๓๓. เรื่องเรือกะทงลอยพระประทีป

ฝ่ายที่กรุงเทพมหานครทรงพระราชดำริว่า เจ้านายฝ่ายในถูกเกณฑ์ทำกะทงมาแต่ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คิดดูทั้งค่าลงทุนค่าเลี้ยงคนแจกจ่ายก็อยู่ใน ๓๐ ตำลึงบ้าง ๒ ชั่งบ้าง แล้วก็ถูกเกณฑ์โถเข้ายาคูและร้อยดอกไม้ด้วย ผลประโยชน์ก็ได้น้อย โปรดฯ ให้ยกเลิกกะทงลอยเสีย ให้ขอแรงพระวงศานุวงศ์ต่างกรม ข้าราชการข้างหน้าทำเป็นเรือกะทงยาว ๓ วาบ้าง ๔ วาบ้างถวาย ผู้ที่กะเกณฑ์นั้นก็มิได้คิดว่าการจะยากเหลือเฟือ เกณฑ์ไปทุกหมู่ทุกกรม จนกระทั่งเจ้ากรมปลัดกรมไพร่หลวงก็ถูกหมด ครั้นถึงเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ แล้วก็ให้เสียบเทียนตกแต่งมาส่งต่อฝีพายให้ถวายทรงจุด ถึงเวลาจุดดอกไม้แล้วกะทงก็ไม่หมด รับสั่งให้ฝีพายช่วยกันจุดลอยลงไป ครั้นลอยไปถึงเรือท้ายน้ำนอกเรือล้อมวงแล้ว พวกเจ้าของก็เข้าแย่งกันรับเรือ จึงเกิดวิวาททุ่มเถียงกันว่าเรือของตัว ที่เรือล่มหายไปก็มี ครั้นถึงปีไม่มีเรือจะส่งต้องเสียเงินแก่ผู้รับบ้าง เรือมากเกินไปก็โปรดฯ ให้แบ่งส่งขึ้นไปในพระบวรราชวังบ้าง แต่ก่อนทุ่นหยวกรายคบล้อมวงหน้าพระตำหนักน้ำก็ไม่มี สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่จึงคิดให้มีขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็เป็นธรรมเนียมรายคบในน้ำมาจนทุกวันนี้ แล้วโปรดฯ ให้ทำฉัตรเทียนราวเทียนปักในเรือกิ่งเรือไชย ให้ฝีพาย ๆ เห่ขึ้นล่องที่หน้าพระตำหนักน้ำเมื่อเวลาลอยพระประทีป ๓ วัน ลางทีก็โปรดฯ ให้เถ้าแก่จ่าโขลนเก่าๆ ลงพายเห่บ้าง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ