โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัย

๏ เก้าคํ่ายํ่ารุ่งร้น เรืองแสง
พลแห่พัตราแลง เถือกถ้า
ฆ้องคึกบันดาลแสยง เสียงปี่
หน้าพี่ตรวจถ้วนหน้า ขาดหน้านางเดียว ฯ
๏ มาเห็นเกาะพระแล้ว ลาลด
เสี่ยงซึ่งความรันทด ทอดไม้
เห็นไม้ไม่ปรากฏ คืนแม่ มานา
โรคบ่เบียนน้องไข้ พี่ไข้ใจถึง ฯ
๏ มาถึงเจ้าปลุกปลํ้า ใจนัก
ด้วยบวรองค์อัค เรศสร้าง
เจ้าปลุกยิ่งปลุกรัก เรียมจาก
จากแม่เปล่าอ้างว้าง วุ่นว้างอารมณ์ ฯ
๏ สุริยนลี้เลื่อนใกล้ อัษฎางค์
พอพี่ถับถึงบาง โขมดเข้า
แซ่เสียงนิกรนาง นาริศ
เรียมคำนึงถึงเจ้า จากเจ้าจำไกล ฯ
๏ มาถึงประเทศไท้ บางไทร
ทางทุรัศสถานใจ สุดซั้น
สมรเดียวยิ่งมาไคล คลาจาก กงนา
กงดั่งกงจักรกั้น กีดกั้นกันสมร ฯ
๏ นพบุรีบุเรศเจ้า กรุงอยุทธ- ยาแฮ
นารายน์พิษณุภุช สืบสร้าง
เรียมรํ่าก็รํ่าสุด แรงพี่ แล้วแฮ
เมืองก็ร้างเจ้าร้าง พี่ร้างมานอน ฯ
๏ แปดคํ่ายํ่ารุ่งแล้ว คลามา
นพบุรีรมยา ท่านยั้ง
แสนสนุกนิ์[๑]จะหา หายาก
น้องก็ย่อมแจ้งครั้ง ก่อนโพ้นมีมา ฯ
๏ พิศโพธิ์[๒]สามต้นเติบ ตายสอง
ยังแต่เดียวดูหมอง หม่นเศร้า
อกเรียมก็ปูนปอง ปานเปรียบ โพธิ์แม่
กลพี่จากเจ้าเคล้า คู่คล้ายโพธิคะนึง ฯ
๏ มาดลดำบลบ้านท้าย โพแตง
แตงบ่แดงเลยแดง อกชํ้า
ชํ้าใจทุราแลง ลิ่วจาก
จากแม่ไปหนำซ้ำ เร่งซ้ำทรวงถวิล ฯ
๏ กาหลหรทึกแส้ เสียงสังข์
เรียมบ่ฟังเลยฟัง ข่าวน้อง
ฆ้องคึกบันดาลหวัง เสียงเสน่ห์
เสน่ห์มารุมรึงข้อง ขุ่นข้องอารมณ์ ฯ
๏ มาถึงประเทศท้าย เกาะเรียน
ใจตระขวิดตระเขวียนเวียน วุ่นเข้า
เวรานุเวรเวียน บำราศ แล้วแฮ
จักนิราทุกข์เท้า ตราบสิ้นกรรมเรียม ฯ
๏ เดินดัดลัดทุ่งบ้าน สมอคอน
เรียมก็คอนทุกข์สมร ใช่น้อย
วังราชบ่นอนนอน เนินป่า
บ้านป่าฝาแฝกห้อย ร่างไร้รุงรัง ฯ
๏ เห็นวังวาริศร้าง ริมแคว น้ำนา
พระนครหลวงแล เปล่าเศร้า
วังราชฤมาแปร เป็นป่า
เกรงจะแปรใจเจ้า ห่างแล้วลืมเรียม ฯ
๏ แคฝอยข่อยข่าคล้า ยางคาง
วัล[๓]ว่าขานางซาง หน่อป้อ
ปริงปรูหูกวางปราง ปรงเปราะ
ลางลิงจิงจ้อค้อ ข่าคล้าตระคองคลอง ฯ
๏ ระกำแกมจากต้น เตยหนา
ต้นตระบูนเเกมตา ตุ่มไห้
จากศรีอยุธยามา ลิ่วโลด ใจแฮ
วังบ่เห็นเห็นไม้ ม่วงพร้าวแกมสลา ฯ
๏ มะลิวัลย์[๔]วรแนบไว้ วางเขนย
ซับซาบวรเรียมเชย ไป่ม้วย
ขจรกลิ่นรสรำเพย ผายสวาดิ
เอฤนุชมาด้วย แซ่งเว้เวียนหนี ฯ
๏ ขอจงเสร็จแก้วพี่ กายกลม
ทันกลับคืนพลันสม เสน่ห์ด้วย
ความสนุกนิจเล่นรมย์ หลายท่า
ขอจงปู่เจ้าฉ้วย เสร็จแล้วเรียมถวาย ฯ
๏ เจว็ด[๕]ประดิษฐ์แกล้ง เกลาเพรา
ฉัตรและธงเฉลาเปลา ปลอดเสี้ยน
มาลาเลวงเสา- วคนธ์กลิ่น ขจรแฮ
หอมตระการรสเพี้ยน ผิดไม้ไพรสณฑ์ ฯ
๏ ปู่เจ้าเขาท่าท้อง ไพรสณฑ์
ปู่เจ้าถ้ำธารพน- เวศนี้
ปู่เจ้าฮ่วยหนองหน ใดแห่ง นี้นา
มารับสังเวยชี้ ซึ่งชี้เชิญถวาย ฯ
๏ เทพาพฤกษชาติเรื้อง รำบาญ
อารักษ์รักษาสถาน ที่นี้
อากาศเทวาวาน เมตรภาพ เรียมนา
ภูมิเทวาชี้ ช่วยให้นางเห็น ฯ
๏ ขอจงเสร็จกลับได้ ดวงสาย สวาทนา
เรียมจะพลันจงถวาย เกือบกั้ง
พวงเงินพวงทองบาย- ศรีมาศ
ใส่ศาลเพียงตาตั้ง แต่งให้สมบูรณ์ ฯ
๏ ข้าโรงข้าศาลนั้น อย่าถวิล
กลแต่เอียงไหริน เล่าล้อม
ฉีกกัดมัจฉมางษ์กิน แกมจอก
จอบจิบหยิบแกล้มพร้อม เพริศคิ้วพลางเผยอ ฯ
๏ เหล้าเข้มไหใหญ่ตั้ง เติมกลาง
หมูเป็ดปากทองวาง เตียบตั้ง
แกะแพะชุมพามางษ์ แกมไก่
เต่างูหนูปลากั้ง กบกุ้งปูหอย ฯ
๏ เก้าบทเพื่อนยากนี้ ตกไฉน
ย่อมตกตามกันไป ทั่วเท้า
ดงรังทะเล[๖]ไกล กลางป่า ก็ดี
เห็นก็สุดแต่เก้า บทนี้แนมนอน ฯ
๏ อัศจรรย์บารนี่หน้า โหรา
กาฤทำรังกา ที่แจ้ง
ฉัตรไชยใช่พฤกษา กาไข่
เป็นนิมิตเทพแสร้ง ส่งให้ศุภผล ฯ


[๑] หนังสือสมุดไทย เป็น “แสนสนุกนิจะหา” (คำว่า “สนุก” ในหนังสือสมุดไทยบางแห่งเป็น “สนุกนิ” บางแห่งเป็น “สนุกนิ์”) ใน โคลงกวีโบราณ ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๐๖ ใช้ว่า “สนุกจะหา”

[๒] หนังสือสมุดไทย เป็น “โพ”

[๓] หนังสือสมุดไทยใช้ “วัน” หมายถึง ป่าไม้, ดง

[๔] ต้นฉบับเดิมใช้ว่า “มลิวัล”

[๕] หนังสือสมุดไทยใช้ว่า “ตระเว็ด”

[๖] ต้นฉบับสมุดไทย ใช้ว่า “ชะเล”

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ