วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ น

บ้านปลายเนอน คลองเตอย

วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑

กราบทูล กรมพระดำรงราชานุภาพ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัถประทานสำเนาหมายรับสั่ง เรื่องพระราชทานพระนามกรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย แลพระองคเจ้าประเสริฐศักดิ กับทรงพระเมตตาประทานรูปบานประตูวิหารพระแท่นศิลาอาศนด้วยนั้น ได้รับแล้ว ก่อนนี้ก็ได้ประทานลายพระหัถอีกหลายคราว คือที่ประทานบาญชีพระนามพระสัมพันธวงษเธอ ซึ่งต้องเกณฑ์พระทราย แลเรื่องรถทรงไตรกฐินแห่นำกระบวรเสด็จพระราชดำเนอร แลเรื่องพระยาสุรินทราชาได้รับแล้วทั้งสิ้น แต่ยังหาได้ทูลตอบไม่ เพราะชุลมุนเขียนแบบเครื่องราชอิศริยาภรณทูลเกล้า ฯ ถวายอยู่ เวลานี้ว่างแล้ว จึงได้เขียนตอบถวายตามใจรู้สึก ดังต่อไปนี้

เรื่องพระนามพระสัมพันธวงษเธอนี้ เกอดสดุดใจขึ้นแต่คราวเมื่อฝ่าพระบาททรงเรียงประวัติแม่ สำหรับลงพิมพ์หนังสือแจกงานศพนั้นแล้ว ว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อ แต่เกล้ากระหม่อมนี้เข้าใจมาแต่ไหนแต่ไร ว่าทูลกระหม่อมพระราชทานแต่เมื่อนึกดูว่าที่เฃ้าใจเช่นนั้นด้วยหลักฐานอย่างใด จะเปนแม่บอกฤๅอย่างไรก็นึกไม่ได้เสียเลอย ทางที่ฝ่าพระบาทเฃ้าพระทัยนั้น มีสมเด็จพระเทพสิรินทราบรมราชินีเปนบันทัดอยู่ เกล้ากระหม่อมจึ่งต้องนิ่ง บัดนี้มาได้หมายรับสั่งตั้งพระนามกรมหมื่นนฤบาลกับพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิมาหนุนความเข้าใจเดอมของเกล้ากระหม่อมให้เผยอขึ้นอีก ฝ่าพระบาททรงพระดำริห์ว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าคงพระราชทานชื่อมาเพียงแม่ ทูลกระหม่อมพระราชทานต่ออีกสองคน เกล้ากระหม่อมสงไสยว่าจะไม่เปนเช่นนั้น กลัวว่าที่ได้พระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้านั้น จะมีแต่สมเด็จพระเทพสิรินทราบรมราชินีพระองคเดียว เพราะมีช่องได้ขึ้นเฝ้าแหนรับใช้สนิทจึ่งทราบพระกรุณา ด้วยอาศรัยกรมหลวงวรเสรฐสุดาเปนตพาน คนอื่นเหนจะมีช่องได้เฝ้าน้อยที่สุด ถ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเอาพระทัยใส่ที่จะพระราชทานชื่อทั้งกรมแล้ว เหตุอไรที่ทำให้ตกค้างไปสองคน คิดไม่เหนเลอย จะว่าเพราะโตเล็ก อายุก็ไม่ผิดกันกี่ปี

เรื่องราวที่เล่ากันมา อันเปนมูลเหตุให้ได้ชื่อ ก็มีอยู่คือสมเด็จพระเทพสิรินทราบรมราชินี ได้พระราชทานพระนามในรัชกาลที่ ๓ ด้วยเหตุถวายงานพัดนั้นพระองคหนึ่งกับครอกป้าเพชร ในว่าแต่งตัวล้วนแล้วไปด้วยของประดับเพชรทั้งนั้น จึ่งได้ชื่อว่าสารพัดเพชร แต่ใครตั้งไม่ปรากฎ ดูเปนชื่อเกอดแต่ความตื่นวาศนาฤๅความริสยา ด้วยเวลานั้นเพชรหายาก ใครมีแต่งแม้แต่เลกน้อยก็มีน่ามีตา ที่มีแต่งสารพัดเพชรนั้น เพราะพระยาราชมนตรีกำลังมีบุญวาศนา ตื่นหลานหามาแต่งให้ได้ด้วยบุญบารมี น่าจะเปนชื่อบ่าวตั้งฤๅอมิตรตั้ง ไม่สมเปนชื่อพระราชทาน นอกจากสองเรื่องนี้ก็มีเรื่องชื่อแม่ ที่ว่าเกอดแต่ขี้ร้องไห้ แต่นั่นเปนเรื่องนิกเนม ไม่เกี่ยวด้วยปัญหาที่พูดอยู่บัดนี้ พระองคเจ้ามงคลเลอศ คงเปนชื่อพระราชทานคราวโปรดเกล้าฯ ตั้งเปนพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ ๔ นั้นเอง ไม่เกี่ยวดองคล้องกับใครเพราะตั้งเดี่ยว หม่อมเจ้าชมชื่น ฟื้นพงษ ประสงคสรรพ์ พรรณราย ฉายฉันเฉอด ประเสริฐศักดิ ๖ คนนี้คล้องจองกัน น่าจะพระราชทานคราวเดียวกัน แต่หากส่วนผู้หญิงนั่งกันข้างใน จึงไม่ปรากฎในหมายรับสั่ง ส่วนผู้ชายนั่งทางฃ้างน่าเพราะเกี่ยวด้วยจะมีที่ต้องบัตรหมายออกชื่อ ในจุลศักราช ๑๒๑๔ นั้น เปนปีที่อยู่ในเกณฑกำหนดโกนจุกฤๅบวชเณรด้วย น่าจะเปนเหตุให้ต้องมีชื่อ ขอได้ทรงพิจารณาความคาดคเนนี้ว่าจะชอบฤๅไม่

อนึ่งบาญชีเกณฑ์พระทราย ซึ่งทรงบันทึกชื่อด้วยตัวดินสอประทานมาสอบนั้น มีไขว้ไปหน่อย คือครอกป้าประสงคสรรพ์นั้นหม่อมมารดาชื่อคุณงิ้วไขว้กับครอกป้าชมชื่น นอกนั้นก็ถูกหมดแล้ว

เรื่องรถที่ทรงไตรกฐินนำกระบวรเสด็จพระราชดำเนอร จะเปนรถอไรน่าสงสัยอย่างยิ่ง รถแต่ก่อนเช่นรถโยงโปรยมันออกจะเลี้ยวไม่ได้ นอกจากที่จะต้องเอาพลองคัดกินเวลานาน จะเปนเครื่องทำให้ขัดข้องกระบวรเสดจต้องคั่ง อีกประการหนึ่งเวลานั้น ถนนใหญ่ก็มีแต่ถนนสนามไชยสายเดียว น่าจะต้องเปนรถอไรที่ไม่ใหญ่นัก แลเลี้ยวคล่อง ทำนองรถฝรั่ง

ลำดับเครือพระยาสุรินทราชา ซึ่งทรงค้นได้มานั้นดี ทำให้เฃ้าใจอไรที่มืดมนอยู่ สว่างออกไปได้อีกเปนหลายอย่าง

รูปบานประตูวิหารพระแท่นศิลาอาศนนั้น เปนประโยชน์แก่เกล้าฯ อย่างยิ่ง เพราะจะหาที่ไหนดูไม่ได้อีกแล้ว ขอบพระเดชพระคุณเปนอันมาก.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดฯ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ