ตอนสาม อาวาหมงคลแห่งเท๎ราปที

หญิงอนาถา, อาศัยอยู่ในโรงช่างหม้อ ตั้งตาคอยท่าบุตรของนาง ซึ่งพากันไปดูการสยุมพรของเท๎ราปที เห็นบุตรไปเนิ่นช้าผิดเวลา นางก็ทุกข์ใจ เกรงว่าจะมีเหตุเภทภัยขึ้น ทันใดนั้น นางได้ยินฝีเท้าก้าวมาที่ประตูโรงโดยเร็วไว และในประเดี๋ยวใจ บุตรทั้งห้าผู้สง่าร่างก็ย่างก้าวเข้ามา จูงกรธิดาองค์หนึ่งซึ่งแต่งองค์ด้วยเครื่องประดับล้วนเพชรพลอยแพรวไพโรจน์ ความดีใจซ่านทั่วชราร่างของนางขณะแลไปเห็นพระธิดาสง่าโฉม แต่พอแลเห็นนางก็นึกรู้ตลอด มารดากับบุตรก็สนทนาปราศรัยกัน และเจ้าชายหนุ่มห้าภราดาก็บรรยายจริตสิทธิโชคที่เธอได้ฝ่าไปให้นางผู้ชนนีฟังแต่ต้นจนอวสาน

บัดนี้จะขอกล่าวถึงเหตุการณ์ในพระราชวังราชาทรุบท ขัตติยราชเจ้าปัญจาลประทับนั่งอยู่ในห้องแต่พระองค์เดียว พลางรำพึงถึงพระเคราะห์ของท้าวเธอ และลุกขึ้นเตะถีบตบถองใครต่อใครเป็นจ้าละหวั่นซึ่งอยู่งานในเวลานั้น ทันใดนั้นพระราชโอรสของท้าวเธอเสด็จไปในห้อง มีดวงพักตร์ผ่องแย้มยิ้มพริ้มพราย พระราชาชักสีพระพักตร์ตึงต่อพระโอรส ครั้นเหือดพระโทสะแล้วตรัสว่า “พระธิดาของฉันอยู่ที่ไหน? ใครได้นาง? โอ ลูกข้า” ท้าวเธอตรัสพระสุรเสียงสั่นกระเส่า นิ่งอั้นอยู่สักครู่แล้วตรัสต่อไปว่า

“โอ ลูกของข้า ! แต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องขอทานเขาเลี้ยงท้องของเจ้าทุกประตูบ้าน ทานอันบุคคลพึงสละให้ด้วยการุณยจิตแลปรานีนั้น จะเป็นสินสมรสของเจ้า ภาชนะที่ถือชูเที่ยวขอทานเขานั้นจะเป็นรัดเกล้าของเจ้า อนิจจา ! พ่อจะกลั้นความสมเพชได้หรือ เมื่อเห็นเจ้ามีย่ามอันสะพายอยู่ที่ไหล่? พ่อได้สร้างอกุศลกรรมไว้แต่ปางไรหนอ จึงมาได้รับอวมานอันนี้? อนิจจา ! พ่อระงับทุกข์ในเรื่องนี้ไม่ได้ พยายามอย่างไรๆก็ไม่วายระทมใจ พ่อรู้สึกว่าทรุดโทรมลง ! สิ่งที่เหลือสติปัญญาที่จะแก้ไข หรือหมดทางที่จะแก้ได้แล้วดังนี้ พ่อจะทำอย่างไรได้? พ่อตั้งใจไว้ว่าจะยกเจ้าให้อรชุน แต่พระผู้เป็นเจ้าใหญ่ในชั้นฟ้าหากบันดาลให้เป็นไปเสียอย่างอื่น พ่อทราบตระหนักแล้วว่า การร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เป็นประโยชน์อย่างไร แต่ความเศร้าอาจระงับได้ด้วยความสงบอารมณ์อย่างครึๆ ดังนั้นหรือ ? ทุกข์กองนี้จะเป็นมรณทุกข์ของพ่อแล้ว !”

“ธฤษฏทยุมน์กราบทูล พระสุรเสียงเฉื่อยฉ่ำด้วยหรรษารมย์; “ข้าแต่พระชนกนาถ, ขอจงกำจัดความเศร้าเหล่านี้เสียจากดวงพระกมลเถิดพระเจ้าข้า อรชุนเป็นผู้ได้นางไปแน่นอน”

พระราชาผู้มีพระเนตรชุ่มด้วยอัสสุชลทั้งสองข้าง สว่างวาบด้วยความปลื้มขณะนั้น ตรัสถามโดยพลันว่า “จริงหรือ? เจ้ารู้ได้อย่างไร ? เออ เจ้าจงเล่าให้พ่อฟังบ้าง”

พระโอรสทูลประพฤติเหตุว่า: “แต่พอพราหมณ์พาพระพี่นางไปสู่ที่อาศัย ข้าพระเจ้าสะกดรอยตามไปมิให้เขาเห็น ครั้นเขาถึงสำนักอาศัยของเขา ข้าพระเจ้าเงี่ยหูฟังหน้าประตู และความจริงได้ปรากฏขาวในเมื่อเขาเล่าเรื่องให้มารดาของเขาฟัง ข้าพระเจ้าจึงได้ทราบตระหนัก” ว่า พราหมณ์หมู่น้อยซึ่งนุ่งห่มหนังมฤคนั้น เป็นเจ้าปัณฑวภราดาทั้งห้าปลอมแปลงมา อนาถจิตเอย เธอทั้งห้าภราดากับมารดาได้กรำความลำบากยากแค้นและเบียดเบียนทุกอย่างเพราะทุรโยธน์ ผู้คิดคลอกเขาเสียด้วยไฟเมื่อเร็วๆ นี้ บังเอิญเคราะห์ดีเขาหนีรอดปลอดภัยมาได้ทางบาดาล และเดินทางมากับพวกพราหมณ์จนถึงกรุงปัญจาล” พระราชาก็สิ้นโศกาหายหนักหฤทัยทันที ท้าวเธอตรัส “บอกอัครมหาเสนาบดีของพ่อให้เขาไปสืบถามเอาความจริงมาให้ได้”

ข้าราชการหมู่หนึ่งรับพระราชโองการแล้วก็ตรงไปบ้านช่างหม้อนั้น มนตรีหมู่นั้นพากันเข้าไปถวายคำนับเจ้าปัญฑวภราดา และคนหนึ่งในหมู่มนตรีที่ไปนั้น ประพฤติเหตุแด่เจ้าชายผู้ได้เท๎ราปทีว่า “เราพากันมาแสดงความยินดีที่ท่านได้มีชัย การที่ท่านแสดงฝีมือและออกกำลังอย่างคำแหงในวันนี้ นักขับจะต้องผูกบทสังคีตไว้ขับร้อง กวีชาติปราชญ์พงศาวดารจะบันทึกเรื่องลงไว้ให้กำจร และนิกรชาติทั้งหลายก็จะจำใส่ใจไว้อย่างนิยมยิ่ง เมื่อท้าวพญามหากษัตริย์ทั้งหลายยิงเป้าไม่ถูกนั้น ขัตติยาธิบดีของเราเสียพระทัยนักหนาว่า พระราชธิดาของท้าวเธอจะต้องเนาในความเป็นสาวโสดอยู่หาคู่ครองมิได้ อันนี้แลเป็นทุกข์งำพระหฤทัยให้เศร้าเหงา แต่เราขอบพระคุณท่านนักหนา ที่ท่านได้กำจัดก้อนเมฆแห่งห่วงใยซึ่งทับดวงพระหฤทัยของท้าวเธอไว้ แน่นอนละ พระประสงค์ลับของท้าวเธอ ข้าพระเจ้าสำคัญใจว่าในบัดนี้พอจะขยายสู่กันฟังได้แล้ว ไม่เป็นการละเมิดต่อการรักษาความในพระหฤทัยนั้น คืออยากจะให้อรชุนผู้ลือนามทั่วสกลชมพูได้กันกับพระธิดาของพระองค์ แต่ในบัดนี้ท้าวเธอมีความปลื้ม เพราะพระธิดาจะไม่เป็นหญิงโสดอีกต่อไป ท้าวเธอร้อนหฤทัยใคร่จะทราบชาติสกุลและบ้านเกิดเมืองมารดาของท่านผู้มีชัยจนได้กุมกรเท๎ราปทีพระธิดาท้าวเธอมา”

เจ้าภราดาองค์ใหญ่รับภาระพูดโต้ตอบพวกข้าหลวงที่มานั้นเสียเอง เธอตรัส “ข้อสัญญาการวิวาห์ที่เจ้าผู้สูงศักดิ์ของท่านได้ประกาศแล้วนั้น ท่านทั้งหลายและข้าพเจ้าก็ทราบได้ดีแล้ว ใคร ๆ ก็อาจจะเข้าไปทำการทดลองได้ทุกคน ทุกคนบรรดาที่มา และข้อสัญญานั้นท่านสุภาพบุรุษผู้นี้ได้ประติบัติแล้วด้วยดี และเพราะเหตุนี้พระธิดาผู้เจ้านายของท่านก็เป็นอันว่าได้ทำการเสกสมรสกับเขาดีชั่วก็ทำเนา”

พวกข้าราชการเหล่านั้นชักสีหน้าเก้อ และยุธิษฐิรไม่อยากจะให้เหล่าข้าหลวงลังเลใจชักช้าไป จึงกล่าวต่อไปว่า “ถึงกระนั้นคนทั่วไปย่อมไม่สงสัยเลยว่าอรชุนเป็นนักรบหาคู่ปรับฝีมือมิได้ และต้องไม่สงสัยอีกเหมือนกันว่า อรชุนแน่นอนเทียว ไม่ใช่คนอื่นที่ไหน ได้พระธิดาสง่าโฉม ผู้เจ้านายของท่าน ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบใจเจ้านายของท่านที่ได้เห็นการเผล็ดผลสมหวังดังจินตนาช้านาน”

เมื่อได้สดับดังนั้นพวกข้าราชการที่มาสืบความก็ยืนขึ้นทันที ถวายคำนับด้วยดีแล้วก็ลาไป ความมุ่งหมายของเขาในบัดนี้ก็เป็นอันสำเร็จ มาลองถามเอาความจริงได้ตามที่เจ้านายใช้มา ก็เริงร่าพากันกลับไปทูลประพฤติเหตุแด่พระราชาว่า การที่รับสั่งใช้ไปนั้นสำเร็จดังพระประสงค์

ต่อนั้นได้มีการมโหรสพในมณเฑียรของราชาทรุบท ท้าวเธอให้ไปเชิญเจ้าปาณฑวภราดาทั้งห้าเข้ามาเฝ้า มีการต้อนรับตามขัตติยประเพณีในที่ออกขุนนาง ท้าวเธอตรงเข้ากอดเขยขวัญและภราดาทั้งสี่ตามลำดับกัน ตรัสสุนทรพจน์เชิงรับประกันสัมพันธ์สันถวไมตรี และรับประกันสรรพภัยในราชธานีของท้าวเธอ

ต่อนั้นท้าวเธอให้ทำการสยุมพรวิวาห์เท๎ราปทีสมศักดิ์สมสง่าสมเกียรติแห่งขัตติยราชธิดาทุกประการ ได้มีการเล่นสนุกอย่างสมโภชการวิวาห์ เจ้าปาณฑวภราดาก็เปลื้องเครื่องปลอมแปลงกาย อยู่เป็นสุขในอารักขาแห่งพระราชาปัญจาล ราชสัมพันธมิตรผู้กล้าหาญ.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ