๒๐๓. การภาษีอากร

ภาษีอากรก็บวกขึ้นทวีมากขึ้นทุกสิ่ง สิ่งไรที่ยังไม่มีภาษีจีนก็ผูกทำเป็นภาษีขึ้น คืออากรการพนันต่างๆ ภาษีงิ้ว ละคร การเล่นต่างๆ ภาษีสุกรและเนื้อสด ภาษีปลาสดน้ำจืดน้ำเค็ม ภาษีปลาทู ภาษีไหม ขี้ผึ้ง ภาษีผัก ภาษีหม้อหวด ภาษีถัง เตารูปพรรณ์ ภาษีเรือมาดโกลน แจวโกลน พายโกลน พริกไทย ๕ ชั่งยกเสียเรียกสมพัตสรค้าง ภาษีฟืนซอไม้ไผ่หัวเมืองมีขึ้นแล้วเกิดวิวาทขึ้นก็ต้องเลิกเสีย ภาษีน้ำมันมะพร้าวแก้เป็นภาษีต้นมะพร้าวเก็บ ๓ ต้นต่อ ๑ สลึง ไม่มีผู้ใดปลูกมะพร้าวๆ แพง ต้องเลิกภาษีต้น กลับเรียกภาษีน้ำมันดังเก่า ภาษีตลาดเลิกเสียเอาภาษีค่าเช่าเรือโรงร้านเข้าแทน อากรสมพัตสรเดิมไร่ละ ๑ บาทเลิกเสียเก็บเอาไร่ละสลึงเฟื้อง ภาษีเกวียนภาษีเรือจ้างเลิกเสีย อากรทุเรียนเดิมต้นละ ๑ บาทลดเสียเก็บต้นละสลึงเฟื้อง ของสิ่งไรที่เหลืออยู่ไม่ได้เรียกภาษีก็น้อยทีเดียว กับเข้าของกินก็แพงขึ้นทุกสิ่ง จะเป็นเหตุด้วยเกิดภาษีขึ้นหรือจะว่าด้วยคนมากขึ้น หรือจะเป็นด้วยอำนาจพระบารมีที่จะให้คนยากคนจนทำมาหากินได้ผลประโยชน์มีกำไรมากขึ้น จนชั้นแต่ของจมอยู่ในดินก็ยังมีผู้ขุดเอามาถวายได้หลายอย่าง

ได้ทองก้อนใหญ่มาแต่เมืองภูเขียวและเมืองอื่นๆ บ้าง หนัก ๑ ชั่งบ้าง ๑๕ ตำลึงบ้าง ๘ ตำลึงบ้าง ๗ ตำลึงบ้าง ที่สุดจน ๕ ตำลึงหลายก้อน มีคนทอดแหที่แม่น้ำมูลเมืองนครราชศรีมา ได้มงคลทองคำมีกะจังจำหลักพระพุทธรูป ๒๑ พระองค์ ทองคำหนัก ๗ ตำลึงเป็นเครื่องของคนโบราณ พระยานครราชศรีมานำมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ