๑๖๑. โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์

ครั้นมาถึงเดือน ๒ พระฤกษ์จะได้โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ โปรดฯ ให้ทำเขาไกรลาสขึ้นที่หน้าเก๋งเทพรัตนสถาน สูง ๘ วา มีมณฑป บนยอดเขามีรูปพระอิศวร และรูปพระจันทร์ พระอาทิตย์ เทวดาทั้ง ๘ ทิศ ระย้ากินนรบรรจุพระบรมธาตุ ตั้งพระมหาสมุทร เครื่องพิธีครบทุกสิ่ง สิ่งของที่ตั้งในพระมณฑป ก็ตั้งเต็มตามตำราอย่างเขาไกรลาสมาแต่ก่อน ครั้งนี้ทรงเพิ่มเติมขึ้นใหม่ ตั้งพระมหาสมุทร ไม้มหาโพธิ เครื่องที่จะทรงเมื่อโสกันต์แล้ว ได้ตั้งรวมในพิธีมณฑปยอดเขาไกรลาสทั้งสิ้น และรูปสัตว์จตุบาททวิบาทต่างๆ นานา มีพระยานาค พระยามังกร พระยาช้างอัฐทิศซึ่งอยู่ตามทิศเชิงพระเมรุมาประดับประดาไว้ในบริเวณนั้นทุกสิ่งทุกประการ ตามอย่างราชประเพณีแต่ก่อน กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสเป็นแม่กองทำ ขอแรงพวกจีนเจ้าภาษีนายอาการทำเครื่องภูเขาวิจิตรต่างๆ หนทางก็ปูเสื่อมาในราชวัติฉัตรเบญจรงค์ตั้งแต่เกยในพระราชวังหน้าพระที่นั่งนงคราญสโมสร ตลอดมาถึงพระที่นั่งอาภรณพิโมกข์ถึงประตูพรหมเต็มไปทั้งเขาไกรลาส มีทหาร ๑๐ หมู่นั่งกลาบาตปี่พาทย์กลองแขก และเครื่องเล่นหกคะเมนไต่ลวด นอนหอกนอนดาบคาบค้อนเล่นกลต่างๆ รายเข้ามาตามหว่างราชวัติถึงประตูพิมานไชยศรี ชั้นในก็มีมงครุ่ม คุลาตีไม้ กะอั้ว แทงควาย แทงพิไสย มีระเบง แต่งระบำนั้นแต่งเจ้าจอมละครรำออกไปรับเมื่อพระที่นั่งประทับเคยยัดเยียด

ครั้นเสร็จการแล้ว ณวันจันทร์เดือน ๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ[๑] เวลาบ่าย ตั้งกระบวนแห่ออกประตูราชสำราญ กระบวนหน้ามีทหารสก๊อตคืออังกฤษ ทิศเหนือถือขวานหมู่ ๑ ถัดมามีทหารญี่ปุ่นถือธนูหมู่ ๑ ถัดมาทหารอย่างยุโรปถือปืนไรฟันหมู่ ๑ มหาดไทยกลาโหมเป็นประตูหน้า ถัดมามหาดเล็กนุ่งเกี้ยวทองขาวสอดเสื้อครุยสวมลำพอกเดินพนมมือ ๒ แถวหมู่ ๑ สายกลางมีจ่าหุ้มแพรเดินเป็นสารวัตรแถว ๑ ถัดมาเด็กมลายูเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ เด็กฝรั่งเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ เด็กญวนเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ เด็กแขกเทศเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ เด็กจีนเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ เด็กศีร์ษะจุกเดิน ๒ แถวหมู่ ๑ ในระหว่างเด็กนั้นมีกลองชนะแตรสังข์ประโคม ถัดมามีมหาดเล็กเชิญเครื่องสูงเชิญพระแสงสลับกัน ถึงหน้าพระลานมีนางมยุรฉัตร ๑ นางเชิญพุ่มดอกไม้เงินทอง ๒ นาง

ราชนิกูลกำกับ ๒ ข้างพระราชยานนั้น มีอินทร์พรหมเชิญเครื่องสูงเคียงพระราชยานนั้นจัดเอาเจ้าพระยาและพระยาที่เป็นเชื้อพระวงศ์บ้าง ที่เป็นตระกูลคู่เคียงแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบ้าง เคียงที่ ๑ เจ้าพระยานครราชสีมา พระยามนตรีสุริยวงศ์ เคียงที่ ๒ พระยาราชภักดี พระยามหาอำมาตย์ ที่ ๓ พระยาศรีพิพัฒน์ พระยาราชานุประพันธ์ ที่ ๔ พระยาราชบุรี พระยาราชพงศานุรักษ์ ที่ ๕ พระยาประชาชีพภิบาล พระยาเสนาภูเบศร ที่ ๖ พระยาโบราณบุรานุรักษ์ พระยาบำเรอภักดี แต่งตัวนุ่งยกเสื้อเยียระบับอย่างน้อยชั้นใน สวมเสื้อกรุยสวมลำพอกพันโหมดบ้างพันผ้าบ้าง แต่งตัวประกวดประขันกันยิ่งนัก กระบวนหลังมีเจ้าจอมเชิญเครื่องแต่งตัวสวมมงกุฎ พระบุตรีตามเสด็จหมู่ ๑ ถัดมาเจ้าจอมเป็นนางสระหมู่ ๑ ถัดลงมาเจ้าจอมแต่งเป็นนางสระฝรั่งอีกหมู่ ๑ มีเจ้าจอมเถ้าแก่ เจ้าจอมแต่งเป็นทหารสลับกันไปทุกตอน จนกระทั่งถึงพวกนางสระโขลนนุ่งโจงกระเบน ต่อนางสระโขลนลงไปพวกหญิงสาวใช้ข้าในกรมนุ่งโจงกระเบนหมู่ ๑ มหาดเล็กผู้ชายข้าในกรมหมู่ ๑ รถพระที่นั่ง ม้าพระที่นั่ง พระเสลี่ยง พระวอหมู่ ๑ กระบวนหลังมีมหาดไทยถือเครื่องอาวุธต่างๆ และทหารปืนอย่างยุโรปแห่งไปฟังพระสงฆ์เจริญพระปริตรที่พระที่นั่งดุสิดมหาปราสาท ๓ วัน

รุ่งขึ้นณวันพฤหัสบดีเดือน ๒ แรม ๓ ค่ำ[๒] เวลาเช้าพระฤกษ์ได้โสกันต์ แล้วโปรดฯ ให้พณฯ หัวเจ้าท่านเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ที่สมุหพระกลาโหม เจ้าพระยาภูธราภัยที่สมุหนายก ด้วยเป็นเชื้อพราหมณ์แต่งตัวเป็นเทวดาจูงพระกร ขึ้นไปส่งที่สระอโนดาตเขาไกรลาส ครั้นส่งเสร็จแล้วก็ผลัดพระภูษาพลับพลาน้อยแล้ว เสด็จขึ้นไปบนมณฑปรับน้ำสังข์และพระอิศวร ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งพระองค์เป็นพระอิศวร ครั้นรับพระกรเสด็จแล้ว ก็เสด็จกลับลงมาประทับที่พลับพลาด้านทักษิณทิศ ทรงเครื่องต้นเสร็จแล้ว กระบวนแห่ก็ผลัดเครื่องแดง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาส่งขึ้นพระราชยาน แล้วก็แห่เวียนเขาไกรลาสโดยทักษิณาวัฏ ๓ รอบ แล้วเลยแห่ไปเข้าประตูราชสำราญขึ้นเกยที่หน้าพระที่นั่งนงคราญสโมสร ครั้นเวลาบ่ายก็แห่เครื่องแดงมาสมโภชที่พระที่นั่งดุสิดมหาปราสาทอีกเวลา ๑ กับ ๒ วันเป็นคำทรบ ๖ วัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับพระกรและส่งขึ้นเกยลงเกยข้างในและข้างนอกทุกเวลา ครั้นณวันอาทิตย์เดือน ๒ แรม ๖ ค่ำ[๓] แห่ผะอบซึ่งใส่พระเกษาเป็นกระบวนเรือไปลอยที่ท้ายพระบรมมหาราชวัง



[๑] วันที่ ๑ มกราคม ฯ

[๒] วันที่ ๔ มกราคม ฯ

[๓] วันที่ ๗ มกราคม ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ