ประพาสเมืองพัทธลุง แลแรมสงขลา

วันที่ ๔ พุธ ที่ ๒๕ เมษายน พุทธศก ๒๔๗๑

๏ วันที่สี่ ญี่สิบห้า เมษายน

ฟื้นสกนธ์ ร้อนรี้ แต่ตีห้า

เกรงรถยนตร์ โขยดถนน พ้นเพลา

สรงพักตรา อ่าองค์ ลงล่างพลัน

เสวยกาแฟ แลขนม น้ำนมสด

ย่ำรุ่งครึ่ง ถึงกำหนด รถผายผัน

ขึ้นรถยนตร์ ทนฟัด สาหัสครัน

พอถึงทัน รถไฟ ใม่ต้องคอย

เกือบโมงครึ่ง ถึงตรัง รถยั้งส่ง

พวกเราลง นั่งบน รถยนตร์ถอย

ตรงไปเขา พับผ้า มรรคาลอย

แล่นข้ามดอย ใหญ่ตัด พัทธลุง

เหมือนวันวาน ผ่านโตน โอนทางมา

ขึ้นเชีงผา เลื้อยลาด ผงาดทุ่ง

วกไปมา หลายครา มรรคาทุ้ง

ฉะวากวุ้ง เขาใหญ่ เลียบไหล่จร

เปรียบกลีบผ้า คราพับ รดับหลั่น

น่าดูครัน รถวิ่ง บทสิงขร

เหมือนพูดเล่น เห็นกัน กระชั้นตอน

ซิกแซกชะง่อน ผาชะง้ำ เห็นลำธาร

ยอดไม้ใหญ่ อยู่ใต้ ไหล่เขาลาด

แลปลาด โอบเอี้ยว เลี้ยวลหาล

พระยารัษ ะฎาฯ ช่วย อำนวยการ

ตัดทางผ่าน ด้านดอย ตามรอยเดีร

ไถ่รูปรถ กระถดหลั่น ชั้นบนล่าง

ไถ่รูปทาง เลี้ยวลด บรรพตเหีร

ถึงพรหมแดน แคว้นตรัง ยังเช้าเกีน

ลงดำเนีร เหยียบจังหวัด พัทธลุง

ปักเสมา สิลาสลัก เป็นอักษร

ราษฎร ละลานฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์มุ่ง

ขอคุ้มกัน อนันตภัย ใฝ่ผะดุง

ยามผ่านปรุง หมากพลู ว่างบูชา

ไถ่รูปพร้อม ล้อมหน้า เสมาเขต

แล้วขึ้นรถ ยนตร์ประเวศ ลงลาดผา

ใม่ใคร่ยาก เสมือนถาก เขาขึ้นมา

เจ้าพระยา ยมราช ประศาสน์ทำ

ปลาดเหลือ มะเขือใหญ่ โตไม่หยอก

สิบหกศอก สูงเทิ่ง เชีงน่าขำ

ดอกใบใหญ่ คล้ายมะเขือ น่าเชื่อคำ

พี่ลองย้ำ ผลนิด ขมผิดเคย

เจ้าพระยา พลเทพ พิชัยญาติ์

เห็นปลาด เหลือนิ่ง ทิ้งไปเฉย

ให้ชำไป ไว้จวน ควรชมเชย

เราเหลือเลย รอพินิศ แน่จิตเดา

มีต้นเดียว เฉลียวใจ คล้ายมะเขือ

ที่แท้เนื้อ พรรณอื่น ตื่นเปล่าเปล่า

ใครได้ไป ชำไว้ ในลำเนา

ใช่มะเชีอ เชื้อเรา แปลกเปลายล

ท่านเทศา ว่าวัง ในสังขลา

ได้พรรณมา ปลูกไว้ มีหลายต้น

อ๋อ กระนี้ นี่หนา ปัญญาคน

สัปประดน เดาพิลึก ฝึกสันดาน

เจ้าจังหวัด พัทธลุง มุ่งรับรอง

ตำรวจอำ เภอผยอง รถยนตร์ผ่าน

จวนถึงเชีง เขาใหญ่ ไปใม่นาน

หยุดสถาน เทีนป่า เรียกนาวง

พระนิเวศน์ สมเด็จฟ้า เทศาสร้าง

แต่โรยร้าง พังเพีก เลีกประสงค์

มีทางเที่ยว เลี้ยวหลั่น เป็นคั่นลง

แวะรถตรง ไปชม สมได้มา

พระคณา สัยสุนทร ต้อนอำเภอ

นำเสนอ ตำนาญ ลหาลป่า

ที่ปราโมทย์ โปรดเสด็จ สมเด็จฟ้า

ครั้นเสื่อมซา รักษาอ่อย จำปล่อยพัง

ขึ้นรถผ่าน ย่านจังหวัด พัทธลุง

ดูยังรุง รังผิด ที่คิดหวัง

ถึงแปลกเปลี่ยน เพี้ยนก่อน ก็ข้อนยัง

ใม่ถึงตั้ง ใจมุ่ง จักรุ่งเรีอง

ถนนช่วย อวยปะถัมภ์ เทีดลำเนา

แต่หมู่เหย้า ยังจ๋อย ใม่ลอยเลื่อง

สังเกตหมู่ ผู้คน พลเมือง

ยังเชื่องเชื่อง เถ่ยเถ่ย เหมือนเคยมา

ไปเมืองเก่า เช้าอยู่ ดูลำลาบ

ทเลสาบ ท่าเรือ เมื้อสงขลา

รถตำรวจ ตรวจตระหน่ำ นำมรรคา

เจ้าเมืองหน้า รถที่นั่ง นั่งรายงาน

โอย ! ถนน ฝนเซาะ จำเพาะซ่อม

สบักสะบอม เบื่อแสน เมื่อแล่นผ่าน

เหมือนมรคา ยามง องค์สท้าน

ออกขี้คร้าน รู้งี้ เป็นหนีพัก

ถึงทำเล ทเลสาบ เคยทราบแหล่ง

แปลกแต่แต่ง ตึกเด่น เป็นตำหนัก

พระพันปี ศรีอนงค์ ทรงสำนัก

ออกประหรัก หักพัง รังโทรมทราม

เห็นเกาะสี่ เกาะห้า ลอยวาริน

หวลถวิล ครั้งกระนั้น ประหวั่นหวาม

พระปิยะราช ประพาสไหน เคยไปตาม

โอ้โอ๋ยาม โปรดเปรื่อง กระเดื่องดี

ฤทธิ์ล่อแหลม แต้มคู หรูไปหรือ

ถูกฮึดฮื่อ หีรึโหด ต้องโลดหนี

หมกดินทราย ยังมิวาย พระปราณี

นุกูลพี่ พึ่งพิง ใม่ทิ้งเลย

ผลซื่อสัตย์ กัตะเวทิ์ อุเทศถวาย

ชีวิตกาย กตัญญู มิรู้เฉย

ชูชีพพี่ บี้มิบุบ เดี๋ยวหงุบเงย

อยู่ภิเปรย เพลงประพนธ์ จนชรา

ยั่วร้องให้ หรือหัวเราะ หนอดูเคราะห์เอ๋ย

ตามชดเชย โชคเหีร เสียเกีนก๋า

ดีเดี๋ยวร้าย คล้ายคล้าย ฉายไฟฟ้า

วูปวาบผวา โด่งด่ำ น่าขำนัก

เดชเทีดธรรม ตระหน่ำใจ กันไหลเล่อ

ลโมบเพ้อ เผยอพะยสน์ สมมตหมัก

ถึงลอยลม จมน้ำ ใม่สำลัก

ถวิลหลัก โลกฺตธรรม ทอดทำเนา

ตกที่นั่ง กังหัน ลมดันหมุน

หมดลมดุน หรือมันดัง คลั่งเปล่าเปล่า

เปรียบละคร หลอนหล้า ตบตาเรา

เมื่อรู้เท่า นิยามะธรรม ใยนำพา

พัทธลุง รุ่งเรือง ในเบื้องโน้น

พระยาเมือง เปรื่องโพลน โชนสง่า

สี่สิบศก วกวิ่น สิ้นชาตา

สูญวงศา น่าอนาถ ปลาดแรง

ถามถึงแม่ แขคุณหญิง สวยพริ้งพราว

ลูกสาวสาว คราวเสด็จ ลือเอ็จแอ่ง

เห็นแต่ตึก รำลึกถึง คนึงแว้ง

ไปอยู่แขวง หนองจิก เสียอิกแล้ว

ครุ่นสังเกต เหตุพิลึก ก็ศึกษา

เพลาชะล่า ซาคร้าน ง่านแตง่ว

รักสัตย์สึง พึ่งเจ้า พเน้าแนว

สมเทือกแถว ประหยัดยำ ย่อมจำเรีญ

คนึงวงศ์ สงขลา น่าสังเวช

ใครยึดเขต ตวันตก ระหกระเหีร

แม้เนาณ พระนคร ข้อนพเอีญ

โชคพเชีญ เฉลีมเรียน ผุดเพี้ยนพันธุ์

ขึ้นรถกลับ มาประทับ พลับพลาใหม่

เขาปลูกไว้ รับสมเด็จ เสด็จนั่น

พอสบาย คล้ายตำหนัก พักกลางวัน

พบแม่ภรระยา เจ้าเมือง ตั้งเครื่องอาน

ยามเสวย ใคร่เอ่ย พาหุงก่อน

ถวายพร พระเช้า ฉันคาวหวาน

เขาขายเครื่อง ถมนคร ข้อนสมกาล

ซื้อไว้หว่าน ของฝาก หลากหลากเยอะ

เอ๋ทองสุก ลูกเจ้า เยาวนัช

อุสาห์จัด เกาเหลา ตามเราเจอะ

ละครกาญ จนาภิรมย์ นิยมเยอะ

ดูเอาเถอะ รวยฟื้น หลายหมื่นมี

ตัวละคร ฟอนคัด หัดรุ่นรุ่น

นางลมุล ละครหลวง มาพ่วงนี่

พาละคร สลอนหน้า ตาดีดี

ตามมาเฝ้า ถึงที่ มาลกเรา

คิดบุญคุณ กรุณา วิชาสอน

เหมือนรับพร เลี้ยงชีวา สมข้าเก่า

ทุกเจ้าเมือง กรมะการ ผ่านลำเนา

เอ็นดูเฝ้า อุดหนุน กรุณา

เปีดวิกเล่น เป็นพัก แล้วยักย้าย

ไปเล่นฝ่าย หาดใหญ่ เห็นได้ท่า

สมุหะ ปะตานี มีเม็ตตา

ลองกล้าฝ่า มะเลสะเต๊ต หลายเขตเชียว

เจ้าเมืองเกริ่น เชีญให้ เราไปถ้ำ

แต่ฝนพรำ เชื่อที ดีกว่าเที่ยว

สองโมงครึ่ง ถึงเวลา รัถาเทียว

เครื่องถมเหนีย่ว คุยหน่วง หวงพลับพลา

แจกเงินรถ ชดเชย เหมือนเคยปรอง

ทั้งแจกของ รลึกให้ ใครอาษา

ช่วยรับรอง สนองคุณ กรุ่นเม็ตตา

สองโมงเศษ ประเวศมา ชาลารถ

สิบสี่ครึ่ง รถถึง ขึ้นสึงพัก

ปราศรัยทัก ขอบใจ ทั่วไปหมด

ทุกเจ้าเมือง กรมะการ ตามฐานยศ

จวบกระถด พ้นหน้า สถานี

พระรัถา มาด้วย ช่วยเอื้อเฟื้อ

คอยรับเกื้อ กิจผงม สมน่าที่

เครื่องว่างทำ น้ำชา หามามี

ตั้งถวาย รายที่ ทุกองค์มุง

พัทธลุง เหม็นคลุ้ง เยื่อเคยปลา

ชะอำน่า สวะเสย เยื่อเคยกุ้ง

เหมาบรรทุก รถไฟ คลื่นใส้พุง

ขืนส่งกรุง คงใม่ มีใครซื้อ

ผ่านควนยาง ใช่ยาง รับเบ้อแน่

ครั้งเก่าแก่ ใครจัก รู้จักชื่อ

บางแก้วไม้ แก้วเมือง นี้เลื่องลือ

หารเทามื้อ เทาสท้าน หรือหารเทา

ถึงหนองจีน จีนหลง มาลงหนอง

ควนเนียงต้อง แหน่งนาง ใม่ห่างเหย้า

บางกล้่ำต้น มะกล่ำเยื้อย เลื้อยลำเทา

หรือบางเท่า มะกล่ำน้อย จ้อยล่อยเล็น

บ้านดินลาน ลานอไร ไล้ดินโบ๊

ไล้มูลโค ลานเข้า เราเคยเห็น

รถมาสู่ อู่ตะเภา เข้ายามเย็น

น่าจะเป็น สถานี ที่ครึกครื้น

แต่โหรงเหรง นักเลง เก็งจองป่า

ใยจึ่งรา มือมิเห็น เรีอนเด่นดื่น

รถเราผาด หาดใหญ่ ใกล้กลางคืน

เข้าเทียบพื้น ชานหน้า สถานี

แลผู้คน กล่นกลาด เกีนคาดมาก

ทั้งหลายหลาก ชาติ์ภาษา รุมมานี่

เป็นสถา นีใหญ่ ในแถบนี้

ใม่เห็นมี ที่อื่น น่าตื่นดู

หลวงชิต บรรชาการ กับภรรยา

และหลวงวุฒิ์ สารมา ต้อนรับอยู่

เตรียมรถยนตร์ คอยท่า หน้าประตู

พวกเราพรู กันมา ขึ้นพาจร

พักที่เรส ะเตอรอง ของรถไฟ

เดี๋ยวนี้ให้ จีนเช่า แผกเก่าก่อน

เตรียมตั้งเครื่อง น้ำชา เฝ้าว่าวอน

แต่จะต้อน รับผงม ให้สมใจ

ด้วยหลวงชิตฯ รับกิตย์ กรมะการ

อำเภอย่าน ร้านตลาด เวิ้งหาดใหญ่

น้องพระจรูญฯ ครูลูกลูก ผูกเยื่อใย

มาแต่ไร ถือเรา อย่างบ่าวนาย

ขัดใม่ไหว ไปประจำ โต๊ะน้ำชา

สมอาษา สาระพัด จัดถวาย

ใม่เหมือนอด รทดชิวา หิวตาลาย

เสวยหลาย หนเห็น มิเป็นไร

ปล่อยรถไฟ ไปยัง เมืองสังขลา

เตรียมรัถา ยนตร์ยาตร์ จากหาดใหญ่

ถึงโดยด่วน ก่อนกระบวร สายรถไฟ

พวกเราไม่ รู้ทาง ต่างเออออ

อันหลวงวุฒิ ฯ บุตพระยา อัคระราชฯ

เป็นพระญาติ์ ภักดี ใม่มีย่อ

ฝรั่งหลาย ถวายคำนับ ขยับยอ

น่าให้พอ ใจสมัคร์ พี่ทักทาย

ล้วนพวกอิน ชะเนียแร่ และพ่อค้า

ทั้งพวกมา หาทาง ห้างค้าขาย

ต่างเอีบอิ่ม ยิ้มแย้ม แถมภิปราย

ปลื้มได้เฝ้า เจ้านาย หมายต้อนรับ

พระนางประทับ รถชิด พระธิดา

ภรรยา หลวงชิตฯ ติดคนขับ

อีกสองหลัง ตามหลัง คนคั่งคับ

หลวงชิตฯ ประจำ กำกับ รับภิบาล

ครั้งมารับ วรรณไวทย์ฯ หาดใหญ่นี้

สถานี ใม่โต รโตฐาน

ยังหร็องแหร็ง ใช่แหน่ง แอ่งโอฬาร

ใม่มีบ้าน เรือนโรง โอ่โถงเลย

ดูตึกกว้าน ปานประดิษฐ์ นิมิตใหม่

ทั้งโตใหญ่ เรือนราย ค้าขายเผย

คนครึกครื้น ดื่นดาษ เกีนคาดเคย

เหลือจะเฉย เหลือจะเห็น เช่นเป็นแท้

แต่มิใช่ เมืองไท เจ๊กใขว่แปลก

ทั้งพูดแขก มะลายู อยู่ออกแสร้

เมืองบาบ๋า น่าเรียก สำเหนียกแล

เหมือนฮู่แซ เคล้าสลัด จัดพานรอง

ผู้ใหญ่บ้าน กรมะการ เจ๊กย่านโน้น

จองที่โอน สร้างตึก รวยกึกถอง

จนเดี๋ยวนี้ หมดที่ ที่จะจอง

ทั้งหมดช่อง ซื้อหา กดค่าแพง

ได้แต่เช่า เอาสัญญา คราหมดเช่า

ตึกตกเจ้า ของถิ่น สิ้นทั้งแขวง

อู่ตะเภา เขาชุมทอง เหลือปองแย้ง

ทั้งทุ่งสง แอ้งแม้ง เหลือแข่งเคียง

ชาวสงขลา ขับรัถา มาเที่ยวเล่น

ถือเหมือนเช่น ราชะวงศ์ ดังส่งเสียง

อู่ตะเภา เขาชุมทอง เห็นช่องเอียง

รื้อโรงเมียง สร้างใหม่ หาดใหญ่เยี้ย

ถือร่ำรวย ซวยแซ่ว แล้วแต่โชค

ยากจะโยก ย้ายเก็ง เก่งหรือเอี้ย

อันที่จริง สิ่งอุดม หรือซมเซีย

สุดแต่เงี่ย ญาณเรา รู้เท่าทัน

ใช่เคราะห์โศก โชคชาตา สาระพัด

ใม่น่าหัด ศีละพัตร์ มามัดมั่น

หมั่นสำรวจ ตรวจตรา ปัญญายัน

ถูกเชีงชั้น โฉลกช่วย ก็รวยบาน

ถึงตำหนัก เจ้าฟ้า เทศายั้ง

จัดเป็นวัง พวกเรา เนาสถาน

ขึ้นตำหนัก นั่งพัก อยู่เป็นนาน

ใม่เห็นท่าน เทศา ใครมาเยือน

คุณหญิงพร้อม ภรรยา เทศาใหม่

มากราบนบ ซบไหว้ เราก่อนเพื่อน

จัดเสร็จสรรพ รับตระแหน่ เป็นแม่เรียน

อ่อนยิ้มเยื้อน กิริยา พูดจาคม

ฉลาดเฉลียว ประเปรียว สมรบอบ

ข้อนรอบคอบ ภรรยา เทศาสม

ใม่มึนตึง อึ้งอับ เชีงลับลม

ทั้งใม่อม อายกระดาก อยากคุ้นเรา

สองทุ่มกว่า พระยาศรี ธรรมะราช

พระเพชร์ฯ เจ้า เมืองอาด ขึ้นมาเฝ้า

ชุมนุมรับ สถานี ใม่มีเค้า

รถไฟเข้า เทียบเขม้น ใม่เห็นองค์

จึงทราบว่า เสด็จมา รถยนตร์ก่อน

ต่างรีบร้อน ย้อนรอย ที่คอยหลง

เราขอบใจ แถลงให้ ทราบจำนง

ไม่ประสงค์ ยศศักดิ์ รักสบาย

จัดที่ทาง อย่างวัง ทั้งสอาด

ใม่ฉูดฉาด แต่รเบียบ เรียบใจหาย

กัลปังหา เสียบผะกา ขาวกระจาย

นึกคล้ายคล้าย ครั้งบุราณ ตระการวาม

พระนางพัก ตำหนักบน ปนชนก

วรวีร์ฯ นี่ยก ขึ้นชั้นสาม

หญิงพี่น้อง ห้องต่อ อยู่พองาม

ใม่ยุ่มย่าม ลามลวน สมควรเนา

มีห้องสรง ห้องทรง อักษรเรียง

ล่ามเฉลียง ถึงกัน เป็นหลั่นเหล่า

ที่สรงพักตร์ ที่สำอาง อย่างพริ้งเพรา

ตั้งโต๊ะเก้า อี้แพร แลสมงาม

พานหีบธุม มะวดี หีบมีตรา

เครื่องสุธา รสศุภางค์ อย่างสยาม

ของกำนัล ทำขวัญ เทศายาม

รับพานทอง จำลองตาม รูปพานทอง

แต่พานกลม ใม่สม นิยมเทียม

ต้องพานเหลี่ยม สมุห์ใหญ่ ไม้สิบสอง

เป็นความเขลา ของเหล่า เจ้าช่างทอง

ใช่ผิดของ ขุนนาง ต่างกำนัล

ด้วยพานกลม สมขนาด ราชประยูร

หรือเหล่าราช ะนิกูล จอมถวัลย์

เวลาเก้า นาฬิกา เราพากัน

ลงมาชั้น ล่างเสวย โภชนา

เชีญพระยา เทศา พาพระเพชร์ ฯ

ตามเสด็จ เสวยเล่ห์ เจ้าเคหา

เครื่องฝรั่ง ทั้งไท ใฝ่จัดมา

ล้วนโอชา รสเลี้ยง เยี่ยงแรมวัง

เสวยเสร็จ เสด็จประทับ ห้องรับแขก

เป็นคืนแรก สมาคม พอสมหวัง

สี่ทุ่มเศษ เสด็จดล ขึ้นบนยั้ง

พรุ่งนี้ยัง กะประพาส ประกาศชัด ฯ ๑๕๒ คำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ