ธรรมจริยา

อุปชาติฉันท์ ๑๑
๏ ประพฤติสิเป็นธรรม ระบุส่ำประการสาม
กาย, ถ้อย, หทัยงาม เพราะสงบสงวนงำ ฯ
๏ เพรียบพร้อมณไตรพิธ ทุจริตมิผิดพลำ
ฉะนี้แหละเรียก “ธรรม- จริยา” นิยมนาม ฯ
๏ จะบรรยายยก ผิจะบกจะพร่องความ
โปรดเห็นเถอะ; เป็นตาม กวิแต่งแสดงนัย ฯ

กายกรรม

๏ คือเมื่อจะมีกิจ- จสฤษฎิใดใด
พจีจะดูดไข ขณะจิตต์จะคดผอง ฯ
๏ ก็พึงบเพ่งเป็น ภยะเวรละเว้นปอง-
ร้ายกันกระนั้น; จอง จะประทุษฐ์กระทั่งผลาญ ฯ
๏ เบียฬชีพและบีบคั้น สุขสันติสำราญ
และทรัพย์; สรุปการ กลกามประเวณี ฯ
๏ ประกอบณเมตตา กรุณานิรันดร์มี
มุ่งฐานะปาชี- วะชะนิดมิผิดธรรม์ ฯ
๏ เปรมปรีดิ์ประจำอยู่ ฉะเพาะคู่และครองกัน
ประมวลณส่วนสรร- พะกระทำทวารกาย ฯ

วจีกรรม

๏ วิถีวจีกรรม นยะคำจะพูดหมาย
เป็นปด, และพจน์ราย เราะเสาะแส่และเสียดสี ฯ
๏ คำหยาบก็ยับยั้ง ฯลฯ กระทั่งจะพาที
เลอะเหลวและเลว, นี- รประโยชน์ก็หยุดไข ฯ
๏ อะไรผิดได้เผย พจะเอ่ยกะโอษฐ์ไป
เป็นหลักตระหนักใน นระเพื่อจะเชื่อถือ ฯ
๏ ชักนำประชาชน ทะนุตนและปรนปรือ
สมัครสมานฤๅ คุณะธรรมจะบำเพ็ญ ฯ
๏ สุขุมและชุ่มแช่ม วจิแย้มและหวานเย็น
อย่างควรจะคบเป็น ปิยมิตรสนิทครัน ฯ
๏ กล่าวใดก็ด้วยเหตุ ผลเจตนาอัน-
สะอาดและพาดพัน กะประโยชน์นิยมงาม ฯ

มโนกรรม

๏ และทางมโนกรรม ก็มิล้ำลุโลภลาม
รู้พอและพอตาม ตนุพอก็พอใจ ฯ
๏ ของตนผิตนมี มิตระหนี่สิ; สิ่งไหน
จะเผื่อจะแผ่ใคร ผิวะควรก็เอื้อเขา ฯ
๏ ก็แต่มิใช่ชุ่ย เพราะสุรุ่ยสุร่าย; เรา
หย่อยหยิบจะริบเอา ระอุอกและตกเข็ญ ฯ
๏ ข่มฆ่าพยาบาท สละขาดก็คงเย็น-
หทัย; และไป่เป็น พิปริตเพราะผลุนผลัน ฯ
๏ ระงับและดับโท- สะและโมหะเหือดพลัน
เห็นถูกณคลองธรร- มสภาพ ฯลฯ เหตุผล ฯ
๏ นี้ธรรมะจรรยา แหละจะพาพะยุงคน
ประสพสวัสดิ์ดล ศุภมงคโลดม ๚

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ