พระราชปุจฉา เรื่องแขกเมือง

จุลศักราช ๑๐๔๗ ฉลูศก (พ.ศ. ๒๒๒๘) พระเจ้าตรัสใช้ให้นายสิทธิ์มาถามพระพรหมอิกเล่า ว่าบัดนี้แขกเมืองเข้ามาเปนอันมาก พระพรหมจะเห็นเปนประการใด

พระพรหมว่าบุญสมภารพระเจ้ามากนัก แขกเมืองจึงเข้ามาดังนี้ แต่อายุกูนี้ได้สามพระยาแล้ว กูบห่อนได้ยินว่าแขกเมืองเข้ามาเปนอันมากดังนี้ แลซึ่งแขกเมืองเข้ามามากดังนี้ ด้วยเดชะโพธิสมภารพระเจ้าแล

นายสิทธิ์จึงบอกเล่า ว่าบัดนี้แขกเมืองให้กราบทูลว่า แขกเมืองจะเข้ามาอิกมากกว่านี้เล่า แลพระเจ้าให้มาถามว่า ซึ่งแขกเมืองจะเข้ามาอิกมากกว่านี้นั้น เห็นยังจะเปนประการใด

พระพรหมว่าแขกเมืองจะเข้ามาอิกนั้น ย่อมทราบอยู่ในพระไทยพระเจ้าทุกประการ แลกูมิว่าเลย แลกฎหมายเอาคำกูนี้ไปทูลให้พระเจ้าทราบเถิด

นายสิทธิ์กฎหมายเอาคำพระพรหมมากราบทูล พระเจ้าทรงพระสรวลแล้วตรัสว่า มหาพรหมนี้เจรจาหลักแหลมแลรู้หลักด้วย เสียดายเธอแก่นักแล้ว แม้นยังหนุ่มเราจะได้ไต่ถามกิจทั้งปวงไปภายน่า ฯ

----------------------------

วัน ๒ ๘ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๑๒ ปีมะเมียโทศก (พ.ศ. ๒๒๙๓) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ กรมพระราชวังบวรสฐานมงคล ถวายเรื่องราวนี้ คัดออกจากฉบับสมุดดำหลังลงรัก หลวงไตรโกษาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือนี้ แต่ครั้งพระนารายน์ลพบุรี สิ้นฉบับแต่เท่านี้ ฯ

เขียนจบวัน ๓ ๗ ค่ำ ปีเถาะศักราช ๑๑๘๑ (พ.ศ. ๒๓๖๒) ฯ

  1. ๑. หมายว่า ๓ รัชกาล นับแต่พระเจ้าปราสาททองมา

  2. ๒. คือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (กุ้ง) เปนกรมพระราชวังบวรฯ ในรัชกาลพระเจ้าบรมโกษฐ

  3. ๓. ต้นฉบับที่หอพระสมุด ฯ ได้มาเขียนในรัชกาลที่ ๒ กรุงรัตนโกสินทร์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ