- คำนำ
- พระประวัติสมเด็จพระมณีวงศ
- พระราชพิธีราชาภิเษก
- คำรบ ๑ ไถงศุกร ๓ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๐ แขสูเยต
- คำรบ ๒ ไถงเสาร์ ๔ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๑ แขสูเยต
- คำรบ ๓ ไถงอาทิตย์ ๕ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๒ แขสูเยต
- คำรบ ๔ ไถงจันทร์ ๖ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๓ แขสูเยต
- คำรบ ๕ ไถงอังคาร ๗ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๕ แขสูเยต
- คำรบ ๖ ไถงพุธ ๘ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๕ แขสูเยต
- กบวนพิธีขึ้นพระที่นั่งมหามนทีรในพระบรมราชวัง
- กบวนรำลึกพระมหากษัตรซึ่งทรงพระราชาภิเษก
- เครื่องไทยทาน
- กบวนแห่พระกรุณาเปนเจ้าชีวิตเลอหัว
- ลงคำสั่ง
คำรบ ๔ ไถงจันทร์ ๖ เกิดแขทุติยาษาฒ คือไถง ๒๓ แขสูเยต
โมง ๗ กับ ๕ มีนุตเช้า-เปนมหาวิชัยมงคลฤกษ์ พระกรุณาทรงเครื่องพรรณขาว พระภูษาผายขาว๑ เสด็จย่างตามกบวนแห่ดุจกล่าวแล้ว มาในพระที่นั่งเทวาวินิจฉัย บาคูเป่าสังข์แกว่งปิงปังและประโคมดุริยดนตรีถวายตามธรรมเนียม พระกรุณาถวายบังคมพระพุทธรูปพระเทวรูป นิมนตร์พระสงฆ์ซึ่งสวดพระพุทธมนตร์แต่เย็นสวดชยันโตถวายชัยสรง แล้วพระกรุณารับท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล ดือลางดูสีน๒ กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปริเยือร ดือลาเรปุบลิกบารังแสส๓ ในกรุงกัมพุชา เปนเดียวกับสมเด็จพระสังฆนายกทั้ง ๒ คณะ กับอัครมหาเสนา เสนาบดี กับสมเด็จพระอิสีภัทราธิบดี แห่เสด็จย่างขึ้นเลอพระบัลลังก์ ใต้พระมหาบุษบก ตั้งข้างหน้าพระที่นั่งเทวาวินิจฉัย พระกรุณาคงเลอแผ่นสุวรรณเลขามอันรจนาด้วยชาติหิงคุล๔ เปนภาพราชสีห์ ปูเหนือใบอุทุมพรพฤกษ์ สมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีถวายสังข์ชัยพฤกษ์ พระกรุณาทรงรับถือพระหัตถ์สดำเปนพระเดชเจษฎา พระกรุณาผินพระพักตร์ไปบูรพทิศา ฯ
ออกญาโหราธิบดีจางวางกรมโหราสวดประกาศอัญเชิญเทวดา ขอจำเริญสิริสวัสดิชัยมงคลถวายพระกรุณาอยู่ที่ร้านเทวดา แล้วยิงปืนใหญ่ ๒๑ นัด
พระสังฆนายกทั้ง ๒ คณะ ถวายพระอุทกธาราพุทธมนตร์สรง สมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีถวายพระสิทธรสกลศสังข์ ทรงสรงเสยพระเกศาตามธรรมเนียม สมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีถวายใบมะตูมเสียดพระกรรณเฉวียง ฯ
ท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือร กับอัครมหาเสนา เสนาบดี ก็ช่วยถวายพระสิทธรสทรงสรงแล้ว แห่เสด็จย่างลงมา ต้องพระรามราชาธิบดีจางวางกรมพระวงศ ประพรมพระบาทพระกรุณาด้วยน้ำมะพร้าวน้ำอบเหนือถาดมาศถาดปรัก แล้วเสด็จย่างไปสันถิตเลอพระแท่นผลัดพระพัสถ์พระภูษา แล้วเสด็จย่างเข้าไปในพระที่นั่งเทวาวินิจฉัยตามกบวนแห่ ย่างไปประทับในพระที่นั่งจักรพรรดิเล่า ทรงเครื่องพระพัสถ์พระภูษาผายรัตกัมพล ตามมหากษัตรแต่บูราณเพญพระราชยศ ฯ
โมง ๙ เช้า-พระกรุณาทรงเครื่องสำหรับพระมหากษัตราธิราช ตามกบวนแห่ใหญ่ซึ่งกล่าวแล้ว ออกมาในพระที่นั่งเทวาวินิจฉัย สมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีรับแห่หน้า ทรงรับคำนับท่านลือคูแวรเนอรเยเนราลดือลางดูสีน กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือร กับสิ้นนักราชการ นักพ่อค้าบารังแสส ซึ่งมาจวบชุมช่วยบุณย์ แล้วทรงถวายบังคมพระพุทธรูปพระเทวรูปรับศีล ถวายพระองค์เปนพุทธอุปัฏฐาก เปนธรรมอุปฏฐาก เปนสังฆอุปัฏฐาก แล้วเวโภชนาหาร๕ กับเครื่องไทยทานพระภิกษุสงฆ์ พระภิกษุสงฆ์ถวายพระพร นิมนต์ไปฉันที่กุฏิ ฯ
พระกรุณาเสด็จย่างไปประทับเลอพระที่นั่งเก้าอี้๖ ลาดขาวบริสุทธิ์ ผินพระพักตรไปทิศบูรพ มีพระราชครูบาคูปุโรหิตนั่งคัลชุมเวียนที่ง ๘ ทิศ มีบาคูแกว่งปิงปัง ๘ นัก กับบาคูเป่าสังข์ จึงสมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีถวายพระอิศวรทรงโอบพระหัสถ์สดำ ถวายพระนารายณ์ทรงโอบพระหัตถ์เฉวียง แล้วพระราชครูนั่งทิศบูรพสวดถวายพระคาถาตามทิศ แล้วทรงบังเวียลพระองค์เปนทักษิณา โดยฉะเพาะพระพักตรไปทิศอาคเนย์ ทิศทักษิณ ทิศนีดี๗ ทิศปัศจิม ทิศพายัพ ทิศอุดร และทิศอีศาณ ต้องให้ปุโรหิตซึ่งนั่งประจำทิศ สวดถวายพระคาถาตามทิศครบ ๆ ทิศตามธรรมเนียมพราหมณ์ แล้วทรงฉะเพาะพระพักตรไปทิศบูรพเล่า พระราชครูประจำทิศทั้ง ๘ ถวายสิริสวัสดิมหาวิชัยมงคลพร้อม ๆ กัน แล้วสมเด็จพระอิสีภัทรถวายพระสิทธรสพระราชสังข์ทรงเสวย ฯ
ออกญาพินิจวินิจฉัย จางวางกรมพระอาลักษณ์ สวดพระสุวรรณบัตรถวายพระนาม ฯ
ออกญามหามนตรี จางวางกรมเรือนหลวง สวดถวายพระมหามกุฎราช กับราชสมบัติส่วยสาอากรพระนครกัมพุชาธิบดี กับพระราชวงศานุวงศกษัตรากับอัครมหาเสนา เสนาบดีนาหมื่น สรรพมุขมนตรี ขญมราชการ ครบดำแหน่ง ครบกรมทั้งข้างในข้างนอก กับนาไร่สวนเพาะปลูก น้ำดินไพรภนม ในขอบขัณฑสีมาพระมหานครกรุงกัมพุชาธิบดี กับถวายสัพท์สาธุการพร แล้วพระราชวงศานุวงศ อัครมหาเสนา เสนาบดีนาหมื่น สรรพมุขมนตรีขญมราชการทั้งสิ้น ซึ่งมาจวบชุมอยู่ที่นั้น มีพาน มีโต๊ะใส่ดำกลตราสำหรับยศศักดิ๘ กับผกาและเทียนทึกอบตามยศศักดิกราบถวายบังคมครั้งหนึ่ง ฯ
พระกรุณาทรงมานพระราชโองการ เนาพระบันทูลสุรสิงหนาท พระราชทานสาธุการพร แล้วทรงพระราชทานตราสำหรับยศศักดิหน้าที่งานครบตำแหน่ง อวยสิ้นพระราชวงศานุวงศ อัครมหาเสนา เสนาบดีนาหมื่น สรรพมุขมนตรี รับทำราชการตามตำแหน่งฉลองพระเดชพระคุณ กับพระราชทานนาไร่สวนเพาะปลูกน้ำดินไพรภนม ให้สิ้นขญมราชการประชานุราษฎร์ เนาทำมาหากินโดยสุขเกษมศานต์ เปนธรรมดาดุจแล้วมาเล่า ฯ
ขญมราชการทั้งสิ้นรับกราบถวายบังคมครั้งหนึ่ง ฯ
พระกรุณาคงเลอพระที่นั่งเก้าอี้มาศ ฯ
ท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล กับท่านลือเรสิดองต์ สุปรีเยือร เข้าถวายคำนับจวบชุมประชุมใหญ่ นำข่าวสาสนถวายศัพทสาธุการพรแต่คูแวรเนอมองต์ดือลาเรปุบลิกบารังแสส๙ ที่ทำนุกบำรุงกรุงกัมพุชาธิบดี แล้วอัญเชิญและแห่เสด็จขึ้นประทับเลอพระบัลลังก์รัตน์ ใต้พระมหาเศวตฉัตร ๙ ชั้น ยิงปืน ๒๑ นัด แล้วสมเด็จพระอิสีภัทราธิบดีอัญเชิญพระมหามกุฎราช ส่งไปท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล ๆ ทรงถวายพระกรุณา ต่างพระนามกรุงบารังแสส ฯ
อัญเชิญพระขรรค์ราช ส่งไปท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือรถวายไปพระกรุณา ทรงรับถือพระหัดถ์สดำ แล้วเสนาบดีและเจ้ากระทรวงถวายธารพระกร พระสุพรรณบาท๑๐ กับเครื่องสำหรับราชตามธรรมเนียมฯ
ขญมราชการกราบถวายบังคมครั้งหนึ่งอีก เป็นคำรบ ๓ ครั้งเสร็จ ฯ
ท่านลือคูแวรเนอรเยเนราลแถลงอธิบายถวายศัพท์สาธุการพร ฯ
พระราชครูแห่เสด็จย่างลงมาคำนับท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือร แล้วทรงสวดพระราชโองการ ตอบพระเดชพระคุณกรุงบารังแสส ซึ่งช่วยรักษาพระนครกับราชการกรุงกัมพูชาธิบดี กับช่วยเป็นอธิบดีในการบุณย์ราชาภิเษกพระองค์ ฯ
ท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือร กับมหาชนบารังแสส ซึ่งมาจวบชุมทั้งสิ้น จับพระหัดถ์ถวายคำนับลาพระกรุณาออกไปเล่า ฯ
โมง ๑๐ เช้า - พระกรุณาเสด็จย่างตามกบวนแห่เข้าไปเล่า ดลพระที่นั่งทักษิณประทับเลอพระแท่น ฯ จึงนักออกราชานุพงศกราบบังคมทูลฉลอง ถวายสิ้นพระราชวงศานุวงศกษัตรี กับพระสนมกรมการ พระศฤงคารกับศัพท์สาธุการพร ฯ
ภริยาจางวางกรมเรือนหลวง กราบบังคมทูลฉลองถวายชุมท้าวขุนนาง กับขญมราชการสตรีครบกรม แล้วถวายสาธุการพร ฯ
สิ้นพระราชวงศานุวงศ์กษัตรี กับพระสนมกรมการ พระศฤงคาร ชุมท้าวขุนนางกับขญมราชการสตรีครบกรม มีผกากับเทียนทึกอบ ดำกลเลอพานเลอโต๊ะตามยศศักดิครบกัน กราบถวายบังคมครั้งหนึ่ง ฯ
พระกรุณาทรงมานพระราชโองการ ฯ พระราชทานพรสาธุการเล่าสิ้นขญมราชการสตรีกราบถวายบังคมครั้งหนึ่ง ฯ
พระกรุณาทรงย่างเข้าไปในพระที่นั่งจักรพรรดิ สิ้นขญมราชการสตรีกราบถวายบังคมครั้งหนึ่งอีกเป็นคำรบ ๓ ครั้งเสร็จ ฯ
โมง ๑๐ กับ ๓๐ มีนุตเช้า - พระกรุณาทรงเครื่องพรรณซึ่งกล่าวแล้ว เสด็จพระราชดำเนิรย่างออกตามกบวนแห่มาในพระที่นั่งเทวาวินิจฉัย จวบชุมพระราชวงศานุวงศ์ อัครมหาเสนา เสนาบดีนาหมื่น สรรพมุขมนตรี ถวายพระทักขิณาบังเวียลพระแว่น ๑๙ รอบ
ปล่อยมนุษย์โทษครบคุกในพระนคร ตามพระราชประกาศตามความขอแต่กงสีย๑๑ เสนาบดี ฯ
โมง ๒๐ คือโมง ๘ ค่ำ - พระกรุณาทรงรับเลี้ยงโภชนอาหารท่านลือคูแวรเนอรเยเนราล กับท่านลือเรสิดองต์ สุเปรีเยือร ฯ
โมง ๒๓ คือโมง ๑๐ ค่ำ - รำละคอนพระราชทรัพย์ กับกมสานใหญ่๑๒ในพระบันลา๑๓ จันทรฉายา ฯ
-
๑. พระภูษาผาย คือฉลองพระองค์ครุย ทรงทับเครื่องถอดเวลาสรงเปลื้องออกก่อน ↩
-
๒. ลือคูแวรเนอรเยเนราล ดือลางดูสีน คือ Le gouverneur général de l'Indochine, ↩
-
๓. ลือเรสิดองต์ สุเปริเยือร ดือลาเรปุบลิกบารังแสส คือ Le Resident Superieur de La République Française, ↩
-
๔. ชาติหิงคุล เราเขียนชาติหรคุณ เปนอย่างไรเคยถามผู้ใหญ่บอกว่าสีแดงเหลือง ๆ เปนอันจนอยู่เพียงนั้น ครั้นมาเห็นในที่นี้เขียนหิงคุล สำเนียงแปลกหู จึงลองพลิกอภิธานสันสกฤตของโมเนียร์วิลเลียมส์ดูพบมีอยู่ อธิบายว่าหิงคุลเปนชาดผสมกับปรอทและกำมะถัน พอเข้าใจได้ว่าที่ผสมเช่นนั้น ประสงค์จะให้ชาดจับแน่นกับเนื้อทองดุจกาไหล่ และเข้ากำมะถันด้วยประสงค์จะให้สีสุก, ↩
-
๕. เวโภชนาหาร ตรงกับที่เราเรียกถวายเข้าพระ, ↩
-
๖. พระที่นั่งเก้าอี้ในที่นี้ สมเปนเก้าอี้หมุนได้ อย่างสมโภชเจ้านายทรงผนวช, ↩
-
๗. นีดี มาแต่ ไนรฤติ ภาษาสันสกฤต คือทิศหรดี, ↩
-
๘. ตราสำหรับยศศักดิ คือตราประจำตำแหน่ง นำมาถวายคืน, ข้อนี้เห็นจะตรงต้นตำรา คือให้พระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งผู้ซึ่งทรงไว้วางพระราชหฤทัย เปนตำแหน่งได้ตามพระราชอัธยาศัย ด.ร. ↩
-
๙. คูแวรเนอมองต์ดือลาเรปุบลิกบารังแสส คือ Couvernement de La République Française, ↩
-
๑๐. พระสุพรรณบาท คือฉลองพระบาท เห็นจะบกพร่องจากคำพระสุพรรณบาทุกา ↩
-
๑๑. กงสีย คือ Conseil ที่เสนาบดีสภา ↩
-
๑๒. กมสาน ยืดตัวจาก ขสาน คือศานต์ (หลงเติม ข เขียนเข้าคู่กับ เขสม - เกษม) ใช้ในที่นี้หมายความว่าการเต้นรำ ↩
-
๑๓. พระบันลา คือ พลับพลา ↩