทร์ เดินตามราศีช้าและเร็ว และเมื่อแรกจะขึ้นมาและเมื่อเวลาจะตกลงให้รู้กำหนดเป็นทุ่มเป็นโมงและยาม แล้วรับสั่งให้ขุนนางผู้หนึ่งชื่อเชียงหงี เป็นเจ้าพนักงานตรวจดูพระจันทร์ที่จะเป็นข้างขึ้นข้างแรม ให้ขุนนางอีกคนหนึ่งชื่อเชียคูเป็นเจ้าพนักงานตรวจดูลมและพายุใหญ่จะเกิดมายังไร เวลาใดจะเกิดเวลาใดจะหยุด เวลาใดจะเกิดมากเวลาใดจะเกิดน้อย แล้วรับสั่งให้ขุนนางอีกคนหนึ่งชื่อไต้เยียวเป็นเจ้าพนักงานจัดปีและนักษัตรและศกเสียใหม่ ให้เปลี่ยนนักษัตรและศกไปทุกปี ให้ขุนนางอีกคนหนึ่งชื่อย่องเสงเป็นเจ้าพนักงานผูกดวงดูเวลาที่จะวางลักค์จะได้ไว้สำหรับพิจารณาดูผู้ที่เคราะห์ดีและเคราะห์ร้าย จะได้ดูน้ำและข้าวปลาอาหารผลไม้ว่าปีใดจะบริบูรณ์และไม่บริบูรณ์ พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ตรัสถามขุนนางคนหนึ่งชื่อคุยยุคูว่า ลักษณะฤกษ์บนและฤกษ์ล่างนั้นจะมีสักเท่าใด คุยยุคูทูลว่าลักษณะฤกษ์บนนั้นมีอยู่หกฤกษ์ ฤกษ์ล่างก็มีอยู่หกฤกษ์เท่ากัน ถ้าว่าฤกษ์บนกับฤกษ์ล่างมาสมทบรวมกันเข้าแล้วจึงได้เกิดเป็นละยิดคือตำราดูพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดูลักษณะสิ่งของต่าง ๆ ได้รู้แน่ว่าจะเป็นอย่างนั้น ๆ พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ได้ทรงฟังแล้ว รับสั่งแก่คุยยุคูว่าหนังสือที่เราได้มาแต่ปลาใหญ่นั้น เราแบ่งให้ขุนนางพนักงานดูและจัดทำคนละอย่าง ๆ ขุนนางเหล่านั้นไปจัดทำได้แล้ว ท่านจงเอามารวบรวมเข้าเป็นตำราอันเดียวกัน เรียกว่าละยิดคือปฏิทิน และทำตำราโตลกคือตำราโหราศาสตร์ สามปีให้มีอธิกมาสครั้งหนึ่ง ห้าปีมีอธิกมาสสองครั้ง สิบเก้าปีมีอธิกมาสเจ็ดครั้ง แล้วรับสั่งให้ตี้ซิ้วทำตำราคิดของต่าง ๆ ให้ทำเป็นมาตราไว้จะรู้ว่าของมากของน้อย ให้มีสัดมีทะนานตวงสิ่งของ แล้วรับสั่งให้เลงลุนไปหาไม้ไผ่ที่ตำบลเกยเคย มาทำขลุ่ยยาวสิบหกนิ้วมีช่องสิบสองช่อง ให้เล่าสุยหล่อระฆังใหญ่สิบสองระฆังเสียงดังต่าง ๆ อย่าให้เสียงเหมือนกัน สำหรับจะได้ตีเดือนละระฆัง ครั้นอยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้เสด็จออกที่ว่าราชการรับสั่งแก่ขุนนางทั้งปวงว่า บัดนี้เราคิดจะให้เสื้อและหมวกมีสีต่าง ๆ กันหกสี ๆ เหลืองนั้นเป็นอย่างสูงกว่าสีทั้งปวง ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด ขุนนางทูลว่าซึ่งพระองค์ทรงคิดนั้นชอบแล้ว พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้รับสั่งให้เจ้าพนักงานทำสีต่าง ๆ หกสี แล้วตรัสรับสั่งให้ช่างทำเก๋งพระที่นั่งสามเก๋งให้งามดีไว้เป็นเก๋งสามฤดู ถ้าฤดูฝนจะได้ประทับอยู่เก๋งหนึ่ง ถ้าฤดูร้อนจะได้ประทับอยู่เก๋งหนึ่ง ถ้าฤดูหนาวจะได้ประทับอยู่เก๋งหนึ่ง ขุนนางเจ้าพนักงานจัดทำเก๋งสามเก๋งนั้นเสร็จแล้วพระองค์ก็เสด็จไปประทับอยู่เก๋งทำใหม่ตามฤดู มีความสุขสบายพระทัย วันหนึ่งทรงพระดำริว่า ซึ่งแต่ก่อนเราฝันสองครั้งนั้นได้พิเคราะห์ทำนายดูก็ถูกต้องกันกับฝัน และซึ่งจะพิจารณาดูความฝันแล้วทำนายให้รู้ต่อไปนั้น จะคิดทำเป็นตำราทำนายฝันขึ้นไว้ให้คนทั้งหลายรู้จักทำนาย จะได้รู้ว่าฝันดีและร้าย ฝันเป็นมงคล ฝันเป็นอัปมงคล ครั้นทรงพระดำริแล้วก็รับสั่งให้พวกนักปราชญ์จัดทำเป็นตำราทำนายฝันแจกไปให้ราษฎรและพวกจูเฮ้าผู้รักษาเมืองทั้งปวงรู้ทั่วกัน แล้วรับสั่งให้หาไม้อย่างแข็งทำเกวียนเทียมด้วยโคกระบือสำหรับไว้ใช้สอยและให้ราษฎรบรรทุกสิ่งของไปทางไกลได้ อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้รับสั่งแก่ฮวงโฮเหล๊กมอกว่า ตั้งแต่เราได้เป็นกษัตริย์สิ่งของซึ่งจะใช้สอยในแผ่นดินก็บริบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อน บัดนี้เราจะให้ราษฎรรู้ว่าสิ่งใดเป็นของดี สิ่งใดเป็นของชั่ว และของดีนั้นเราจะยกทองคำขึ้นเป็นที่หนึ่ง เงินเป็นที่สอง แต่ทองแดงทองเหลืองและเหล็กสังกะสีดีบุกของเหล่านี้ ให้ราษฎรทำเป็นรูปพรรณภาชนะสำหรับใช้การต่าง ๆ ท่านทั้งสองจะเห็นประการใด ฮวงโฮเหล๊กมอกทูลว่า ซึ่งพระองค์ทรงคิดให้ราษฎรทำได้ฉะนี้ ก็คงมีกิตติศัพท์สรรเสริญพระเดชพระคุณไปทั่วทิศานุทิศ ควรที่พระองค์จะได้รับสั่งให้ราษฎรทำขึ้นไว้ใช้แล้ว พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ได้ทรงฟังฮวงโฮเหล๊กมอกทูลก็ทรงพระโสมนัส จึงตรัสสั่งให้ราษฎรขุดหาแร่ทองแดงทองเหลืองและแร่เหล็กสังกะสีดีบุกมาถลุงหลอมเป็นเนื้อแล้ว ก็ให้ตีแผ่และหล่อเป็นภาชนะต่างๆ ไว้สำหรับใช้ในแผ่นดิน ตั้งแต่นั้นมาราษฎรก็รู้จักทำภาชนะเครื่องใช้สอยต่าง ๆ คนทั้งหลายคิดกระทำดีขึ้นทุกชั้น ๆ จึงได้มีต่อ ๆ มาจนทุกวันนี้ แล้วรับสั่งว่า เมื่อครั้งแผ่นดินพระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้นั้น ท่านได้ทดลองสรรพคุณยา จัดไว้ให้เป็นทานสำหรับแก้โรค แต่หมอนั้นยังหารู้ว่าโรคจะหนักจะเบาเป็นประการใดไม่ ราษฎรก็พากันกินยาผิดๆ ถูกๆ เกินกับโรคบ้างไม่ถึงกับโรคบ้างตายเสียเป็นอันมาก บัดนี้เราพิเคราะห์ดูก็ปรากฏขึ้นในกายตัวของเรารู้ว่าโรคจะบังเกิดขึ้นอย่างไร อาการโรคนั้นอย่างไร ก็ย่อมรู้แจ้งอยู่ในใจแล้ว เราจะทำเป็นตำราให้แพทย์หมอมาร่ำเรียนไว้ รับสั่งดังนั้นจึงจัดสร้างเป็นตำราขึ้น ให้กีเปกลุ่ยกงบุ้ยแพท่องกุนซึ่งเป็นแพทย์หมอผู้ใหญ่เข้ามาสอน และจับแมะดูก็รู้ว่าโรคของคนทั้งปวงเป็นอย่างนั้น ๆ ถ้ารู้จักไข้เจ็บแน่แล้วก็ให้จัดสรรพคุณยาสิ่งนั้นแก้โรคอย่างนั้น ครั้นแพทย์หมอรู้ชำนาญในตำราแล้ว ก็จัดหายาให้ราษฎรที่เป็นโรคนั้นกินแก้โรคหายเป็นอันมาก คนที่ป่วยเจ็บนั้นก็หาได้กินยาผิดเหมือนอย่างแต่ก่อนไม่ ข้าราชการและราษฎรมีความยินดี สรรเสริญพระเดชพระคุณพระบารมีพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ทั่วไปทุกแห่งทุกตำบล ตำราแมะคือจับชีพจรดูโรคและประกอบยารักษาโรคก็มีมาตั้งแต่ครั้งนั้น

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ