ถึงชะอำ เสด็จลงประทับแรม

วันที่ ๗ เสาร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศก ๒๔๗๑

๏ วันที่เจ็ด เมษที่ ญี่สิบแปด

พอรุ่งแจ้ง แสงแดด ส่องแสดสี

เลยฟื้นองค์ สรงพักตรา อ่าอินทรีย์

คอยลูกที่ จากนคร มาต้อนรับ

เดี๋ยวชายสุ วิชากร โสทรชิด

กับชายสิท ธยากร ซึ่งร่อนหรับ

ถึงชุมพร ตอนค่ำ มาคำนับ

พบน้องกระชับ กอดจุมพิต พองจิตครัน

สิทธยา มาสำรวจ ราชะการ

รถไฟย่าน ชุมพร ข้อนขยัน

สองโมงนาน ลูกหลาน พล่านพร้อมกัน

นั่งเรียงรัน รถสเบียง เลี้ยงเครื่องเช้า

ตีเก้ากึ่ง ถึงทาง บางสพาน

เป็นสถาน ทองชุก ยุคกรุงเก่า

ฝรั่งตั้ง กอมปะนี ดีบันเบ๋า

เงินของเขา จ่ายเยอะ ใม่เจอะทอง

ชุละมุล มุ่นหมาย ตื่นขายแชร์

อุแหม่อุแหม่ ขึ้นราคา น่ารวยป่อง

โปรยแต่เงิน เลินเล่อ เพ้อคนอง

ลงท้ายต้อง ล้มซุน หมดทุนเตียน

แม้ตรวจตรา หาผู้ รู้จริงค้น

ไม่น่าพ้น พบแร่ แอลูเวี่ยน

คลั่งแต่รวย ร่อนร่อน แทนฟอนเพียร

แร่ทองเมี้ยน พสุธา ผล้าแต่เงิน

ในครั้งหลังฝรั่งตั้งบริษัท

ปลูกนุ่นจัด การใหญ่ ไงเปีนเปีน

ว่ากะป๊อก ผลมิออก บอกคนเคิน

ไร้งานเติน เต่อทุน นุ่นใม่งาม

เสียแสนกว่า คราเลหลัง รังให้ขัน

ได้สามพัน โรงเรือน เกลื่อนสนาม

แม้ทำจริง ยิ่งอุสาห์ พยายาม

ตัดเหตุลาม ล้างกะป๊อก คงออกพรู

การใดใด ไร้มานะ แต่จะรวย

ย่อมกลับซวย เสียสลด น่าอดสู

บางสพาน ย่านใข้ ใครก็รู้

แม้ไม่สู้ แสร่ตะกาย ฉิบหายใย

ห้าโมงครึ่ง ถึงตอน บ้านดรทราย

เห็นคนราย เต็มหมด รถหลังใหญ่

จอดในหลีก อีกหลัง ให้รั้งไป

เจ้าคุณพิชัย ะญาติ์รับ กลับนคร

ท่านผู้นี้ มีเงิน ไม่เลินเล่อ

สม่ำเสมอ หมายดี ไม่มีหย่อน

ไม่หยิ่งเย่อ โลภทเยอ เอ่ออาทร

ต่อราชะการ สมานสมร ถึงอ่อนรู้

รู้ใช้คน สนธิ์ใจ ใฝ่ภักดี

นับเป็นศรี มหาอำมาตย์ ปลาดอยู่

ไม่หมิ่นพ่อ พนอพนึง เหมือนพึ่งครู

สันดานมั่น กตัญญู แต่ปู่มา

สิ้นวังหน้า พึ่งพา พี่ยายุด

พระบาทพุท ธเจ้าหลวง หน่วงอาษา

ผลเพื่อนถือ ซื่อสัตย์ พัฒนา

เป็นเศรษฐี มีสง่า ฐานันดร

ถึงเกาะหลัก พักอยู่ สักครู่หนึ่ง

ขุนศาลซึ่ง งานหนัก มาพักผ่อน

ต่างเยี่ยนเจ้า พระยามิตร์ ฤทธิ์อาทร

จนรถร่อน รัถยา จึ่งลายั้ง

ถึงวังก์พง จอดส่ง คนส่งของ

แล่นถึงหนอง แกยับ รับฝรั่ง

รู้ศึกไง ใกล้บ้าน ชานรวงรัง

ถึงหัวหิน ถิ่นวัง คนลั่งแล

ทั้งขึ้นลง ส่งของ สำรองโล้ะ

พบชายโป๊ะ หลานขวัญ พรรณเพ็ญแข

หญิงวรรณวิไล ชายชิด ชนกแปร

จากรถแค่ นี้หวัง จะยั้งพัก

ประทานของ รลึกไว้ อาลัยกรุ่น

ขอบพระคุณ สาระพัด จัดตำหนัก

พบคนโน้น นี้หลาย ต่างทายทัก

ถึงรู้จัก มิรู้จัก มักอ่อนน้อม

พอรถออก บอกลา คณาสหาย

ตั้งหน้าบ่าย ชะอำตรง ไม่วงอ้อม

สถานี ประเทียบชิด ญาติมิตร์พร้อม

ต่างประนอม ไมตรี รี่ต้อนรับ

ข้าขนของ ซร้องส่ง ลงรัถา

สุวิชาฯ สิทธยาฯ นั้นลากลับ

ติดธุระ พระนคร ข้อนบังคับ

สุดยั้งยับ กับพระนาง อย่างพวกเรา

ลงรถไฟ ใจรทึก นึกกระหยิ่ม

พบหญิงพิมพ์ฯ หญิงพรฯ สลอนเกล้า

กรมหมื่นพิทย์ ฯ เพื่อนแคว้น ที่แน่นเนา

ต่างมาเฝ้า เค้าสมโภช โวฒยาฯ

ถวายตัว เจ้านาย ฝ่ายขุนนาง

แนะนำต่าง พากัน ช่วยหรรษา

ขึ้นรถยนตร์ ที่นั่งทรง แล่นตรงมา

ถึงเคหา ผาสุก ปลุกปรีดี

เป็นตำหนัก พักพระนาง ปางแรมรอน

แทนตำหนัก สินสาคร ผ่อนเป็นที่

บรมะวงศ์ พระองค์ อรุณวดี

ประทับนี่ เนี่นวัน ศันติ์สำราญ

ครั้นว่างไว้ ให้พระนาง เหมือนอย่างเคย

เกรงเกีนเลย รับพระป้า เลวกว่าหลาน

ญาติ์ฐานญาติ์ ใช่ขนาด ราชะการ

รักสมาน ธรรมนิยม สมชรา

ก่อนรัชย์นี้ พี่อรุณ การุญตรัส

ให้พี่จัด ตำหนักใหญ่ เตรียมไว้ท่า

กระเทือนไฉน ใม่กระจ่าง ค้างสองครา

ครั้งนี้มา ในผงม กรมวิวิธ ฯ

ตำหนักย่อม หว่านล้อม ขออาศรัย

พักเรือนใคร ก็ไม่ว่าง ด้วยต่างติด

ไม่ตัวครอง ก็ต้อง ผองญาติ์มิตร์

พักราชะกิจ ขุนนาง ต่างรุมมา

จะปลูกโรง ทรงพัก ตำหนักถวาย

ลำบากหลาย พี่เป็นน้อง ต้องอาษา

จัดแทนท่าน วิวิธวรรณ ะปรีชา

เลี้ยงตำรวจ ตรวจตรา กรมะการ

แม่บ้านชะอำา จำค้าง อยู่บางกอก

ลูกชายออก ประชวรซุด สุดสงสาร

ตัวเลยป่วย ด้วยอุสาห์ พยาบาล

ได้พึ่งหลาน พิมพ์ฯอยู่ ดูชะอำ

พ้นเพลา งดหา กระยาถวาย

ด้วยมั่นหมาย รถสเบียง คงเลี้ยงคล่ำ

แต่พเอีญ แขกเหลื่อ เพรื่อประจำ

ทุกองค์ตรำ หิวมา ผิดท่าเก็ง

แม่ครัวเคลิ้ม เริ่มหา กระยาหาร

หม่อมผันหา เครื่องหวาน เป็นการเร่ง

ยามหิวหยิบ อร่อยลิบ เครื่องทิพย์เจ๊ง

เอีบอิ่มเป่ง ทุกอุทร เดือดร้อนแปร

เฝ้าเจ้าพี่ มีของ สำรองฝาก

เยี่ยมมิตร์มาก ใต้เหนือ สมเผื่อแผ่

ฤดูพัก ชะอำมัก จะจอแจ

คนอัดแอ แพ่สนุก ขึ้นทุกปี

สนามคลี มีประลอง สองสนาม

เลือกเล่นตาม สดวกใจ ใกล้ถิ่นที่

นายสนาม บ้านเหนือ เอื้อเฟื้อดี

ตกน่าที่ หญิงพิมพ์ ฯ คอยยิ้มรับ

พวกบ้านใต้ ไปสนาม กรมหมื่นพิทย์ฯ

พึ่งเริ่มติด เริ่มเล่น เริ่มเต้นหรับ

แบ็ตมินตั้น นั่นสนาม ที่ประทับ

ไว้สำหรับ คนข้อน จะอ่อนเอ็น

หาดทรายใหญ่ ใกล้ชะลา คราน้ำลง

ก็ปักธง หลุมกอล์ฟ ใครชอบเล่น

ประสาขัด หัดตี ให้ดีเป็น

พอยีดเส้น สายแสร่ แก้รำคาญ

แม้ถนน รถยนตร์ ดลหัวหิน

ก็ไปถิ่น สนามโต รโหฐาน

ใช่เงียบเหงา เซาสเที้น จนเกีนกาล

สนุกสนาน สราญรมย์ พอสมตัว

เมื่อยามจน ทนนุ่ง ผ้าพุ่งด้าย

อย่าเพ่อหมาย ม่วงแพร ให้แลหลัว

จิตผายผึ่ง กายถึง จะมัวซัว

ก็ยังชั่ว กว่าตะกาย ฉิบหายรัน

ใครดีใจ ใม่เหมือน นมเผื่อนปลื้ม

แทบจะลืม ตัวแก่ แร่ถลัน

กอดท่านติ่ง ลิงโลด โอดครวญครัน

มือม้ายสั่น งันงก ซกน้ำตา

เสวยเครื่อง เบื้องค่ำ บนตำหนัก

โดยพร้อมพรัก พระญา ติวงศา

ต่างเรีงรื่น ชื่นกมล สนทนา

ลาศัยยา ยามสอง หรือพร้องเนือย ฯ ๗๔ คำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ