- คำนำ
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๗
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๐
เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๕๘
วัน ๖ ๑ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่ายเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโรงทำน้ำมันปิโตเลียม๑ เวลายามเศษเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรคอนเสิตซึ่งพวกกลับจัดเล่นถวายที่โรงลคร เสด็จกลับสองยามเศษ
วัน ๗ ๒ฯ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรที่ทำการอู่เรือรัฐบาลวิลันดา เวลายามเศษเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรลครม้า เซอคัสของบริษัทอเมริกัน
วัน ๑ ๓ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๒ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงทำกาแฟ แล้วเสด็จทอดพระเนตรโรงทำการเจียรไนเพชร เวลายามเศษเสด็จพระราชดำเนินที่สวนมีกาเดนปาตี แลพวกจีนจัดกระบวนแห่แสดงความยินดีแลมีดอกไม้เพลิงด้วย
วัน ๒ ๔ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย เสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งไปยังท่าน้ำ แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งเรือกลไฟจูงไปประทับเกาะมะตุระ (มะธุระ) เรสิเดนต์ แลเจ้าเมืองแขกรับเสด็จอยู่ที่นั่น เสด็จทรงรถประพาศที่เกาะนั้น พอจวนค่ำเสด็จกลับ
เวลายามเศษเสด็จทอดพระเนตรลคร แล้วมีสเกิตแดนล์ แลเซอเปนไตน์แดนล์ แลภาพยนต์ เสด็จกลับ ๒ ยามเศษ
วัน ๓ ๕ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย ๒ โมง เสด็จพระราชดำเนินขึ้นรถไฟออกจากสเตชัน เมืองสุรบายามาตามระยะทาง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ถึงสเตชันเมืองปะสุรวน เรสิเดนต์มณฑลปะสุรวน แลริเยนต์ ซึ่งเปนพี่ของเจ้ามังกุนัคโร เมืองโซโล มารับเสด็จที่สเตชัน เสด็จทรงรถมาประทับแรมที่โฮเต็ลมะริน
วัน ๔ ๖ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๕ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า เสด็จทรงรถพระที่นั่งจากโฮเต็ลมะรินมาตามระยะทางที่จะไปเขาโตสารี ถึงที่พักเชิงเขา เสด็จประทับร้อนแล้วเปลี่ยนรถพระที่นั่ง ทรงรถขนาดเล็กขึ้นเขาไปตามระยะทางถึงตำบลปุสโป ประทับเสวยกลางวัน แล้วทรงม้าพระที่นั่งต่อไป หนทางขึ้นเขาเลียบเขาไม่มีที่ราบ เวลาบ่ายถึงโฮเต็ลโตสารีอยู่บนยอดเขาโตสารี สูงจากฟื้นทเลประมาณ ๖๐๐ ฟิต เปนที่อากาศหนาวอย่างสูง ปรอทฟาเรนไซต์ ถึง ๕๐ ดิกรี เสด็จประทับแรมที่นี้
วัน ๕ ๗ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๖ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเสวยเช้าแล้ว ทรงม้าพระที่นั่งไปตามระยะทางข้ามเฃาแลผ่านหมู่บ้านอันอยู่บนเฃาทั้งนั้น ถึงสวนดอกไม้ของคนวิลันดาซึ่งมาตั้งทำอยู่ที่นี้ มีดอกกุหลาบใหญ่หลายสี งดงามเปนอันมาก เสด็จประพาศสวนแล้วเสด็จกลับตามทางอื่น เพราะทางที่นั้นมีหลายทาง เสด็จกลับมาประทับที่โฮเต็ลโตสารีตามเดิม เวลาเย็นทรงพระดำเนินประพาศในที่ใกล้โฮเต็ลที่ประทับนั้น
วัน ๖ ๘ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๗ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเสวยเช้าแล้ว เสด็จทรงม้าพระที่นั่งประพาศตามทางอ้อมไหล่เขาแลข้ามเขาในจังหวัดแขวงโตสารีนั้น เสด็จกลับถึงที่ประทับแล้วทรงฉายพระรูป
วัน ๗ ๙ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า ๔ โมง เสด็จทรงม้าที่นั่งจากที่ประทับไปตามระยะทางซึ่งข้ามเขาขึ้นลงหลายทอด ถึงที่ขอบทเลทรายเสด็จขึ้นประทับที่ที่ แลบนยอดเขาขอบทเลทราย ทอดพระเนตรทเลทรายแลเขาไฟชื่อโบรโม อันตั้งอยู่กลางทเลทราย แลเห็นเขาไฟอีกแห่งหนึ่งชื่อสุเมรุ อยู่ห่างจากที่นี่ไป ระยะทาง ๓ วัน เปนเขาสูงสุดในเกาะชวา สูงจากพื้นทเลหมื่นสองพันฟิตเศษ เสด็จลงจากที่แลแล้ว เสด็จพระราชดำเนินตามทางลงจากเขาถึงทเลทรายแล้ว เสด็จพระราชดำเนินต่อไปในทเลทรายโดยม้าพระที่นั่ง ในพื้นทเลทรายเปนที่กว้าง แต่อยู่บนเฃาสูงจากทเลทรายประมาณ ๘๐๐๐ ฟิต เสด็จถึงที่ประทับใกล้เชิงเขาโบรโม เสด็จประทับในปรำซึ่งเขาปลูกรับเสด็จ ทอดพระเนตรพวกแขกที่ว่าถือสาสนาพราหมณ์บูชายัญเขาไฟ วิธีบูชายัญมีปรำผ้าฃาวขึงยาวไป แล้วพวกพราหมณ์ผู้ที่จะบูชายัญเข้านั่งเรียงกันในปรำนั้น ถือหม้อน้ำมนต์ประน้ำมนต์แลจุดไฟรมกำยาน เสกมนต์บูชา เครื่องบูชาผูกเปนหาบมีกล้วยอ้อยเปนต้นตั้งอยู่ตรงหน้า ครั้นเสกมนต์บูชาเสร็จแล้ว ก็หาบของเครื่องบูชาขึ้นบนเขาโบรโม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงม้าพระที่นั่งขึ้นเขาโบรโม พื้นเขานี้เปนฝุ่นเท่าปนทรายสูงจากทเลทรายประมาณ ๘๐๐ ฟิต ม้าพระที่นั่งขึ้นไปถึงที่สูงจะขึ้นต่อไปไม่ได้ เสด็จลงทรงพระดำเนินขึ้นบันไดอีก ๒๖๐ คั่น จนถึงยอดเขาเปนคันขอบโดยรอบ ที่กลางเขาเปนหลุมลึกประมาณ ๘๐๐ ฟิต เท่าพื้นทเลทรายในนั้นมีควันเขาไฟพุ่งขึ้น ดูพิลึกพึงกลัว ที่ปากบ่อโดยรอบยาวประมาณ ๕ ไมล์ โดยกว้างประมาณ ๓ ไมล์ พวกพราหมณ์หาบของขึ้นไปถึงแล้วโยนทิ้งลงไปในบ่อนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับทอดพระเนตร แล้วเสด็จกลับลงมาประทับร้อนที่ทเลทราย เสวยกลางวันแลทรงฉายพระรูป แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับมายังที่ประทับโฮเค็ลโตสารีตามทางเดิม
วัน ๑ ๑๐ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้าไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินประพาศแห่งใด เวลาค่ำเสด็จพระราชดำเนินที่ที่อยู่พวกพราหมณ์ รับสั่งสอบถามลัทธิสาสนาที่ถือกัน อันเปนการแปลกปลาดมาก
วัน ๒ ๑๑ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๐ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเสวยเช้าแล้ว เสด็จพระราชดำเนินโดยม้าพระที่นั่งประพาศสวนดอกไม้ ซึ่งเสด็จเมื่อวันที่ ๑๖ นั้นอีกครั้งหนึ่ง ตอนเย็นประพาศในที่ใกล้โฮเต็ลโตสารีที่ประทับนั้น
วัน ๓ ๑๒ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเสวยเช้าแล้ว เสด็จพระราชดำเนินโดยม้าพระที่นั่งจากโฮเต็ลโตสารีมาตามทางที่เสด็จขึ้นไปนั้น แล้วแยกทางไปที่ตำบลซึ่งเรียกว่าคอลอนี เปนที่คนยุโรปซึ่งกระทำความผิด รัฐบาลวิลันดาให้มาตั้งทำมาหากินอยู่ในที่นี้ ห้ามไม่ให้ไปในที่อื่น มีบ้านเรือนเรือกสวน ทอดพระเนตรที่นั้นแล้วเสด็จมาถึงตำบลปุยโป เสด็จทอดพระเนตรบ้านคอนโตรเลอตำบลนี้ ซึ่งเปนผู้ตามเสด็จพระราชดำเนินประจำอยู่ในเวลาเสด็จประทับอยู่โตสารี แล้วเสด็จประทับเสวยกลางวันที่โฮเต็ลตำบลปุยโป เหมืยนอย่างเมื่อขาเสด็จขึ้นมา ครั้นเวลาบ่ายเสด็จทรงรถพระที่นั่งขนาดเล็กจากตำบลปุยโปไปตามระยะทางลงเขา ถึงที่พักเชิงเขาประทับอีกคราวหนึ่งเปลี่ยนทรงรถพระที่นั่งใหญ่ เสด็จจากที่นั้นมาเมืองปะสรวน เสด็จทอดพระเนตรห้างสุราเปนห้างใหญ่รับถังน้ำสุราต่างๆ จากเมืองวิลาดันมากรอกขวดขายในเกาะชวา เจ้าของห้างตกแต่งที่รับเสด็จ ประดับด้วยใบไม้แลธงแลมีแตรวง เสด็จทอดพระเนตรทั่วแล้วเสด็จกลับมาประทับแรมที่โฮเต็ลมะริน
วัน ๔ ๑๓ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๒ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า ๒ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินจากโฮเต็ลมรินโดยรถพระที่นั่ง ประทับทอดพระเนตรตลาดที่ราษฎรรวบรวมกันขายสิ่งของต่างๆแล้ว เสด็จยังสเตชั่นรถไฟทางรถไฟพิเศษออกจากเมืองปะสุรวนมาถึงสเตชั่นเมืองบะงิล รถไฟพัก ๑๒ นาที เสด็จทางรถพระที่นั่งทอดพระเนตรพื้นภูมิบ้านเมืองในเมืองบะวิลพอสมแก่เวลาที่รถไฟพัก แล้วทรงรถไฟออกจากสเตชั่นเมืองบงิลทวนทางมาหน่อยหนึ่งแล้วเลี้ยวแยกทางไปถึงสเตชั่นเมืองซิงควสซารี (คือสิงหัดสาหรี) ริเยนต์แขกเมืองนั้นมาคอยรับเสด็จอยู่ที่สเตชัน เสด็จทรงรถพระที่นั่งทอดพระเนตรบ้านเมืองแล้วเสด็จประทับที่ลานแห่งหนึ่งอยู่ตรงหน้ากราตอน คือวังของท้าวสิงหัดสาหรี แต่วังนั้นไม่มีสิ่งอันใดจะพึงเปนที่ทอดพระเนตรแล้ว ที่ที่ประทับนั้นมีเทวะรูป พระพิฆเนศวรใหญ่ แลรูปยักษ์ใหญ่ ๒ รูป ล้วนแล้วด้วยศิลา แลรูปอื่นๆอีกบ้างแลมีเทวะสถานย่อมๆอยู่ด้วยหลังหนึ่ง ทำด้วยศิลา ฝีมือวิจิตรงดงาม ทอดพระเนตรทั่วแล้วเสด็จกลับตามทางเดิม มาเสด็จขึ้นรถไฟออกจากเมืองสิงหัดสาหรี ตรงไปเมืองมาลัง ริเยนต์แขกตามเสด็จด้วย เพราะเปนริเยนต์เมืองมาลังด้วย แลเรสิเดนต์มณฑลปะสุรวน ก็ตามเสด็จมาแต่เมืองปะสุรวนด้วย เพราะเมืองเหล่านี้อยู่ในมณฑลนั้นตามระยะทางรถไฟที่มานี้ แลเห็นภูเขาไฟสุเมรุถนัด มีควันพลุ่งขึ้นเปนพักๆ เมื่อถึงสเตชั่นเมืองมาลัง แอสสิสเตนต์เรสิเดนต์มารับเสด็จ ทรงรถพระที่นั่งทอดพระเนตรบ้านเมืองแล้ว เสด็จประทับที่บ้านแอสสิสเตนต์เรสิเดนต์ ครั้นแวลาบ่ายเสด็จทรงรถไฟกลับตามทางเดิม มาถึงเมืองประสุรวนบ่าย ๒ โมงเศษ ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่ประเสบันคือศาลาพักน่าบ้านริเยนต์เมืองปะสุรวน มีการสนามม้าเรียกว่าสินันนัน พอเสด็จประทับแล้ว ริเยนต์ออกมาจากบ้าน ขึ้นม้ามา มีคนขึ้นม้าตามเปนอันมาก คนที่ขึ้นมาตามทาขมิ้นไม่ได้สรวมเสื้อ ถือทวนขับม้าเต้นวงรอบสนามพร้อมกัน แล้วออกรำทวนเปนคู่ๆ เสร็จการสนามม้าแล้วเสด็จกลับ
เวลายามเศษเสด็จพระราชดำเนินที่คลับมีการขับร้อง แล้วมีเต้นรำต่อไป เสด็จกลับ ๒ ยามเศษ
วัน ๕ ๑๔ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๓ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย ๒ โมงเสด็จพระราชดำเนินจากโฮเต็ลมรินมาเสด็จขึ้นทางรถไฟพิเศษ ออกจากเมืองสุวรนมาตามระยะทางถึงสะเตชั่นเมืองเกคีรี เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เรสิเดนตมณฑลเกคีรีแลริเยนต์แขกเมืองนี้รับเสด็จอยู่ที่สะเตชั่น เสด็จทรงรถพระที่นั่งมาประทับยังที่บ้านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเกคีรี ซึ่งเปนของรัฐบาลจัดรับเสด็จเปนที่ประทับแรม เสด็จประทับครู่หนึ่งแล้วทรงรถพระที่นั่งเสด็จทอดพระเนตรพื้นภูมิบ้านเมืองแล้วเสด็จกลับ เวลาค่ำเรสิเดนต์มาเฝ้าที่ที่ประทับ โปรดเกล้า ฯ ให้เรสิเดนต์รับพระราชทานเลี้ยงพร้อมกับเวลาเสวยด้วย
ที่เมืองเกคีรีนี้คือเมืองดาหาในเรื่องอีเหนา และเห็นเขาวิลิศมาหราอยู่ตรงหน้าที่ประทับระยะทางไป ๓ ชั่วโมง แต่วังท้าวดาหานั้นทำลายเสียหมดแล้ว
วัน ๖ ๑๕ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า ๒ โมงเศษ เสด็จทรงรถที่นั่งจากที่ประทับแรม ไปประพาศตลาดเมืองเกคีรีแล้วเสด็จสะเตชั่นรถไฟ ทางรถไฟพิเศษออกจากเมืองเกคีรีเวลาเช้า ๓ โมงเศษไปตามระยะทาง เวลาเช้า ๕ โมงเศษถึงสะเตชั่นเมืองมะดยูน รถไฟพัก ๕๐ นาที เจ้าพนักงานฝ่ายวิลันดาแลริเยนต์แขกรับเสด็จเหมือนเมื่อเวลาเสด็จมา เสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งประพาศทอดพระเนตรบ้านเมืองแลเสด็จประทับที่บ้านริเยนต์ด้วย แล้วเสด็จกลับมาขึ้นรถไฟออกจากสะเตชันรถไฟมะดยูนต่อมา เวลาบ่าย ๓ โมง ถึงสะเตชั่นเมืองโซโล ซึ่งเปนที่เปลี่ยนรถไฟ สุสุฮูนันเมืองโซโล เจ้ามังกุนัคโรแลปะเงรันเชื้อวงษ์แลเรสิเดนต์แลเจ้าพนักงานฝ่ายวิลันดามารับเสด็จที่สะเตชั่น เสด็จประทับรับสั่งกับท่านที่มารับเสด็จโดยสมควรแก่เวลาแล้วเสด็จขึ้นทางรถไฟ เปลี่ยนเปนรถขนาดใหญ่ของบริษัท ออกจากสเตชั่นเมืองโซโลมาตามระยะทาง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษถึงสะเตชั่นเมืองสะมารัง เรสิเดนต์มณฑลนี้มารับเสด็จที่สะเตชั่น มีผู้คนเต็มข้างทาง เสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งมาประทับแรมที่โฮเต็ลบาวิเลียน
วัน ๗ ๑ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๕ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่ายเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรที่ทำบุหรี่ เจ้าของห้างจัดการรันเสด็จโดยแขงแรง บุหรี่ที่ทำนี้เปนบุหรี่ฝรั่งมวนด้วยยาสูบในเกาะชวา ทอดพระเนตรทั่วแล้วเสด็จทรงรถทอดพระเนตรบ้านเมืองต่อไป จนเวลาค่ำเสด็จกลับ
วัน ๑ ๒ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่ายเสด็จทรงรถรางแตรมเวไปประพาศยังเนินเขา ตำบลจันดีในเฃตรเมืองสมารังแล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งออกจากท่าเมืองสมารัง มาประทับแรมในเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี เวลาวันนี้กลับมีการเต้นรำแต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน เพราะไม่ใคร่ทรงสบาย
วัน ๒ ๓ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๗ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้าเรสิเดนต์เมืองสมารังแลเจ้าพนักงานต่างๆ มาเฝ้าส่งเสด็จในเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ แก่เรสิเดนต์แลเจ้าพนักงานผู้อื่นๆเหมือนดังเมืองอื่นๆ อันล่วงมาแล้ว กับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ แก่บารอนควาเลล์เคอควารลล์ เดิมเปนสิเกรตารีแล้วได้เลื่อนเปนแอสสิสเต็นเรสิเดนต์เมืองโซโล ซึ่งคอเวอเนอเยเนอราลจัดให้มาตามเสด็จพระราชดำเนินตลอดเวลาที่เสด็จประทับประพาสในเกาะชะวานั้นเดิมได้รับพระราชทานตราภัทราภรณ์ที่เมืองบัตเตเวีย พระราชทานเลื่ยนชั้นเปนมัณฑนาภรณ์เมื่อเวลาเรสิเดนต์กราบถวายบังคมลากลับ โปรดเกล้า ฯ ให้หหารในเรือพระที่นั่งยิงปืนสลุตเปนเกียรติยศ ครั้นเวลาบ่าย ๓ โมงเศษ ออกเรือพระที่นั่งจากที่ทอดน่าเมืองสมารังเลียบฝั่งเกาะชะวาด้านเหนือในทเลชะวา
วัน ๓ ๔ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้าถึงเมืองเชริบอน เป็นเมืองท่าชะวาอีกแห่งหนึ่ง เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เรสิเดนต์ลงมาเฝ้าในเรือพระที่นั่ง แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งเล็ก เรือกลไฟเล็กจูงไปประทับท่าเมืองเชริบอน เรสิเดนต์แลริเยนต์เมืองนี้รับเสด็จอยู่ที่นั้น เสด็จทรงรถพระที่นั่งไปประทับยังที่ตำบลหนึ่งเรียกสูนยาราตี เปนตึกเก่า แลมีพวกจีนไปก่อเขาพอทับลงตึกนี้เปนที่มีน้ำตก ว่าเปนที่ประพาศของสุละต่านแต่ปางก่อน ทอดพระเนตรทั่วแล้วเสด็จมาประทับที่บ้านเรสิเดนต์ เสวยกลางวันที่นั้น แล้วเสด็จกลับมาลงเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี เจ้าพนักงานวิลันดามาส่งเสด็จด้วย โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ตามควรแก่ถานานุศักดิ์ เวลาบ่าย ๔ โมงออกเรือพระที่นั่งจากที่ทอดน่าเมืองเชริบอนตัดขึ้นมาข้างเหนือในทะเลชะวา
วัน ๔ ๕ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๙ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เรือพระที่นั่งเดินในทะเลชะวามีคลื่นเรือโคลงตลอดวันตลอดคืน
วัน ๕ ๖ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า เรือพระที่นั่งเข้าช่องบังคาเวลาค่ำพ้นช่องบังคาเข้าช่องเรียว
วัน ๖ ๗ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๓๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เรือพระที่นั่งแล่นต่อมาจนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษถึงที่ทอดน่าเมืองสิงคโปร ฅอเวอเนอให้เอดิกงลงมาเฝ้า เวลาค่ำเสด็จจากเรือพระที่นั่งขึ้นประทับแรมที่เฮอริเคนเฮาล์ พระพิเทศพานิชกงซุลเยเนอราลไปยุโรป มิสเตอร์เอรอสว่าการแทนกงซุลเยเนอราลเปนผู้จัดการรับเสด็จ
วัน ๗ ๘ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า ๔ โมง เซอชาลสมิเชลคอเวอเนอสเตรตเซตเตอลเมนต์มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทที่เฮอริเกนเฮาล์ ครั้นเวลาบ่ายโมงหนึ่งเสด็จพระราชดำเนินไปที่บ้านจีนเชียเสียงเซียซึ่งเปนหัวน่าจีนแต้จิ๋วในเมืองสิงคโปร์ ซึ่งแต่เดิมเปนสวนของจีนวังโป เขาจัดการรับเสด็จเปนการแขงแรง แลประทับเสวยกลางวันที่นั้นด้วย เสด็จจากบ้านจีนเชียเสียงเซียแล้วเสด็จประทับเยี่ยมตอบคอเวอเนอที่คอเวอแมนต์เฮาล์แล้วเสด็จกลับมายังเฮอริเกนเฮาล์
ครั้นเวลาทุ่มครึ่งเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี โปรดเกล้า ฯ ให้เชิญคอเวอเนอแลผู้มีบรรดาศักดิ์ในเมืองสิงคโปร์ทั้งหญิงชาย มารับพระราชทานเลี้ยงในเรือพระที่นั่ง เลี้ยงแล้วเสด็จกลับมาประทับแรมที่เฮอริเกนเฮาล์
วัน ๑ ๙ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาย่ำเที่ยงเศษ เสด็จพระราชดำเนินด้วยรถพระที่นั่งไปยังเฃาสูง ชื่อบูเก็ตติมา อยู่ค่อนข้างกลางเกาะสิงคโปร์ ระยะทางไปจากเมืองสิงคโปร์ ๙ ไมล์ มีเรือนที่พักของคอเวอนเมนต์อยู่บนยอดเฃา บนนั้นแลเห็นสิงคโปร์ได้โดยรอบ เสด็จประทับเสวยกลางวันที่นั้น ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จพระราชดำเนินกลับจากบูเก็ตติมา ไปประทับบ้านสุละต่านยะโฮ เสด็จกลับเวลาย่ำค่ำเศษ
วัน ๒ ๑๐ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๓ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย เสด็จพระราชดำเนินที่สวนจีนแห่งหนึ่งเสด็จกลับค่ำ เวลายามเศษฝรั่งมาเล่นการสนุกสนานรื่นเริงถวายที่เฮอริเกนเฮาล์ ชั้นต้นเล่นกล แล้วเล่นทำหน้าภาพต่างๆ หน้าคนต่างๆ เลิกเวลา ๒ ยาม
วัน ๓ ๑๑ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๔ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้า ๔ โมง เสด็จลงเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี เคอเวอเนอลงมาเฝ้าส่งเสด็จ เมื่อคอเวอเนอทูลลากลับมียิงสลุต แล้วออกเรือพระที่นั่งจากเมืองสิงคโปร์
วัน ๔ ๑๒ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๕ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย เรือพระที่นั่งถึงเกาะกาบัสแขวงเมืองตรังกานูทอดเรือพระที่นั่ง เวลาเยนเสด็จขึ้นประพาศที่เกาะ มีบ้านเรือนบ้างเล็กน้อย เสด็จกลับค่ำ
วัน ๕ ๑๓ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๖ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลารุ่งเช้า ออกเรือพระที่นั่งจากเกาะกาบัสมาประมาณ ๒ โมงถึงน่าเมืองตรังกานู ทอดเรือพระที่นั่ง พระเสนีพิทักษ์๒ข้าหลวงลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเรือพระที่นั่ง แล้วพระยาพิไชยภูเบนทร์ เจ้าเมืองตรังกานูลงมาเฝ้า มีพระราชปฏิสันฐานตามสมควรแล้ว พระยาตรังกานูกราบบังคมลาขึ้นไปคอยรับเสด็จที่เมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงเรือพระที่นั่งเรือกลไฟจูงออกจากที่เรือพระที่นั่งมหาจักรกรีทอด เข้าไปในลำน้ำประทับท่าอันอยู่ตรงน่าบ้านพระยาตรังกานู เสด็จพระราชดำเนินขึ้นจากเรือพระที่นั่งประทับ ณ หอนั่งของพระยาตรังกานู การรับเสด็จพระยาตรังกานูจัดการเปนการแขงแรง แต่งตะพานน้ำแลดาษปรำปูผ้ามีแขกเหน็บกฤษกุมหอกยืนสองข้างทาง เสด็จประทับมีพระราชดำรัสด้วยราชการต่างๆ แล้วเสด็จขึ้นข้างใน พวกญาติพี่น้องบุตรภรรยาของพระยาตรังกานูเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แลตั้งเครื่องเสวยเสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับลงเรือพระที่นั่งมาตามทางเดิมอย่างเมื่อเสด็จขึ้น ถึงเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี แล้วพระยาตรังกานูตามเสด็จลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเรือพระที่นั่งอีก ครั้นพระยาตรังกานูกราบถวายบังคมลากลับแล้ว ออกเรือพระที่นั่งมหาจักรกรีจากน่าเมืองตรังกานู เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ
วัน ๖ ๑๔ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๗ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาเช้าถึงน่าเมืองกลันตัน ทอดเรือพระที่นั่งแล้ว พระยาพิพิธภักดีเจ้าเมืองกลันตัน พระโยธีปฏิยุทธรายามุดา พระรัษดาธิบดีบุตร ผู้ช่วยราชการ มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเรือพระที่นั่ง แล้วกราบถวายบังคมลาล่วงน่าขึ้นไปรับเสด็จที่เมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงเรือพระที่นั่งเข้าในปากน้ำกลันตัน ไปตามระยะทางในลำน้ำ เวลาเที่ยงถึงท่าเมืองกลันตันมีการตกแต่งรับเสด็จเหมือนดังเมืองตรังกานู เสด็จขึ้นประทับที่พลับพลาตรงน่าบ้านพระยาเดชานุชิต พระยากลันตันนำญาติพีน้องสีตวันกรมการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชปฏิสันฐานตามสมควร แล้วเสด็จประทับ ณ บ้านพระยาเดชานุชิต แลเสด็จขึ้นข้างในพวกญาติของพระยากลันตันเฝ้า แลเสวยกลางวันเสร็จแล้ว เสด็จทอดพระเนตรบ้านพระยากลันตัน แล้วเสด็จกลับเรือพระที่นั่งตามทางเดิมถึงเรือพระที่นั่งแล้ว พระยากลันตันแลกรมการผู้ใหญ่ลงมาเฝ้าอีก โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์แก่พระยากลันตันแลกรมการบางคน เรือพระที่นั่งประทับแรมที่นี้ จนเวลา ๓ ยามจึ่งออกเรือพระที่นั่งต่อมา
วัน ๗ ๑๕ฯ ๘ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๘ สิงหาคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลารุ่งเช้า เรือพระที่นั่งถึงน่าเมืองสาย พระยาสุริยสุนทรเจ้าเมืองสาย แลพระยาตานีลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในเรือพระที่นั่ง ครั้นเวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินเมืองสายเหมือนดังเสด็จ ๒ เมืองในวันก่อน เสด็จประทับที่พลับพลาริมท่าน้ำซึ่งพระยาสายจัดปลูกรับเสด็จ พระยาสายพระยาตานี พระยายิหริง พระยารามัน พระยาระแงะ พระยาหนองจิก แลสีตวันกรมการใน ๗ เมืองมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท เว้นแต่พระยายะลาป่วยหาได้มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทไม่ ประทับที่พลับพลา มีพระราชดำรัสด้วยราชการต่างๆ แก่หัวเมืองแฃกทั้ง ๗ เมืองนั้นแล้ว เสด็จขึ้นทรงรถราชยานไปทอดพระเนตรเมืองสายอยู่ต่อพลับพลาไป พระยาสายได้จัดการทำนุบำรุงบ้านเมืองเปนการเจริญขึ้น เสด็จประทับที่บ้านพระยาสาย บุตรภรรยาพระยาสายเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่พลับพลา เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่งมหาจักรกรี ออกจากที่ทอดเมืองสายแล่นต่อมา เวลาดึกถึงแขวงเมืองสงขลา ทอดเรือพระที่นั่งอยู่ห่างๆ เพราะเปนที่มีศิลาในน้ำมาก