เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๙

วัน ๖ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งไฟฟ้า ไปประพาศในจังหวัดสวนดุสิต เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ เวลายามครึ่งเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก แล้วประทับที่ประชุมเสนาบดีในพระที่นั่งนี้ เลิกประชุมเวลา ๗ ทุ่ม ๑๕ นาที เสด็จขึ้น

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๔ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่มหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก เจ้าอธิการเนียมวัดโบสถ สามเสนเฝ้า เสด็จขึ้นเวลายามเศษ

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๕ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก เสด็จขึ้นเวลายามเศษ

วัน ๒ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๖ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่ม ๒๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก พระพุทธวริยากร วัดสัตนารถบริวัตร์ เมืองราชบุรี เฝ้าถวายต้นไม้ แล้วประทับออกขุนนาง เวลา ๒ ทุ่ม ๕๐ นาที เสด็จขึ้น โปรดเกล้า ฯ ให้มีประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพร เลิกประชุมเวลา ๔ ทุ่ม ๑๐ นาที

วัน ๓ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๗ มกราคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำ ๕๕ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ เสด็จไปประพาศแล้วประทับวังสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรี ที่ตำบลถนนลูกหลวง ทรงจัดการให้พนักงานตกแต่งพระตำหนักแลในจังหวัดด้วยเครื่องเฟอนิเชอแลเครื่องประดับต่าง ๆ ในการที่สมเด็จเจ้าฟ้า กรมขุนลพบุรีจะขึ้นวังใหม่ ในวันที่ ๑๐ มกราคม เวลา ๕ ทุ่ม ๔๐ นาที เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๔ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๘ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์เสด็จไปประพาศ แล้วประทับที่บ้านมิสเตอร์สโตรเบล ที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน ที่ตำบลสพานยศเสตรัสกับมิสเตอร์สโตรเบลแล้วเสด็จกลับประทับวัง สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีทรงจัดการตกแต่งวังเหมือนวันก่อน เวลา ๕ ทุ่ม เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๕ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๙ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๕ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ เสด็จไปประทับที่วังสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีทรงจัดการตกแต่งวังเหมือนวันก่อน ๆ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับประทับพระที่นั่งอภิเศก แล้วเสด็จขึ้นโปรดเกล้า ฯ ให้มีประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพร เลิกประชุมเวลา ๔ ทุ่ม ๒๐ นาที

อนึ่ง การพระราชพิธีตรียัมพวายใน ๔๐ศก ๑๒๖ นี้ โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง ปลัดทูลฉลองกระทรวงนครบาล เป็นผู้กระทำการยืนชิงช้า ได้ตั้งการพระราชพิธีที่หอเทวะสถาน กับที่เสาชิงช้าตามเคยเหมือนทุกปีมา ในวันนี้เป็นเวลาแห่เช้า เวลาเช้า ๔ โมงเศษได้แห่พระยาราชรองเมืองไปยังเสาชิงช้า พระยาราชรองเมืองได้พักในโรงมาพักแลชมรมพวกนาลิวันโล้ชิงช้าครบ ๓ กระดานแล้ว ได้แห่พระยาราชรองเมืองกลับ ในเวลาที่นาลิวันโล้ชิงช้านี้ สมเด็จพระบรมราชินีนารถ เสด็จไปประทับทอดพระเนตรอยู่ที่พลับพลาเปลื้องเครื่องวัดสุทัศน์ด้วย

วัน ๖ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๐ มกราคม ๑๒๖

เป็นกำหนดที่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรี ทรงมีการขึ้นวังใหม่ เจ้าพนักงานได้จัดการตั้งแต่งต่าง ๆ สำหรับการมงคลนี้พร้อมเสร็จ

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ไปประทับ ณ วังสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรี พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว เวลา ๒ ทุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับเสวยพร้อมด้วยเจ้านายข้าราชการแล้ว เวลายามเศษสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีเสด็จสู่ที่สรง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์แลน้ำพระพุทธมนต์พระราชทานแล้ว เสด็จไปทรงปูพระที่บรรทม พร้อมด้วยพระอรรคชายาเธอ เวลายาม ๒๒ นาที ๒๔ วินาที ได้พระฤกษ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีเสด็จขึ้นพระแท่นบรรธม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ แลทรงเจิมพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีกับพระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล แล้วสมเด็จพระบรมราชินีนารถได้พระราชทานพระพรแล้ว พระบรมวงษานุวงษ์ฝ่ายหน้ากับทั้งเจ้าพระยาได้ทรงอำนวยพระพรแลถวายพรต่อไป เสร็จแล้วพระเจ้าบาทสมเด็จพระอยู่หัวเสด็จประทับทอดพระเนตรลครซึ่งพระสรรพการหิรัญกิจมีถวาย เวลา ๗ ทุ่มเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๑ มกราคม ๑๒๖

เวลาเช้า ๕ โมง สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีได้ทรงมีการเลี้ยงพระสงฆ์ซึ่งเจริญพระพุทธมนต์แล้วเป็นเสร็จการ

เวลาบ่าย ๔ โมง ๑๕ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์เสด็จไปประทับทอดพระเนตรในการที่พระยาราชรองเมืองยืนชิงช้าที่พลับพลาเปลื้องเครื่องวัดสุทัศน์ เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

เวลา ๒ ทุ่ม โปรดเกล้า ฯ ให้เชิญเจ้านาย ข้าราชการแลท่านอัครราชทูตต่างประเทศแลภรรยาที่ทรงคุ้นเคยมารับพระราชทานเลี้ยงที่พระที่นั่งอัมพรรวม ๒๔ ทั้งที่ประทับ ในการเลี้ยงนี้แต่งครึ่งยศประดับตรา เวลา ๔ ทุ่มเศษ ผู้ที่รับเชิญกราบถวายบังคมลากลับ เสด็จขึ้นเป็นเสร็จการ

วัน ๑ ๑๐ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๒ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกที่พระที่นั่งราชฤดี แล้วเสด็จมาทอดพระเนตรสิ่งของที่ทรงสั่งมาจากยุโรปที่โรงรถแล้วเสด็จขึ้นเวลายามเศษ

วัน ๒ ๑๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๓ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ เสด็จไปประพาสที่บ้านพระสรรพการสามเสน แล้วเสด็จไปประทับที่วังพระองค์เจ้าวุฒิไชย ตำบลถนนกรุงเกษม ทอดพระเนตรการตกแต่งพระตำหนักในการที่จะเสด็จขึ้นวังใหม่ เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับประทับที่พระที่นั่งอภิเศกแล้วเสด็จขึ้น โปรดเกล้า ฯ ให้มีประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพร เลิกประชุมเวลา ๔ ทุ่มเศษ

วัน ๓ ๑๒ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๔ มกราคม ๑๒๖

เวลาเกือบทุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก พระยาสุรสีห์ซึ่งกลับลงมาจากมณฑลพายัพเฝ้า เสด็จขึ้นเวลายามหนึ่ง

วัน ๔ ๑๓ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๕ มกราคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งราชฤดีประมาณครู่ ๑ เสด็จขึ้นโปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงเทวะวงษ์ กรมหลวงดำรง กรมหมื่นนครไชยศรีเข้าไปเฝ้าทรงปฤกษาด้วยข้อราชการ

ในวันนี้เวลาย่ำค่ำมิสเตอร์เอดวาดเอชสโตรเบลที่ปฤกษาราชการแผ่นดินเปนอหิวาตะกะโรคถึงแก่กรรม

เวลายามหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ที่บ้านญวนสามเสน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงช่วยดับเพลิงด้วย รวมเพลิงไหม้คราวนี้เรือน ๓ ห้อง ๒ หลัง ไต่สวนไม่ได้ความว่าเพลิงเกิดขึ้นด้วยเหตุใด เวลายามเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๕ ๑๔ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๖ มกราคม ๑๒๖

วันนี้เปนกำหนดการที่พระองค์เจ้าวุฒิไชยจะเสด็จขึ้นวังใหม่ ณ ตำบลถนนกรุงเกษมต่อกับวังกรมหมื่นนครไชยศรี เจ้าพนักงานได้จัดการตกแต่งวังแลตั้งแต่งต่างๆ สำหรับการนี้พร้อมเสร็จ

เวลาย่ำค่ำเศษ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในเวลานี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ไปประทับ ณ วังพระองค์เจ้าวุฒิไชยๆ ได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จให้ทรงปลูกต้นสักที่หน้ามุขเหนือแห่งพระตำหนักแล้ว พระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว เวลา ๒ ทุ่มเสด็จประทับเสวยที่ห้องชั้นล่างพร้อมด้วยเจ้านายแล้วพระองค์เจ้าวุฒิไชยประทับที่สรง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์แลน้ำในพระเต้าพระราชทานแล้วเสด็จไปทรงปูพระที่บรรทมเวลา ๒ ทุ่ม ๕๑ นาที ๓๓ วินาที ได้ปฐมฤกษ์ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเสด็จขึ้นพระแท่นบรรธม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์แลทรงเจิมพระราชทานพระองค์เจ้าวุฒิไชยกับหม่อมเจ้าหญิงพร้อมเพราพรรณ์ แล้วสมเด็จพระบรมราชินีนารถได้พระราชทานพระพรแล้วพระราชวงษานุวงษ์ข้าราชการผู้ใหญ่ฝ่ายในฝ่ายน่าทรงอำนวยพระพรแลถวายพรต่อไปแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับทอดพระเนตรภาพพยนต์ประมาณครู่หนึ่ง เสด็จประทับบนตำหนักจนเวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต ฯ

วัน ๖ ๑๕ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๗ มกราคม ๑๒๖

เวลาเช้าพระองค์เจ้าวุฒิไชยได้ทรงเลี้ยงอาหารบิณฑบาตพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว เปนเสร็จการในวันนี้ เวลาเช้าเปนกำหนดการฝังศพมิสเตอร์เอดวาดเอชสโตรเบล เวลาเช้า ๒ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องครึ่งยศดำประดับตรา เสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ไปประทับเรือกลไฟที่ท่าราชวรดิฐเสด็จโดยทางชลมารคไปจอดที่ท่าสุสานโปรเตศตันต์ เมื่อวอรถศพมิสเตอร์เอดวาดเอชสโตรเบลมาถึงเจ้าพนักงานได้ยกหีบศพลงพักที่ศาลาท่าน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพวงดอกไม้ที่ศพแล้วเจ้านายข้าราชการราชทูตผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศแลพ่อค้านายห้างได้วางพวงดอกไม้ที่ศพต่อไปเสร็จแล้ว หมอแดริงตันอ่านประวัติของผู้ตายแล้ว นักสวดได้สวดอ้อนวอนตามพิธีเสร็จแล้ว ยกศพไปบรรจุในกุฏิที่ก่อไว้แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางดินฝังศพเป็นประธานแล้ว เสด็จกลับเวลาเช้า ๔ โมงเศษ

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๘ มกราคม ๑๒๖

ไม่เสด็จออกข้างหน้า เพราะพระบาทแพลงไป ครั้นเวลา ๒ ทุ่มเสด็จทรงรถมอเตอร์คาร์ไปทอดพระเนตรเครื่องเฟอนิเชอร์ที่ทรงสั่งมาแต่ยุโรปที่โรงรถ แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑๙ มกราคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์มาประทับตรัสกับกรมหลวงดำรงที่หน้าพระที่นั่งอภิเศก แล้วประทับที่พระที่นั่งอภิเศกพราหมณถวายเข้าตอกดอกไม้ในการพระราชพิธีตรียัมพวายตามเคยแล้วเสด็จไปประทับ ณ หออุเทศทักษิณา ในการพระราชกุศล ๕๐ วัน พระศพกรมหลวงวรเสรฐสุดา เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๐ มกราคม ๑๒๖

เวลาเช้าโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นปราจิณเสด็จไปทรงเลี้ยงพระที่สวดพระพุทธมนต์ในการพระราชกุศลเมื่อวานนี้

ครั้นเวลาย่ำค่ำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปประทับที่หออุเทศทักษิณาในการพระราชกุศล (วันนี้มีการกงเต็กอย่างจีน) เสร็จแล้วเสด็จขึ้น เวลาทุ่มครึ่ง โปรดเกล้าฯ ให้มีประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพร เลิกประชุมเวลายามเศษ

วัน ๓ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๑ มกราคม ๑๒๖

เวลาย่ำค่ำเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงรถพระที่นั่งมอเตอร์คาร์ไปประทับในพระบรมมหาราชวังในการเลี้ยง แอดมิราลโคเออเบอร์แม่ทัพเรือเยอรมัน ซึ่งเข้ามาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทแล้วเสด็จกลับเวลา ๔ ทุ่มครึ่ง

วัน ๔ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๒ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกที่พระที่นั่งราชฤดี ทอดพระเนตรลครพระยาเพ็ชรปาณี ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมาลินีนภดาราทรงมีฉลองต้นพยอมที่พระองค์ท่านทรงปลูกมีดอกเปนการข้างใน เสด็จขึ้นเวลา ๕ ทุ่มเศษ

วัน ๕ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๓ มกราคม ๑๒๖

เวลาทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก นายโหมดราษฎรบ้านม้าแขวงเมืองอินทรบุรีนำแมวปลาดมาทูลเกล้า ฯ ถวาย โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงิน ๒๐ บาท เวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้น โปรดเกล้าฯ ให้มีประชุมเสนาบดีที่พระที่นั่งอัมพร เลิกประชุมเวลายามเศษ

วัน ๖ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๔ มกราคม ๑๒๖

ด้วยทางรถไฟสายตวันออกซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อรัตนโกสินทรศก ๑๒๔ แลทางสายเหนือซึ่งได้ทำต่อขึ้นไปตอนแต่นครสวรรค์ถึงพิศณุโลกแล้วพอที่จะเปิดเดินรถได้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้แต่งการเปิดเดินรถไฟทั้งสองสายนี้ แลในการเปิดรถคราวนี้จะเสด็จประทับแรม ณ เมืองฉเชิงเทราเยี่ยมเยือนมณฑลนี้ด้วย วันนี้เป็นวันกำหนดเปิดรถไฟแลจะเสด็จประทับแรม ณ เมืองฉเชิงเทรานั้น เวลาเช้า ๓ โมงเศษได้เสด็จไปประทับ ณ พลับพลาโรงราชพิธีที่สนามสเตชั่นรถไฟกรุงเทพ ฯ มีพระราชดำรัสสั่งให้เปิดรถไฟทั้งสองสายนี้ให้เป็นอันใช้เดินได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เปนต้นไปแล้ว เสด็จขึ้นประทับรถพิเศษซึ่งจะได้เดินในสายตะวันออกที่น่าพลับพลาโรงราชพิธีนี้ เวลาเช้า ๓ โมง ๒๐ นาที รถไฟสายเหนือแลสายตวันออกซึ่งเสด็จพระราชดำเนินด้วยนี้ได้ออกเดินเปนฤกษ์พร้อมกัน เมื่อถึงทางแยกรถไฟสายเหนือได้เดินตรงไปทางเหนือตลอดถึงพิศณุโลก ส่วนรถไฟสายตวันออกซึ่งเสด็จพระราชดำเนินแยกไปทางตวันออกผ่านสเตชั่นต่างๆ คือ สเตชั่นบางกระสัน คลองแสนแสบ บ้านหัวหมาก บ้านทับช้าง คลองที่สอง หัวตะเข้ คลองหลวงแพ่ง คลองพระยาเดโช คลองบางพระ ถึงสเตชั่นแปดริ้วเวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จลงที่สเตชั่นนี้ทรงพระดำเนินมาลงเรือพระที่นั่งประทีปทัศนาการที่ท่าริมแม่น้ำบางปะกงตรงหลังสเตชั่นลงมาๆ เสด็จขึ้นที่ท่าน่ามณฑล เสด็จขึ้นประทับที่ศาลาว่าการมณฑล มีการพิธีรับเสด็จในที่นี้ ครั้นแล้วเวลาเที่ยงเศษเสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลไฟประทีปทัศนาการออกจากท่านั้นมาเสด็จขึ้นประทับ ณ ตำหนักพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ซึ่งจัดไว้เปนที่ประทับแรม เวลาบ่าย ๕ โมง ๒๐ นาทีเสด็จทรงเรือพระที่นั่งพายแต่ตำหนักที่ประทับแรมพายขึ้นไปประพาศทางเหนือน้ำ เข้าคลองท่าไข่ไปจนถึงประตูน้ำ แล้วเสด็จกลับตามทางเดิม มาประทับ ณ สพานน้ำน่าตำหนักที่ประทับแรมนั้น เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๕ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่ายเกือบ ๔ โมง เสด็จทรงเรือกลไฟนำเบอร์ ๑ แต่ท่าตำหนักที่ประทับแรมขึ้นไปเหนือน้ำ เสด็จขึ้นที่ท่าตลาดบ้านใหม่ทอดพระเนตรตลาดนั้นไปจนสุดตลาด แล้วเสด็จวัดพระเจ๊กซึ่งอยู่ห้องตลาดตอนข้างเหนือ วัดนี้เปนวัดอย่างจีนแท้ พระพุทธรูปก็เปนเจ๊ก ได้พระราชทานเงินช่วยบำรุงวัดนี้ ๘๐ บาท แล้วเสด็จลงเรือที่ท่าสุดตลาดข้างเหนือ มาเสด็จขึ้นที่บ้านจีนฮี้ จีนแดงสองคนพี่น้องซึ่งอยู่ใต้ตลาดลงมาทอดพระเนตรตลาดของจีนทั้งสองคนนี้ ตลาดนี้ไม่ใหญ่โตอันใดนัก แล้วเสด็จวัดพระเจ๊กซึ่งเป็นวัดที่จีนทั้งสองคนนี้ได้สร้างขึ้นเปนเก๋งอย่างจีนแต่พระพุทธรูปเปนไทยจำลองมาจากพระโตวัดพนัญเชิงแต่เล็กกว่า ถึงอย่างนั้นก็ใหญ่พอใช้ โปรดให้เรียกชื่อพระนี้ว่า “พระไตรรัตนนายก” อย่างพระโตวัดพนัญเชิง พระราชทานเงินช่วยบำรุงวัดนี้ด้วย ๒๐๐ บาท แลพระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดอุภัยภาติการาม” แล้วลงเรือเสด็จกลับมาประทับที่ท่าตำหนักที่ประทับแรมจนเวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น ทำเครื่องเสวยข้างนอกกับเจ้านาย เวลา ๔ ทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๖ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จทรงเรือพระที่นั่งพายไปเข้าคลองท่าไข่ถึงประตูน้ำ โปรดให้เจ้าพนักงานกรมคลองเปิดประตูน้ำ เปิดให้เรือราษฎรออกมา แล้วเรือพระที่นั่งเข้าไป เรือราษฎรที่จะเข้าก็โปรดให้เข้าไปพร้อมกัน แล้วปิดช่องน้ำไขน้ำน้ำลง เมื่อได้ที่แล้วปิดประตูบน เรือพระที่นั่งออกประตูบนไป น้ำตอนบนสูงกว่าตอนล่างประมาณ ๒ ศอก เสด็จไปตามลำคลองท่าไข่หลายเลี้ยวจนจวนค่ำกลับเรือพระที่นั่งมาออกประตูน้ำกลับตามทางเดิม มาประทับที่ท่าตำหนักที่ประทับแรม เวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๐ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๗ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ทรงเรือพระที่นั่งกลไฟไปเสด็จขึ้นที่ท่าที่ว่าการมลฑล เสด็จเข้าไปในห้องที่เรียกว่าห้องประชุม มีหัวหน้าพนักงานต่างๆ ทูลเกล้า ฯ ถวายรายงาน เสด็จทอดพระเนตรห้องต่างๆทุกห้องแล้วเสด็จกลับลงเรือล่องน้ำไป เสด็จขึ้นที่โรงทหารซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ตำหนักที่ประทับแรม เวลาเสด็จขึ้นมีทหารยืนแถวถวายตัว ทหารพวกที่เข้าใหม่พวกหนึ่งแต่งตัวนุ่งกางเกงเจ๊ก นอกนั้นแต่งยุนิฟอร์มเปนอันมากแต่ไม่ได้ถือปืน ถวายคำนับวันทิยหัดถ์ มีแตรเดียวเป่าทรงพระราชดำเนินตรวจแถวทหารจนตลอดแล้วเลี้ยวไปเสด็จขึ้นที่เรือนพักหม่อมเจ้าศรีใส เฉลิมศักดิ์ ผู้บัญชาการทหารบกมลฑลนี้ เรือนนี้เปนเรือนไม้สัก ๒ ชั้นแล้วทอดพระเนตรเขตรจังหวัดโรงทหารโดยรอบจากเรือนนั้น โรงทหารนี้ทำยังไม่แล้วดี ประทับเสวยน้ำชาที่เรือนพักผู้บัญชาการ แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งกลับขึ้นมาประทับที่สพานน้ำตำหนักที่ประทับแรมจนเวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๓ ๑๑ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๘ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จทรงเรือมาศ เรือกลไฟจูงขึ้นไปเหนือน้ำหลายเลี้ยว พอถึงคลองบางคล้าแล้วปลดเรือออกจากเรือไฟแจวเข้าคลองบางคล้าแล้วค้ำต่อไปอีกหน่อยหนึ่งถึงที่บ้านสวนแห่งหนึ่ง เสด็จขึ้นทำเครื่องเสวยที่ลานบ้าน เสวยแล้วเสด็จกลับตามทางเดิมถึงตำหนักที่ประทับแรมเวลาทุ่มเศษเสด็จขึ้น

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดการพระราชทานเพลิงหม่อมเจ้าพระธรรมมุณหิศธาดา แลหม่อมเจ้าเจียกในพระบรมวงษ์เธอ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์แลท้าวศรีสัจจา (อิ่ม) ที่เมรุปูนวัดสระเกษ วันนี้เวลาทุ่มเศษเจ้าพนักงานได้เชิญโกษหม่อมเจ้าพระธรรมมุณหิศธาดา แต่วัดบวรนิเวศวิหารขึ้นตั้งบนรถแปลง มีพระราชมุนีนำพระศพ แลในเวลาเดียวกันนี้เจ้าพนักงานได้เชิญโกษหม่อมเจ้าเจียกแต่บ้านสวนเจ้าเชตุขึ้นตั้งบนรถแปลง เดินกระบวนแห่ไปประจบกันที่สี่กั๊กเสาชิงช้า เดินเปนกระบวนต่อไปตามถนนบำรุงเมือง เลี้ยวเข้าไปในเมรุวัดสระเกษ ตั้งโกษไว้ในเมรุตามเกียรติยศคืนหนึ่ง มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมแลประเคนตามยาม

วัน ๔ ๑๒ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๒๙ มกราคม ๑๒๖

เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลไฟอยุทธยาแล่นลงไปตามลำน้ำบางปกง ไปประพาศทางเขาดิน เมื่อขากลับโปรดให้เอาเรือเครื่องเทียบเรือพระที่นั่งทำเครื่องแล้วเสวยในเรือ ยามเศษเสด็จกลับถึงตำหนักที่ประทับแรมเสด็จขึ้น

ที่เมรุปูนวัดสระเกษเวลาบ่าย เจ้าพนักงานได้จัดที่จะพระราชทานเพลิงกั้นฉากเขาไม้บังเพลิง เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนพิศณุโลกประชานารถ เสด็จไปทรงทอดผ้าส่วนของหลวง พระสงฆ์สดับปกรณ์แล้วพระราชทานเพลิง

วัน ๕ ๑๓ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓๐ มกราคม ๑๒๖

เวลาเช้า ๒ โมงเสด็จออกทรงเรือพระที่นั่งยอดไชยาเปนเรือมาด ๒ แจว กระบวนพระประเทียบแลเรือมหาดเล็กก็เปนเรือมาดออกจากที่ประทับแรมเข้าคลองท่าไข่ เข้าประตูน้ำมาตามลำคลองท่าไข่แล้วเข้าคลองนครเนื่องเขตร์ เช้า ๕ โมงเศษประทับร้อนที่วัดสงสารอยู่ฝั่งซ้ายมือ ทรงทำเครื่องเสวยที่ศาลาริมน้ำ บ่าย ๒ โมงจึงออกเรือพระที่นั่ง ต่อมาเปนกระบวนแจวทั้งสิ้น มาตามลำคลองนครเนื่องเขตร์ บ่าย ๕ โมงเศษถึงวัดปากบึงอยู่ฝั่งขวามือแขวงเมืองฉเชิงเทรา ฝั่งซ้ายเปนแขวงเมืองมีนบุรี ประทับเสด็จขึ้นทำเครื่องเสวยที่ศาลาการปเรียญจนเวลาทุ่มเศษเสด็จลงเรือพระที่นั่ง ประทับแรมที่นี้

อนึ่งการสอบไล่พระปริยัติธรรมในศกนี้ โปรดเกล้า ฯ ให้กระทรวงธรรมการจัดการตามเคยเหมือนทุกปีมา แต่ส่วนแม่กองผู้สอบไล่ในศกนี้ได้เปลี่ยนแปลงใหม่ คือกองกลางเปลี่ยนเปนกองอธิบดี กรมหลวงวชิรญาณทรงเปนแม่กอง กองเหนือสมเด็จพระพุทธโฆษาจาริย์เปนแม่กอง กองใต้สมเด็จพระวันรัตเปนแม่กอง ได้เริ่มลงมือการสอบไล่ในพระอุโบสถวัดพระแก้วตั้งแต่วันนี้เปนต้นไป

ที่เมรปูนวัดสระเกษเวลาเช้ามีการสดับปกรณ์สามหาบ ส่วนของหลวงองค์ละ ๓ ไตร เก็บอัฐแล้วเปนเสร็จการในงานนี้ ในงานนี้ของหลวงที่พระราชทานผ้าไตรองค์ละ ๑๕ ไตร ผ้าไตรสามหาบอีกองค์ละ ๓ ไตร ผ้าขาวพับองค์ละ ๓๐ พับ ต้นกัลปพฤกษ์รวม ๒ ต้น ๆ ละ ๒๐ บาท มโหรศพโขน ๑ โรง หนัง ๒ โรง กับดอกไม้เพลิงพุ่ม ๕ ชั้น ๒๐ ต้น กะถาง ๘ ระทา ๘ ฝนแสนห่า ๒ กงหัน ๑ ตู้ ๒ พลุ ๕๐ พเนียง ๓๐

เวลาค่ำเจ้าพนักงานได้ยกโกษศพท้าวศรีสัจจาแต่ในพระบรมมหาราชวังภายนอกไปตั้งในเมรุวัดสระเกษ มีพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมและประโคมตามกาล

วัน ๖ ๑๔ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๓๑ มกราคม ๑๒๖

เวลาเช้าโมงเศษ ออกเรือพระที่นั่งจากที่ประทับแรมมาได้หน่อยหนึ่ง ออกคลองแสนแสบมาตามคลองแสนแสบประทับวัดทรัพย์สโมสรนิกรเกษมอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วเสด็จต่อมาถึงเมืองมีนบุรีก่อนเที่ยง ประทับที่ที่พักน่าบ้าน หม่อมเจ้าชายงามทรงทำเครื่องเสวยกลางวันแล้วประทับพักจนบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรเรือนหม่อมเจ้าชายงามผู้ว่าราชการเมืองนี้ แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งพายไปเข้าคลองสามวาเพื่อทอดพระเนตรภูมิลำเนา ได้ไปหน่อยหนึ่งเสด็จกลับมา แล้วไปตามคลองแสนแสบอีกหน่อยหนึ่ง เสด็จกลับมาที่ประทับทรงทำเครื่องที่เดิมซึ่งทำเมื่อกลางวันนี้ เสวยแล้วเสด็จขึ้น ๒ ทุ่มเศษ ประทับแรมที่นี้

ที่เมรุปูนวัดสระเกษเวลาบ่ายพระราชทานเพลิงของหลวงที่พระราชทานในงานนี้ ผ้าไตร ๑๐ ไตร ผ้าขาวพับ ๒๐ พับ กัลปพฤกษ ๒ ต้นๆ ละ ๒๐ บาท มโหรศพโขน ๑ โรง หนัง ๒ โรง ดอกไม้พุ่ม ๕ ชั้น ๒๐ ต้น ระทา ๘ กระถาง ๘ พะเนียง ๒๐ พลุ ๕๐

วัน ๗ ๑๕ ๒ ค่ำ ปีมะแมนพ๔๐ศกศักราช ๑๒๖๙

วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๑๒๖

เวลาเช้า ๓ โมงเศษออกเรือพระที่นั่งจากเมืองมีนบุรีมาตามลำคลอง เช้า ๕ โมงเศษถึงวัดตึกประทับร้อน ทำเครื่องเสวยที่ศาลาการปเรียญ เสวยแล้วเวลาบ่าย ๒ โมงเศษออกเรือพระที่นั่งต่อมา จวนบ่าย ๕ โมงประทับเสด็จขึ้นที่ตำหนักพระวงษ์เธอพระองค์เจ้าวัฒนาซึ่งอยู่ริมประตูน้ำครู่หนึ่งออกเรือพระที่นั่งต่อมา เข้าช่องประตูน้ำที่ประทุมวัน ออกประตูน้ำมาเลี้ยวคลองผดุงเข้าคลองเม่งเส็งไปประทับหลังพระที่นั่งอัมพร เสด็จขึ้นพระที่นั่งอัมพรเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ