- คำนำ
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๗
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๘
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๙
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๐
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๐
เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๕๘
วัน ๕ ๑๑ฯ ๒ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๘ มกราคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลายามเศษ เสด็จออกฃุนนาง พระยานรินทราชเสนี๑ กระทรวงกลาโหม นำหลวงฤทธิ์จักรกำจร๒ กราบถวายบังคมลาออกไปเลือกจัดซื้อม้าไทยตามหัวเมืองฝ่ายทเลตวันออก
แล้วโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตร ให้หลวงสง่างำเมืองกรรมการ เปนหลวงประชากรบริรักษ์ ปลัดเมืองอินทบุรี ถือศักดินา ๖๐๐
แล้วดำรัสถามกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ว่า วันนี้มีการประชุมกันฤๅ กรมหมื่นสมมตกราบบังคมทูลว่ามีการประชุม แล้วดำรัสถามต่อไปว่า ประชุมเรื่องอะไร กรมหมื่นพิทยกราบบังคมทูลว่า จะว่าด้วยเรื่องทางรถไฟ
แล้วเสด็จขึ้น
วัน ๖ ๑๒ฯ ๒ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๒๙ มกราคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทมุกข์ตะวันออก พระเจ้าลูกเธอ พระองคเจ้าประวิตวัฒโนดมแทนเสนาบดีกระทรวงวัง นำวาเลนไตล์ชิรอล ราชทูตอังกฤษ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชปฏิสันฐานด้วยตามสมควร แล้วพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าประวิตวัฒโนดม นำวาเลนไตล์ ซิรอล ราชฑูตอังกฤษ ออกจากที่เฝ้าจึงเสด็จพระราชดำเนินมาประทับน่าพระทวารกลาง พระยาสฤษพจนกร กระทรวงมหาดไทย นำพระยาคธาธรธรนินทร์ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ถวายม้าสีหมอกเปนม้าพระที่นั่งตัวหนึ่ง จึงเสด็จพระราชดำเนินลงมาประทับที่น่าพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท พระอมรวิไสยสุรเดช นำพวกญวนเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทถวายของตรุดจีน แล้วเสด็จมาทอดพระเนตรม้าที่พระยาคธาธรธรนินทร์ถวาย โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาเทเวศร์วงษ์วิวัฒน์ ผูกม้าขึ้นลองขี่น่าพระที่นั่ง แล้วดำรัสด้วยพระยาเทเวศร์วงษ์วิวัฒน์ว่า ให้เปนม้าขึ้นระวาง แล้วดำรัสด้วยพระยาคธาธรธรนินทร์ว่า ที่ถวายม้าพระที่นั่งนี้ ดีถวายม้าพระที่นั่งนี้ ดีถวายนินทร์เมดหนึ่งอีก๓
เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จขึ้น
เวลาค่ำวันมี้มีการประชุมกรรมสัมปาทิก ที่หอพระสมุดวชิรญาณ
เวลายามเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทเสด็จทรงพระราชยานแต่เกยน่าพระที่นั่งนั้นมาประทับที่หอพระสมุดวชิรญาณ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าประวิตวัฒโนดม สภานายกหอสมุดวชิรญาณ อ่านคำนำกราบบังคมทูลพระกรุณา โดยที่บำรุงหอพระสมุดวชิรญาณ แล้วมีพระราชดำรัสตอบก็เหมือนปีที่กล่าวมาแล้ว แล้วสมาชิกเรียงตัวกันเฝ้า แล้วเสด็จประทับโต๊ะเสวย เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับ
วัน ๗ ๑๓ฯ ๒ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๓๐ มกราคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลา ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทมุกข์ตวันออก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ นำราชทูตเยียระมัน๔ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชดำรัสไต่ถามด้วยตามสมควร แล้วพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ ก็นำ (ราชทูตเยียระมัน) ออกมาจากที่เฝ้าแล้วเสด็จขึ้น
วัน ๑ ๑๔ฯ ๒ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๓๑ มกราคม รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เวลายามเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาราชเสนา๕ กระทรวงมหาดไทย นำบอกพระเสนีณรงค์ฤทธิ รายามุดาเมืองไทรบุรี ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลฉบับ ๑ ความว่าอาการของเจ้าพระยาไทรบุรีที่ป่วยทุเบาขึ้นมากแล้วเกือบจะหายได้ จึงมีพระราชดำรัสกับพระยาราชเสนาว่าให้ตอบออกไปว่าเรามีความยินดีมาก
แล้วพระยาราชวรานุกูล นำพระพรหมสุรินทร์ข้าหลวงเมืองน่าน๖ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วนำหม่อมราชวงษ์ตั้ว ๑ นายพร้อม ๑ นายทุ้ย ๑ ข้าหลวงในมณฑลสลาวพวนรวม ๓ นาย พระยาประทุมเทวาธิบาลเจ้าเมือง ๑ ราชบุตร ๑ พระบริบาลภูมิเขตร ๑ รวม ๓ นาย ในมณฑลหนองคาย รวม ๓ นาย พระวิเศษอาฆารกิจ ข้าหลวงว่าราชการเมือง ๑ ท้าวทองศุข ว่าที่ราชบุตร ๑ ในมณฑลเมืองภูเวียง รวม ๒ นาย ว่าที่อุปฮาดเมืองกลาง ๑ ว่าที่ราชบุตร เมืองปาด ๑ ในมณฑลเมืองกุมภวาปี พระจันตะประเทศธานี เจ้าเมืองๆแสน ๑ ท้าวฮงว่าที่ราชบุตร ๑ ในมณฑลเมืองชลบท ท้าวหมูล่า ว่าที่อุปฮาตเมืองขรแก่น ๑ ซึ่งตามเสด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วมีพระราชดำรัสกับพระยาราชวรานุกูลว่า ขึ้นไปเฝ้าแล้วมีพระราชดำรัสถามเรียงตัวทุกคน แล้วดำรัสถามกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมว่า คนเหล่านีได้รับสัญญาบัตรทั่วกันแล้วฤๅยัง กรมหมื่นประจักษ์กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า ได้รับไปแล้วบ้างยังไม่ได้รับบ้าง จึงดำรัสต่อกับกรมหมื่นประจักษ์ว่า คนรายที่จะได้รับสัญญาบัตร ให้ทำหนังสือรายชื่อมาส่งกับกรมหมื่นสมมต จะได้รับสัญญาบัตร
แล้วพระยาราชวรานุกูล นำ พระยาวิชยาธิบดี ผู้ว่าราชการเมืองจันทบุรี ๑ พระยาพิพิธพิไชยสุนทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราด ๑ พระพิไชยชลธี ผู้ว่าราชการเมืองประจันตคีรีเขตร ๑ เจ้าสุริย ๑ นายน้อยชื่น ๑ เมืองนครเชียงใหม่ ๒ กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปรักษาราชการบ้านเมือง จึงมีพระราชดำรัสกับเจ้าสุริยเมืองนครเชียงใหม่ว่า ให้บอกกับพระเจ้าเชียงใหม่ว่ามีความคิดถึง แต่ไม่เร่งให้ลงมาดอก ครั้นลงมาก็จะมีความเจ็บไข้ ขอให้ดำรงค์ยศอยู่กาลยืนนานเท่านั้น
แล้วดำรัสถาม พระยาอัษฎาเรืองเดชว่าเจ้าไว้ทุกข์ใคร พระยาอัษฎาเรืองเดชทราบบังคมทูลพระกรุณาว่าไว้ทุกข์บิดา จึงดำรัสถามต่อไปว่าตายเสียเมื่อไร พระยาอัษฎาเรืองเดชกราบบังคมทูลว่า ถึงแก่กรรมเสียเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม
แล้วโปรดเกล้า ฯ พระราชทานหีบทองคำลงยากลางประดับเพชร แก่จมื่นทิพยเสนา (เนียน) แล้วมีพระราชดำรัสว่า หีบนี้ฃ้าได้ให้ตั้งแต่ปู่เจ้าไปทัพได้เอามาคืน ๒ หนแล้ว บัดนี้ฃ้าให้กับเจ้า แล้วพระราชทานต่อพระหัดถ์
เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๒ ๑๕ฯ ๒ ค่ำ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘
วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทร๒๙ศก ๑๑๕
เปนวันพระ ไม่เสด็จออก
-
1. พระยานรินทราชเสนี (สอน) ปลัดบาญชีกระทรวงกลาโหม ↩
-
2. หลวงฤทธิ์จักรกำจร (เป๋า สวัสดิชูโต) ↩
-
3. ่าจะเป็นดีกว่าถวายนิลเม็ดหนึ่งอีก ↩
-
4. ราชทูตเยอรมัน มิสเตอร์เกมเปอแมนต์ (ราชกิจจาฯ เล่ม ๑๒ หน้า ๔๗๐) ↩
-
5. พระยาราชเสนา (วัน) ปลัดทูลฉลองกรมมหาดไทยฝ่ายเหนือ ↩
-
6. พระพรหมสุรินทร์ (สวัสดิ์ ภูมิรัตน์) ภายหลังเป็นพระยามหิบาลบริรักษ์ ↩