- คำนำ
- แจ้งความพิมพ์ครั้งที่ ๒
- กลอนดอกสร้อย ‘รำพึงในป่าช้า’
- กลอนสุภาพ ‘ความรัก’
- กลอนสุภาพ ‘มนุษย์เรา มีดีที่ตรงไหน ?’
- กลอนสุภาพ อธิบาย ‘สนฺตุฏฐี ปรมํ ธนํ’
- กลอนสุภาพ อธิบาย ‘อุฏฺาตา วินฺทเต ธนํ’
- กลอนสุภาพ ‘พ่อแม่รังแกฉัน’
- กลอนสุภาพ ‘หญิงไทย’
- ลิลิตดั้น มาตาปิตุคุณคาถาบรรยาย
- ลิลิตดั้น สดุดีบ้านบางระจัน
- ลิลิตสุภาพ สดุดีพระราชบัญญัติประถมศึกษา
- โคลงดั้นวิวิธมาลี อธิบาย ‘อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ’
- คำกาพย์ เรื่องพระศิวประติมา
- คำฉันท์ สามัคคีบรรยาย
- คำฉันท์ ยอเกียรติชาวนครราชสีมา
- คำฉันท์ เทวธรรมบรรยาย
- คำอธิบายศัพท์
หญิงไทย
ขอโอกาสกล่าวกลอนสุนทรไข แถลงคุณความดีนารีไทย บันทึกไว้ตราบหล้าฟ้าทะลาย เพื่อภูมิใจไทยเราชาวสยาม ซึ่งได้ความสุขสวัสดิ์พิพัฒน์หลาย ล้วนหญิงไทยเป็นมารดาและย่ายาย ได้กล่อมกายเกลากมลทุกคนมา หญิงสยามความดีมีอเนก ใช่จะเสกสรรแสร้งขึ้นแกล้งว่า ประเทศไทยได้ จรัสพิพัฒน์มา เทียมกับอารยรัฐชัชวาล ต้องนับคุณนารีมีอยู่ด้วย ได้ชูช่วยชาวชายหลายสถาน ขอสาธกยกข้อพอประมาณ เป็นพะยานความดีสตรีไทย.
การเลี้ยงชีพ
การทำมาหากินสิ้นทั้งหลาย เช่นค้าขายเข็นลากหรือถากไถ หญิงไม่แพ้ผู้ชายทุกรายไป ช่วยชายได้ทุกชะนิดในกิจการ ชี้ให้เห็นใกล้ๆในตลาด หาบกะจาดเร่ตั้งและนั่งร้าน มีผู้ชายน้อยนักรักประมาณ จึงเรียกขานว่า “แม่ค้า” ออกซ่าไป คนชาติอื่นมักผู้ชายเที่ยวขายค้า การเรือนหน้าที่หญิงไม่นิ่งได้ หญิงไทยทำรอบข้างทุกอย่างไป นับว่าได้ทำการปานผู้ชาย.
การเลี้ยงบุตร
ยังอุ้มท้องต้องยากลำบากแท้ ยามท้องแก่ก็ยังทนเที่ยวขวนขวาย กระทำกิจการงานไม่คร้านกาย ไม่ระคายฝนแดดแผดสกนธ์ ทนคลอดบุตรกลางป่ากลางนาไร่ บ้างคลอดในเรือบ้างข้างถนน มีชาวสวนควรอนาถประหลาดคน คลอดบุตรบนยอดมะพร้าวคราวกันดาร ต้องเอาผ้าห่อลูกตะพายแล่ง กะต่องกะแต่งลงมาน่าสงสาร ทั้งเลี้ยงบุตรอุตส่าห์พยาบาล ทั้งกอบการหากินสิ้นทั้งมวล
ความภักดี
อนึ่งนารีไทยน้ำใจหนัก มีความภักดีมั่นไม่ผันผวน รักสามีดีแท้ไม่แปรปรวน กิจทั้งมวลมอบชายดังนายตน โบราณไว้ผมยาวเกล้าเกศา และนุ่งผ้าจีบพกเชิงปกส้น อย่างเขาแต่งตัวละครแต่ก่อนยล สู้แต่งตนทิ้งงามตามผู้ชาย คือตัดผมโจงกะเบนเช่นบุรุษ อุตลุดกอบการงานทั้งหลาย นับสามีดังว่าข้ากับนาย ที่บางรายผัวหนีไปมีเมีย ไม่เชยชดทรัพย์สินการกินอยู่ ต้องเลี้ยงดูบุตรน้อยละห้อยละเหี่ย ไหนจะบุตรไหนจะตัวออกนัวเนีย สู้คุ้ยเขี่ยเลี้ยงบุตรสุดระทม บางคนเป็นเมียน้อยยิ่งสร้อยเศร้า เมียหลวงเร้าราญรุกล้วนทุกข์ถม ยังไม่หน่ายร่ายเร่เสน่ห์ชม ทนระทมทุกข์หนักด้วยภักดี.
ความกล้าหาญ
การช่วยชาติชิงชัยด้วยใจกล้า มีอุทาหรณ์มากเป็นสากษี พระสุริโยทัยเทพนารี มหิษีจักรพรรดิฉัตรนคร ทรงคอสารราญศึกไม่นึกหวาด จนถึงขาดคอช้างกลางสมร อีกท้าวเทพกษัตรีศรีสุนทร กู้นครเขตต์ถลางปางบุราณ อีกท่านโม้ผู้สตรีเป็นที่ท้าว คุมหญิงชาวนครราชฯอันอาจหาญ เข้าช่วยชายบุกบั่นประจัญบาน ครัวไทยคืนสถานไม่ลาญลาว ท่านเหล่านี้นามระบือลือกะฉ่อน เกียรติกำธรเจิดหล้าเวหาหาว เป็นเยี่ยงอย่างหญิงอื่นอยู่ยืนยาว ชักมากล่าวพอให้เห็นเป็นพะยาน.
การกุศล
อนึ่งในการบุญเจือจุนชาติ ก็สามารถศรัทธาอันกล้าหาญ เช่นออกทรัพย์สร้างศาลาพยาบาล สร้างสถานศึกษามหาชน อนึ่งการศาสนาศรัทธามาก บริจาคทานสร้างทางกุศล เป็นกำลังโอรสทศพล ยิ่งกว่าชนชาวชายเป็นก่ายกอง การฟังธรรมเทศนาในอาวาส การตักบาตรก่อพระทรายถวายของ มีผู้ชายน้อยนักถ้าจักมอง ไม่จำต้องอ้างไปให้ไกลตา.
การกวี
อนึ่งการกาพย์กลอนอักษรศาสตร์ ก็ฉลาดเล่ห์ชายไม่อายหน้า ทั้งปรากฎบทกลอนแต่ก่อนมา ซึ่งสตรีรจนาครั้งโบราณ ถึงสตรีชาวไทยสมัยนี้ ความรู้มีพรั่งพร้อมย่อมพิศาล ในสตรีวิทยา,สมาจาร ทั้งชำนาญการกวีดีวิไล ได้แต่งเรื่องราวไว้มีไม่น้อย ล้วนเรียบร้อยดุจกันทันสมัย เฉลิมวงศ์แห่งกวีนารีไทย ควรอ้างได้ว่าสตรีดีดังชาย.
สำแดงคุณความดีสตรีภาพ เพื่อซับทราบซึมใจไทยทั้งหลาย บรรดาชนเชื้อเหล่าเผ่าผู้ชาย ซึ่งมุ่งหมายศีวิไลซ์แก่ไทยเรา เมื่อทราบว่านารีนี้มีหุ้น ในการจุนชาติเยี่ยมขึ้นเทียมเขา คือกอบกิจทั่วไปมใช่เบา ทั้งเป็นเค้ามูลเกิดกำเนิดไทย ควรกอบเกื้อปฏิการสัมมานนับ ให้ได้รับอิสสระสมสมัย ความเจริญนารีมีเพียงใด สัญชาติไทยก็เจริญดำเนิรตาม เหมือนพื้นที่ศรีถิ่นมีดินเลิศ ก็บังเกิดพืชผลออกล้นหลาม ดินไม่ดีพืชผองก็ต้องทราม ไม่งอกงามดุจกันฉะนั้น เอย.
วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๖๓
----------------------------