เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๙

วัน ๑ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ในวันนี้ โปรดให้เจ้าพนักงานจัดการพระราชทานเพลิงพระบุปโพกรมหมื่นมหิศรที่เมรุผ้าขาวข้างบรมบรรพตวัดสระเกษมีสดับปกรณ์ผ้าขาวพับ ๒ พับ รายร้อย ๑๐๐ รูป

เวลาบ่าย ๕ โมง ๓๕ นาที เสด็จออกโดยรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ มีพวกญวณมาเฝ้าถวายของตรุศจีนที่สนามหญ้าตรงหน้ากาดทหารมหาดเล็กแล้วเสด็จประพาศ เวลาย่ำค่ำ ๓๕ นาที เสด็จกลับมาประทับรับสั่งกับกรมหลวงดำรงที่หน้าพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ข้าราชการเฝ้าตามเคย เวลาทุ่มหนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลา ๒ ทุ่ม ๒๐ นาที เสด็จออกหน้ามุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิตเวลา ๒ ทุ่ม ๓๕ นาที เสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๗ ทุ่ม เลิกประชุม

วัน ๓ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเกิดเพลิงไหม้ที่ตำบลหลังตลาดบางรัก เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จไปช่วยดับเพลิง เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับมาประทับที่หน้ามุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เสด็จขึ้นจวน ๒ ทุ่ม วันนี้หม่อมเจ้าถาวรมงคลวงษ์ซึ่งอยุดการศึกษาวิชาณะประเทศยุโรปกลับเข้ามาในการพระศพกรมหมื่นมหิศร์ชั่วคราว ได้เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทด้วย เพลิงไหม้วันนี้ไหม้อยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมง ได้ความว่าเกิดไหม้ขึ้นที่ห้องจีนเตี๋ยบ ซึ่งเช่าห้องหยีกาเดอยู่ก่อน แต่จีนเตี๋ยบหนีไปยังจับตัวไม่ได้ ตึกเรือนโรงที่เพลิงไหม้รวม ๑๐๘ หลัง คิดเปนห้อง ๔๔๐ ห้อง

วัน ๔ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ทรงรถมอเตอร์คาร์เสด็จประพาศ แล้วเสด็จมาประทับพระที่นั่งอภิเศกดุสิตจนเวลายามหนึ่งเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาทุ่มครึ่ง เสด็จออกที่พระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมง ๔๐ นาที เสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต แฮร์วอนปรลเลียสราชทูตเยอรมันเฝ้ากราบถวายบังคมลาไปยุโรป กับครูฝรั่งที่เข้ามาใหม่เฝ้า เวลาเกือบย่ำค่ำเสด็จประพาศ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับมาประทับพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานทำเมรุผ้าขาวจัตรุมุขยอดมณฑปขึ้นที่สุสานวัดเทพศิรินทร์ เพื่อได้พระราชทานเพลิงพระศพ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย มีราชวัตรทึบ ฉัตรทอง เงิน นาค ชั้นในแลราชวัตรไม้ไผ่เบ็ญรงค์ชั้นนอก วันนี้เปนวันกำหนดชักพระศพ เวลาทุ่มเศษเจ้าพนักงานได้เชิญพระศพจากตำหนักมาตั้งเหนือราชรถน้อยประกอบพระโกษฐทองน้อย มีพระสาสนโสภณนำพระศพ หม่อมเจ้าวิวัฒนไชยทรงโปรย หม่อมเจ้าตระหนักนิธิผลโยงพระศพเดินกระบวนแห่ตั้งแต่หน้าวังไปอยุดที่ประตูสุสานด้านใต้ เวลา ๔ ทุ่มเศษในหลวงเสด็จไปประทับพลับพลาอิศริยาภรณ์โปรดให้เดินกระบวนแห่เวียนพระเมรุแล้วเจ้าพนักงานได้เชิญพระโกษขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีบัวกลุ่มตั้งบนถานคูหาอังกฤษมีถานเขียงรองห้อยฉัตรโหมดเหลือง ๕ ชั้น ตั้งพระศพเสร็จแล้วเสด็จไปประทับ ณ มุขเหนือในพระเมรุ ทรงทอดผ้าไตร ๑๕ ไตร พระสงฆ์มีพระสาสนโสภณเปนประธานสดับปกรณ์แล้วทรงทอดผ้าไตรอีกหนึ่งไตรสำหรับพระที่จะถวายเทศนากับผ้าสำหรับพระรับสัพพีกับผ้าขาวพับ ๓๐ พับ พระสงฆ์สดับปกรณ์อีกคราวหนึ่งแล้ว เสด็จขึ้นประทับพลับพลา พระมหาพร้อมปเรียญ ๗ ประโยควัดมหาธาตุถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง แล้วทรงจุดดอกไม้เพลิงแลทอดพระเนตรมโหรศพ มีญวนรำกระถาง สิงโต มังกร แลมีหนัง ๒ โรง เวลา ๒ ยามเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต ที่พระศพมีประโคมตามเวลาแลพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ๒ สร้าง

วัน ๑ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ตอนกลางวันตลอดวันมีการมโหรศพ โขน ๑ โรงหุ่น ๑ โรง มอญรำ ๑ โรง งิ้ว ๑ โรง เวลาบ่ายมีสดับปกรณ์ไทยธรรมส่วนของหลวง ๒๐๐ รูป เวลาเกือบย่ำค่ำในหลวงเสด็จไปประทับพลับพลาอิศริยาภรณ์ทอดพระเนตรการมโหรศพซึ่งมีในตอนเสด็จประทับคือ ไม้ลอย ญวนหก ไต่ลวดเปนต้น แล้วโปรดให้โปรยทานกัลปพฤกษ์ ๔ ต้น ๆ ละ ๒๐ บาท แลทรงโปรยพระราชทานเจ้านายข้าราชการฝ่ายน่าฝ่ายในแล้วเสด็จไปประทับในพระเมรุ ทรงทอดผ้าเท่าจำนวนเมื่อวานนี้ พระสงฆ์ ๕๐ รูปมีพระเทพมุนีเปนประธานสดับปกรณ์แล้วเสด็จไปประทับศาลาดำรงธรรมตรัสกับเจ้านายข้าราชการครู่หนึ่งเสด็จขึ้นประทับพลับพลาอิศริยาภรณ์ พระมหาอยู่ปเรียญ ๘ ประโยควัดอนงคารามถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง ได้พระราชทานปัจจัยมูลราคา ๑๐๐ บาท เปนรางวัลแก่พระมหาอยู่ในการที่ถวายเทศน์ดีด้วย แล้วทรงจุดดอกไม้เพลิงแลทอดพระเนตรการมโหรศพอย่างวานนี้ เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่พระเมรุวัดเทพศิรินทร์ตอนกลางวันมีสดับปกรณ์ส่วนของหลวง ๑๐๐ กับมีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมมีการมโหรศพอย่างวานนี้ตอนเย็นสดับปกรณ์ผ้าขาวพับของหลวง ๔๐ ตอนบ่ายเจ้าพนักงานได้จัดตั้งที่พระราชทานเพลิงกั้นฉากเทวะดาบังเพลิง เวลาย่ำค่ำเสด็จไปประทับ ณ พระเมรุ ทรงทอดผ้าไตร ๒๐ ไตร ผ้าสำรับ ๔ พระสงฆ์มีกรมหลวงวชิรญาณเปนประธาน สดับปกรณ์แล้วพระราชทานเพลิง แล้วเสด็จไปประทับบนพลับพลาโปรดให้ทิ้งทานผลกัลปพฤกษ์ แลทรงโปรยแล้วพระมหาผันปเรียญ ๖ ประโยควัดเบ็ญจมบพิตรถวายเทศนากันฑ์หนึ่งจบแล้วเสด็จประทับตรัสกับเจ้านายครู่หนึ่งแล้วเสด็จออกหน้าพลับพลาทรงจุดดอกไม้เพลิง แลทอดพระเนตรการมโหรศพ เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๓ ๑๐ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่พระเมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลาเช้า ๓ โมงเศษมีการเดินสามหาบ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผันทรงจุดเทียนแลทอดผ้าไตรสามหาบส่วนของหลวง พระสงฆ์ที่ฉันสามหาบมีพระสุเมธาจาริย์เปนประธานสดับปกรณ์ แล้วเจ้าภาพทรงเก็บอัฐิบรรจุในพระโกษทองเชิญออกประดิษฐานที่ม้าหมู่ที่อาศน์สงฆ์ มีสดับปกรณ์แลเทศนาตามสมควร เวลาเช้า ๕ โมงเศษเจ้าพนักงานได้เชิญพระอัฐิแห่ไปประดิษฐ์ไว้ ณ หอพระนาคในวัดพระศรีรัตนศาสดารามเปนเสร็จการนี้

เวลาทุ่ม ๔๕ นาที เสด็จออกประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มครึ่งเสด็จขึ้นไปประทับประชุมเสนาบดี ในพระที่นั่งอัมพรสถานเวลา ๕ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๔ ๑๑ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

วันนี้โปรดให้ชักพระศพกรมหมื่นพิศาลบวรศักดิ์กับพระศพกรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณไปทำการพระราชทานเพลิง ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทร์ต่อไป

เวลาทุ่มหนึ่งเจ้าพนักงานได้เชิญพระศพกรมหมื่นพิศาลขึ้นเหนือราชรถน้อย ประกอบพระโกษไม้สิบสองเดินกระบวนแห่แต่วังไปอยุดพักที่สี่แยกถนนวรจักร์แลเชิญพระศพกรมหมื่นจรัสขึ้นเหนือราชรถน้อยประกอบพระโกษไม้สิบสองเดินกระบวนแห่แต่วังไปสมทบเปนกระบวนเดียวกัน มีพระธรรมปหังสนาจารย์นำพระศพหม่อมเจ้าประสิทธิ์ศักดิ์ในกรมหมื่นจรัสโปรยหม่อมเจ้าอำไพในกรมหมื่นพิศาลโยงพระศพ ไปอยุดกระบวนที่ประตูสุสานด้านใต้

เวลาเกือบ ๔ ทุ่ม ในหลวงเสด็จไปประทับพลับพลาอิศริยาภรณ์ โปรดให้เดินกระบวนแห่เวียนพระเมรุ แล้วเจ้าพนักงานได้เชิญพระศพทั้งสองขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีถานเชียงรองห้อยฉัตรโหมดเหลือง ๓ ชั้น ตั้งพระศพเสร็จแล้วเสด็จไปประทับ ณ มุขเหนือในพระเมรุทรงทอดผ้าไตรองค์ละ ๕ ผ้าขาวพับองค์ละ ๑๐ พระสงฆ์มีพระธรรมปหังสนาจารย์เปนประธาน สดับปกรณ์แล้วเสด็จขึ้นพลับพลาทรงรถพระที่นั่งเสด็จกลับวังสวนดุสิตเวลา ๔ ทุ่มเศษ คืนวันนี้โปรดให้มีดอกไม้เพลิง พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมกับการมโหรศพญวนรำกะถาง สิงโตมังกร กับหนัง ๒ โรง

วัน ๕ ๑๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่พระเมรุวัดเทพศิรินทร์มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ๒ สร้าง มีสดับปกรณ์ไทยธรรมส่วนของหลวงองค์ละ ๑๐๐ รูป กัลปพฤกษ ๔ ต้นๆ ละ ๒๐ บาท กับมีมโหรศพกลางวันแลตอนเย็น คือมอญรำโรง ๑ งิ้วโรง ๑ โขนโรง ๑ หุ่นโรง ๑ ไม้ลอยไต่ลวด ญวนหกเปนต้น ตอนกลางคืนเมื่อจุดดอกไม้เพลิงแล้วมีการมโหรศพอย่างเมื่อคืนนี้

เวลาทุ่มครึ่งเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๕ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๖ ๑๓ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่พระเมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้จัดตั้งที่พระราชทานเพลิงกั้นจากเทวะดาบังเพลิง แล้วมีสดับปกรณ์ผ้าขาวพับองค์ละ ๓๐ ไทยธรรมองค์ละ ๑๐๐ รูป เวลาเกือบย่ำค่ำในหลวงเสด็จไปประทับ ณ พระเมรุ ทรงทอดผ้าไตรองค์ละ ๑๕ ไตร พระสงฆ์มีกรมหลวงวชิรญาณเปนประธาน สดับปกรณ์แล้วพระราชทานเพลิง แล้วเสด็จขึ้นพลับพลาโปรดให้ทิ้งทานผลกัลปพฤกษ์ ๔ ต้น ๆ ละ ๒๐ บาท แล้วทรงโปรย เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต โปรดให้มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมกับดอกไม้เพลิงแลการมโหรศพอย่างวานนี้

วัน ๗ ๑๔ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาเช้ามีการเดินสามหาบ มีสดับปกรณ์สามหาบ ส่วนของหลวงองค์ละ ๓ ไตร แล้วเก็บพระอัฐิพระสงฆ์ฉันสามหาบแลสดับปกรณ์อีกตามสมควร เวลาเช้า ๕ โมงเจ้าพนักงานได้เชิญพระโกษพระอัฐิแห่ไปส่งยังหอพระมณเฑียรธรรมข้างวัดบวรสถานเปนเสร็จการนี้

เวลาทุ่มครึ่งเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิตเวลายามเศษเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๑๕ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมง ๕๐ นาที ทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์เสด็จบ้านพายัพแล้วเสด็จวัดเทพศิรินทร์ เวลาทุ่มครึ่งเสด็จกลับมาประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่ม ๒๐ นาที เสด็จขึ้น

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษเสด็จออกประทับมุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่ม ๔๕ นาที เสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพรสถาน เลิกประชุมเวลา ๕ ทุ่ม

พระยาสุริยานุวัตร์ กราบถวายบังคมลาอยุดราชการในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นจันทบุรีนฤนารถรั้งตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติต่อไป ถ้ามีราชการสำคัญแลขัดข้องโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงษ์ช่วยคิดราชการกว่าจะตั้งเสนาบดี

วัน ๓ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษเสด็จพระบรมมหาราชวังประทับพระที่นั่งอัมรินทร์ พระราชทานยศสมณศักดิ์แก่พระสงฆ์ มีทรงตั้งพระครูสังวรสมาธิวัตรเปนพระวิสุทธิสังวรเถรเปนต้น แลทรงตั้งพระสงฆ์สามเณรเปนปเรียญ มีพระมหาเผื่อนวัดพระเชตุพนเปนปเรียญ ๙ ประโยคเปนต้น พระสงฆ์นำตั้ง ๑๐ รูป มีกรมหลวงวชิรญาณวโรรสเปนประธานเวลา ๒ ทุ่มเศษ เสร็จการตั้งพระนี้แล้วเสด็จไปประทับที่มุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี แล้วเสด็จขึ้นข้างใน แล้วเสด็จกลับวังสวนดุสิตมาประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลายาม ๔๐ นาทีเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

วันนี้โปรดให้ชักศพเจ้าจอมมารดาทิพเกสรไปทำการพระราชทานเพลิงในเมรุวัดเทพศิรินทร์ต่อไป เจ้าพนักงานได้ถอนราชวัตรทึบฉัตรทองเงินนาคเมื่องานก่อนออกคงไว้แต่ฉัตรเบญรงค์ ราชวัตรไม้ไผ่ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษในหลวงได้เสด็จวัดเทพศิรินทร์ประทับอยู่จนเวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับวังสวนดุสิต เวลาทุ่มหนึ่งเจ้าพนักงานได้ยกศพเจ้าจอมมารดาทิพเกสรขึ้นตั้งบนรถแปลง ประกอบโกษ ๘ เหลี่ยม แต่หออัฏวิจารณ์ศาลาในพระบรมมหาราชวัง มีเสลี่ยงโลงพระธรรมวโรดมนำศพแลเสลี่ยงโปรย เสลี่ยงโยงแห่ไปอยุดรอกระบวนที่ประตูสุสานด้านใต้ ครั้นเวลายามเศษในหลวงได้เสด็จวัดเทพศิรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ไปประทับที่ศาลาดำรงธรรม โปรดใช้เดินกระบวนแห่เข้าเวียนเมรุแล้ว ยกโกษศพขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีฐานเขียงรอง แล้วเสด็จประทับในพระเมรุ ทรงทอดผ้าไตรเปนส่วนพิเศษ ๕ ไตร พระสงฆ์มีพระธรรมวโรดมเปนประธานบังสุกุล แล้วโปรดให้มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ๒ สร้าง แลมีหนัง ๒ โรง กับโปรดให้กรรมการตรวจตัดสินเครื่องเงินซึ่งได้ตั้งที่ม้าหมู่ในเมรุ เสร็จแล้วเสด็จประทับเสวยเครื่องว่างพร้อมด้วยเจ้านายข้าราชการที่ศาลาดำรงธรรมเวลา ๒ ยามเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๕ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลากลางวันมีโขนโรง ๑ กับมีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมแลประโคมตามเวลา เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้จัดตั้งที่พระราชทานเพลิง มีฉากต้นไม้บังเพลิงพระราชทานผ้าขาวพับบังสุกุล ๒๐ พับ เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จไปประทับในเมรุทรงทอดผ้าไตร ๑๐ ไตร พระสงฆ์มีสมเด็จพระวันรัตเปนประธานบังสุกุลแล้วพระราชทานเพลิงศพ แล้วเสด็จขึ้นประทับพลับพลา โปรดให้โปรยทานผลกัลปพฤกษ์ ๒ ต้น ๆ ละ ๒๐ บาท แล้วพระศรีวิสุทธิวงษ์ถวายเทศน์กัณฑ์หนึ่งจบแล้วโปรดให้มีดอกไม้เพลิง เวลา ๒ ทุ่มเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๖ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลาเช้าเดินสามหาบ บังสุกุลสามหาบส่วนของหลวงแลของเจ้าภาพเก็บอัฐิ พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วมีบังสุกุลส่วนเจ้าภาพอีกตามสมควร

เวลาบ่าย ๕ โมง ๔๕ นาที ทรงรถมอเตอร์คาร์เสด็จประพาศตามถนนต่าง ๆ เวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จกลับมาประทับมุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๕ เศษเลิกประชุม

วัน ๗ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

วันนี้ โปรดให้ชักศพเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์กับท่านผู้หญิงอู่มาทำการพระราชทานเพลิงในเมรุวัดเทพศิรินทร์ต่อไป เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ชักศพทั้งสองนี้แต่เมืองเพ็ชรบุรีมาทางรถไฟ เวลาค่ำชักศพแต่สเตชั่นรถไฟบางกอกน้อย มาด้วยเรือม่านดาวกระจาย เข้าคลองผดุงกรุงเกษมเทียบท่าน่าวัดเทพศิรินทร์ ยกศพทั้งสองขึ้นตั้งเหนือเสลี่ยงแปลง ศพเจ้าพระยาสุรพันธ์ประกอบโกษไม้สิบสอง ศพท่านผู้หญิงอู่ประกอบโกษ ๘ เหลี่ยม มีเสลี่ยงโถงพระราชมุนีนำศพ แลมีเสลี่ยงโถงโปรยแลโยงเดินกระบวนแห่มารออยู่ที่ประตูสุสานด้านใต้ ในวันนี้เวลาบ่ายราว ๕ โมงครึ่งได้เสด็จไปประทับที่ที่เมรุจนเวลาทุ่มหนึ่งเสด็จกลับ ครั้นเวลายามเศษได้เสด็จไปประทับ ณ ศาลาดำรงธรรม โปรดให้เดินกระบวนเข้าเวียนเมรุ ในเวลานี้มีหนัง ๒ โรง ลงมือเล่นพร้อมกัน พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมเวียนเมรุ แล้วยกโกษศพทั้งสองขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีฐานเขียงรอง มีเครื่องตั้งศพทรงจัดมาจากข้างในเปนพิเศษที่ชั้นแว่นฟ้าตั้งเครื่องเงิน ที่ม้าหมู่ตั้งเครื่องบรอนแลเครื่องถ้วย ตั้งศพเสร็จแล้วเสด็จประทับในเมรุ ทรงทอดผ้าไตรเปนส่วนพิเศษ บังสุกุลทั้ง ๒ พระศพรวมไตรพระสงฆ์ มีพระเทพกระวีเปนประธานบังสุกุลแล้ว เสด็จประทับเสวยเครื่องว่างที่ศาลาดำรงธรรม โปรดให้มีดอกไม้เพลิง เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๑ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ ตอนกลางวันมีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมแลมีโขนโรง ๑ หุ่นโรง ๑ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จไปประทับ ณ เมรุ ทรงทอดจีวรแพรเป็นส่วนพิเศษ พระสงฆ์หัวเมือง ๑๐ รูปมีพระพิศาลสมณกิจเป็นประธานบังสุกุล แล้วโปรดให้โปรยทานผลกัลปพฤกษ์ ๒ ต้นๆ ละ ๒๐ บาท เสด็จประทับเสวยเครื่องว่างแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมแลมีโขนโรง ๑ หุ่นโรง ๑ แลประโคมตามเวลา เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้จัดตั้งที่พระราชทานเพลิง มีฉากเทวะดาบังเพลิง มีบังสุกุลผ้าขาวพับส่วนของหลวง ๓๐ พับ เวลาย่ำค่ำเศษในหลวงเสด็จไปประทับ ณ เมรุทรงทอดผ้าไตรศพเจ้าพระยาสุรพันธ์ ๑๐ ไตร ท่านผู้หญิงอู่ ๕ ไตร พระสงฆ์มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เปนประธาน บังสุกุลแล้วพระราชทานเพลิง แล้วเสด็จขึ้นไปประทับบนพลับพลาอิศริยาภรณ์ โปรดให้โปรยทานผลกัลปพฤกษ์ ๒ ต้นๆ ละ ๒๐ บาท ประทับตรัสกับเจ้านายโปรดให้จุดดอกไม้เพลิงแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๓ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาเช้าเจ้าพนักงานแปรรูปเดินสามหาบ พระสงฆ์บังสุกุลเก็บอัษฐิแลฉันสามหาบ แล้วมีเทศน์แลบังสุกุลอีกตามสมควร

เวลาค่ำเจ้าพนักงานได้ขุดศพท้าวภัณฑสารนุรักษ์ (ทับทิม) กับศพเจ้าจอมเจิมบุตรพระยาวิเศษสัจธาดาแต่สุสานวัดเทพศิรินทร์ ศพท้าวภัณฑสารลงลองใน เจ้าจอมเจิมลงในหีบทองทึบ ศพโกษตั้งบนเสลี่ยงหิ้ว ศพหีบตั้งบนวอประเทียบ แห่เวียนเมรุแล้วยกศพขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น ศพโกษตั้งด้านเหนือประกอบโกษ ๘ เหลี่ยม ศพหีบตั้งด้านใต้ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระภาณุพันธุวงษ์วรเดช ประทับเปนประธานทรงทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมมีประโคมตามเวลา คืนวันนี้มีดอกไม้เพลิงแลหนังโรงหนึ่ง

เวลาทุ่มหนึ่ง เสด็จออกประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้นแล้วไปประทับประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๔ ทุ่มเลิกประชุม

วัน ๔ ๑๐ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์เวลาบ่าย เจ้าพนักงานได้แต่งที่พระราชทานเพลิง มีฉากต้นไม้บังเพลิง มีบังสุกุลส่วนของหลวง ผ้าขาวพับศพละ ๑๐ พับ เวลาเกือบย่ำค่ำเสด็จไปประทับ ณ เมรุ ทรงทอดผ้าไตร ๑๐ ไตร พระสงฆ์มีพระเทพกวีเปนประธานบังสุกุล แล้วเสด็จขึ้นประทับพลับพลาอิศริยาภรณ์ทรงฝักแคพระราชทานเพลิงศพ แล้วโปรดให้โปรยทานผลกัลปพฤกษ์ ๒ ต้นๆ ละ ๒๐ บาท เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ

ตอนกลางวันพระราชทานโขนโรง ๑ กลางคืนหนังโรง ๑ กับดอกไม้เพลิงตามธรรมเนียม

วันนี้พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารังสิต ประยูรศักดิ์ ซึ่งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตามเสด็จเข้ามากรุงเทพ ฯ พร้อมกับเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประเทศยุโรปคราวนี้ บัดนี้ได้กราบถวายบังคมลาออก ไปศึกษาวิชาตามเดิม ได้เสด็จโดยสารเรือเมล์ชื่อเดลีออกไปวันนี้แล้ว หม่อมหลวงไพจิตรมหาดเล็กได้กราบถวายบังคมลาตามเสด็จออกไปศึกษาวิชา ณ ประเทศเยอรมนีด้วย

วัน ๕ ๑๑ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ เวลาเช้าเจ้าพนักงานดับเพลิงแปรรูปเก็บอัฐิเปนเสร็จการ

การสอบไล่พระปริยัติธรรม๔๑ศกนี้ วันนี้ได้รวมกองสอบไล่เปนกองเดียว เวลาบ่าย ๕ โมงเศษในหลวงเสด็จไปประทับในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดารามทรงฟังพระสงฆ์สามเณรแปลพระปริยัติธรรม สามเณรปลดปเรียญ ๗ ประโยควัดเบญจมบพิตร แปลประโยค ๘ ได้รูปหนึ่งแล้วพระราชทานจีวรแพรรูปละผืนแก่พระสงฆ์ดำรงสมณศักดิ์ที่เปนแม่กองผู้สอบไล่พระปริยัติธรรม เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับมาประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต จนเวลายามหนึ่งเสด็จขึ้น

การสอบไล่พระปริยัติธรรมเปนอันหมดในวันนี้ มีจำนวนพระสงฆ์สามเณรที่แปลพระปริยัติธรรมได้ดังนี้คือ

ประโยค ๘ สามเณรได้รูป ๑ ประโยค ๖ พระสงฆ์ได้รูป ๑ สามเณรได้รูป ๑ ประโยค ๕ พระได้ ๙ รูป สามเณรได้รูป ๑ ประโยค ๔ พระได้ ๕ รูป สามเณรได้ ๕ รูป ประโยค ๓ สามเณรได้ ๑๓ รูป สามเณรได้ ๑๕ รูป รวมพระสงฆ์สามเณรไทยได้ ๕๑ รูป ประโยค ๓ รามัญพระสงฆ์ได้ ๒ รูป ประโยค ๒ พระสงฆ์ได้รูป ๑ สามเณรได้รูป ๑ รวมพระสงฆ์สามเณรรามัญแปลได้ ๔ รูป รวมทั้งสิ้นที่แปลได้ ๕๕ รูป

วัน ๖ ๑๒ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จในพระบรมมหาราชวังประทับมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรีโปรดให้มองซิเออร์ ฟแร เฝ้าทูลเกล้า ฯ ถวายพระราชสาสนซึ่งพระเจ้ากรุงเบลเยี่ยมได้ทรงถอนมองซิเออร์ เอม เอลโดส โซนย์ ราชทูตคนเก่า แล้วทรงตั้งให้มองซิเออร์ ฟแร เปนราชทูตประจำ ณ ราชสำนักนิ์กรุงสยามต่อไป เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับที่พระที่นั่งอภิเศกมีพระพิบูลย์พัฒนากรเฝ้านำกระถางต้นไม้แลที่รองกระถางต้นไม้ลายครามประมาณ ๒๔ สำรับมาถวาย

ด้วย เวลาทุ่ม ๔๐ นาทีเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๓ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาเกือบย่ำค่ำ ทรงรถมอเตอร์คาร์เสด็จประพาส เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับที่มุขพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลาทุ่มครึ่งเสด็จขึ้น

วันนี้โปรดให้ชักศพเจ้าจอมมารดาดวงคำไปพระราชทานเพลิงในเมรุวัดเทพศิรินทร์ต่อไป เวลาทุ่มเศษเจ้าพนักงานได้ยกลองในศพแต่วังสมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ เจ้าฟ้ากรมสมเด็จพระบำราบปรปักษ์มาขึ้นรองแปลงที่หน้าวังประกอบโกษ ๘ เหลี่ยม มีเสลี่ยงโถงพระธรรมวิโรจน์นำศพ แลเสลี่ยงโถงโปรยแลโยงศพ เดินกระบวนแห่ไปเวียนเมรุแลยกศพขึ้นตั้งยังเมรุ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม มีการมโหรศพหนังโรง ๑ กับพระราชทานดอกไม้เพลิงตามเกียรติยศ

วัน ๑ ๑๔ ๓ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑ มีนาคม ๑๒๖

ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์ตอนกลางวัน พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมพระราชทานโขนโรง ๑ เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ยกโกษลงจากชั้นแว่นฟ้า แล้วยกลองในขึ้นตั้งภายใต้เพดานหยวก มีฉากต้นไม้บังเพลิง

เวลาย่ำค่ำในหลวงเสด็จไปประทับ ณ เมรุทรงทอดผ้าไตร ๕ ไตร ผ้าขาวพับ ๑๐ พับ พระสงฆ์มีพระสาสนโสภณเปนประธานบังสุกุล แล้วเสด็จออกประทับพลับพลาอิศริยาภรณ ทรงฝักแคพระราชทานเพลิง แล้วโปรดให้เจ้าพนักงานโปรยทานผลกัลปพฤกษ์ ๒ ต้น ๆ ละ ๒๐ บาท เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต ค่ำวันนี้มีหนังกับดอกไม้เพลิงอย่างวันก่อน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ