- คำนำ
- ระยะทางเสด็จพระราชดำเนิรเมืองไชยนาท
- เรื่อง ทรงมอบพระราชอำนาจในการรักษาพระนคร แด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ประกาศเรื่อง พระเจดีย์ที่ถ้ำปทุน
- ประกาศ เรื่องพระพุทธรูปที่ถ้ำประทุน
- ประกาศ เรื่องพระสถูปเจดีย์ศิลาที่ทรงสถาปนาขึ้นไว้ ณ ถ้ำประทุน
- ประกาศเรื่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปในถ้ำวิมานจักรี
- ประกาศ เขตวิสุงคามสีมาวัดกุฏกษัตริยาราม
- สำเนาประกาศเลื่อนหลักเขตวัด และพระราชทานที่อุปจารวัด
- ประกาศเขตวิสุงคามสีมาวัดตรีทศเทพ
- เรื่องเปลี่ยนชื่อวัดตะเคียนเป็นวัดมหาพฤฒาราม
- พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชื่อรัตนาภรณ์ แก่กรมหมื่นอักษรสาสนโสภณ
- อธิฐานน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
- พระราชหัตถเลขา เรื่องครัวลาว
- เรื่อง สมีบุญ สมีมี และอ้ายเซ่ง
- เรื่อง ตั้งหลวงสยามานุเคราะห์ กงสุลสยาม ณ เมืองร่างกุ้ง
- เรื่อง ตั้งพระพิเทศพานิช (ตันกิมจิ๋ง) เป็นพระยาอัศฎงคตทิศรักษา
- เรื่อง ตั้งนายมหมัดแฉรีศเป็นขุนทวีปวิวิธการ
- เรื่อง ตั้งมิสเตอวิลเลียม ทอมาส เลวิศเป็น หลวงทวีปสยามกิจ
ประกาศ เรื่องพระสถูปเจดีย์ศิลาที่ทรงสถาปนาขึ้นไว้ ณ ถ้ำประทุน
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้ประกาศความจริงความแท้ไว้แก่ท่านทั้งปวงที่มาถึงที่นี้ว่า พระสถูปเจดีย์ศิลาในถ้ำนี้ ทรงสถาปนาตั้งขึ้นไว้ตามที่พระเจดีย์เดิมของโบราณมีมา พระเจดีย์เดิมนั้นมีผู้ขุดค้นหาได้สิ่งหนึ่ง ซึ่งผู้ขุดสำคัญว่าจะมีขุดค้นจนที่นั้นยับเยินแล้วกลาดเกลื่อนอยู่นาน ครั้งหนึ่งได้เสด็จมาทอดพระเนตรเห็น พบแต่องค์ระฆังพระเจดีย์เก่ายังเหลือทิ้งอยู่ในถ้ำ จึงได้เก็บงำไปซ่อมแซมใส่ยอดใส่ฐานหล่อด้วยทองเหลือง ครั้นทำสำเร็จแล้ว ลงรักปิดทองแล้ว จึ่งได้บรรจุพระพุทธสารีริกบรมธาตุขนาดน้อยสีดอกพิกุล ๓ พระองค์ ในกล่องจันแดงชั้น ๑ จันขาวชั้น ๑ บัลลังกศิลาหอย ๑ เป็นสามชั้น ใส่ถุงตาด แล้วบรรจุใส่ในพระเจดีย์ศิลาลายกับใบพระมหาโพธิ ที่มีพืชพันธุ์สืบมาแต่ไม้พระมหาโพธิซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่พระโพธิญาณ ณ อุรุเวลาประเทศโพ้น แลพระพุทธเจ้ารูปทองเหลืองหล่อพระองค์หนึ่ง หน้าตักนิ้วหนึ่ง กับแผ่นกระดาษน้อยสองแผ่นมีลายพระราชหัตถ์ ทรงเขียนเส้นหมึกเป็นพระประชุมพุทธวจนแลปัจฉิมพุทธวจนแลโอวาทปาฏิโมกข์แลพระพุทธคุณธรรมคุณสังเขป แลทรงพระอธิษฐานเดชคุณานุภาพพระรัตนตรัยขอให้มีสวัสดิเจริญแก่ผู้ได้มานมัสการแลบูชาบรรจุไว้ด้วย แล้วเชิญพระเจดีย์ศิลาติดตั้งบนแท่นศิลา บูชาด้วยดอกไม้ทำด้วยกระดาษปิดทองคำเปลวแล้วครอบด้วยลุ้งดีบุก บรรจุลงในพระเจดีย์ทองเหลืองนั้นกับทั้งใบลานจานพระพุทธวจโนวาทต่างๆ มีโอวาทปาฏิโมกข์เป็นอาทิ ลายนั้นก็เป็นใบลานปกติ ลงรักปิดทองเท่านั้น ไม่ใช่แผ่นทองแผ่นเงิน แล้วจึงบรรจุใส่ไว้ข้างในพระสถูปเจดีย์ศิลานี้ แล้วปิดโดยรอบแน่นหนา เพื่อจะประดิษฐานไว้ในที่พระเจดีย์เก่า เป็นการปฏิสังขรณ์ขึ้นไว้ เพื่อจะให้เป็นที่ไหว้นมัสการบูชาของเทพยดามนุษย์พระสงฆ์สามเณร สัปบุรุษซึ่งได้ไปมาถึงที่นี้ เป็นบุญเขตเท่านั้น ก็เพราะทราบธรรมดาคนมักสงสัยขุดค้นหาของดีที่สำคัญว่าจะบรรจุใส่ไว้ในพระเจดีย์ ดังเช่นเป็นมาแต่หลังแล้ว จะได้บรรจุใส่สิ่งของดีมีราคาเป็นของคนต้องการคือเงินทองเพชรพลอยอย่างใดอย่างหนึ่งยิ่งไปกว่าของที่ว่ามาแล้วนั้นหามิได้เลย โดยถ้าผู้ใดจะมาขุดทำลายออกหาทองเงิน ก็จะพบแต่ทองคำเปลวที่ปิดพระเจดีย์ทองเหลืองนั้นอยู่ โดยจะลอกเอาไปผสม ก็จะเป็นทองไม่ถึงเฟื้อง กับเศษตาดซึ่งเป็นถุงใส่กล่องพระบรมธาตุ ข้างขลิบท่อนผ้าทรงพระเจดีย์บ้าง ห่อใบลานจานพระพุทธวจนะนั้นบ้าง ถ้าจะเอาตาดนั้นมาหลอมไล่เอาเงินก็จะไม่ถึงสองไพ หรือกึ่งเฟื้อง บอกไว้นี้เป็นความจริง เพราะการที่สร้างพระเจดีย์นี้ เป็นการทำบุญไม่โป้ปดอะไรไว้ดอก ขอเสียเถิด ใครอย่าได้ขุด ได้ทำลายเสียเลย ถึงขุดทำลายออก ก็คงไม่ได้ของดีมีราคาอะไร เหนื่อยเปล่าเป็นแท้ พระเจดีย์ที่ได้บรรจุปูชนียวัตถุดังกล่าวมาแล้ว ในวัน ๑๑๔ฯ๔ ค่ำ ปีวอก โทศก ศักราช ๑๒๒๒ พระพุทธศาสนกาล ๒๔๐๓ พรรษา เป็นวันที่ ๓๕๗๔ แห่งจตุตถรัชกาลนี้ พระชนมายุพระเจ้าแผ่นดิน ๒๐๕๘๒ วัน พระราชทานนามว่า พระธรรมยุตติก์เลนเจดีย์ ถึงพระบรมธาตุที่บรรจุไว้นั้น ก็เป็นพระบรมธาตุพระพุทธเจ้าเป็นที่นมัสการได้เกิดกุศลอย่างใหญ่อย่างสูงเท่านั้นดอก มิใช่พระธาตุพระสิมพลีที่หากันว่าขลัง ให้ลาภให้ผล ถึงจะขุดเอาไปขายซื้อ ก็จะไม่ได้ดอกฯ ซึ่งเชิญมาบรรจุไว้ในที่นี้นั้น ก็ด้วยทรงพระเมตตาพระกรุณาแก่ชนไปมาทั้งปวง จะให้ได้บุญได้กุศลทั่วหน้าไปไม่ว่าใคร ถ้าใครขุดเอาไปไว้เป็นของตัวเสียผู้เดียว กุศลของมหาชนเป็นอันมากการนั้นก็จะหาเป็นบุญเป็นกุศลไม่ จะกลับเป็นบาปไปเสีย จงให้อยู่ในที่นี้ ไว้นมัสการบูชาด้วยกันกับชนทั้งปวงเถิดฯ
(คัดจากหนังสือ เรื่องพระราชกระแสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาคที่ ๑ หน้า ๑๘-๒๐)