๔๖

ฝ่ายไต้ซุ่นอ๋องนั้นครั้นทำการฝังพระศพพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้เสร็จแล้ว จึงคิดว่าถ้าเราจะนิ่งรับเป็นกษัตริย์ต่อไปดังนี้ ไถจู๊ตันจูพระราชบุตรก็ยังมีอยู่ นานไปข้างหน้าคนที่ไม่มีปัญญาไม่รู้ความก็จะติเตียนว่าเราเป็นคนคิดกบฏชิงเอาราชสมบัติ การยังเป็นอยู่เช่นนี้หาดีเรียบร้อยเป็นปกติไม่ ต่อเมื่อใดพวกจูเฮ้าและขุนนางทั้งปวงไปเชื้อเชิญพร้อมกันเป็นการใหญ่แล้ว เราจึงจะครองราชสมบัติต่อไป คิดแล้วไต้ซุ่นอ๋องก็พาบุตรภรรยาเดิมนั้นหนีไปอยู่ที่เมืองฮ่อนำ บรรดาขุนนางซึ่งเป็นพวกพ้องและบ่าวไพร่ของไถจู๊ตันจูนั้นมีความยินดี พากันไปว่าไถจู๊ตันจูว่าไต้ซุ่นอ๋องพาบุตรภรรยาหนีไปแล้ว ขอเชิญท่านเป็นกษัตริย์เถิด ไถจู๊ตันจูจึงว่าท่านจะให้เราเป็นกษัตริย์นั้น พวกขุนนางเขาจะไม่ยินยอมพร้อมใจกัน คนทั้งนั้นจึงว่าพวกเราก็มีอยู่หลายหมื่น ถ้าท่านจะครองราชสมบัติแล้ว ก็เห็นว่าจะไม่มีผู้ใดขัดขวาง แล้วจึงให้หาพวกจูเฮ้าเจ้าเมืองที่เข้ามาช่วยในการพระศพและพวกขุนนางให้เข้ามากระทำสัตย์สาบานตัวให้พร้อมกัน ไถจู๊ตันจูได้ฟังดังนั้นเห็นชอบด้วยจึงขึ้นครองราชสมบัติ แล้วพวกไถจู๊ตันจูนั้นก็ไปบอกพวกขุนนางและพวกจูเฮ้าเจ้าเมืองให้เข้ามาเฝ้า พวกขุนนางและพวกจูเฮ้าเจ้าเมืองแจ้งความว่าไต้ซุ่นอ๋องพาบุตรภรรยาหนีไป ไถจู๊ตันจูครองราชสมบัติอยู่ก็ไม่เข้ามาเฝ้า แล้วพากันไปที่บ้านซีงักขุนนางผู้ใหญ่ ปรึกษากันว่าพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ทรงเห็นว่าไต้ซุ่นอ๋องเป็นคนดีมีสติปัญญาอาจรักษาแผ่นดินได้ จึงทรงยินดียกพระราชบุตรีกับทั้งราชสมบัติให้แก่ไต้ซุ่นอ่อง บัดนี้ไต้ซุ่นอ๋องหนีไปด้วยเหตุอันใดก็ไม่แจ้ง ไถจู๊ตันจูขึ้นครองราชสมบัติ พวกเราจะคิดอย่างไร จะยอมให้ไถจู๊ตันจูเป็นเจ้าแผ่นดินหรือ ๆ จะไปติดตามไต้ซุ่นอ๋องมาเป็นเจ้าแผ่นดิน ซีงักจึงว่าไต้ซุ่นอ๋องหนีไปด้วยเหตุประการใดเราก็ไม่รู้ เราจะต้องถือหนังสือคำรับสั่งพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮองเต้ไว้ให้แข็งแรงมั่นคงถึงจะนับว่าเป็นคนมีกตัญญู ซีงักจึงมีหนังสือประกาศให้ราษฎรช่วยสืบเสาะหาไต้ซุ่นอ๋อง ส่วนซีงักนั้นจะไปตามดูไต้ซุ่นอ๋องที่เขาเล็กซัวซึ่งเป็นที่สำนักไต้ซุ่นอ๋องอยู่แต่ก่อนนั้น ครั้นปรึกษากันดังนั้นแล้ว ซีงักก็เขียนหนังสือให้ไปปิดไว้ตามทางว่า ไต้ซุ่นอ๋องกับบุตรภรรยาหายไป ถ้าผู้ใดรู้ว่าไต้ซุ่นอ๋องไปอยู่แห่งใดมาบอกให้รู้แล้วจะให้เงินเป็นรางวัล

ฝ่ายชายผู้หนึ่งเป็นคนรู้จักไต้ซุ่นอ๋อง เห็นไต้ซุ่นอ๋องพาบุตรภรรยาไปในเวลากลางคืน ก็มีความสงสัยตามไปดู เห็นไต้ซุ่นอ๋องกับภรรยาเข้าสำนักอยู่ในศาลเจ้าแขวงเมืองฮ่อนำ ครั้นเห็นหนังสือประกาศซึ่งซีงักให้ไปปิดไว้ แจ้งความในหนังสือนั้นแล้วก็ไปบอกซีงัก ๆ มีความยินดีให้คนใช้ห้าคนไปดูไต้ซุ่นอ๋องด้วยชายผู้นั้น แล้วสั่งว่าถ้าไปพบไต้ซุ่นอ๋องอยู่แห่งใด ก็อย่าให้พูดจาให้ไต้ซุ่นอ๋องรู้ตัว ให้อยู่เฝ้าไต้ซุ่นอ๋องสี่คน แล้วคนหนึ่งรีบกลับมาบอกแก่เราโดยเร็ว คนใช้กับชายคนนั้นได้ฟังซีงักสั่งดังนั้นแล้วก็พากันไป เห็นไต้ซุ่นอ๋องอาศัยอยู่ในศาลเจ้าแขวงเมืองฮ่อนำ ก็อยู่เฝ้าไต้ซุ่นอ๋องนั้นสี่คน คนหนึ่งรีบกลับมาแจ้งความแก่ซีงัก ๆ ทราบความแล้วก็ดีใจ พวกขุนนางและพวกจูเฮ้าไปจัดรถทรงของพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ แล้วพากันไปถึงที่ไต้ซุ่นอ๋องอยู่แล้วก็พากันเข้าไปคำนับไต้ซุ่นอ๋อง ๆ เห็นพวกขุนนางและพวกจูเฮ้าพากันเข้ามาคำนับเป็นอันมาก จึงถามว่าเหตุใดท่านจึงได้พากันออกมาเป็นอันมากดังนี้ ซีงักกับพวกขุนนางและพวกจูเฮ้าพร้อมกันทูลว่า ขอเชิญพระองค์เข้าไปเป็นกษัตริย์รักษาแผ่นดินเถิด ไต้ซุ่นอ๋องจึงตอบว่า ราชสมบัติของพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้นั้น ควรจะยกให้แก่ไถจู๊ตันจูพระราชโอรสสืบพระวงศ์ต่อไป เหตุใดท่านจะมายกราชสมบัตินั้นให้แก่เราหาชอบไม่ บรรดาขุนนางและพวกจูเฮ้าทั้งปวงจึงทูลว่า ถ้าไถจู๊ตันจูเป็นแผ่นดินได้แล้วก็ไม่ต้องร้อนถึงพระองค์ ซึ่งพระองค์จะไม่รับราชสมบัติตรัสดังนี้หาควรไม่ เพราะว่าความเดิมนั้นยังมีอยู่ ไต้ซุ่นอ๋องจึงถามว่าความนั้นมีอยู่ประการใด ซีงักและพวกขุนนางจึงทูลว่า เมื่อพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ใกล้จะสวรรคตนั้นท่านได้มอบราชสมบัติให้แก่พระองค์ ๆ ก็ได้รับเป็นกษัตริย์ครองราชสมบัติแล้ว ประการหนึ่งข้าพเจ้าทั้งนี้อยากจะให้พระองค์เป็นเจ้าแผ่นดิน จะได้พึ่งพระบารมีของพระองค์จึงจะได้มีความสุข ประการหนึ่งพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ยังมีพระชนม์อยู่นั้น ท่านก็ตรัสไว้ว่า ถ้าพระเจ้าแผ่นดินไม่เป็นยุติธรรมแล้ว ก็เหมือนหนึ่งโลกไม่มีพระอาทิตย์และพระจันทร์ ราษฎรนั้นก็จะได้ความเดือดร้อนเป็นอันมาก ถ้าพระองค์ไม่รับครองราชสมบัติแล้วจะมิเสียสัตย์กตัญญูไปหรือ ไต้ซุ่นอ๋องได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอยู่มิได้ว่ากล่าวประการใด ซีงักกับพวกขุนนางและจูเฮ้าทั้งปวงเกรงอัธยาศัยไต้ซุ่นอ๋อง ก็พากันคำนับลากลับมาบ้าน ครั้นถึงเวลาขึ้นเฝ้าแล้วซีงักกับพวกขุนนางก็มิได้พากันไปคำนับไถจู๊ตันจูพระราชบุตร พากันไปเฝ้าคำนับไต้ซุ่นอ๋อง แล้วก็กราบทูลรบเร้าจะให้ครองราชสมบัตินั้นอยู่เนือง ๆ ประมาณเจ็ดวันแปดวัน ไต้ซุ่นอ๋องได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่า พวกขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยและพวกจูเฮ้ายินยอมพร้อมใจกันโดยสุจริตแล้วจึงยอมรับราชสมบัติ แล้วขุนนางก็เชิญไต้ซุ่นอ๋องเสด็จขึ้นทรงรถ ไต้ซุ่นอ่องจึงว่าราชรถอันนี้เป็นรถสำหรับทรงของพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ ท่านจงได้จัดรถอื่นมาให้แก่เราเถิด ซีงักกับพวกขุนนางจึงพากันทูลว่า ข้าพเจ้าทั้งปวงยอมพร้อมใจกันเชิญพระองค์ครองราชสมบัติเป็นกษัตริย์แล้ว ขอเชิญพระองค์เสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งตามราชประเพณีกษัตริย์เถิด แล้วขุนนางเชิญบุตรภรรยาไต้ซุ่นอ๋องขึ้นรถ ๆ หนึ่ง แห่ห้อมล้อมไต้ซุ่นอ๋องกลับเข้ามาเมืองหลวง

ฝ่ายไถจู๊ตันจูแจ้งความว่าพวกขุนนางและพวกจูเฮ้าไปเชิญไต้ซุ่นอ๋องมาถึง คิดกลัวว่าจะมีความผิดก็ออกไปคอยต้อนรับอยู่นอกประตูเมือง ครั้นไต้ซุ่นอ๋องมาถึงแล้วไถจู๊ตันจูจึงทูลว่า ข้าพเจ้าเห็นว่าพระองค์หายไป ไม่ทราบว่าจะเป็นเหตุประการใด ข้าพเจ้าจึงได้รักษาราชสมบัติไว้แทนคอยท่าพระองค์ บัดนี้พระองค์ก็เสด็จมาแล้ว เชิญขึ้นครองราชสมบัติเป็นกษัตริย์ต่อไปเถิด ไต้ซุ่นอ๋องได้ฟังดังนั้นยิ้มแล้วก็มิได้ว่ากล่าวประการใด

ฝ่ายซีงักกับพวกขุนนางและพวกจูเฮ้าทั้งปวงเชิญไต้ซุ่นอ๋องเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ก็เชิญเข้าในพระราชวังขึ้นครองราชสมบัติ ทรงพระนามว่าพระเจ้าซุ่นเต้ฮ่องเต้ ๆ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงใหม่ให้เรียกว่าเมืองฮิวง่อ แล้วพระเจ้าซุ่นเต้ฮองเต้ก็รับสั่งให้หาเจ้าแปดองค์ ซึ่งเป็นพระราชโอรสพระเจ้าจวนยกตี่ฮ่องเต้ ที่ได้ไปปราบปรามพวกหลีทำนั้นมาเฝ้า พระราชทานเพิ่มเบี้ยหวัดเงินเดือนให้แก่เจ้าแปดองค์อีกเท่าหนึ่ง แล้วรับสั่งให้หาเจ้าแปดองค์ซึ่งได้ยกจี่เต้ออกจากราชสมบัติ แล้วยกพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ขึ้นเป็นกษัตริย์นั้นเข้าไปเฝ้า รับสั่งให้เจ้าพนักงานเพิ่มเบี้ยหวัดเงินเดือนให้เจ้าแปดองค์นี้อีกเท่าหนึ่ง แล้วพระเจ้าซุ่นเต้ฮ่องเต้ก็เลื่อนที่พวกขุนนางทั้งปวงนั้นเป็นลำดับขึ้นไปทุกคน พวกจูเฮ้าเห็นว่าฮ่องเต้ครองราชสมบัติบ้านเมืองเรียบร้อยเป็นปกติแล้ว ก็ถวายคำนับลากลับไปรักษาเมือง พระเจ้าซุ่นเต้ฮ่องเต้ทรงจัดแจงแต่งตั้งขุนนางเสร็จแล้วก็เสด็จเข้าข้างใน ครองราชสมบัติตั้งอยู่ในยุติธรรม ไพร่บ้านพลเมืองได้ความสุข

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ