เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๗๐

วัน ๓ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จวัดราชาธิวาศ ทรงเรือประพาศเวลาทุ่มหนึ่งเสด็จกลับ มาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จวัดราชาธิวาศ ทรงเรือประพาศเวลาทุ่มเศษเสด็จกลับ มาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต จนเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่ายเกือบ ๔ โมงเสด็จวัดราชาธิวาศ ทรงเรือประพาศเวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ แล้วมาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้นประทับประชุมเสนาบดีณะพระที่นั่งอัมพรสถานเวลาราว ๔ ทุ่มครึ่งเลิกประชุม

วัน ๖ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จออกน่าพระที่นั่งอัมพรสถาน มีถ่ายรูปเลี้ยงน้ำชา ข้าหลวงเทศาภิบาล แลหัวน่าทหารซึ่งลงมาประชุมปฤกษาราชการใน๔๑ศกนี้ แต่ก่อนเคยมีดินเนอ คราวนี้เปนเลี้ยงน้ำชา แล้วเวลาบ่ายราว ๕ โมงเสด็จประพาศ ทราบว่าเสด็จห้างถ่ายรูป เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ

วัน ๗ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จวัดราชาธิวาศ เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับมาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลาเกือบยามเสด็จขึ้น

วันนี้ได้มีพระราชหัดถ์ทรงสั่ง แลประกาศปล่อยนักโทษที่มีโทษน้อยให้พ้นโทษในงานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศกมีจำนวนนักโทษที่ปล่อยคราวนี้ ในกรุง ๔๑ คน หัวเมือง ๑,๕๗๔ คน รวม ๑,๖๑๕ คน

วัน ๑ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาเช้า ๔ โมงเสด็จทรงเรือมอเตอร์ที่วัดราชาธิวาศเสด็จประพาศทางเมืองนนท์ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จกลับถึงวังสวนดุสิต

วัน ๒ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ที่วัดราชาธิวาศ ล่องลงไปประพาศทางถนนตก แล้วทรงรถพระที่นั่งเสด็จกลับถึงวังสวนดุสิต เวลาเกือบ ๒ ทุ่ม มาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ออกขุนนางแล้ว เวลาเกือบยามเสด็จขึ้น ประทับประชุมเสนาบดี ณะ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๔ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๓ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จวัดราชาธิวาศ ทรงเรือประพาศ เวลาทุ่มหนึ่งเสด็จกลับมาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ทรงรถม้าเสด็จวัดเบ็ญจมบพิตร เวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับมาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต พระยาชลยุทธโยธินทร เฝ้ากราบถวายบังคมลากลับออกไปเมืองนอก เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

เวลาเกือบ ๔ ทุ่ม เสด็จทอดพระเนตรลครปรีดาไลย ที่ถนนแพ่งนรา เวลา ๒ ยามเศษ เสด็จกลับ

วัน ๕ ๑๐ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๓ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จวัดราชาธิวาศ มีการสวดมนต์พระราชทานชื่อเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ที่สั่งเข้ามาใหม่ ชื่อกระบี่เตร็จไตรภพ แล้วทรงเรือประพาศ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับ มาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิตแล้วเสด็จออกประทับที่มุขพระที่นั่งนั้น กรมหมื่นนครไชยศรีลองรถมอเตอร์คาร์ถวายพระเนตร เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น ประทับประชุมเสนาบดี ณะ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา ๔ ทุ่มเศษเลิกประชุม

วัน ๖ ๑๑ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๔ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๔ โมง ทรงรถเสด็จประพาศ เวลาทุ่มเศษเสด็จกลับมาประทับในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๒ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๕ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จวัดราชาธิวาศ ทรงเรือมอเตอร์ประพาศบางบัวทอง เสด็จกลับถึงวังสวนดุสิตเวลาย่ำค่ำเศษ

วัน ๑ ๑๓ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๖ ธันวาคม ๑๒๗

การนักขัตฤกษ์นมัสการพระพุทธชินราชวัดเบ็ญจมบพิตร๔๑ศกนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ไป ร้านหลวงขายหนังสือพระราชวิจารณ์ กับตุ๊กตาต่างๆ โปรดให้มีการเล่นพนันในงานนี้ตามประเภทที่อนุญาตให้เล่นตามสมควร

หนังสือพระราชวิจารณ์ ขายที่ร้านหลวงในงานวัดนี้ เปนพระราชนิพนธ์ ว่าด้วยพงษาวดารท่อนหนึ่ง ซึ่งกรมหลวงดำรงราชานุภาพทรงหามาได้จากข้างวังน่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพบหลักฐานในหนังสือนั้นว่า เปนจดหมายของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทร์เทวี (ที่เรียกกันโดยสามัญในครั้งนั้นว่า เจ้าครอกวัดโพ) ว่าด้วยการบ้านเมือง ตั้งแต่กรุงเก่าเสียแล้ว เจ้าตากมาตั้งเมืองธนบุรี จุลศักราช ๑๑๒๙ ถึง ๑๑๘๒ ในรัชกาลที่ ๒ เปนเวลา ๕๓ ปี เปนจดหมายย่อๆ จึงทรงสันนิฏฐานว่า เปนจดหมายความจำทรง แล้วทรงแต่งอธิบายเพิ่มเติมให้แจ่มแจ้งขึ้น มีสำเนาหนังสือต่างๆ ด้วย หนังสือนี้ทรงพระอุสาหะทำขึ้นไว้ เพื่อจะให้เปนเครื่องเกื้อกูลแก่โบราณคดีสโมสรเปนตัวอย่าง ซึ่งจะค้นคว้าหนังสือเก่ามาวินิจฉัยแลจะทรงยกกรรมสิทธิ์หนังสือนี้ ให้เปนสมบัติของหอพระสมุดสำหรับพระนครต่อไป

เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จไปประทับวัดเบ็ญจมบพิตร ทรงจุดเทียนนมัสการพระพุทธชินราชแล้ว ทรงนำพระสงฆสามเณรเสด็จทอดพระเนตร การขายของตามร้าน ประทับเสวยที่พลับพลาแล้ว เสด็จประพาศร้านต่างๆ ต่อไป เวลา ๗ ทุ่มเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๒ ๑๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๗ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จวัดเบ็ญจมบพิตร ประพาศตามร้านประทับเสวยที่ร้านของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ซึ่งเรียกว่าตลาดบางกอกใหม่แล้ว เสด็จมาประทับพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการ เสด็จไปประทับทอดพระเนตรการออกลอตเตอรี่ เวลา ๒ ยามเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๓ ๑๕ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๘ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาทุ่มเศษเสด็จวัดเบ็ญจมบพิตร ประพาศตามร้านดังวันก่อน ประทับทรงจุดเทียนนมัสการในพระอุโบสถแล้ว เสด็จประทับเสวยที่ร้านเจ้าพระยาภาสกรวงษ์แล้ว เสด็จประพาศตามร้านมาประทับที่ร้านหลวง แล้วเสด็จไปประทับทอดพระเนตรการออกลอตเตอรี่นี้ กรมขุนสรรพสาตรทรงจัดการ มีรางวัลของราคาตั้งแต่ ๔๐๐ บาท ถึงบาท ๑ รวม ๒๕ รางวัล ผู้ที่จะได้รางวัล คือพวกที่ซื้อรูปราคาบาท ๑ ได้ตั๋วใบหนึ่งมีนำเบอร์ เมื่อออกถูกนำเบอร์ของใคร ผู้นั้นก็ได้รับรางวัลตามชั้น วันนี้มีรางวัลรถมอเตอร์คาร์เปนพิเศษนอกจาก ๒๕ รางวัลนั้นด้วย นายเผือกทำการอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเปนผู้ได้ไป เมื่อออกถูกแล้วได้มีคนนำนายเผือกขึ้นรถไป ส่งถึงบ้านทันที เวลา ๒ ยามเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๙ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จวัดเบ็ญจมบพิตร ประพาศตามร้านบ้างแล้ว ประทับที่ร้านหลวง โปรดให้พระสงฆ์ไปรับดอกไม้ธูปเทียนข้างในแล้วเสด็จประทับเสวยที่พลับพลา เวลายามเศษเสด็จเข้าทางประตูพระระเบียงหลังพระอุโบสถ พระราชทานจีวรกำมะหลิดแก่พระญวนพระจีนแล้วประทับในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ ประทับทรงฟังพระสงฆ์สวดมนต์ สวดมนต์จบแล้ว ทรงนำพระสงฆ์สามเณรเที่ยวชมร้าน แลพักที่ร้านหลวง พระราชทานจีวรกำมะหลิดผ้าห่มหนาวแก่พระสงฆ์ ๓๕ รูปแล้ว ทรงนำพระสงฆ์สามเณรเที่ยวชมร้านต่อไป พระสงฆ์กลับแล้วเสด็จประพาศตามร้านจนเวลา ๒ ยามเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๕ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จออกในพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ทรงตั้งพระนิกรมมุนีเปนพระราชโมฬีศรีปาวจนาภรณ์ สทิตย์ ณ วัดบพิตรภิมุขแล้ว ทรงตั้งพระราชโมฬีองค์นี้เปนเจ้าคณะมณฑลอุดร พระญาณรักขิตวัดบรมนิวาศ เปนเจ้าคณะมณฑลจันทบุรี พระธรรมวิหารีเถรวัดพระเชตุพน เปนเจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา แลโปรดให้กระทรวงธรรมการส่งสัญญาบัตร ทรงตั้งพระอริยกระวีวัตคงคาสวัสดิ์เมืองพัทลุง เปนเจ้าคณะมณฑลภูเก็จไปพระราชทาน เพราะพระราชเมธีลาออก พระที่นำตั้ง ๑๐ รูป มีพระธรรมวโรดมเปนประธาน พระที่ทรงตั้งวันนี้ได้ถวายพระพรลาไปจัดการมณฑลตามที่ทรงตั้งแล้ว เสด็จไปประทับในงานวัดเบ็ญจมบพิตร ประพาศตามร้าน แลประทับทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ ทรงประกาศถวายผ้าจำพรรษา พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแลอติเรกแล้ว เสด็จไปประทับเสวยที่ร้านสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนครราชสีมา แลเสด็จประพาศตามร้านต่างๆ เวลา ๒ ยามเศษ เสด็จกลับวังสวนดุสิตเปนเสร็จการ

ในงานวัดเบ็ญจมบพิตร วันที่ ๗ ที่ ๘ ที่ ๙ เวลาบ่ายได้มีเทศน์เปนธรรมทานที่ศาลาบัณรสภาค วันละกัณฑ์ทั้ง ๓ วัน เหมือนปีก่อน ๆ มา

วัน ๖ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จทรงเรือมอเตอร์ที่วัดราชาธิวาศ ประพาศเมืองสมุทปราการ มีเรือมอเตอร์ที่ได้พระราชทานชื่อแล้ว แลที่บอกบาญชีลงชื่อไว้ตามเสด็จด้วย ที่ไปล่วงน่าก็มี บรรดาเรือทั้งนี้ โปรดให้เจ้าของเรือทุกลำเลือกพวกของตัวอันสมควรจะเฝ้า ไปในเรือได้ในลำหนึ่ง ตั้งแต่ ๑ ถึง ๕ คน แลให้มีธงปักเปนเครื่องหมายด้วย เมื่อเสด็จถึงเมืองสมุทปราการ ได้โปรดให้จัดของเลี้ยงผู้ตามเสด็จทั่วกันแล้ว มีเลี้ยงปลาทูเปนสำคัญ เสด็จกลับมาประทับที่แพน่าวัดราชาธิวาศ มีเลี้ยงน้ำชาที่นี้แล้ว เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับถึงวังสวนดุสิต

วัน ๗ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาบ่าย ๕ โมงครึ่ง เสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ราชทูตรัสเซียเฝ้าทูลเกล้า ฯ ถวายพระราชสาสน พระเจ้าเอมเปอเรอรัสเซียถวายไชยมงคลในการพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศกแล้ว ทรงรถมอเตอร์เสด็จวัดราชาธิวาศ ออกทางประตูกวาง เวลาเกือบทุ่มเสด็จกลับมาประทับพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น

วันนี้เจ้าพระยาเทเวศร์จัดให้มีโขนต่อจากงานวัดเตรียมถวายตัว แต่ไม่ได้เสด็จ

วัน ๑ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๑๒๗

วันนี้กำหนดเสด็จประพาศมณฑลปราจิณบุรี เวลาเช้ากว่า ๔ โมงครึ่งได้เสด็จมาลงเรือพระที่นั่งกระบี่เตร็จไตรภพ ที่แพน่าวัดราชาธิวาศมีพวกเรือมอเตอร์ตามเสด็จแลล่วงน่ามาก เรือพระที่นั่งเข้าเกร็จแล้วล่องลงไปหน่อยหนึ่งถึงวัดเสาธงทอง ประทับทำเครื่องเสวยที่ศาลาการปเรียญ แลเลี้ยงพวกที่ไปตามเสด็จแล้ว เสด็จในโบสถ์พระเฝ้า มีพระคุณวงษ์ พระสุเมธมุนี แลพระครูอินทมูนีสมภารวัดนั้นกับพระครูอื่นๆ แลอันดับรวมสัก ๑๐ รูป แล้วเสด็จลงเรือขึ้นไปตามลำน้ำผ่านแพที่ประทับแรมน่าวัดตลาดเหนือ ตรงวัดเทียนถวายข้าม พบแพช้างสีปลาดเมืองน่านที่ล่องลงมา แวะทอดพระเนตรครู่หนึ่ง แล้วไปเข้าลำน้ำเชียงรากใหญ่จนถึงปากคลอง ตรงวัดขี้เหล็ก เข้าคลองมาออกแม่น้ำที่บ้านกระแชง ล่องกลับลงมายังที่ประทับแรมเวลาบ่าย ๕ โมง

วัน ๒ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๒ โมงเศษทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์เข้าคลองรังสิตไปหยุดประทับเสวยที่นาหม่อมใหญ่ ในกรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการที่คลอง ๙ ประทับอยู่ที่นี้หลายชั่วโมง จนเวลาบ่าย ๓ โมงได้ออกเรือพระที่นั่งไปตามคลองรังสิต ผ่านที่จาฤกในการเสด็จเมื่อขุดคลองครั้งแรก ซึ่งอยู่ฝั่งเหนือๆ คลอง ๑๒ หน่อยหนึ่ง แลผ่านพรมแดนเมืองฉะเชิงเทรากับเมืองธัญญะบุรีอยู่ที่คลอง ๑๔ เสด็จไปออกปากคลองทางแขวงเมืองนครนายก เวลาบ่ายราว ๕ โมงเสด็จถึงที่ประทับแรมตำบลองครักษ์ ตรงสามแยกน่าศาลเจ้าข้าม

วัน ๓ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๒ โมงเศษทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ขึ้นไปตามลำน้ำนครนายก จนถึงบ้านเหล้าซึ่งมีวัดฝรั่งมาตั้งอยู่ในที่นั้น ลำน้ำอยู่ข้างจะเล็ก กลับลงมาแวะเสวยที่วัดบ้านอ้ออันเปนทางแยกไปบ้านนา ที่นี่มีตลาดร่องแร่ง ตามระยะทางบ้านเรือนก็มีห่างๆ แต่เปนนาเต็มไปทั้งนั้น เพราะเปนนาดี เสวยแล้วเสด็จล่องลงมาตามลำน้ำที่ขึ้นไป พ้นบ้านองครักษ์หน่อยหนึ่ง ที่นาออกจะโทรมๆเปนที่เปลี่ยวไม่เห็นมีบ้านเรือน ลงไปจนตอนใกล้ข้างปากน้ำโยทกาฤๅพ้นคลองหกวาสายล่างจึงได้มีบ้านเรือนไร่นา ปากน้ำโยทกานี้ออกลำน้ำปาจิณ.ในอ้อมบางแตน เพราะบางแตนมีคลองลัด เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จถึงพลับพลา ประทับแรมที่บางแตนเหนือปากคลองลัด

วัน ๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้าก่อน ๓ โมงทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ขึ้นไปตามลำน้ำบ้านเรือนผู้คนบางมาก แต่ยังพอมีมากกว่าลำน้ำนครนายก แวะเสวยที่ศาลาการปเรียญ วัดไผ่ตำบลหัวไผ่ ทรงฟังพระวัดนั้นเทศน์มัทรี ได้พระราชทานเงินแก่พระวัดนั้นด้วยแล้ว ทรงเรือพระที่นั่งขึ้นไปถึงพลับพลาที่ประทับแรมเหนือเมืองปาจิณเวลาบ่าย ๒ โมงเศษ มีพระองค์เจ้าอลังการ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร มารับเสด็จอยู่ที่นี้ด้วย พลับพลาที่ประทับแรมนี้ อยู่คนละฝั่งกับเมือง ตรงวัดแก้วพิจิตรข้าม ใต้บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรหน่อยหนึ่ง

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษทรงเรือพระที่นั่งแจว เสด็จบ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เวลาเกือบย่ำค่ำเสด็จกลับพลับพลาที่ประทับแรม

วัน ๕ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๓ โมงเศษ ทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ล่องมาเสด็จขึ้นที่ทุ่งพลับพลา ทอดพระเนตรตลาด แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งที่น่าเมืองขึ้นไปตามลำน้ำ แวะเสวยที่บ้านตำบลศรีมหาโพธิ์แห่งหนึ่ง อยู่ใต้วัดพระอินทรแบกลงมา แล้วออกเรือพระที่นั่งขึ้นไปถึงพลับพลาที่ประทับแรมอำเภอศรีมหาโพธิ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ แต่ยังไม่แวะ ได้เสด็จต่อขึ้นไปทอดพระเนตรวังพระองค์เจ้าอลังการที่ย่านนางวิ่ง แลได้เสด็จขึ้นไปทอดพระเนตรท่าตูม จนเวลาบ่ายราว ๕ โมงจึงเสด็จกลับลงมาพลับพลาประทับแรม มีพระยารัตนสมบัติซึ่งขึ้นมาหากินอยู่แถบนี้ได้มาเฝ้าด้วย

แถบตั้งแต่เมืองปาจิณขึ้นมานี้ บ้านเมืองแน่นหนาเปนหย่อมๆ จนถึงตอนศรีมหาโพธิ์ บ้านเรือนรายตลอด มีตลาดเปนระยะๆ ที่ท่าพวกชาวป่าลงคือที่ท่าหาด แลท่าเขมรซึ่งเปลี่ยนชื่อว่าท่าประชุมชน มีไม้ประดู่ ไม้แก่นลงในลำน้ำนี้ มีโรงเลื่อยจีนหลายโรง ตั้งแต่พลับพลาที่ประทับแรมขึ้นไปหลายเลี้ยวจึงได้ถึงย่านนางวิ่ง ตลิ่งสูงประมาณ ๘ ศอกถึง ๓ วา มีดินดานมาก บางแห่งก็เปนแลงออกมายื่นอยู่ตามฝั่ง ลำน้ำตอนบนมีหาดมาก แต่มีบ้านเรือนคนเสมอ

วัน ๖ ๑๐ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๕ โมง ทรงช้างหลังดีของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรซึ่งจัดมาเปนช้างพระที่นั่งชื่อกปุม เจ้าพระยาอภัยภูเบศรทำคอ เสด็จประพาศชายดงศรีมหาโพธิ ผู้ตามเสด็จขึ้นช้างบ้างม้าบ้าง ผ่านท้องทุ่งไปเข้าชายดง ข้างตะวันออก ระยะทางเกือบร้อยเส้น ชายดงที่เสด็จนี้มีเทวะสถาน เชิงเทิน แลสิ่งอื่นๆ ซึ่งเปนของโบราณพึ่งค้นพบในเร็วๆ นี้หลายอย่าง คือ

เทวะสถานหลังหนึ่ง เปนเนินก่อด้วยแลง สูงประมาณ ๑๐ ศอก สังเกตได้ว่าเปนรูปเหลี่ยม ไม่ใช่กลม คงจะย่อไม้สิบสองเปนปรางค์ กลางเทวะสถานมีฐานเทวะรูปทำด้วยแลง มีบัวคว่ำบัวหงาย น่ากระดานใหญ่รีรูปไข่ กว้างประมาณเกือบศอก ยาวศอกเศษ มีช่องกลม ที่สำหรับปักแกน น่าจะเปนเทวะรูปทอง แลที่จะใหญ่มาก สูงกว่า ๔ ศอก ถานนั้นตกตะแคงอยู่

อีกสถานหนึ่งใหญ่กว้างราวกัน มีก้อนแลงสี่เหลี่ยมใหญ่ตั้งอยู่บนนั้น จะเปนแท่นฤๅอะไรไม่มีลวดลาย

มีบ่อกรุหลายบ่อ เปนบ่อเหลี่ยม ก่อด้วยศิลาแลงแผ่นใหญ่ๆ กรุขึ้นมาแต่ก้นบ่อถึงปากบ่อ ยังดีอยู่มาก

มีอีกแห่งหนึ่งพื้นเปนดานศิลาแลง กว้างสัก ๑๐ ศอกยาวสัก ๓ วา ขุดเปนหลุมกลมๆ ปากกว้างสักคืบเศษ ลึกสักศอกหนึ่ง เจาะชิดกันบ้างห่างกันบ้าง ไม่เปนจังหวะ ในหลุมนั้นเกลี้ยง

ตำบลที่พบเทวะสถานนี้ ชาวบ้านเรียกกันว่าโคกฝาง ดงศรีมหาโพธิ์นี้ได้ชื่อจากต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง ซึ่งเปนโพธิ์เก่าแก่ เปนที่นับถือสักการะบูชา ต้นโพธิ์นั้นอยู่ห่างจากโคกฝางนี้ ประมาณเช้าชั่วเพนแต่ก็อยู่ชายดง มีวัดในที่นั้น มีพระบาทจำลอง ระดูเดือนห้าเปนนักขัตฤกษ์ ราษฎรพากันไปไหว้ต้นโพธิ์แลพระบาท ในหลวงทอดพระเนตรสถานที่ของโบราณ ซึ่งค้นพบดังกล่าวมาแล้วๆ ได้ทรงจาฤกพระบรมนามาภิธัย จ,ป,ร, ร, ๔๑ศก ๑๒๗ ไว้ที่ศิลาแลง บนเนินที่ชายดงนี้แห่งหนึ่ง เปนที่หมายในการเสด็จ แลประทับเสวย เจ้าพระยาอภัยภูเบศรตั้งเครื่องป่าถวาย มีไก่เผา ปลาเผา ผักน้ำพริก ซึ่งเปนของทำได้ในป่าง่ายๆ ไม่สู้ต้องหาภาชนะสำหรับหุงต้ม เปนต้น การเสด็จชายดงวันนี้ สมเด็จพระบรมราชินีนารถ แลข้างในได้เสด็จเปนกระบวนระแทะพระตะบองอีกกระบวนหนึ่งด้วย เวลาบ่ายราว ๒ โมง เสด็จกลับพลับพลาที่ประทับแรม

เวลาบ่ายราว ๓ โมง เสด็จทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์แต่พลับพลาประทับแรมอำเภอศรีมหาโพธิ์ ล่องกลับประพาศตามระยะทางลงมาประทับแรมเมืองปราจิณถึงพลับพลาที่ประทับแรมเมืองปราจิณ ซึ่งประทับวานซืนนี้ เวลาบ่ายราว ๕ โมง

วัน ๗ ๑๑ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้าเกือบ ๔ โมง ทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ล่องกลับจากเมืองปราจิณ แวะเสวยกลางวัน ที่วัดอินทาราม ประพาศตามระยะทางลงมา เกินพลับพลาบางแตน ลงไปทางใน ลัดถึงบางขนาก เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จกลับขึ้นมาประทับแรมที่พลับพลาบางแตน

วัน ๑ ๑๒ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้าเกือบ ๔ โมง ทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ล่องตามลำน้ำมาแวะเสวยที่วัดย่านตลาด ซึ่งอยู่ใกล้จะถึงแถบสวนเมืองฉเชิงเทรา แล้วเสด็จประพาศปากน้ำเจ้าโล้ ซึ่งเปนลำน้ำไปเมืองพนมสารคาม แลเมืองสนามไชยเขตร ในลำน้ำนี้เปนที่สวนไร่บริบูรณ มีสัปรศแลมะม่วงเปนต้น ผู้ที่ทำสวนแลไร่ เปนเจ็กมาก ได้แวะทรงซื้อสัปรศด้วย ประพาศในลำน้ำนี้ แล้วกลับออกล่องลงมาตามลำน้ำอีกสัก ๓ เลี้ยว จะถึงเมืองฉเชิงเทรา ได้เปลี่ยนทรงเรือพระที่นั่งอีกลำหนึ่ง เพราะลำที่ทรงมาก่อนน้ำมันหมด จะรอเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งตามมาภายหลังจะช้าไป เสด็จมาถึงพลับพลาที่ประทับแรมเมืองฉเชิงเทราซึ่งทำขึ้นที่น่าตำหนักกรมหมื่นมรุพงษ์ เวลาราวย่ำค่ำ

วัน ๒ ๑๓ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้าเกือบ ๕ โมง ทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ประพาศคลองท่าถั่ว ซึ่งมีชื่อใหม่ว่าคลองประเวศบุรีรมย์ เสวยกลางวันที่วัดเทพราช กลับมาแวะเสด็จขึ้นทอดพระเนตรวัดโสธร พระพุทธรูปในโบสถ์วัดนี้ว่า ทำด้วยศิลาแลงทั้งนั้น องค์ที่สำคัญว่าเปนหมอดี แลว่าลอยน้ำมา คือองค์ที่อยู่กลาง ราษฎรมีความนิยมนับถือในความไข้เจ็บมาก มีคนไปมาเสมอไม่ขาด จนถึงมีร้านธูปเทียนประจำอยู่ได้ ทั้งที่สพานท่าน้ำแลที่ประตูกำแพงแก้วกว่า ๒๐ คน คนหนึ่งว่าขายได้อยู่ในวันละกึ่งตำลึง มีทอดติ้ว พวกจีนเข้ารักษา หม่อมเจ้าศรีใสเฉลิมศักดิ์ได้ถวายกำปั่นเหล็กเจาะช่องไว้สำหรับเรี่ยรายใบหนึ่ง เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จกลับพลับพลาที่ประทับแรม

วันนี้มีกระบวนข้างใน สมเด็จพระบรมราชินีนารถเปนประธานเสด็จประพาศปากน้ำเจ้าโล้

วัน ๓ ๑๔ ๑ ค่ำ ปีวอกสัมฤทธิ๔๑ศกจุลศักราช ๑๒๗๐

วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๑๒๗

เวลาเช้า ๓ โมงเศษ ทรงเรือพระที่นั่งมอเตอร์ ออกจากที่ประทับแรมเมืองฉเชิงเทรา ล่องตามลำน้ำ มาแวะเสวยที่วัดคงคา เหนือหมู่บ้านบางปกง เวลาบ่าย ๓ โมง ออกเรือพระที่นั่งจากวัดนั้นมาออกปากอ่าวบางปกง เรือพระที่นั่งแล่นในทะเล เลียบอ่าวไม่สู้ห่างฝั่งนัก เรือกระบวนเดินลึกกว่า มีเรือมกุฎราชกุมาร เรือเสือ แลเรือตอปิโดมาทอดรายอยู่ปากอ่าว เรือมกุฎราชกุมารสลุตรับเสด็จด้วย ในการเสด็จเลียบอ่าวนี้ กรมหลวงดำรงได้ทรงจัดการให้ทำธงเหลืองแจกบรรดาเรือมอเตอร์ทุกลำ เผื่อมีเหตุขัดขวางในทะเล ยกธงเหลืองขึ้นให้เรือไปช่วย แต่ก็เปนการเรียบร้อยดี ไม่มีเหตุถึงต้องยกธงเลย เพราะนอกจากเรือพระที่นั่งแล้วเรือมอเตอร์ทั้งปวงใช้เรือกลไฟลาก ไม่ได้แล่นมาสักลำเดียว เวลาบ่าย ๔ โมงครึ่งเสด็จถึงพลับพลาที่ประทับแรมซึ่งตั้งอยู่ที่ตรงทำประตูน้ำคลองบางเหี้ย เมื่อถึงที่ประทับแล้ว แล้วเสด็จทอดพระเนตรที่ทำประตูน้ำ ประตูน้ำที่นี่เปนประตูใหญ่ เพราะเปนคลองใหญ่กว่าคลองอื่นๆ แลน้ำก็ลึกมาก เวลาน้ำขึ้นลงถึง ๔ ศอกเศษ การทำประตูน้ำนี้ทำเปนทางระบายน้ำทางหนึ่ง ทางเรือเดินทางหนึ่ง

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ทรงเรือพระที่นั่งพายขึ้นไปเหนือน้ำจนหมดหมู่บ้าน แล้วลงไปใต้น้ำทอดพระเนตรภูมิ์ที่ที่บางเหี้ยนี้มีบ้านเรือนแขงแรง แต่อยู่ในประตูน้ำน้อยอยู่นอกประตูมาก เวลาราวย่ำค่ำเสด็จกลับที่ประทับแรม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ