- คำนำ
- อธิบายความว่าด้วยประกาศรัชกาลที่ ๔
- ๑ ประกาศพระราชบัญญัติมรฎกสินเดิมแลสินสมรศ
- ๒ ประกาศเรื่องโจททิ้งฟ้อง
- ๓ ประกาศเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม
- ๔ ประกาศให้ข้าราชการลอกพระราชบัญญัติจากหอหลวง
- ๕ ประกาศห้ามตัดกระบวนทางเสด็จ
- ๖ ประกาศพระราชทานนามหม่อมเจ้า
- ๗ ประกาศว่าด้วยสังฆทาน
- ๘ ประกาศให้ใช้ในคำว่า สมเด็จ ให้ถูกตามเกียรติยศ
- ๙ ประกาศห้ามไม่ให้ใช้คำว่า ชอบเนื้อเจริญใจ แลติดเนื้อต้องใจ ในคำกราบทูล
- ๑๐ ประกาศเรื่องนามพระยาอิศรานุภาพแลพระธัญญาภิบาล
- ๑๑ ประกาศเรื่องเรียกกะปิน้ำปลา ว่าเยื่อเคยน้ำเคย
- ๑๒ ประกาศเรื่องเรียกกะปิน้ำปลา ว่าเยื่อเคยน้ำเคย
- ๑๓ ประกาศเรื่องนาม พระอินทรอาสา ขุนอินทโรดม
- ๑๔ ประกาศนามพระที่นั่งสุทไธสวรรย์แลพระที่นั่งพุทไธสวรรย์
- ๑๕ ประกาศเตือนผู้ที่ใช้อักษรผิด
- ๑๖ ประกาศว่าด้วยการสร้างวัด
- ๑๗. ประกาศพระราชบัญญัติฝ่ายพระบวรราชวัง เรื่องเล่นเบี้ยในพระบวรราชวัง
- ๑๘ ประกาศเรื่องถวายฎีกา
- ๑๙ ประกาศเรื่องนามหลวงบันเทาทุกขราษฎร์
- ๒๐ ประกาศว่าด้วยเรื่องฟ้องหาปาราชิก
- ๒๑ ประกาศห้ามคฤหัสถ์ไม่ให้สมคบภิกษุสามเณรที่ประพฤติอนาจาร
- ๒๒ ประกาศว่าด้วยเรียกชื่อกรมล้อมพระราชวัง
- ๒๓ ประกาศว่าด้วยถวายของในงานโกนจุก
๕ ประกาศห้ามตัดกระบวนทางเสด็จ
(คัดจากหมายรับสั่งเดือน ๘ ปีชวด จุลศักราช ๑๒๑๔)
ศุภมัสดุ ศักราช ๑๒๑๔ ปีชวดจัตวาศก เชฐมาศกาลปักษ์ เตรสีดฤถี จันทรวาร ปริเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ สมมุติเทพยพงศ์วงศาดิศวรกระษัตริย์ วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศบรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหสุริยพิมาน โดยสถานอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระราชวงศานุวงศ์เสนามาตย์ราชมนตรีกระวีชาติ ราชบัณฑิตราชปโรหิตโหราจารย์เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทโดยอันดับ จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ เฉพาะพระศรีภูริปรีชาเสนาบดีศรีสาลักษณ์ ให้แต่งพระราชบัญญัติประกาศข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือน ซึ่งมีพนักงานในกระบวนแห่เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคทางสถลมารคให้รู้จงทั่วกัน ว่าแต่นี้สืบไปเมื่อน่า ถ้าเสด็จพระราชดำเนินไปณที่ตำบลใด ให้เจ้าพนักงานผู้ซึ่งต้องเกณฑ์ในกระบวนแห่น่าแห่หลังทั้งปวงระวังระไวให้กวดขัน ถ้าเสด็จทางชลมารคห้ามอย่าให้เรือเจ้าต่างกรม แลยังไม่มีกรม แลเรือข้าราชการฝ่ายน่าฝ่ายใน ในพระบรมมหาราชวัง แลพระบวรราชวัง แลเรือราษฎรทั้งหลายพายล่วงลัดตัดกระบวนแห่แลล่วงกระบวนเข้ามาได้เปนอันขาดทีเดียว ถ้าเห็นเรือใดๆ พายเข้ามาก็ให้เจ้าพนักงานซึ่งอยู่ในกระบวนนั้นห้ามปราม ถ้าห้ามมิฟังให้ยิงด้วยกระสุน ถ้ายังมิฟังให้ยุดเรือไว้ ถ้าเสด็จประทับอยู่ในพระอารามฤๅที่ใดๆ ไกลจากเรือพระที่นั่งแลเรือในกระบวนแห่ทั้งปวง ประทับอยู่กับฝั่งยังหาได้ออกลอยลำไม่ ถ้ามีเรือใดๆ พายเข้ามา ก็ให้เจ้าพนักงานในกระบวนแห่เรียกเข้ามายุดเรือไว้ไต่ถามว่าจะไปด้วยราชการอันใดฤๅจะไปที่ไหน แล้วให้ถามกันต่อๆ ขึ้นไปในพวกกระบวนแห่ ให้ได้ความว่าจวนเวลาจะเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งแล้วฤๅยังไม่จวนเวลา ถ้าได้ความเปนแน่ว่ากาลยังนานอยู่จึงจะเสด็จพระราชดำเนิน ให้ค้นคว้าเครื่องสาตราวุธเสียให้สิ้นเชิง เมื่อรู้เปนแน่ว่ามิใช่เรือคนร้ายแล้วจึงให้ปล่อยไป ถ้าเห็นว่ากาลจวนจะเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งแล้ว ให้เจ้าพนักงานค้นคว้าเครื่องสาตราวุธใหญ่เล็กเสียก่อนแล้ว จึงบังคับให้เรือนั้นจอดแอบฝั่งยั้งหยุดเสีย จนสิ้นกระบวนแห่แล้วจึงค่อยไป
ถ้าเสด็จพระราชดำเนินทางสถลมารค ให้เจ้าพนักงานในกระบวนแห่ระวังห้ามคนอย่าให้แปลกปลอมเข้าไปในกระบวนแห่ แลเดินล่วงลัดตัดกระบวนแห่ไปได้เปนอันขาดทีเดียว ถ้าเสด็จประทับอยู่ในอารามฤๅที่ใดๆ ก็ให้ระวังห้ามปราม อย่าให้ผู้หนึ่งผู้ใดล่วงเข้าไปในล้อมวง ถ้าผู้ใดมิฟังจะขืนเข้าไปให้ได้ก็ให้เจ้าพนักงานยุดตัวไว้ไต่ถามให้ได้ความว่าจะเข้าไปด้วยราชการสิ่งใด แล้วให้ค้นคว้าเครื่องสาตราวุธซึ่งจะพึงเหน็บส้อนเข้าไปได้นั้นเสียก่อน เมื่อรู้เปนแน่ว่ามิใช่พวกคนร้ายแล้วจึงปล่อยเข้าไป ถ้าเจ้าพนักงานผู้ใดๆ มิทำตามพระราชบัญญัตินี้ จะให้ลงพระราชอาญาเจ้าพนักงานโดยโทษานุโทษ.