นิทานเรื่องนายสำเภากับลูกเรือ

ครั้งก่อนยังมีนายสำเภาคนหนึ่ง ชื่อคุตรวาสี อยู่ในจำปานคร นายสำเภานั้นเอาทรัพย์ ๔ โกฏิลงสำเภาพร้อมด้วยลูกเรือ ๕๐๐ คน แล้วใช้ใบแล่นไปในมหาสมุทร์ ก็บันดาลให้เกิดลมมหาระหัสพัดมาเปนพายุใหญ่ นายสำเภาจึงว่าแก่ลูกเรือทั้งหลายว่าบัดนี้พายุใหญ่พัดมากล้านัก จำเราจะต้องทอดสมอลดใบหยุดอยู่ในที่นี้ก่อนเถิด ลูกเรือเหล่านั้นไม่เชื่อฟังถ้อยคำของนายเรือ ไม่พร้อมใจกันยังวิวาทถุ้มเถียงกันอยู่ ณทันใดนั้นพอลมเพ็ชหึงพัดมาถึงก็ต้องทอดสมอลงในที่ที่ไม่แยบคาย จะลดใบก็ไม่ทัน เกิดคลื่นใหญ่ซัดเอาสำเภาแตกกระจายไป ทรัพย์ ๔๐ โกฏิก็จมลงในมหาสมุทร์ ลูกเรือ ๕๐๐ คนก็ถึงความตายในทเลทั้งสิ้น นายเรือชื่อคุตรวาสี แม้ถึงมีปัญญาเฉลียวฉลาดล่วงรู้เหตุผลแยบคายอยู่ก็ดี เมื่อไปลำเดียวกับลูกเรือทั้งหลายเปนผู้พาลดื้อดึงไม่พร้อมเพรียงกัน ไม่เชื่อฟังถ้อยคำของตนแล้วก็ต้องถึงความตายด้วยมิใช่หรือ ด้วยด้วยเหตุนี้ท่านผู้เปนใหญ่ในสิริราชสมบัติก็ดี ท่านผู้เปนแม่ทัพใหญ่ก็ดี เมื่อจะประกอบกิจราชการแลจะทำการสงครามก็ดี แม้มีปัญญารู้เห็นเหตุผลแยบคายแล้วก็ดี จำจะต้องชำระชี้แจงให้พร้อมเพรียงกันได้ก่อนแล้วประกอบกิจราชการ แลทำการสงครามนั้นๆ โดยอุบายอันแยบคายเถิด จะมีผลประโยชน์มากเหมือนฝูงนกพิราบทั้งหลายได้พร้อมเพรียงกันเชื่อฟังทำตามคำจิตรคิวาพระยานกพิราบ จึงพ้นภัยอันตรายได้อยู่เย็นเปนสุขมิใช่หรือ ควรจะเอาเปนตัวอย่างให้จงได้

สามสหายครั้นได้ยินคำสุภาษิตของพระยาหนูกล่าวเช่นนั้นก็พากันให้สาธุการว่าดีแล้วชอบแล้ว พระยาหนู กา เต่า สมัน ทั้ง ๔ สหายได้ผูกไมตรีกันไม่ได้ทำลายทางไมตรี ได้ไปมาสมาคมพร้อมเพรียงกันทั้งกลางวันแลกลางคืน ก็ได้อยู่เย็นเปนสุขสิ้นกาลนาน ครั้นภายหลังพระยาหนูเกิดความไข้ สหายทั้ง ๓ ช่วยกันพยาบาลทั้งกลางวันแลกลางคืนก็ไม่หาย หนูจึงกล่าวว่าครั้งนี้เราเจ็บมากอยู่เห็นจะไม่คืนได้ จะขอลาสหายทั้ง ๓ แล้ว ท่านทั้งหลายจงมีใจรักใคร่ต่อกันอย่าทำลายทางไมตรี อย่าได้มีความกินแหนงแคลงใจกัน จงปรึกษาการงารให้พร้อมกัน ในมนุษย์ทั้งหลายมีความเฉลียวฉลาดมาก ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้จงดี ครั้นกล่าวดังนั้นแล้ว พระยาหนูหิรัณกะก็ถึงความตาย เมื่อขณะจะสิ้นใจนั้นได้ระลึกถึงกุศลกิจที่ได้ช่วยชีวิตพระยานกพิราบกับทั้งบริวารมาเปนคตินิมิต ดับจิตต์แล้วไปเกิดในสวรรค์ สามสหายก็พากันสักการบูชาศพพระยาหนูตามสมควร ตั้งแต่นั้นมากาลักขุปตนะก็ดี เต่ามักขะระก็ดี สมันสาขาก็ดี สามสหายเหล่านี้ก็ได้อาศรัยอยู่ในบึงชื่อกับปุระมีความรักใคร่พร้อมเพรียงกันสิ้นกาลนาน

ครั้นภายหลังมีนายพรานเนื้อผู้หนึ่งมาถึงบึงใหญ่นั้น ก็ได้เห็นรอยเท้าสมันจึงเอาบ่วงดักไว้ตามทางที่สมันเคยไปมานั้น ครั้นถึงเวลาสมันจะมาที่ประชุมก็ติดบ่วงของนายพราน ขณะนั้นกาก็มาที่ประชุมด้วย ได้เห็นสมันติดบ่วงของนายพรานอยู่ ก็มีความเสียใจนัก แล้วรีบไปบอกกะเต่าว่าบัดนี้สมันผู้สหายของเราติดบ่วงนายพรานแล้วเชิญท่านรีบไปเร็วๆ เถิด เต่ากับกาก็พากันไปที่สมันติดอยู่นั้น แล้วจึงช่วยกันพูดจาเล้าโลมเอาใจว่าท่านสมันผู้สหายอย่าสดุ้งตกใจกลัวเลย เราทั้งสองจะช่วยแก้ไขให้ท่านออกจากบ่วงให้จงได้ กาจึงว่ากะเต่าว่าท่านเต่าจงกัดเชือกบ่วงนี้ เราจะเอาน้ำมาพ่นจะให้เชือกอ่อนลงแล้วจะได้กัดง่าย ครั้นว่าดังนั้นแล้วกาก็ลงไปอมน้ำที่บึงมาพ่นลงที่เชือกนั้น เต่าก็กัดไปจนตลอดรุ่ง เชือกก็ขาดได้เพียง ๒ เกลียวยังเหลืออีกเกลียวหนึ่ง พอรุ่งขึ้นเปนเวลาเช้ากาจึงว่ากะเต่าว่าท่านสหายจงรีบกัดให้เร็วเถิด รุ่งขึ้นแล้วจวนเวลานายพรานจะมาถึงแล้ว เราจะขึ้นไปจับอยู่บนยอดไม้จะได้คอยดูนายพรานจะออกมา เมื่อเห็นนายพรานออกมาแล้วจะร้องให้เสียงให้รู้พร้อมกัน ครั้นรุ่งเช้านายพรานแบกพร้าโต้ออกมา กาได้เห็นแล้วก็ร้องบอกว่านายพรานมาแล้ว เต่าก็เร่งกัดยังไม่ทันขาด ในทันใดนั้นพอนายพรานมาถึง สมันเห็นนายพรานแล้วก็ตลึงตกใจดิ้นโดดด้วยความกลัวจนเชือกขาด แล่นหนีเอาตัวรอดได้ เต่าก็รีบคลานไปจะลงบึงก็หาทันไม่ นายพรานก็จับเต่าใส่ข้องไว้ ครั้นกาเห็นว่าพรานจับเต่าได้เช่นนั้นก็มีความเสียใจนัก จึงไปปรึกษากับสมันว่าบัดนี้พรานจับเต่าผู้สหายของเราไปได้อีกแล้ว เราจะคิดแก้ไขปลดเปลื้องกันอย่างไรดี อย่ากระนั้นเลย ท่านสมันจงทำอาการปานประหนึ่งว่าขาหักแล้วไปเดิรล่ออยู่ข้างหน้านายพราน อย่าให้ไกลนักอย่าให้ใกล้นัก เมื่อพรานไล่ตามท่านไปคงวางเต่าสหายของเราไว้ที่ใดที่หนึ่งเปนแน่ ครั้นพรานวางเต่าลงเมื่อใดเราจะร้องให้เสียงไป ท่านสมันจงรีบตระหลบกลับมาฉวยเอาเต่าผู้สหายของเรา แล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าให้จงได้ ครั้นปรึกษาสัญญากันตกลงเช่นนี้แล้ว สมันก็แกล้งทำอาการปานประหนึ่งว่าขาหักไปเดิรล่ออยู่ข้างหน้านายพราน ครั้นนายพรานเห็นสมันดังนั้นแล้วจึงบ่นว่าสมันตัวนี้ติดบ่วงของเราแล้วดิ้นจนเชือกขาดหนีไปหาตลอดไม่ ยังหันกลับมาหาเราอีก กรรมของมันแล้ว เราจะไล่จับสมันนี้แก้แค้นให้จงได้ แล้วนายพรานก็เอาข้องเต่าแขวนไว้ที่ค่าคบไม้ต้นหนึ่ง จึงวิ่งตามสมันไป กาก็บินตามสมันไปด้วย ครั้นเห็นว่าไกลนายพรานจะกลับมาไม่ทัน กาจึงร้องให้เสียงสัญญาขึ้น สมันก็วิ่งย้อนกลับมาเอาเขาของตนช้อนเอาข้องเต่าที่นายพรานแขวนไว้นั้นแล้วก็หนีเข้าป่าไป นายพรานครั้นกลับเข้ามาจะเอาเต่าก็ไม่ได้มีความเสียใจกลับไปบ้านของตน แลสัตว์สามสหายนั้นเพราะรักใคร่พร้อมเพรียงกันจึงได้ช่วยกันให้พ้นทุกข์ภัยได้

วันหนึ่งกาจึงว่าแก่สองสหายนั้นว่าถิ่นฐานที่อยู่ของเรานี้ มนุษย์มาถึงได้ใกล้ศัตรูอันตรายนัก ครั้นจะอยู่นานไปเห็นว่าจะไม่รอดชีวิตได้เปนแน่ ควรเราจะคิดอ่านแปรสถานไปอยู่ที่อื่นจึงจะชอบ เต่ากับสมันจึงตอบว่าถ้าท่านกาไม่ช่วยต่อความคิดแล้ว เราทั้งสองคงจะไม่พ้นอันตรายจริงอย่างท่านว่า กาจึงพาเต่ากับสมันไปอยู่ในป่าอื่นซึ่งมีหนองใหญ่สมบูรณ์ด้วยอาหารเปนที่ไกลมนุษย์ แม้มนุษย์จะไปก็ไม่ถึง สามสหายก็ได้รักษาทางไมตรีมีความรักใคร่พร้อมเพรียงกันอยู่ในฐานที่นั้นจนสิ้นชีพ ครั้นจุติแล้วเพราะกุศลที่ตั้งอยู่ในยุติธรรมความสัจก็ได้พากันไปเกิดในที่ชอบ

นี่แลข้อสุภาษิตพร้อมไปด้วยนิทาน ทั้งเหตุอุปมาซึ่งมีมาแต่ก่อนอย่างนี้ เมื่อพระราชาเจ้าก็ดี อุปราชเจ้าก็ดี เสนามาตย์ราชมนตรีน้อยใหญ่ก็ดี เหล่าท่านผู้มีปรีชาก็ดี แลเปนเศรษฐีพ่อค้ามั่งคั่งด้วยทรัพย์สินก็ดี แลหมู่ไพร่ชาวไร่ชาวนาก็ดี เมื่อได้สดับฟังแล้วพึงจำไว้ให้เปนคติ เปนแบบอย่างไว้ให้แน่นอนจึงจะชอบ ข้อสุภาษิตเหล่านี้ได้รวบรวมมาประมวลไว้พอสมควร

อาจารย์วิสมานะราชบัณฑิตได้ตลบเนื้อความข้างต้นมาย่นย่อไว้เปนข้อๆ พอสังเขป กล่าวสอนพระราชกุมารทั้งหลายนั้นว่า ข้าแต่พระราชกุมารทั้งหลาย เรื่องราวซึ่งได้กล่าวมาเหล่านี้ หวังว่าจะให้พระราชกุมารทั้งปวงมีปรีชาญาณเปรื่องปราชญ์ในคัมภีร์นิติศาสตร์ เพื่อจะได้รู้เห็นแบบแผนเยี่ยงอย่างการคดีโลกตามพระราชประสงค์ของพระมหากษัตริย์ผู้เปนพระราชบิดา แลข้อความที่ควรจะจำใส่ใจโดยย่อตามอนุสนธิแต่เบื้องต้นนั้นว่าจิตร์คิวาพระยานกพิราบ แม้มีปรีชาเปรื่องปราชญ์ล่วงรู้เห็นเหตุผลในเบื้องหน้า เมื่อกล่าวห้ามนกพิราบทั้งหลายที่เปนบริวารจะไม่ให้ลงไปกินปลายเจ้าของนายพรานเพราะกดขี่บริวารไม่อยู่ในถ้อยคำของตนได้ด้วย แลนกพิราบทั้งหลายผู้เปนบริวารเพราะไม่ถือคำสอนของพระยานกพิราบผู้มีปรีชารอบรู้นั้นด้วย จึงพากันถึงทุกข์ภัยอันตรายติดข่ายของนายพรานทั้งสิ้นมิใช่หรือ ครั้นบริวารทั้งหลายพร้อมใจกันประพฤติตามคำสอนของพระยานกพิราบผู้มีปรีชารอบรู้แล้วจึงพ้นจากเงื้อมมือของนายพรานได้มิใช่หรือ เพราะเหตุนั้นพระราชกุมารสิ่งใดๆ จงปรึกษาให้พร้อมกันแล้วจึงทำเถิด ข้อซึ่งนกพิราบทั้งหลายติดข่ายอยู่แล้ว เพราะได้ผูกไมตรีกับพระยาหนูผู้เปนมิตรสหายดีตั้งอยู่ในความสัตย์มากัดให้ จึงได้พ้นภัยรอดจากความตายได้มิใช่หรือ แม้ด้วยข้อนี้ถึงพระราชกุมารทั้งหลายจงผูกไมตรีคบหาด้วยมิตรสหายที่ดี ที่มีสติปัญญาตั้งอยู่ในยุติธรรมความสัตย์ไว้จึงจะชอบ อนึ่งเหมือนพระยาหนู พระยานกพิราบ กา เต่า สมัน สัตว์เดียรฉานเหล่านี้ เมื่อผูกไมตรีกันนั้นก็ไม่เลือกว่าเชื้อวงศ์ชาติตระกูลเหมือนกันหรือต่างกันสุดแต่เปนผู้ดีมีสติปัญญาซื่อตรงต่อมิตรสหายจึงได้ผูกไมตรีกัน แม้พระราชกุมารทั้งหลายอย่าได้เลือกเชื้อวงศ์ชาติตระกูลต่ำสูง อย่าได้ถือตนว่าเปนตระกูลกษัตริย์ พึงเสาะหาคนดีที่มีปัญญาเปรื่องปราชญ์ตั้งอยู่ในความสัตย์แล้วคบหาไว้เปนมิตรสหายเถิด ข้อหนึ่งเหมือนพระยาหนู พระยานกพิราบ กา เต่า สมัน สัตว์เดียรฉานเหล่านี้ เมื่อทุกข์ภัยของมิตรสหายเกิดมีขึ้นแล้วก็ไม่อาลัยในชีวิตของตน ช่วยเปลื้องปลดโทษทุกข์กิจกังวลของมิตรสหายตนให้สำเร็จได้ฉันใด แม้พระราชกุมารทั้งหลายเมื่อทุกข์ภัยเกิดขึ้นแก่มิตรสหายของตนแล้ว อย่าเพิกเฉยละเลยเสีย ต้องขวนขวาย แม้จะเสียทรัพย์สินชีวิตตนไปก็ดี จงช่วยปลดเปลื้องให้สำเร็จจงได้ฉันนั้นจึงจะชอบ วิสัยทรัพย์สินร่างกายทั้งชีวิตนี้จะติดตามตนอยู่ได้แต่ชาติเดียวชั่วชีวิตครองร่างกายเพียงนั้น บุญคุณที่ซื่อตรงต่อมิตรสหายซึ่งได้ทำไว้นั้นเปนประโยชน์ยืดยาว แม้จะสิ้นกัลป์ไปก็ไม่รู้สิ้นรู้สุดเลย แลเปนที่สรรเสริญเปนแบบอย่างแก่ประชุมชนภายหลังจนตลอดกัลปาวสาน เหมือนจันทรพุทธิสุนักข์จิ้งจอกผู้พาลเพราะไม่ซื่อตรงต่อมิตรสหายจึงเกิดวิบัติอันตรายต้องถึงแก่ความตาย เบื้องหน้าแต่จุติจิตต์ไปต้องไปทนทุกข์ในนรกใหญ่อีก เพราะเหตุนั้นพระราชกุมารทั้งหลายเมื่อผูกไมตรีเปนมิตรสหายกับผู้ใด ซึ่งเปนสหายดีมีความสัตย์แล้ว อย่าคิดคดทำลายล้างทางไมตรีคิดประทุษฐร้ายมิตรสหายของตนเลย อนึ่งเมื่อท่านผู้ใดได้ทำคุณแก่ตนไว้แล้วอย่าลบหลู่คุณท่าน อย่าประทุษฐร้ายท่านผู้มีคุณเลย พระยาหนูหิรัณกะเพราะเปนพหูสูตรได้สดับฟังมากมีปรีชาญาณเปรื่องปราชญ์ เมื่อได้ฟังคำกาลักขุปตนะกล่าวก็ดี แลได้เห็นอากัปกิริยาลุกนั่งก็ดี ได้แลเห็นอินทรีย์กาลักขุปตนะไม่วิการก็ดี ก็ได้รู้ว่าเปนผู้ดี แม้พระราชกุมารทั้งหลายพึงเล่าเรียนคัมภีร์นิติศาสตร์ อย่าได้ประมาทอุตสาหะจำใส่ใจซึ่งข้อสุภาษิตแลนิทานต่างๆ ให้แม่นยำ อบรมสันดานตนให้เปนคนพหูสูตรขึ้นจงได้จึงจะชอบ อนึ่งวานรใหญ่เพราะมีปรีชาว่องไวเปรื่องปราชญ์เฉลียวฉลาด แม้จรเข้มาหลอกไปถึงน้ำลึกอยู่ในเงื้อมมือจรเข้แล้วก็ดี เพราะมีปัญญาว่องไวจึงรอดชีวิตได้มิใช่หรือ ถึงพระราชกุมารทั้งหลายก็ต้องหัดปรือฝึกฝนปรีชาญาณของตนให้รวดเร็วว่องไวเช่นนั้นด้วยจึงจะชอบ อนึ่งกัปปุระช้างก็ดี จลัตถะแร้งแก่ก็ดี เพราะมีสุตคุณเปนผู้ไดสดับน้อยเหมือนสิงคะสุนักข์จิ้งจอกแลทีฆกัณณะแมวมาหลอกลวงก็ไม่ตรึกตรองเปรียบเทียบด้วยเรื่องราวมีมาแต่ก่อนโดยแยบคาย ไปเชื่อคำสุนักข์จิ้งจอกแลแมวก็ถึงแก่ความตาย แลสุนักข์จิ้งจอกแมวผู้ทำลายชีวิตท่านทั้งสองนั้นก็ต้องไปทนทุกข์ในนรกใหญ่ แม้พระราชกุมารทั้งหลายพึงตรึกตรองให้เห็นโทษในการเปนผู้ได้สดับฟังน้อยแลงดเว้นเสียจากการฆ่าชีวิตท่านให้ห่างไกลเสียจึงจะควร อนึ่งเต่าผู้ตั้งอยู่ในความสัตย์เพราะกุศลจิตต์คิดทำประโยชน์แก่มิตรสหาย จึงเข้าไปกัดบ่วง แม้นายพรานจับได้ก็หลุดพ้นจากเงื้อมมือนายพรานได้กลับมาอยู่กับมิตรสหายเปนสุขสำราญมีอายุก็ยั่งยืนนาน อนึ่งพระยาหนู กา เต่า แม้เปนเดียรฉานได้ถึงพร้อมด้วยปัญญาคุณได้เกื้อกูลแก่กันแลกันให้เปนสุขสำราญในปัจจุบัน ครั้นทำลายขันธ์ก็ได้ไปเกิดในที่ชอบ แม้พระราชกุมารทั้งหลายจงศึกษาเล่าเรียนให้พร้อมด้วยปริยัติคุณแล้ว แลเกื้อกลแก่มิตรสหายของตนด้วยจึงจะชอบ อนึ่งเมื่อจะประกอบกิจการสิ่งใดๆ ก็ต้องตรึกตรองด้วยปัญญาก่อนแล้วจงประกอบกิจนั้นๆ เถิด ถ้าอยากให้ยาวก็ต้องตัดเสียให้สั้น ถ้าอยากใหสั้นก็ต้องต่อออกไป ถ้าอยากให้ใกล้พึงจากเสียให้ไกล ถ้าอยากให้ไกลพึงเข้าให้ชิด ถ้าลึกไซ้พึงหยั่งลงให้ถึงก่อน ถ้าตื้นแล้วอย่าหยั่งเลย การไม่ควรคิดเร่งคิดเสีย คำเหล่านี้พระราชกุมารทั้งหลายพึงจำไว้ให้แม่นยำ ความสิ้นก็สิ้นอยู่ ไม่ควรพบก็พบอยู่ ไม่ให้สิ้นก็ย่อมสิ้นไป ไม่พึงได้ก็ย่อมได้ ไม่ให้ใกล้ก็ย่อมใกล้ ของใกล้ไซ้ก็กลับไกลไป ทางไกลไปคดก็ถึงได้ ถ้าไปตรงทางก็ค่อยเปลืองไป ถ้าไปคดทางช้ายาวไป ถ้าลึกไซ้ที่ลึกก็มี ถ้าตื้นแล้วที่ตื้นก็มี ถ้าคดที่คดย่อมมี ถ้าตรงแล้วต้องศึกษา ไม่ควรจะได้ต้องได้ ไม่รักชอบต้องชังเสีย ถ้าชังไซ้ต้องทำให้รัก แม้คำเหล่านี้พระราชกุมารทั้งหลายพึงจำเอาไว้ให้ได้ ข้าแต่พระราชกุมารทั้งหลายแม้สัตว์เดียรฉานทั้งหลายยังเปนพหูสูตร อบรมปัญญาเที่ยวเสาะหามิตรสหายที่ดี ผูกไมตรีคบหาไว้ร่วมสุขทุกข์ ให้เปนประโยชน์ในปัจจุบันแลอนาคตกาลข้างหน้า พระราชาเจ้าแผ่นดินก็ดี พระราชบุตรแลราชวงศานุวงศทั้งปวงก็ดี แลหมู่อมาตย์มุขมนตรี แม่ทัพนายกองใหญ่น้องทั้งปวงก็ดี พึงสำเหนียกศึกษาคัมภีร์นิติศาสตร์ต่างๆ ทั้งไตรเพท ธรรมศาสตร์แลคัมภีร์ช้าง คัมภีร์ม้า คัมภีร์พิไชยสงคราม แลตำราแพทย์ ตำราโหร ปกรณ์ทำนายนิมิตเปนต้น ให้รู้เห็นเปนพหูสูตรไว้ให้ถึงพร้อมด้วยคติวิชาการณ์ศิลปศาสตร์นั้นๆ จึงจะชอบ

----------------------------

อันปกรณ์หิโตประเทศวัตถุนี้ อาจารย์วิสมานะราชบัณฑิตได้เรียบเรียงมาสั่งสอนพระราชบุตรทั้งหลายของพระเจ้ามหาสุทัศนราชเปนต้นเดิมมาก่อน

จบเรื่องราวหิโตประเทศวัตถุปกรณ์เพียงนี้

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ