ฉบับที่ ๑๓

บ้านเลขที่ ๑๐ ถนนสี่พระยา

วันที่ ๒๒ ธันวาคม, พ.ศ. ๒๔๖-

ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.

ฉันไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงพ่อประเสริฐตั้งเดือนหนึ่งแล้ว, ซึ่งฉันสารภาพว่าเปนความผิด, ต้องขอโทษด้วยเถิด, แต่ถึงหากว่าจะเขียนมาก็คงไม่ได้มีฃ่าวอันน่าฟังบอกมาให้ทราบ, ฉันจึ่งเห็นว่างดเสียดีกว่า.

มาบัดนี้มีฃ่าวที่น่าบอกให้พ่อประเสริฐทราบอยู่บ้าง, จึ่งเขียนจดหมายฉบับนี้มา; แต่ก่อนที่จะบอกฃ่าวนั้นฉันขอเล่าเรื่องส่วนตัวของฉันสักเล็กน้อย. ตั้งแต่นั้นได้กลับเปนคนโสดอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่ามีความสุกกายสุขใจมากขึ้น. จริงอยู่การที่ฉันอย่ากับแม่อุไรนั้น ได้ถูกคนบางคนนินทาติโทษ, แต่ฉันถือคติว่าการแต่งงานเปนกิจส่วนตัวของฉันโดยเฉภาะ, ไม่มีผู้ใดจะมารับสุขรับทุกข์แทนฉันได้. มีคนบางคนออกความเห็นแก่ฉันว่าไม่ควรจะอย่าให้ฃายหน้าเฃา, เมื่อไม่พอใจเมียที่แต่งกันแล้วก็ควรหาเมียอีกคนหนึ่งที่พอใจอยู่กินด้วยกันหาความสุขเสียก็แล้วกัน, แต่ฉันเถียงว่าถ้าทำเช่นนั้นก็เท่ากับลวงโลก, กลับได้รับคำตอบว่าคนอื่น ๆ เฃาทำกันถมไป; ครั้นเมื่อฉันขอให้เฃานึกดูว่า แม่อุไรนั้นพอใจคบกับพระยาตระเวนมากกว่าอยู่กับฉันฉนี้, เฃาก็ยังยืนยันว่า มีเช่นนั้นถมไปเฃาก็มิได้อย่าร้างกัน เพราะเกรงจะฃายหน้า, เช่นนี้, ฉันก็ต้องรับสารภาพว่าฉันรู้สึกพ้นวิสัยที่จะแลเห็นตามเฃาได้. ส่วนตัวฉันเห็นว่าการที่ฉันจะคงเปนตัวหญิงที่ไม่ได้อยู่ในบ้านฉันแล้วและไปอยู่ในบ้านชายอื่นนั้น เปนการหน้าด้านพ้นวิสัยที่จะทำไปได้ ฉันมีความยินดีที่ประไพมีความเห็นตรงกับฉัน, และตั้งแต่ฉันอย่ากับแม่อุไรแล้ว ประไพได้มาบ้านฉันบ่อย ๆ, และท่านชายก็มาด้วย นับว่าน้องสาวกับน้องเขยของฉันเมตตาต่อฉันมาก. นอกจากนี้มีพวกเพื่อน ๆ ที่เห็นใจได้มาเยี่ยมเยียน, นับว่าช่วยกันทำให้ฉันคลายความเหงาใจไปได้มาก.

คราวนี้จะขอจับเล่าฃ่าวต่อไป. แม่อุไรอย่าขาดจากฉันแล้วก็ไปอยู่ที่บ้านพระยาตระเวนโดยเปิดเผย, และพากันไปไหน ๆ อย่างเปิดเผยทีเดียว. ใคร ๆ ที่รู้จักทั้งพระยาตระเวนทั้งแม่อุไรต่างถามกันแลกันว่าจะยืดยาวไปได้สักปานใด เพราะเปนข้อที่ทราบกันอยู่ดีว่า พระยาตระเวนเปนนักเลงชนิดที่ชอบแต่พยายาม, คือถ้าเห็นผู้หญิงสรวย ๆ และมีคนตอมเปนต้องพยายามให้ได้หญิงนั้นจนได้ แต่เมื่อใดได้แล้วก็มักจะชักเบื่อ, หรืออย่างดีที่ยืดไปได้จนกว่าจะเห็นผู้หญิงที่ต้องตาอีกคน ๑. แม่อุไรนั้นเฃาก็ได้พยายามเปนอันมากที่จะสนิธสนมตั้งแต่ก่อนได้กับฉัน, และเมื่อมาได้กับฉันแล้วเฃาก็ยิ่งกระทำความพยายามแรงกล้ายิ่งขึ้นจนเปนผลสำเร็จ. แต่ท่านเจ้าคุณผู้นี้เปนคนที่อยู่ตัวคนเดียวไม่ได้, เพราะฉนั้นในระหว่างเวลาที่กำลังบำเพ็ญทำทางเฃ้าหาแม่อุไรนั้น เฃาจึ่งได้หานางบำเรอแก้ขัดไว้เปนลำดับ, จนในเมื่อถึงเวลาแม่อุไรได้ไปอยู่กับเฃานั้น พระยาตระเวนมีนางบำเรอประจำบ้านอยู่แล้วถึงเจ็ดนาง! เก่งไหม? แน่ทีเดียวเฃาปิดข้อนี้, แต่เรื่องชนิดนี้ปิดให้สนิธยากที่สุด, เพราะมันเปนเรื่องสำหรับผู้หญิงชอบรู้ชอบเล่าสู่กันฟัง; คนหนึ่งเล่าให้เพื่อนรัก, สั่งว่าอย่าพูดไปนะ, แล้วเพื่อนคนนั้นก็ไปเล่าให้เพื่อนรักของตัวอีกคนหนึ่ง, และต่อ ๆ กันไปเช่นนี้เปนแถวไป, และความลับออกจากปากผู้หญิงคนเดียวอาจที่จะรู้ถึง ๒๐ คนภายในอาทิตย์เดียว, ฉนั้นเมื่อมีผู้หญิงที่มี “อินเตอเร็สต์” อย่างเดียวกันอยู่ ๗ คนก็ขอให้นึกดูเถิดว่า ความลับนั้นจะแพร่หลายได้มากและรวดเร็วปานใด? ส่วนตัวฉันได้ทราบเรื่องนางทั้ง ๗ ของพระยาตระเวนนี้จากประไพ, และประไพได้ทราบมาจากแม่ส่องแสงลูกสาวของพระยาตระเวนเอง ถ้าเมื่อฉันได้รู้เช่นนี้แล้ว, อย่างไร ๆ แม่อุไรก็ต้องได้รู้แล้วเหมือนกันในเรื่องนางทั้ง ๗ นั้น, แต่บางที่หล่อนจะหวังว่าจะได้เปนนางสุวิญชาของพระยาตระเวนกระมัง? พ่อประเสริฐจำได้ไหม, เพลงขอทานที่เคยได้ยินร้อง ๆ อยู่ว่า “เจ็ดนางเธอไม่รักไม่ใคร่ เธอมัวหลงไหลแต่แม่สุวิญชา”?แต่พอได้เฃ้าไปอยู่ในบ้านพระยาตระเวนได้สักหน่อยแม่อุไรก็รู้สึกว่าทนนางทั้ง ๗ ไม่ไหว; ในเวลาที่พระยาตระเวนอยู่บ้านก็พอทำเนา, แต่พอเจ้าคุณไปพ้นบ้านแม่ทั้ง ๗ ก็แผลงฤทธิ์ต่าง ๆ, ฟ้องเจ้าคุณก็ไม่ใคร่เปนผลสมปราถนา ในที่สุดแม่อุไรเลยเปิดกลับไปอยู่บ้านพ่อ, ฝ่ายเจ้าคุณก็ตามไปง้อ, เพราะกำลังรักอยู่, แต่แม่อุไรยื่นคำขาดว่า ถ้าจะให้ไปอยู่ด้วยต้องไล่นางทั้ง ๗ ไปเสียก่อน หรือมิฉนั้นก็ต้องหาบ้านให้แม่อุไรอยู่ต่างหากอีกบ้าน ๑, เฃาตกลงหาบ้านให้แม่อุไรอีกบ้าน ๑ ที่ถนนราชประสงค์, เฃาได้เงินเดือน ๗๐๐ บาท, มีบ้าน ๒ บ้าน, เมีย ๘ คน, ม้า ๔ ตัว, และเล่นกิฬาต่าง ๆ เสมอ ๆ, และเลี้ยงเพื่อนฝูงบ่อย ๆ ด้วย. เก่งไหม?

คราวนี้มีฃ่าวดีส่วนตัวฉันซึ่งต้องเล่าให้พ่อประเสริฐฟัง. ฉันได้บอกมาให้ทราบในจดหมายฉบับ ๑ แล้ว ว่าฉันได้เฃ้ารับราชการในพระราชสำนักตั้งแต่มิถุนายนศกนี้, และได้อยู่ในกรมบัญชาการมหาดเล็ก. ครั้นเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ฉันได้ย้ายตำแหน่งมาเปนผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์, นับว่าเปนของถูกใจของฉันทีเดียว, เพราะฉันแลเห็นหนทางที่อาจจะได้ทำการตรงตามทางที่ฉันได้เล่าเรียนและชอบอยู่แล้ว ฉันหวังใจว่าจะได้ไปเปนผู้เล็กเช่อร์พิเศษที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงด้วย.

ส่วนทางเสือป่าฉันก็ได้เฃ้าไปประจำอยู่กรมม้าหลวงสมปราถนาหลายเดือนมาแล้ว, และการที่ฉันได้เคยเฃ้าไปฝึกหัดอยู่ในกองฝึกหัดนายทหารที่อ๊อกซ์ฟอร์ดนั้น เปนผลดีแก่ฉันมากทีเดียว. ตั้งแต่ฉันได้เฃ้าไปประจำในกรมม้าหลวงแล้วฉันไม่ได้ฃาดฝึกหัดเลย, และฉันได้ตั้งใจฝึกหัดและฟังคำสั่งสอนจริง ๆ มาถึงเวลานี้เฃากำลังบรรจุตำแหน่งผู้บังคับบัญชา, เตรียมสำหรับไปซ้อมรบในปลายปีนี้, ฉันได้เปนผู้รั้งผู้บังคับหมวดผู้ ๑ และได้เลื่อนยศเปนนายหมู่เอก, เพราะฉนั้นขอให้พ่อประเสริฐแสดงความยินดีกับฉันด้วย. ฉันคิดถึงพ่อประเสริฐจริง ๆ, อยากให้กลับเฃ้ามาอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ, ถ้าเฃ้ามาฉันจะต้องจูงเอาพ่อประเสริฐเฃ้าไปในกรมม้าหลวงด้วยอย่างแน่นอน, และเชื่อว่าพ่อประเสริฐก็จะชอบด้วย. ขอจบที; ว่าง ๆ จะ บอกฃ่าวคราวมาอีก.

จากเพื่อนผู้กำลังตื่นตัว,

ประพันธ์.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ