เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๖๙

วัน ๒ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒ มีนาคม ๑๒๖

ที่วัดเมรุเทพศิรินทร์ เวลาเช้าเจ้าพนักงานแปรรูปเดินสามหาบ เจ้าภาพทรงทอดผ้าไตรสามหาบ ทรงเก็บอัษฐิ พระสงฆ์ฉันสามหาบแล้ว เจ้าภาพได้ทรงมีพระธรรมเทศนาแลบังสุกุล แล้วเจ้าพนักงานยกโกษอัษฐิไว้ ณ ศาลาดำรงธรรม แล้วได้ชักศพเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงษ์เข้าตั้งในเมรุประกอบหีบทองทึบ การมโหรศพคงมีอย่างวันก่อน เวลาบ่ายพระราชทานเพลิง พระราชทานไตร ๕ ไตร ผ้าขาวพับ ๑๐ พับ กัลปพฤกษ์ ๒ ต้นๆละ ๒๐ บาท กับดอกไม้เพลิงแลหนัง

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกมุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จประทับที่พระที่นั่งราชฤดี ทรงทำเครื่องเสวยแล้วเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๕ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓ มีนาคม ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลาเช้าเจ้าพนักงานดับเพลิงแปรรูปเก็บอัษฐิแล้วเป็นเสร็จการ

เวลาราว ๒ ทุ่มเสด็จออกประทับมุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่ม ๓๕ นาที เสด็จประทับพระที่นั่งราชฤดีทรงทำเครื่องเสวย แล้วเสด็จขึ้นเวลา ๕ ทุ่ม

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๔ มีนาคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จวังพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์ ทอดพระเนตรการตกแต่งตำหนักสำหรับการที่พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นี้จะขึ้นตำหนักในวันพรุ่งนี้ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๕ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๕ มีนาคม ๑๒๖

ที่วังพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์ เวลาย่ำค่ำเศษมีการสวดมนต์ในการขึ้นตำหนัก พระฤกษ์ เวลา ๔ ทุ่ม ๒๐ นาที ๔๖ วินาที เปนปฐมฤกษ์ เสด็จขึ้นพระแท่นบรรทมเมื่อสวดมนต์จบแล้ว เวลาทุ่มเศษในหลวงเสด็จไปประทับบนตำหนักนี้ มีพระราชดำรัสด้วยพระสงฆ์ แล้วพระสงฆ์ถวายอติเรกในหลวงเสด็จลงประทับห้องชั้นล่างด้านตวันออกเสวยแล้วเสด็จประทับโรงลครทอดพระเนตรลครพระยาเพ็ชรปาณีเล่นเรื่องแก้วหน้าม้าตอนเมื่อนางแก้วหน้าม้าถอดรูป เมื่อจวนจะถึงเวลาพระฤกษ์ในหลวงเสด็จแต่โรงลคร พระเจ้าลูกยาเธอเสด็จประทับพระแท่นสรง ในหลวงทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์พระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ แล้วเสด็จขึ้นบนพระตำหนักทรงปูพระที่บรรธม เสร็จการสรงแล้วพระเจ้าลูกยาเธอทรงแต่งพระองค์ใหม่ ครั้นถึงเวลาปฐมฤกษ์ พระเจ้าลูกยาเธอเสด็จขึ้นบรรธมบนพระแท่น ในหลวงทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์แลทรงเจิมพระราชทานพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์กับหม่อมเจ้าหญิงวรรณวิไลยในพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นี้แล้วสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีได้พระราชทานพระพร แลเจ้านายฝ่ายในได้ทรงอำนวยพระพรต่อไป เจ้านายแลข้าราชการชั้นเจ้าพระยาได้ทรงอำนวยพรแลถวายพระพร เมื่อเสร็จการขึ้นพระแท่นบรรธมแล้วในหลวงเสด็จลงประทับห้องชั้นล่าง เสด็จกลับวังสวนดุสิต เวลา ๕ ทุ่มเศษ

วัน ๖ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๖ มีนาคม ๑๒๖

ที่วังพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์เวลาเช้าพระเจ้าลูกยาเธอได้ทรงจัดการเลี้ยงพระแลทรงแจกเงินแก่ผู้ที่มีน่าที่ต่างๆ แล้วเปนเสร็จการ

เวลาราว ๒ ทุ่มในหลวงเสด็จออกประทับ ณ มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่ม ๒๓ นาทีเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๗ มีนาคม ๑๒๖

ด้วยนับแต่วันที่พระเจ้าอัยธิกาเธอกรมหลวงวรเสรฐสุดาสิ้นพระชนม์มาครบกำหนด ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๙ มีนาคม ทรงพระกรุณาโปรดให้มีการพระราชกุศล ๑๐๐ วัน วันนี้เวลาบ่ายพระสงฆ์ฝ่ายอานัมแลจีนมีพระครูคณานัมสมณาจารย์เปนประธานทำพิธีกงเต็ก เวลาทุ่มเศษในหลวงเสด็จออก ณ หออุเทศทักษิณามีสวดมนต์อภิณหปัจจเวกขณ์ธัมมสังคินีมาติกา แล้วปัสนาภูมิ พระสงฆ์ที่สวดมนต์ ๑๐ รูปมีพระธรรมปาโมกข์เปนประธานสวดมนต์จบแล้วทรงทอดไตร พระที่สวดมนต์สดับปกรณ์ แล้วพระธรรมราชานุวัตรถวายเทศนาธัมมทเทศกถาจบแล้วถวายยะถาพระที่สวดมนต์รับสัพพี ทรงทอดไตรอีกไตรหนึ่ง พระธรรมราชานุวัตรสดับปกรณ์แล้วทรงประเคนเครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์ พระธรรมปาโมกข์ถวายอติเรก พระธรรมราชานุวัตรถวายพระพรลา พระกงเต็ก ๘ รูปสวดตั้งเครื่องเสร็จแล้วในหลวงมีพระราชดำรัสด้วยกรมหลวงวชิรญาณวโรรสซึ่งเสด็จไปประทับ ณ ที่นั้นเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๘ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเพลโปรดให้กรมหมื่นปราจิณกิติบดีเสด็จเลี้ยงพระที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ แล้วโปรดให้มีสดับปกรณ์รายร้อย ๑๐๐ รูป ส่วนพระกงเต๊กก็ให้สวดพิธีกงเต๊ก แลในวันนี้ตอนเมื่อสวดตั้งเครื่องแล้วมีสวดลอยกะทงด้วย เวลา ๒ ทุ่มในหลวงเสด็จออก ณ หออุเทศมีพระราชดำรัสด้วยกรมหลวงวชิรญาณซึ่งเสด็จมาประทับ ณ ที่นี้ประมาณครู่หนึ่ง แล้วพระมหาอยู่ปเรียญ ๙ ประโยควัดเทพศิรินทร์ถวายเทศนาปกิณณกกถาจบแล้วถวายยะถา พระเทพกวีผู้นำแลพระรับสัพพีรวม ๕ รูปสัพพีแล้วทรงทอดไตร ๆ หนึ่ง กับผ้าขาวพับ ๕ พับ พระสงฆ์สดับปกรณ์ แล้วทรงประเคนเครื่องไทยธรรมใบวัดถุเปนมูลปัจจัยราคา ๒๐๐ บาท รางวัลในการถวายเทศนาเปนที่พอพระราชหฤทัยแก่ผู้ถวายเทศนาแล้ว พระเทพกวีถวายอติเรกถวายพระพรลา พระกงเต๊กขึ้นไปสวดตั้งเครื่องอย่างเมื่อวานนี้ แล้วลงไปยืนชุมนุมเปนสองแถวที่น่าโรงกงเต๊กสวดพิธีลอยกระทงๆ ที่ลอยนี้ประมาณ ๔๐ กระทง ทำอย่างกระทงเจิมปักดอกไม้ธูปเทียนแต่ไม่เย็บด้วยใบตอง ใช้ขันเคลือบแทน เมื่อสวดจบแล้วคฤหัศถ์เปนผู้ลอย ในการลอยกระทงนี้มีเด็กแลผู้ใหญ่กระโดดลงไปแย่งกระทงนั้นน่าดูมาก เสร็จการลอยกระทงแล้ว เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๙ มีนาคม ๑๒๖

ในการพระราชกุศล ๑๐๐ วันที่หออุเทศทักษิณาวันนี้พระกงเต๊กได้สวดพิธีกงเต๊กอย่างวันที่แล้วมา แต่ได้ขึ้นไปสวดตั้งเครื่องก่อนน่าเสด็จออก ครั้นเวลาย่ำค่ำเศษเสด็จออกทรงรอพระกงเต๊กสวดพิธีทิ้งกระจาดเผากระดาษ ประทับที่หน้าโรงกงเต๊กมีพระราชดำรัสด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชซึ่งเสด็จไปทรงตรวจราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือพึ่งเสด็จกลับถึงกรุงเทพ ฯ มาเฝ้าในวันนี้ พระกงเต็กสวดจบแล้ว ในหลวงทรงโปรยฉลากกงเต็กพระราชทาน แล้วเสด็จประทับ ณ หออุเทศทักษิณาทรงวางพวงมาลาที่พระศพ เจ้านายข้าราชการทรงวางพวงมาลาต่อไปเสร็จแล้วพระวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต ถวายเทศนาศราธพรตคาถาจบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะพระราชาคณะรวม ๒๐ รูปสวดศราธพรตคาถา แลธรรมสังคิณีมาติกาเปนต้น จบแล้วทรงทอดผ้าไตรแลโปรดให้พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภชทรงทอดบ้างรวม ๒๑ ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ แล้วทรงประเคนใบวัดถุเปนมูลปัจจัยราคา ๘๐ บาทกับเครื่องบูชากัณฑ์เทศน์ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรตถวายยะถา สมเด็จพระวันรัตถวายอติเรก พระพิมลธรรมถวายพระพรลา แล้วโปรดให้นิมนต์พระกงเต๊กขึ้นไปสดับปกรณ์ พระกงเต๊กสวดพระธรรมจบแล้วทรงทอดผ้าขาวพับ พระกงเต๊ก ๒๙ รูป มีพระครูคณานับสมณาจารย์เปนประทานสดับปกรณ์แล้ว เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น กรมหลวงวชิรญาณวโรรสได้ทรงมีสดับปกรณ์อีก ๒๐ รูป พระที่สวดศราธพรตสดับปกรณ์แล้วเปนเสร็จการ

อนึ่งในเวลาบ่ายวันนี้ได้มีสวดมนต์ในการถวายผ้าจำพรรษาที่วัดอรุณราชวราราม

วัน ๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๐ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเช้า หม่อมเจ้าพร้อม ในพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท เสด็จไปเลี้ยงพระแลถวายผ้าจำพรรษาที่วัดอรุณ การทำบุญถวายผ้าจำพรรษานี้ แต่ก่อนมาเมื่อทำที่วัดอรุณแล้ว เคยมีสวดมนต์เลี้ยงพระถวายผ้าจำพรรษาวัดราชโอรสซึ่งเปนวัดประจำรัชกาลที่ ๓ ต่อไป ในปีนี้กรมหลวงวรเสรฐสุดาสิ้นพระชนม์หมดพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๓ จึงเลิกการถวายผ้าจำพรรษาวัดราชโอรส เหมือนเมื่อเลิกการถวายผ้าจำพรรษาวัดพระเชตุพนเมื่อหมดพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๑ ฉนั้น

เวลาเกือบย่ำค่ำในหลวงเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต โปรดให้มิสเตอร์เอฟเอมเดอเทรสเชนายร้อยโททหารม้านอรเวเฝ้า แล้วทรงรถเสด็จวัดราชประดิษฐประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแลทรงพระราชอุทิศถวายเชิงเทียนกิ่งก้าไหล่ทองสูงประมาณ ๓ ศอกเศษ มีโคมไฟฟ้า เปนเชิงเทียนขนาดกลางคู่หนึ่งซึ่งเปนของโปรดให้ทำมาเมื่อเสด็จยุโรปคราวนี้ เปนพุทธบูชาแล้วทรงจุดเทียนที่พาน มหาดเล็กเชิญมาทูลเกล้า ฯ ถวายที่น่าพระพุทธปฏิมากรแล้วเสด็จทางหลังพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการพระมหาเจดีย์ แล้วเสด็จมาทรงจุดเทียนเครื่องทองน้อยในพระอุโบสถ มีพระราชดำรัสด้วยพระสงฆ์ สักครู่หนึ่งประทับพระราชอาศน์พระสงฆ์ในพระอารามนี้ได้เจริญพระพุทธมนต์ ในหลวงเสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จไปประทับที่ปราสาทด้านตวันตกซึ่งประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนถวายบังคมพระบรมรูป แล้วเสด็จกลับวังสวนดุสิตเวลาย่ำค่ำเศษ มาประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิตจนเวลาราว ๒ ทุ่ม เสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลายามครึ่งเลิกประชุม

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๑ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเพลสมเด็จพระบรมราชินีนารถ แลพระบรมวงษานุวงษ์ ได้เสด็จเลี้ยงพระแลถวายผ้าจำพรรษาที่วัดราชประดิษฐ์

เวลาย่ำค่ำเศษ ในหลวงเสด็จไปประทับในพระอุโบสถวัดราชบพิธ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแลเทียนต่าง ๆ แล้วทรงถวายเชิงเทียนกิ่งอย่างวัดราชประดิษฐ แล้วมีพระราชดำรัสแก่พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต สักครู่หนึ่งแล้วพระสงฆ์ในพระอารามได้เจริญพระพุทธมนต์ เวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับวังสวนดุสิต ประทับที่ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ มีเจ้านายข้าราชการเข้าไปเฝ้า เวลายามเศษเสด็จขึ้น ในหลวงเสด็จวัดราชบพิธวันนี้ ทอดพระเนตรเห็นวัดชำรุดมากได้ทรงพระราชดำริห์จะทำการปฏิสังขรณ์ให้ดีขึ้น การปฏิสังขรณ์นี้คือจะทำเป็นปี ๆ มีเงินประจำสำหรับปฏิสังขรณ์ปีละ ๕๐ ชั่ง โปรดให้พระยาอนุรักษ์ราชมนเฑียรเปนเจ้าหน้าที่สำหรับจัดการปฏิสังขรณ์ ตั้งต้นแต่ ร. ๔๑ศก ๑๒๗ เปนต้นไป

วัน ๕ ๑๑ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๒ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเพลสมเด็จพระบรมราชินีนารถแลพระบรมวงษานุวงษ์ฝ่ายในได้เสด็จไปเลี้ยงพระแลถวายผ้าจำพรรษาที่วัดราชบพิธ

เวลาบ่ายเสด็จออกประทับที่ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ ครั้นเวลา ๒ ทุ่มครึ่งเสด็จออกประทับ ณ มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ กรมขุนสรรพสาตร กรมหลวงดำรง พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง พระยาวรพงษ์ พระยานรฤทธิ์ลองรถมอเตอร์คาร์ถวายตัว เวลายามเศษเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๔ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๖ ๑๒ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๓ มีนาคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมง ๔๐ นาที เสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต คอมมานเดอยอชโอกิลวีผู้บังคับการเรือรบรัสเซียเฝ้า แล้วเสด็จประทับตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์จนเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๔ มีนาคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงครึ่ง เสด็จออกประทับที่ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์จนเวลาเกือบยามเสดจขึ้น

วัน ๑ ๑๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๕ มีนาคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกประทับที่ชาลาตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ แล้วข้างในออกทรงนำข้างในไปดูโรงลครตรงหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๕ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๖ มีนาคม ๑๒๖

ด้วยเจ้าจอมมารดาอ่อนพร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าอรประพันธุรำไพแลพระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภาได้สถาปนาพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ขวาห้ามพยาธิ์ อันมีอย่างมาแต่เมืองเพ็ชรบุรีเพื่อถวายให้ประดิษฐานไว้ในพระระเบียงวัดเบ็ญจมบพิตรองค์หนึ่ง แลเจ้าจอมเอี่ยมได้สถาปนาพระพุทธรูปยกพระหัดถ์สองข้างห้ามสมุทตามแบบพระพุทธรูปโบราณองค์หนึ่ง พระพุทธรูป ๒ องค์นี้วัดสูงขนาดตัวหล่อที่วัดจักรวรรดิ์แต่เมื่อ ร.ศก ๑๒๕ โปรดเกล้า ฯ ให้จัดการฉลองพระพุทธรูป ๒ องค์นี้ที่พระที่นั่งราชฤดีสวนแง่เต๋งวังสวนดุสิต วันนี้เวลาทุ่มเศษในหลวงเสด็จออกประทับในการสวดมนต์ที่พระที่นั่งนั้น พระสงฆ์ที่สวดมนต์ ๑๐ รูป มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เปนประธานสวดสัตปริตจบแล้ว เสด็จไปประทับเสวยที่โรงเลี้ยงหน้าพระที่นั่งราชฤดีแล้วเสด็จกลับมาประทับพระที่นั่งราชฤดี แล้วทรงพระดำเนินไปประทับทอดพระเนตรโขนของพระยาเพ็ชรปาณีที่เล่นในงานนี้จนเวลา ๗ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๗ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเพลในหลวงเสด็จลงประทับ ณ พระที่นั่งราชฤดี พระสงฆ์ที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ถวายพรพระกระทำภัตกิจ เสร็จแล้วได้รับเครื่องไทยธรรมที่พระสูตรด้านเหนือ ถวายอนุโมทนาถวายอติเรกถวายพระพรลา ในหลวงเสด็จประทับเสวยแล้วเสด็จขึ้น ครั้นเวลาค่ำเสด็จลงประทับพระที่นั่งราชฤดี โปรดให้เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระพุทธรูปแล้วทรงสดับพระธรรมเทศนา กรมหลวงวชิรญาณวโรรสถวายเทศนาพระพุทธคุณแก้ด้วยบารมี แลมีมาตาปิตุปัฏฐานในเริ่มต้นจบแล้วถวายยะถา มีพระปเรียญเอก ๔ รูป รับสัพพี เจ้าของงานได้ถวายของเสร็จแล้ว กรมหลวงวชิรญาณวโรรสถวายอติเรกถวายพระพรลา ในหลวงประทับเสวยๆ แล้วประทับทอดพระเนตรลิเกสัตรีบรรเลงแล้วเสด็จขึ้น เปนเสร็จการ

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๘ มีนาคม ๑๒๖

ด้วยตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นในวังสวนดุสิตสำเร็จแล้ว โปรดให้มีมงคลการให้พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภชขึ้นประทับอยู่ ณ ตำหนักนี้ ในการนี้วันนี้เวลาค่ำมีเลี้ยงข้าราชการที่ตำหนักนี้ ในหลวงได้เสด็จประทับเสวยด้วย เสร็จการเลี้ยงแล้วเสด็จไปประทับทอดพระเนตรปี่พาทย์ที่พลับพลาโรงลครหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลาประทับทอดพระเนตรนี้ได้พระราชทานเหรียญแก่พวกปี่พาทย์หลายนาย ประทับอยู่จนเวลาสมควรเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๙ มีนาคม ๑๒๖

เปนวันมีมงคลการขึ้นตำหนัก เวลาค่ำในหลวงเสด็จออกประทับเสวยเครื่องเกาเหลาที่โรงเลี้ยงหน้าพระที่นั่งราชฤดีแล้วเสด็จมาที่ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ เสด็จขึ้นประทับชั้นบนมีการสวดมนต์ พระสงฆ์ที่สวดมนต์ ๕ รูป มีกรมหลวงวชิรญาณวโรรสเปนประธาน เมื่อสวดมนต์จบแล้วมีพระราชดำรัสด้วยพระสงฆ์ครู่หนึ่งแล้วพระสงฆ์ถวายอติเรกถวายพระพรลา ในหลวงเสด็จไปประทับพลับพลาโรงลคร ทอดพระเนตรลครผสมสมัคคีจนเวลา ๔ ทุ่มเศษ เวลา ๕ ทุ่มเศษเสวยเครื่องว่าง ครั้นเวลาจวน ๒ ยาม พระเจ้าลูกยาเธอที่จะขึ้นตำหนักประทับพระแท่นสรง ในหลวงทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์แลในพระเต้าๆ ต่าง ๆ พระราชทานแล้วเสด็จขึ้นบนตำหนักทรงปูพระที่บรรธมด เสร็จการสรงแล้ว พระเจ้าลูกยาเธอเสด็จขึ้นตำหนัก พอได้เวลาปฐมฤกษ์ ๒ ยาม ๑ นาที ๑๒ วินาที พระเจ้าลูกยาเธอเสด็จขึ้นพระแท่นบรรธม ในหลวงทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทรงเจิมพระราชทาน แล้วเจ้านายฝ่ายในฝ่ายน่าได้ทรงอำนวยพรพระพรต่อไป ในหลวงเสด็จไปประทับทอดพระเนตรลครอีก จนเวลา ๘ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๐ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเพลในหลวงแลพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จออกโปรดเกล้า ฯ ให้นิมนต์พระที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ไปพร้อมที่บนตำหนักถวายศีลถวายพระพรจบแล้วลงไปประทับแลนั่งโต๊ะที่ชั้นล่างในตำหนักนั้น กระทำภัตกิจเสร็จแล้วขึ้นไปชั้นบนรับประเคนเครื่องไทยธรรมแลทำพระปริต แล้วกรมหลวงวชิรญาณวโรรสได้ประทานน้ำพระพุทธมนต์ในพระครอบพระกริ่งแก่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช พระสงฆ์สวดชยันโตเสร็จแล้ว ถวายอนุโมทนา ถวายอติเรก ถวายพระพรลา แล้วในหลวงทรงนำพระดูตำหนักทั่วแล้ว พระกลับ ในหลวงประทับเสวยที่ห้องโต๊ะพร้อมด้วยเจ้านายข้าราชการแล้วเสด็จขึ้น เวลาค่ำพระเจ้าลูกยาเธอ ได้เชิญเสด็จเจ้านายมาเลี้ยงบนตำหนักอีกวันหนึ่ง ครั้นเวลา ๒ ทุ่ม ในหลวงเสด็จมาทอดพระเนตร เจ้านายที่ได้ทรงรับเชิญมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเปนประธานประทับโต๊ะเสวยรวมเปน ๓๔ พระองค์ เสร็จการเสวยแล้ว เสด็จไปประทับทอดพระเนตรลครซึ่งพระสรรพการหิรัญกิจมีถวาย ประทับทอดพระเนตรอยู่จนเวลา ๒ ยามเศษเสด็จขึ้น เปนเสร็จการ

วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๑ มีนาคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงครึ่ง ทรงรถเสด็จประพาศตามถนนต่าง ๆ แล้วเสด็จกลับมาประทับที่พระที่นั่งอภิเศกดุสิตจนเวลาราวยามหนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๑ มีนาคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๒ มีนาคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษในหลวงเสด็จออกพระที่นั่งอัมพรสถานพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนารถโปรดให้มิสเตอร์แฮมิลตันคิงอรรคราชทูตอเมริกันกับภรรยาซึ่งจะไปยังประเทศอเมริกาชั่วคราวเฝ้ากราบถวายบังคมลา แล้วในหลวงเสด็จประพาศเขากบแลที่อื่นในสวนดุสิต เวลาย่ำค่ำครึ่ง เสด็จกลับมาประทับพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ในการสวดมนต์ทรงตั้งปเรียญวัดเบ็ญจมบพิตรซึ่งแปลพระปริตยัติธรรมได้ใน๔๐ศก ๑๒๖ นี้ แลทรงฉลองรวมทั้งที่ได้ค้างมาแต่ ๓๙ศก ๑๒๕ ด้วย พระสงฆ์ที่สวดมนต์ ๑๐ รูป มีสมเด็จพระวันรัตเปนประธาน สวดมนต์จบแล้วพระราชทานไตรย่ามประกาศนิยบัตรพัดปเรียญกับใบวัตถุพระราชทานเปนรางวัล ทรงตั้งพระสงฆ์สามเณรเปนปเรียญ พระสงฆ์ที่สวดมนต์สวดชยันโต พระสงฆ์สามเณรครองไตรกลับมานั่งตามเดิม ในหลวงพระราชทานกาน้ำร้อนนิเกอลขนาดเล็ก พร้อมด้วยถ้วยมีถาดรองกับจีวรแก่พระที่สวดมนต์ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายอติเรก ถวายพระพรลา ข้าทูลลอองธุลีพระบาทได้เฝ้าแลกราบถวายบังคมลาไปรับราชการหัวเมือง แลไปราชการชั่วคราว แล้วเวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดี ณ พระที่นั่งอัมพรสถานต่อไป เลิกประชุมเวลา ๕ ทุ่มเศษ

รายนามพระสงฆ์สามเณรที่ทรงตั้งเปนปเรียญแลมาฉลองในวันนี้ คือ

๓๙ศก ๑๒๕,

๑ พระมหาพัน ๙ ประโยค มาฉลอง

๒ พระมหาขาว ๖ ประโยค มารับรางวัล

๓ พระมหาเจริญ ๕ ประโยค มารับรางวัล

๔ พระมหาวิง ๔ ประโยค มารับรางวัล

๕ สามเณรฟู ๕ ประโยค มารับรางวัล

๓๙ศก ๑๒๕ ๔๐ศก ๑๒๖,

๖ พระมหาดอนใหม่ ๕ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล ๒ คราว

๗ สามเณรสิน ๔ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล ๒ คราว

๘ สามเณรบุญ ๔ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล ๒ คราว

๔๐ศก ๑๒๖

๙ พระมหายา ๕ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล

๑๐ สามเณรปลด ๘ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล

๑๑ สามเณรรอด ๔ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล

๑๒ สามเณรอิน ๓ ประโยค รับพระราชทานพัดแลรางวัล

วัน ๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๔ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ ในหลวงเสด็จลงประทับ ณ พลับพลาโรงลครหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ที่สวดเมื่อคืนนี้ ๑๐ รูป กับพระภิกษุสามเณรวัดเบญจมบพิตร ๑๒ รูป ซึ่งแปลได้ประโยค ๓๙ศก ๑๒๕ ๔๐ศก ๑๒๖ กับทั้งพระบรมวงษานุวงษ์ที่ทรงผนวช แลสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ ซึ่งได้กำกับสอบไล่ทางปริยัติธรรม แลพระสงฆ์สามเณรที่อยู่วัดเบญจมบพิตรรวมหมดด้วยกันอีก ๕๘ รูป แต่อาพาธแลไปทางไกลมาไม่ได้ ๑๓ รูป รวมหมดด้วยกันที่มารับพระราชทานฉันได้ในวันนี้ ๖๗ รูป เข้าไปพร้อมกัน ณ พลับพลาโรงลคร ในหลวงพร้อมด้วยเจ้านายข้าราชการได้ทรงปฏิบัติแลปฏิบัติพระสงฆ์ฉัน แล้วขึ้นไปนั่งพร้อมกัน ณ พลับพลา พระราชทานฉลากแก่พระสงฆ์ที่เป็นผู้สอบไล่พระปริยัติธรรม แล้วทรงรับฉลากซึ่งพระนำมาขึ้นรับพระราชทานสิ่งของตามฉลากเสร็จแล้ว พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอติเรกถวายพระพรลา, ได้โปรดให้เจ้าพนักงานรถมอเตอร์คาร์นำรถมาที่หน้าพลับพลารับเจ้านายที่ทรงผนวชแลสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะบางรูป ไปส่งยังพระอาราม ประทับเสวยพร้อมด้วยเจ้านายข้าราชการ เวลาโมงเศษเสด็จขึ้นเปนเสร็จการ

เวลาเกือบ ๒ ทุ่มเสด็จออกประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่ม ๔๐ นาทีเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๕ มีนาคม ๑๒๖

เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกประทับมุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลายามหนึ่งเสด็จขึ้นประทับที่ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์ แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งอัมพรสถานเวลา ๕ ทุ่มครึ่ง

วัน ๕ ๑๐ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๖ มีนาคม ๑๒๖

ด้วยโปรดให้จัดการสร้างตำหนักขึ้นที่เกาะสน ในวังสวนดุสิต ๖ ตำหนัก พระราชทานให้พระเจ้าน้องนางเธอเสด็จอยู่ตำหนักละพระองค์บ้าง ๒ พระองค์บ้างรวม ๘ พระองค์ คือตำหนักด้านเหนือ ๓ หลัง หลังที่ ๑ พระองค์เจ้าวาณีรัตนกัญญา หลังที่ ๒ พระองค์เจ้าศรีนาคสวาสด์ พระองค์เจ้าแขไขดวง หลังที่ ๓ พระองค์เจ้ากาญจนากร ตำหนักด้านใต้ ๓ หลัง หลังที่ ๑ พระองค์อรุณวดี หลังที่ ๒ พระองค์เจ้านารีรัตนา พระองค์เจ้าประดิษฐาสารี หลังที่ ๓ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน บัดนี้การสร้างตำหนักนี้สำเร็จแล้วจึงโปรดให้มีการทำบุญขึ้นตำหนัก ในการทำบุญขึ้นตำหนักนี้โปรดให้ปลูกปรำขึ้นสำหรับเปนที่มารวมทำบุญ ที่แปลงพลับพลาซึ่งรื้อเสียแล้วนั้น พระที่จะสวดมนต์เปนส่วนของเจ้าของงานนิมนต์องค์ละรูป ของหลวงนิมนต์รูปหนึ่ง บรรจบเปน ๙ รูป ของที่จะถวายพระก็จัดองค์ละรูปเหมือนกัน ของถวายพระส่วนของหลวงโปรดให้จัดต้นไม้ถวายด้วย ๘ คู่ ต้นไม้เหล่านี้เปนต้นไม้ขนาดเล็ก ซึ่งพอจะปลูกได้งาม มีต้นจำปีคู่หนึ่ง ต้นจำปาคู่หนึ่ง ต้นพิกุลคู่หนึ่ง ต้นแก้วคู่หนึ่ง ต้นกรรณิกาคู่หนึ่ง ต้นสท้อนคู่หนึ่ง ต้นมะม่วงคู่หนึ่ง ต้นขนุนคู่หนึ่ง วันนี้เปนวันสวดมนต์ขึ้นตำหนัก เวลาย่ำค่ำเศษในหลวงเสด็จไปประทับ ณ ปรำที่ทำบุญ โปรดให้เจ้านายที่จะเสด็จขึ้นตำหนักออกทรงจุดเทียนไขอย่างสูงที่ตั้งที่ม้าหมู่องค์ละเล่ม แล้วโปรดให้นิมนต์พระที่จะสวดมนต์มีพระพิมลธรรมเปนประธานเข้าไปนั่งที่อาศน์สงฆ์ ในหลวงทรงประเคนไตรแก่พระธรรมวิโรจน์ ซึ่งเป็นส่วนของหลวงนิมนต์ แล้วโปรดให้เจ้าของงานทรงประเคนองค์ละไตร พระครองไตรกลับมานั่งตามเดิมแล้ว โปรดให้พระเจ้าน้องนางเธอซึ่งมีพระชนมายุกว่าในหมู่ที่จะขึ้นตำหนักนั้นทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์สัตปริต ในหลวงทรงจุดเทียนที่พระครอบสัมฤทธิ์ แล้วทรงประเคนแก่พระพิมลธรรมนำพระปริตสวดมนต์จบแล้วเวลา ๒ ทุ่มเศษ ในหลวงเสด็จไปประทับบนตำหนักทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทรงเจิมพระราชทานเจ้านายที่ขึ้นตำหนักแล้ว โปรดให้เจ้านายฝ่ายในฝ่ายหน้าที่เจริญพระชนม์พรรษากว่าทรงอำนวยพระพรต่อไป แล้วในหลวงเสด็จประทับ ณ ปรำที่สวดพระพุทธมนต์ เสวยพร้อมด้วยเจ้านาย ณ ที่นั้นแล้ว เสด็จประทับทอดพระเนตรลครของพระองค์เจ้าวาณีรัตนกัญญา ซึ่งมีในการนี้ จนเวลา ๘ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๑๑ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๗ มีนาคม ๑๒๖

เวลาจวนเพลเสด็จลง ณ ปรำที่ทำบุญมีการเลี้ยงพระที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้แล้ว ในหลวงทรงพาพระสงฆ์ไปที่โรงลครซึ่งตั้งเครื่องไทยธรรม แล้วโปรดให้พระสงฆ์ส่วนของเจ้าของงานไปประน้ำมนต์ที่ตำหนัก แต่พระธรรมวิโรจน์ซึ่งเปนส่วนของหลวงโปรดให้ประน้ำมนต์โปรยทรายรอบตำหนักทุก ๆ ตำหนัก เวลาเที่ยงเศษเสด็จขึ้น โปรดให้พนักงานรถมอเตอร์คาร์นำพระสงฆ์ไปส่งยังพระอารามด้วย

อนึ่ง วันนี้เป็นวันสวดมนต์ตั้งน้ำวงด้ายการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ เวลาย่ำค่ำเศษในหลวงเสด็จพระบรมมหาราชวัง เสด็จออกพระที่นั่งดุสิต พระสงฆ์ ๒๐ รูป มีกรมหลวงวชิรญาณวโรรสเปนประธานเจริญพระพุทธมนต์ มีหม่อมเจ้าที่จะเกษากันต์ฟังสวดในพระฉาก ๑๖ องค์ คือหม่อมเจ้าหญิงก่องกาญจนา ในกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ๑ หม่อมเจ้าชายบุญฤทธิ์ ในกรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ ๑ หม่อมเจ้าหญิงบุญจิราทร ในกรมขุนสรรพสิทธิ์ประสงค์ ๑ หม่อมเจ้าชายสุรวุฒิประวัติ หม่อมเจ้าชายนิกรเทวัญ ในกรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ ๒ หม่อมเจ้าชายศิลปากร หม่อมเจ้าชายศิวากร หม่อมเจ้าหญิงพิมลวรรณ ในกรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์ ๓ หม่อมเจ้าหญิงพิไลยเลขา หม่อมเจ้าหญิงพัฒนายุ ในกรมหลวงดำรงราชานุภาพ ๒ หม่อมเจ้าหญิงกระมลปราโมทย์ ในกรมหมื่นจันทบุรีนฤนารถ ๑ หม่อมเจ้าหญิงวิมลปัทมราช ในกรมหมื่นนครไชยศรีสุรเดช ๑ หม่อมเจ้าชายสุทธิรักษ์ ในกรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ ๑ หม่อมเจ้าชายวรพงษ์พิสิษฐ์ ในพระองค์เจ้าวิไลยวรวิลาศ ๑ หม่อมเจ้าหญิงพานสุคนธ์ทอง ในพระองค์เจ้ากาญจโนภาศรัศมี ๑ หม่อมเจ้าชายทัศสุเทพ ในพระองค์เจ้าสุทัศน์นิภาธร ๑ สวดมนต์จบแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๗ ๑๒ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๘ มีนาคม ๑๒๖

วันนี้เปนวันจุดเทียนไชย เวลาเช้า ๔ โมง ๕๔ นาที ๔๔ วินาที เปนปฐมฤกษ์โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จพระที่นั่งดุสิต ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศีล แล้วทรงจุดเทียนทองทรงตั้งสัตยาธิษฐาน แลเทียนนั้นแก่กรมหลวงวชิรญาณวโรรสทรงจุดเทียนไชย พระสงฆ์สวดคาถาจุดถวายเทียนไชย แล้วมีการเลี้ยงพระ ๖๘ รูป แล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทรงจุดเทียนที่กระบะมุขที่เตียงพระสวดภาณวารแล้วเสด็จกลับเวลาเกือบเที่ยง เวลาย่ำค่ำเศษ ในหลวงเสด็จที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์จบแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วันนี้ทรงสั่งให้กรมหมื่นจันทบุรีนฤนารถ เปนเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ

วัน ๑ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๙ มีนาคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษ ในหลวงเสด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๒ ๑๔ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓๐ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเช้าใกล้พระฤกษ์ ในหลวงเสด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศีลแล้ว ครั้นได้พระฤกษ์ ๓ โมง ๕๘ นาที ๔๔ วินาที ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทรงจรดกรรไกรกรรบิดเกษากันต์ หม่อมเจ้าทั้ง ๑๖ องค์ แล้วหม่อมเจ้าทั้งนี้ไปสรงน้ำที่เขาไกรลาศแล้วขึ้นยังที่แท่นสรง ในหลวงเสด็จพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ แล้วเสด็จขึ้นประทับในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีการเลี้ยงพระแล้วเสด็จประทับ ณ มุขเหนือ พระพิมลธรรมประกาศเทวะดาจบแล้ว ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ แลทรงเจิมพระราชทานแก่หม่อมเจ้าที่เกษากันต์ เวลาเที่ยงเสด็จขึ้น

เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ตั้งบายศรีแก้วทองเงิน เวียนเทียนสมโภชหม่อมเจ้าที่เกษากันต์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ

เวลาย่ำค่ำ ในหลวงเสด็จออกประทับสนามหญ้าหน้าพระที่นั่งจักรกรีทอดพระเนตรกระบวนแห่พระสงฆ์มาเข้าพิธี การแห่พระสงฆ์เข้าพิธีปีนี้ กรมหลวงวชิรญาณวโรรสไม่ได้เสด็จ เพราะไม่ทรงสบาย ไม่ได้เสด็จมาตั้งแต่วันสวดมนต์วันที่ ๒๘ มีนาคม เหตุที่กรมหลวงวชิรญาณวโรรสไม่ทรงสบายนี้ ทำให้ทรงกริ้วมาก มีเรื่องดังนี้ คือนานมาแล้ว โปรดให้มีรถหลวงคอยสำหรับรับส่งกรมหลวงวชิรญาณไปมาในการพระราชพิธีต่าง ๆ เสมอมา ครั้นมาเมื่อวันจุดเทียนไชยนี้ รถมาส่งกรมหลวงวชิรญาณแล้วกลับไปเสียไม่ทราบว่าเพราะอะไร ครั้นกรมหลวงวชิรญาณจะเสด็จกลับรถมารับไม่ทัน กรมหลวงวชิรญาณต้องทรงพระดำเนินไปถึงวัดกำลังแดดถนนหนทางร้อนจัด ทำให้พระบาทพองไป จึงเปนเหตุให้ทรงกริ้วเจ้าหมื่นไวยวรนารถว่าไม่เอาใจใส่ในเรื่องนี้ โปรดให้เจ้าหมื่นไวยวรนารถไปกราบทูลขอโทษถึงวัดแลโปรดให้ตัดเงินเดือนผู้ซึ่งได้กำกับรถเพื่อเป็นแบบอย่างต่อไปด้วย แล้วในหลวงเสด็จไปทรงจุดเทียนในการสวดมนต์ๆ จบแล้ว พระพิมลธรรมประกาศเทวะดาแลสวดต่อไป เวลา ๒ ยามเสด็จกลับวังสวนดุสิต ในคืนวันนี้เจ้าพนักงานได้ยิงปืนใหญ่น้อยตามระยะที่กำหนดสำหรับยิงจนตลอดรุ่ง

วัน ๓ ๑๕ ๔ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓๑ มีนาคม ๑๒๖

เวลาเช้าที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีเลี้ยงพระที่สวดมนต์ เมื่อวันต้น ๒๐ รูป แลพระพิธีธรรมอีก ๔ รูป แล้วสมเด็จพระวันรัตดับเทียนไชย พระสงฆ์ประน้ำพระพุทธมนต์แลโปรยทรายทั่วพระราชมณเฑียรสถาน แล้วมีเวียนเทียนสมโภชพระบรมธาตุ แลพระไชยวัฒน์ประจำรัชกาล

เวลาย่ำค่ำเศษ ในหลวงเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิตทรงเจิมพระราชทานพระบรมวงษานุวงษ์เวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น มีการรื่นเริงปีใหม่ที่สวนแง่เต๋ง เป็นการฝ่ายใน แต่งแฟนศีเดรส เลิก ๑๐ ทุ่มเศษ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ