ประณามคาถา

สมฺมา อภูตปุพฺพํ โย จตุสจฺจวรํ สยํ
พุชฺฌิตฺวา มุฬฺหโลกสฺส ตํ เทเสสิ, นมามิ ตํ.
โลเก โมหนฺธกาเร ยํ ปทีปํ ชลิตํ วิย
สมฺพุทฺโธ โมหนาสาย สุเทเสสิ, นมามิ ตํ.
โย ยาวชฺชตนา สงฺโฆ สฺวากฺขาตธมฺมธารโก
พุทฺธสฺส สาสนํ สมฺมา ปกาเสสิ, นมามิ ตํ.
มยฺหํ ปุพฺพูปการา เย ชนนีชนกา อุโภ
เมตฺตาการุฺจิตฺเตน โปสยึสุ, นมามิ เต.
มยฺหํ มโหปการา เย คุรโว จ ทยาลุกา
เมตฺตาจิตฺเตน สิสฺสสฺส วิชฺชา’ ทํสุ, นมามิ เต.

----------------------------

อมฺหากฺจ มหาราชา โย ปชาธิปกวฺหโย
ธมฺมิโก คุณสมฺปนฺโน จกฺกิวํส วรุตฺตโม
สฺยามรฏฺเ สฺยามิกานํ อตฺถาย จ หิตาย จ
รฏฺํ สมฺมาภิปาเลนฺโต ปชาย อนุกมฺปโก

คำกลอนนมัสการ

ปิโย จ รฏฺวาสีนํ พาหิรานมฺปิโย ตถา
วโรปตฺถมฺภโก เจว สาสนสฺส มเหสิโน
ธมฺมามิเสหิ สงฺมสฺส ปูเชสิ, ตนฺนมามิหํ.
สฺยามเทวาธิราช’าที เย เย เทวา มหิทฺธิกา
กาเม รูเป อรูเป จ วสึสุ, เต นมามิหํ.
เอวํ พุทฺธาทิปฺปณามา ชาตํ ปุฺมิทํ มม
รฺโ จ สฺยามรฏฺสฺส วุฑฒิภาวาย สิชฺฌตุ.
มหาภารตยุทฺธาติ- นามกา ยา มหากถา
ปากฏา พฺราหฺมณคฺคนฺเถ ชมฺพูทีปมโนรมา,
ตํ กิตฺติวุฑฺฒิภาวาย สฺยามินฺทสฺส จ ราชิโน
โสตากรณภาวาย สฺยามิกานฺจ สพฺพทา
สฺยามิเกน สิโลเกน ปวกฺขามิ ยถาพลนฺติ.

คำกลอนนมัสการ

ข้าขอน้อมเกล้าเคารพ หัตถ์จบบรรจงตรงเศียร
ถวายพระพุทธ์เลิศเทิดเธียร ปราบเสี้ยนศึกมารบรรลัย
ชี้คลองของจริงยิ่งธรรม เลิศล้ำก่อนกี้หามีไม่
ปลุกโลกเปลื้องหลงปลงใจ ดับไฟตัณหาสามานย์
ข้าขอนบธรรมอำพน แผ้วมนท์มืดแจ้งแสงฉาน
องค์พระสัมพุทธ์สุทธญาณ บรรหารหักเขลาเมามาย
ข้าขอนบคณะพระสงฆ์ ชินวงศ์ว่านเครือเชื้อสาย
สืบศาสน์สอนธรรมกำจาย แพร่หลายต่อมาช้านาน
ข้านบบิดามาดร ตั้งหน้าสาทรสงสาร
เลี้ยงดชูชุบอุปการ จิตต์มานเมตตาการุณย์
ข้าขอนบครูผู้กอบ กิจชอบช่วยเอื้อเกื้อหนุน
ประสิทธิ์วิชชาอ่าคุณ ค้ำจุนจิตต์ตั้งหวังดี
อนึ่งข้าบังคมบรมบาท สยามราชเรืองคุณวิบุลศรี
พระบาทพระปกเกล้าปิ่นเมาฬี แห่งจักรีราชวงศ์ทรงพระคุณ
พระเกียรติยงทรงธรรม์อันวิเศษ นำประเทศไทยเทิดประเสริฐสุนทร์
พระครองราษฎร์ร่มหล้าด้วยการุญ ทรงค้ำจุนพุทธศาสน์โอภาสพุทธิ์
เป็นที่รักทวยราษฎร์ทุกชาติชั้น สนิทฉันบิดาเมตตาบุตร
เปนนายกยกไทยมิให้ทรุด ประทานวุฑฒิมหาสถาพร
อนึ่งข่าขอนบอภิวาท พระสยามเทวราชมหิศร
พระเสื้อเมืองทรงเมืองเรืองขจร และอมรเมืองฟ้าทั่วธาตรี
เดชพุทธาทิประณามคุณหลามล้น จงสิทธิ์ผลพูนองค์พระทรงศรี
ผู้ปิ่นปักหลักสยามงามรูจี สุขทวีทั่วสิ้นแผ่นดินไทย
พระบารมีปกเกล้าเนาสวัสดิ์ พูนพิพัฒน์ผาสุกทุกสมัย
เวลาว่างกิจโล่งโปร่งฤทัย จึงตริไตรรจนา “ศึกภารต”
ไว้อ่านเล่นโลมโสตให้โชติช่วง เพื่อบำบวงบาทบงสุ์อลงกต
เทิดพระเกียรติท้าวไทยไขพระยศ อยู่ปรากฏเกริกหล้าคู่ฟ้าดิน
อันเรื่องศีกมหิมาแห่งภารต มีปรากฏในเขตต์ประเทศถิ่น
ชาวชมพู
บูชาเป็นอาจิณ
สยามเก่าเราชินในก่อนกาล
ตามถ้อยคำสำนวนใน “ยวนพ่าย” ซึ่งบรรยายยศไท้แห่งไทยขาน-
ไขซึ่งคุณสมบัติกษัตริย์ “ปาณ- ฑพ” เทียบเปรียบสมภารภูบดี
อีกทั้งในสมญาบรรดาศักดิ์ ก็ประจักษ์ ‘อรชุน’ ‘นกุล’ ‘ศรี’
สหเทพ’ เทียบตั้งยังอยู่มี เป็นคนดีโบราณท่านคุ้นเคย
หวังกู้เรื่องเก่านี้มีดังก่อน เหมือนอย่างกลอนรามเกียรติ์จึงเพียรเฉลย
ผูกเป็นกลอนเพื่อการอ่านสะเบย ตามที่เคยอ่านเล่นเช่นเสภา
ได้ยึดถ้อยร้อยแก้วโรงพิมพ์ไทย “น ร.
” ได้เผยแผ่แปลภาษา
ปนกับเรื่องที่ตูเคยรู้มา จากตำราอื่นเอาเคล้าเปนกลอน
ขออุททิศเจตนาอุตสาหะ ถวายพระสยามิศอดิศร
ชนกครูชูชุบอุปกรณ์ และ น.ร. ก่อก่อนผู้สอนทาง
ขอจงการรจนา “ศึกภารต” สำเร็จพจน์เผยแจ้งแสงสว่าง
แก่สยามงามเงื่อนดุริยางค์ ดนตรีล้างทุกข์ไทยทั่วไป เอย.
  1. ๑. ‘ชมพู’ ควรมีคำ ‘ทวีป’ อย่างทวีปยุโรป, ทวีปลังกา ฯลฯ แต่เป็นคำรู้จักกันมาก ไทยมักใช้แต่ชื่อโดด ๆ ได้ เช่นชาวชนพู, ชาวยุโรป ชาวลังกา ฯลฯ แม้แต่ร้อยแก้ว, จึงใช้ตามบ้าง. สุนทรภู่ก็ใช้อย่างนี้ เช่น ‘จะเจ็บช้ำคำเหล่าชาวชมพู เพราะชิงชู้.........” (พระอภัย)

  2. ๒. น.ร. เป็นชื่อย่อของผู้แปลมหาภารตยุทธ์ฉบับอังกฤษ ซึ่งได้บอกไว้ในหน้าปกหนังสือนั้นว่า มหาภารตยุทธ์ ของราเชนทรสิงห เรียบเรียงพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๐ น.ร. เรียบเรียง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ