วันที่ ๒๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๔ สยามินทร์

ที่ ๒๓/๑๐๘๖

พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

วันที่ ๒๑ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๔ศก ๑๒๔

ถึง กรมหมื่นนครชัยศรีสุรเดช

ด้วยได้ตรวจดูความคิดซึ่งจะจัดการทหาร ตามรายงานวันที่ ๔ สิงหาคมนั้นโดยละเอียดแล้ว

๑. จำนวนทหารที่กะเป็น ๓ กองพลนั้น เห็นเป็นพอสมควรที่จะอยู่ประจำกรุงเทพฯ แล้ว

๒. วิธีซึ่งจะเอาคนเป็นทหาร พระราชบัญญัติเกณฑ์ทหารออกแล้ว ประกาศเกณฑ์ฑหารมณฑลกรุงเก่าและนครชัยศรีก็เป็นอันสำเร็จแล้ว ข้อซึ่งจะย้ายตำรวจไปเป็นราบที่ ๒ เห็นไม่จำเป็น ข้อซึ่งไม่เห็นชอบในการชำระเลขเป็นทหาร แม้ว่าเป็นการชั่วคราวชั่วคราวก็จริง แต่เป็นตีปลาหน้าไซ พอสั่งให้ยกตำรวจไปเป็นทหาร ตำรวจก็แตกกระเพิ่น กรมเก่าก็คุมไม่ติด การชำระหมู่ขึ้นใหม่ก็วิ่งตามกันไม่ใคร่จะได้ตัว เป็นที่ชอกช้ำ ทำให้คนกระจัดกระจายเสียเปล่าๆ ถ้าราบที่ ๒ จะใช้ชื่อว่าตำรวจ ตั้งขึ้นใหม่ทั้งกองทีเดียวดีกว่า พวกเก่าก็หมดไป พวกใหม่ก็หนุนขึ้น เห็นจะไม่เสียราชการทั้ง ๒ ฝ่าย

๓. ส่วนที่โรงทหารซึ่งกะไว้สำหรับกองพลที่ ๑ สนามหลักเมืองและสวนเจ้าเชตนั้น สนามหลักเมืองเป็นที่กินกันอยู่กับสนามหลวง ถ้าจะสร้างได้ ควรสร้างเพียงเสมอแนวหน้าศาลสถิตยุตติธรรม ซึ่งกะจะสร้างตามแนวใหม่ ถ้าล้ำออกมา คงจะทำให้สนามเสียงาม เพราะฉะนั้นน่าที่จะไม่ได้ที่เท่าใดนัก เพราะสนามนั้นเป็นที่เสี้ยว ส่วนสวนเจ้าเชตเดิมกะจะสร้างวังมกุฎราชกุมาร แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ทำ เพราะได้แลกเปลี่ยนที่ในบริเวณวังสราญรมย์ออกไป ก็น่าที่จะแก้ไขให้เป็นการพอเพียงได้ ทั้งจะมีวังซึ่งจะสร้างริมสะพานมัฆวานอีกแห่ง ถ้าเป็น ๓ แห่งก็เห็นจะเกินต้องการ แต่ที่นั้นจะต้องระวังอย่างหนึ่ง ซึ่งสวนกว้างอยู่ เพราะมีตึกทหารปืนใหญ่สะกัดสนามอยู่ ตึกหลังนี้ลงอยู่ในสมุด ๓๒ เล่มในที่ประชุมเสนาบดีว่าควรละรื้อ ถ้าหากว่ารื้อแล้วแนวสวนสราญรมย์จะเบ็นหลักกินไปฟากข้างตะวันตก หรือบางทีจะต้องแก้ถนนสนามชัย แต่เห็นควรจะหมายแดงไปจนตลอดตสะพานคลองตลาด เป็นที่ไม่สู้กว้างแต่ยาว เห็นจะพอ เพราะโรงทหารม้าก็อยู่ในนั้นแล้ว

๔. โรงบัญชาการราบที่ ๒ ถ้าจะเอาตั้งแต่โรงเรียนนายร้อยมาจนจดทางที่จะตัดเป็นถนนวิสุทธิกษัตริย์ก็คงจะซื้อได้ แต่ต้องรีบซื้อเสียก่อนตัดถนน อีกนัยหนึ่งฟากข้างวัดโสมนัส ซึ่งจะทำอะไรยากเป็นที่สุด เหตุด้วยเป็นที่ของวัด ได้แต่แลกหรือเช่า ท้าที่นั้นแล้ว เป็นช่วยสงเคราะห์ถนนราชดำเนินไม่ให้ร้างอยู่แห่งหนึ่ง เพราะเหตุว่าถ้าผู้อื่นจะไปเช่าที่วัด สร้างตึกรามขึ้น ก็ไม่มั่นคงแก่วัดและเจ้าของทรัพย์ วัดจะทำเองก็ไม่มีทุน ผู้ที่จะไปอยู่ก็คงจะมีความรังเกียจ เพราะตรงหน้าโรงเรียนนายร้อยและตรงหน้าโรงทหารข้าม ถ้าเป็นที่โรงทหารซึ่งเป็นส่วนราชการอันอาจจะมีเงินให้เลี้ยงวัดพอสมควรแก่ค่าที่ น่าจะสำเร็จได้ดีกว่าแม้แต่พระคลังข้างที่จะทำ ที่ริมถนนวิสุทธิกษัตริย์ซึ่งเป็นทาง จะลงไปแม่น้ำ ย่อมจะเป็นท่าค้าท่าขายติดเนื่องมาแต่ถนนจักรพรรดิพงศ์ ดีกว่าที่จะเอาโรงทหารซึ่งจะมีแต่กำแพงไปกั้นไว้ริมถนนตลอดให้ถนนเป็นที่เปลี่ยว เลยไม่เป็นท่าค้าท่าขายเสียตลอดทั้งถนนได้

๕. โรงสำหรับกองพลที่ ๓ ไม่มีข้อขัดข้องอันใดเลย นอกจากที่ ถ้ายิ่งซื้อช้าไป ราคาที่จะขึ้น

๖. เรื่องดับเพลิงนั้น ควรจะอยู่ในกระทรวงเมืองได้พูดกับกรมนเรศร์อยู่บ้างแล้ว แต่เยาะแยงเชิงจะไม่สำเร็จตามเคย และถ้าจะสำเร็จก็คงต้องเป็นฝรั่งคิดการบังคับการอีกกองหนึ่ง ซึ่งออกจะอิด ๆ ใจอยู่ ทั้งถ้าจะเรียกคนจ้างอย่างโปลิศ เห็นยังจะไม่ได้ตั้งอีกช้านาน ด้วยเงินเดือนค่าตัวนายก็จะพอคุ้มกันกับที่ทหารจะตั้งขึ้นได้กองหนึ่ง ทหารยังจะต้องเป็หน้าที่ดับเพลิงไปเช่นนี้ไม่ต่ำกว่า ๕ ปี

(พระบรมนามาภิไธย) สยามินทร์

  1. ๑. คือกระทรวงนครบาล.

  2. ๒. พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงนเรศร์วรฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงนครบาล ในรัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนาเป็นกรมพระ.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ