- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร (๒)
- วันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น (๒)
- วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- —วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑
- วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- —เพลงขับเรื่องซอมโหรี
- —บทเพลงพิณพาทย์ โหมโรงโขน และเพลงต่างๆ กับคำกลอนบอกชื่อเพลงมโหรี
- วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร (๒)
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- —วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๑
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- —หมายเหตุตรวจตำนานวังน่า
- —หมายเหตุใบแก้ตำนานวังน่า
- —หมายเหตุใบสอบพิมพ์ตำนานวังน่า
- วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
- วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
- วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น
วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ดร
วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑
ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ
รับลายพระหัดถ ข้อซึ่งต้องพระประสงค์ อธิบายนั้น
เรื่องชื่อพระที่นั่ง ในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สร้างใน ร. ๑ หม่อมฉันสันนิษฐานว่าถ่ายแบบมาแต่กรุงเก่าทั้งนั้น แม้จนพระนามเจ้าต่างกรม เช่น กรมเทพพิพิธ ถ่ายมาเปนเทพพลภักดิ์ กรมจิตรสุนทร ถ่ายมาเปนกรมจิตรภักดี เปนต้น ส่วนพระที่นั่งนั้น พระที่นั่งอมรินทราภิเศก สันนิษฐานว่าเอานามสุริยาศน์อมรินทรกับมงคลาภิเศกมาปนกัน เพราะอยู่ริมน้ำเหมือนสุริยาศน์อมรินทร์ แต่เปนที่จะทำราชาภิเศกจึงเอามังคลาภิเศกมาเปนสร้อยพระที่นั่งจักพรรดิพิมาน ถ่ายชื่อมาแต่พระที่นั่งจักรวัติไพชยนต์ดุสิตมหาปราสาท จะแก้มาแต่สุริยาศนอมรินทรนั้นเองหรือมาแต่พิหารสมเดจหรือสรรเพ็ชรปราสาทก็เปนได้ แต่ส่วนพระที่นั่งสุทธาสวรรย์นั้น ไม่เคยได้ยินว่ามีที่กรุงเก่า เห็นจะเอาชื่อปราสาทลพบุรีมาใช้ แต่ที่มาใช้ในกรุงเทพฯ มีข้อสงไสยดูไขว่เขวอย่างไรอยู่ องค์ที่วังหลวง แต่ก่อนเรียกว่า สุทธาสวริย์นั้นเปนแน่ ได้เห็นในหนังสือเก่าหลายแห่ง แม้พระพันวะษาในเรื่องเสภาแต่งใน ร. ๓ ก็แต่งให้เสด็จออกพระที่นั่งสุทธาสวริย แต่ส่วนองค์ที่วังน่านั้น พบในหนังสือเก่า เรียกเปน ๒ อย่าง เรียกพุทธาสวริย์ก็มี สุทธาสวริย์ก็มี ถ้าหากพระที่นั่งองค์นั้น กรมพระราชวัง ร. ๑ ทรงสร้างถวายพระพุทธสิหิงค์ดังเข้าใจ ด้วยลายเขียนชื่อพุทธาสวริยก็ควรที่มาเปลี่ยนเปนสุทธาสวริย์ คงมาเปลี่ยนใน ร. ๒ เพราะพระพุทธสิหิงค์เชิญมาไว้วังหลวง ที่นั่นตั้งพระแท่นเสวตรฉัตร จัดเปนท้องพระโรง จึงเปลี่ยนชื่อเรียกสุทธาสวริย์ก็สมควร ที่สงไสยนั้นที่มาซ้ำกันกับชื่อพระที่นั่งวังหลวง จะมีพระที่นั่งชื่อเดียวกันทั้ง ๒ วัง ดูกระไรอยู่ เพราะฉนั้น สงไสยว่า ที่เรียกสุทธาสวริย์ทั้งวังน่า จะเปนชื่อคนอื่นเรียก อย่างเรียกวัดบรมนิเวศ แลวัดทรงประดิษฐ เพราะองค์ข้างวังหลวงนั้น เฃ้าใจว่าเรียกกันโดยสามัญ แต่ว่าพลับพลาสูง หรือพระที่นั่งจักรวัติ เรายังเคยได้ยินเรียกสนามไชยว่าสนามน่าจักรวัติ เรื่องตัวอักษรที่ใช้ในหมายรับสั่งนั้นเปนของไม่พึงที่จะสอบสวนเพราะเขียนอย่างซึมซาบ เอาหลักฐานอันใดมิได้เลยทุกฉบับ
พระมหาสังข์ที่หล่อใน ร. ๔ นั้น สอบได้ความว่า พระมหาสังข์นากหมายพระราชพิธีรัชกาลก่อน ๆ ตั้งขึ้นบนพระแท่นมณฑล มีแต่พระมหาสังขทักษิณาวัตร พระมหาสังขทอง และพระมหาสังขเงิน เรียกว่า สังขสาม เห็นจะหล่อนากขึ้นให้เปนสังข์ ๓ กระษัตริย์ ต้องตามนามที่เรียกเท่านั้น.
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด