ประพาสสวนตุล เขาน้อย และสโมสร

วันที่ ๕ ที่ ๒๖ เมษายน พุทธศก ๒๔๗๑

๏ วันที่ห้า เมษา ยนมาสค

สุทินที่ ญี่สิบหก ตกพฤหัสบดิ์

เสด็จสวน เชีงผา เทศานัด

ตอนเช้าจัก เสวยกลางวัน ที่นั่นเทียว

สอางองค์ แล้วลง ชั้นล่างเลย

ประทับเสวย เครื่องเช้า ราวประเดี๋ยว

แม่เพียบบุน นาคผสม มากลมเกลียว

จะตามเสด็จ ไปเที่ยว ถึงสวนตุล

หล่อนแม่เรือน และเพื่อน ผะดุงกฤตย์

องค์อาฑิตย์ เลขา เทศามุ่น

อาทรต้อน รับเรา ช่วยเจ้าคุณ

ด้วยเคยคุ้น กันยิ่ง หญิงชนนี

รักหญิงพรรณฯ ฉันท์น้อง ปองเป็นศิษย์

ทั้งเป็นมิตร์ เหมือนน้อง ร่วมท้องพี่

แต่ติดตาม เสด็จพัก เรือจักรี

กลับต่อที่ หนึ่งแพ้ว จึ่งแคล้วเยือน

เล่าเรื่องราว คราวประพาส ราษฎร์สงขลา

สั่งให้มา เฝ้าแหน แทนเธอเอื้อน

ปลาดใจ ใครอื่น มิยื่นเยือน

แม้เป็นเพื่อน พวกเรา ไม่เข้ามา

พึ่งทราบชัด มีกัต ติกาไว้

มิให้ใคร พลุกพล่าน บ้านเทศา

ตามรับสั่ง ครั้งเก่า ของเจ้าฟ้า

ใช่ศาลา ราชะการ ฐานในองค์

ที่ว่าการ หรือสถาน เสด็จไหน

เฝ้าแหนได้ ใม่ห้าม ความประสงค์

สงวนรเบียบ เรียบร้อย คล้อยที่ทรง

เพื่อสมมง คลนิวาสน์ บำราศกวน

เทศานี้ มีสติ ดำริห์รู้

ใม่ขึ้นอยู่ บนตำหนัก ออกอักอ่วน

เผยอเทียม เจ้าทำ ใม่น้ำนวล

จึ่งเนาจวน สโมสร ข้อนจะคม

องค์อาฑิตย์ อิดพระทัย ใม่ยอมพก

จัดตำหนัก ถัดรับ ประทับสม

ยามรับแขก เลี้ยงดู ชูนิคม

จึงพึ่งร่ม ชั้นล่าง ข้างแยบคาย

นึกความคิด ฑิตย์เปีย เงี่ยจะขัน

สงขลานั้น ส่งปลา มาถวาย

เหมือนมุลี่ ม้วนคลี่ มีธิบาย

กะโถนหมาย กระถ่มถลำ เพี้ยนคำแทน

พระปิยะราช กะจาดตะหล่าย กะจ่ายตลาด

เรียกกะจาด ทรงเย้า เค้าขำแสน

สิ่งเหลือรู้ แค่นรู้ ชักดูแคลน

ญาณเรียมแล่น เลยเรื่อง เฟื่องสำนวล

สามโมงเช้า เจ้าคุณ วุ่นเตรียมเสร็จ

เชีญเสด็จ สถลยาตร์ ประพาสสวน

มะพร้าวพระยา วิเชียร(ชม) สมขบวร

นอกฉนวน เรื่องจังหวัด สงัดอึง

เมืองสงขลา ท่าทาง อย่างเคยเห็น

ถนนตึก อธึกเด่น เชิญขังขึง

จุดไฟฟ้า น่าสงสาร เหมือนถ่านตรึง

ไม่สวยซึ้ง สว่างนิคม สมชื่นชวน

ใช่ดวงเทียน เจียนเห็น เป็นดวงธูป

ริบหรี่วูป มัวซัว ยั่วแขกสรวล

น่าเปลี่ยนใช้ เครื่องใหม่ ใยอำยวน

ม้าขาหัก อักอ่วน ใยควรยิง

ในสงขลา ผิดท่า กรุงเทพ ฯ กระฉ่อน

หนังละคร ประกาศฉาว เกรียวกราววิ่ง

แตรป่าวไป ใบปลิว เป็นทิวทิ้ง

คนตามชิง รับแจก เห็นแปลกตา

ห้ามมิให้ ไปบน รถยนตร์แล่น

เกรงคนล้อม ตอมแน่น ทับแขนขา

เดีรหย่องหย่อง กลองแตร เสียงแสร้ครา

รถผ่านมา นึกมิแน่ แต่อไร

ถึงสวนตุล คุณหญิง ช่วงให้เช่า

อยู่เชีงเขา ชายป่า บิดาให้

โอ้เรือนโต โอ่โถง หายไว่งไป

เจ้าของได้ พาเรียม มาเยี่ยมเนา

โดยเป็นมิตร์ สนิธกัน แต่ชั้นก่อน

เข้านคร คราใด ไม่มือเปล่า

มีของฝาก ของฝาก หลากไม่เบา

เอินสิบชั่ง หวังเขา มาฝากมิตร์

ขึ้นเนินตึก นึกคนึง ถึงสหาย

เข้าหอป้าย สักการ สท้านจิต

เกีดมาสู่ อยู่มื้อ หรือชีวิต

เหลือชื่อติด เยี่ยงป้าย ดีร้ายนาน

แลเห็นสอง ห็องซุ้ย ตลุยยั้ง

เตรียมไว้ฝัง ตัวเอง เขลงอยู่บ้าน

เพราะรวยทรัพย์ ไฉนทรัพย์ กลับประหาร

ศพขึ้นคาน ค้างยุ่ง กันนุงนัง

จนเมียรัก ผลักโลก วิโยคเวียง

ศพวางเรียง เคียงคู่ อยู่ หอนั่ง

เหลือแต่ร่าง ร้างชีวิต ปลิดกำลัง

ใครจะฝัง หรือมิฝัง ก็ช่างใคร

ปูเสื่อสาด ดาษปะรำ ทำเฉิดฉาย

ลานหอป้าย สบายร่ม สมอาศรัย

มีห้องสรง ที่เสวย แปลกเคยไป

ตกแต่งไว้ สนองพระ กรุณา

พระปกเกล้า เจ้าชีวา มาประพาส

ที่พึ่งบาท เจรีญรอย พลอยหรรษา

สวนตุลเตียน เพี้ยนผัน จนมรรคา

พึ่งพระบา ระมีสอาด เมื่อผาดไป

เที่ยวสิงขร ตอนหลัง น้ำขังอ่าง

แลพลุ่งพร่าง พ่างพุ ทลุไหล

ด้วยชุกฝน ชละชั้น เขากั้นไว้

ยามแล้งไร้ ลำลหาล ชักม้านเมีล

ใครร่าเรีง เชีงตะกาย แพ้ชายฉันทน์ ฯ

สนุกรัน เต้นโลด โดดเขาเขีน

เถาพงศ์ดู คู่คอ ใม่รอเชีญ

บุกแนวเนีน น้ำตก วิ่งวกเวียน

ชอบที่ไหน ไม่เหมือน ชอบเรือนน้อย

ริมจะงอย น้ำกระเซน เล่นป้วนเปี้ยน

พากันขัน วรรณีฯ รี่ไปเยียน

เกีนเฉนียน เรือนตั้ง ยังไม่พบ

นึกใหญ่โต โอ่อ่า น่าประทับ

ยินฮาครืน ตื่นกลับ มาประสพ

เลยช่วยฉันทน์ฯ ต่อตพาน ข้ามธารทบ

เราเที่ยวจบ ทนบกั้น จนชั้นครัว

นั่งชะง่อน ก้อนผา น้ำพร่าพล่าน

สมสถาน รับเสด็จ เจ้าอยู่หัว

ใม่ร้อนเร่า เผาแผด แสงแดดซัว

สมเชยยั่ว หยุ่นหทัย ใคร่บรรทม

เสวยกลางวัน พร้อมกัน กับเจ้านาย

หญิงวรรณฯชาย ชิิดชนก วกผสม

บุญบรรลือ หลานอา ชายาชม

จงจิตเถา พงศ์รดม กันกลมเกลียว

คุณหญิงมา หาเครื่อง ถูกเรื่องครัน

หุงเข้ามัน ซ่มตำ ทำฉับเฉียว

กุ้งไม้กรอบ ชอบชวน ยวนให้เคี้ยว

น้ำพริกซ่ม มะขามเปรี้ยว ใบกรอบแนม

เสวยเพลีน เจรีญอาหาร ปานถูกยา

เครื่องหวานสา ลี่ซ่ม ขนมแกล้ม

น้ำชาดี ภีอิ่ม ยวนยิ้มแย้ม

เหลืออ้อมแอ้ม แอบไป ชอบใจบาน

คุณหญิงช่วง ภรรยา พระยาสวัสดิ์ฯ

พักจังหวัด สงขลา น่าสงสาร

ค็่อนผอมใผ่ ใจคอ ท้อสท้าน

อยู่นานนาน หน่อยที จะดีครัน

ทเลลม ผงมสกนธ์ ปรนอวบได้

ทั้งอยู่ไกล ใครกวน ยวนสุขศันติ์

พาลูกชาย มาถวาย บังคมคัล

เราคุยกัน สนุกปาน ลูกหลานคุ้น

ตอนตกบ่าย ฉายฉายา แล้วลากลับ

มาประทับ รถยนตร์ กมลกรุ่น

กลับเคหา ศัยยา ลาสวนตุล

แวะเคารพ ศพเจ้าคุณ วิเชียรฯวาง

พวงมาลา เทศา ช่วยหาให้

เหมือนเคยไป ทุกครั้ง สุดหวังห่าง

หีบจำปา คลุมผ้า อ่าสำอาง

เยี่ยระบับ ประดับข้าง คุณหญิงเคียง

กลิ่นธูปกรุ่น ตลุ่นใจ อาลัยคิด

ถึงชีวิต มิตร์สอง สยองเยี่ยง

น้อมคำนับ กลับตำหนัก ชักอ่อนเอียง

อกเอ๋ยเพียง พยุงขวัญ รันสำเรีง

รับหนังสือ พิมพ์บางกอก คลี่ออกอ่าน

พอทราบการ เพลีดเพลิน กันเจี่นเจี่ง

รับโทรเลข เฉกนิยม ปลื้มสมเชีง

มาแต่เวี้ง สิงคโปร์ โผล่กฤดา

ท่านกงสุล กรุณา สาราบอก

ลูกชายออก วานนี้ สมที่ง่า

ได้ยลกาย ชายโวฒิ์ฯ ปราโมทย์ครา

พรุ่งนี้บ่าย หมายมา สมอาทร

สพยามว่าง ทมกลาง วันเสียหน่อย

ต่อบ่ายคล้อย จึ่งประพาส สโมสร

ตามรเบียบ เทศา จะพาจร

สมกะต้อน รับลเมียด ไว้เกียรติ์ยศ

สี่โมงกว่า ขี้นรถา หาเขาน้อย

มีเรือนลอย ยอดผา งามปรากฎ

ตัดทางลาด ผงาดเอี้ยว หลั่นเลี้ยวลด

จนจรด ยอดขยั่น ขึ้นบรรใด

ชมห้องเรือน เหมือนหอ ออทีมูน

มิตร์ประยูร มากคู่ อยู่ใม่ได้

เฉพาะสอง ต่อสอง สำรองไว้

ห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำ ทำแยบคาย

ห้องรับแขก ห้องเลี้ยง เฉลียงแล่น

นึกแม้นแม้น วิมานเผือน ชมเดือนหงาย

รเบียงหน้า โต๊ะน้ำชา ประดาราย

หมดแดดฉาย ชื่นประชุม ฉะอุ่มเพรา

แม่ภรรยา เจ้าสงขลา รักยาอาตม์

อายอากาศ ดีตลอด แรมยอดเขา

ขอให้หาย วายโรค โศกสำเรา

พี่ ช่วยเอา ใจปลอบ เชีงชอบชวน

สงขลานี้ อุสาห์มี สนามก๊อล์ฟ

พระนางชอบ ทรงเพลีน ดำเนีรหวล

พร้อมน้องน้อง ประลองสนาม เล่นตามควร

การเดีรทวน ทางเมื้อ เทื้ออุรา

ชวนเทศา แยกมา สโมสร

เป็นที่หย่อน จิตผู้ดี ที่สงขลา

บิลเลียดเล่น เต็นนิส ติดเฮฮา

เปรมกมล สนทนา ยามสายัณห์

พบเบลลี่ ที่กงสุล อังกฤษ

มาผูกมิตร์ สนิธสนม ชื่นชมขวัญ

กับเล็มมิง ที่ปฤกษา ยุกติธรรม์

รู้จักกัน เมื่อนี้ เรีงปรีดา

ขุนนางไท ไปประชุม รุมมาเฝ้า

ปราศรัยเอา ใจปลุก ถ้วนทุกหน้า

นั่งดูเล่น เต็นนิส ชิดชาลา

ท่านเทศา ประชันชิง หญิงอุบลฯ

ทั้งเบลลี เล็มมิง ชิงกันเล่น

สองลานเป็น ที่สำราญ ตระการหน

แล้วเลยไป สนามก๊อล์ฟ เห็นชอบกล

ขึ้นรถยนตร์ พร้อมพระนาง กลับทางทวน

แวะตำหนัก พักพระวงศ์ องค์อาทิตย์ฯ

หญิงชวลิตฯ ชายอมร ฯ ย้อนทางสวน

เฝ้าพระนาง อย่างสนิธ เคยชิดชวน

ไปที่จวน ใม่ประสพ ตลบมา

เช่าสถาน บ้านน้อย ปลูกออยล์ปาล์ม

พยายาม ทำไร่ ในสงขลา

ด้วยเคราะห์ดี มี พะลัง ทั้งเวลา

ผิดพ่อค้า จีนไท ที่ไร้ทุน

เขตสงขลา พร่าถนน รถยนตร์แล่น

แทบทั่วแคว้น ไปมา ใม่ว้าวุ่น

แม้องค์ไกล ใช่เฉย ถึงเคยคุ้น

คิดการุญ กรุ่นดื่ม ใม่ลืมเรีม

คยั้นคยอ พ่อค้า สงขลาซัก

ใยมิพัก ปลูกปาล์ม ตามท่านเริ่ม

ทุกจีนไท ใจงัน สั่นสะเที้ม

มิกล้าเสรีม กล้าส่ง ยังสงกา

เที่ยวตรวจแหลม มะลายู ดูมากหน

เห็นแต่ต้น น้อยน้อย เหลือคอยท่า

ว่าแปดปี มีผล อ้นปัญญา

เกรงจะกว่า ท่าทาง เหมือนอย่างตาล

สามสิบศก ตกผล ทุนปรนทด

เกรงจะหมด ก่อนรวย ป่วยแสร่หวาน

เหมือนมะพร้าว กล่าวตก หกปีปาน

ที่จริงนาน เกีนปอง สิบสองปี

ปีที่หก ตกผล ประดลน้อย

นานปีค่อย มากประมาณ สมฐานที่

แม้ใม่เห็น ด้วยตา เพียงวาที

คนพวกนี้ ใม่กระโจม โถมทุนรอน

ถึงออยล์ปาล์ม ยามดี เมื่อมีผล

ดีกว่าต้น ยางจริง ใม่ยิ่งหย่อน

ราคาขึ้น ลงไฉน ไม่กระดอน

แต่หวาดตอน คอยช้า มิกล้าตาม

ขึ้นรัถา มาตำหนัก หยุดพักผ่อน

แต่งอักษร กลอนเกริ่น แทนเพลีนพล่าม

ถวิลสกล ชนะบท เรี่มงดงาม

หนุ่มสยาม ขยดจรีย์ ดีผะเดิม

ค่ำเสวย เครื่องใหญ่ ปราศรัยกัน

เกษมศันติ์ ผสมสนิธ ผูกมิตร์เพิ่ม

ลูกหญิงหญิง กับคุณหญิง ประวิงเรีม

คุ้นเคยเสรีม เสน่ห์เพลง กันเองเกรียว

เป็นน้องพ่วง หลวงพี่ ศรีสุรางค์ฯ

เจ้ากรมพระนาง รักบ้าน ชังการเที่ยว

มาอยู่นี่ ญี่สิบหก ศกจริงเจียว

เพียงหนเดียว พระนคร อ็่อนพึ่งไป

ช่วยเจ้าคุณ วุ่นพรวน ส่วนมะพร้าว

ตั้งตัวราว คนซวย จนรวยได้

แม้ว่างราช ะกิจจา เพลาใด

ดูแลไป ทำสวน ชวนเพลีนตา

เป็นล่ามเริ่ม เหีมสมัคร์ คมักเขม้น

จนเลื่อนเด่น เป็นผู้ พิพากษา

ได้เป็นถึง อธิบดี เดี๋ยวนี้มา

เป็นเทศา สนองสยาม สมความเพียร

ตัวเฮอมิต ลิขิตออก บางกอกแตมป์

เจ้าคุณแย้ม แต้มลึก ฝ่าฝึกเขียน

ออกความคิด เกรงผิด บังมิดเมี้ยน

แสวงเวียน หวังให้ ไทเจรีญ

จนสมเด็จ เจ้าฟ้า โปรดปราณี

เห็นภักดี ต่อชาติ์ ใช่ผาดเผีน

รักสัตย์ธรรม สม่ำเสมอ ใม่เฟ้อเกีน

เราฟังเพลีน เยี่นเวลา ศัยยางึม

เดีมพระยา ทุษยันฯ โชคผันเผ่น

ถึงขั้นเป็น เทศา สง่าขรึม

พวกขุนนาง ต่างอิจฉา เห็นท่าครึ้ม

ยังใม่ซึม ทราบยอม อ่อนน้อมดี

ครั้นหย่อนนัก ก็จัก กำเรีบแผลง

ครั้นรุนแรง หนักไป ก็ใช่ที

ต้องผ่อนผัน ชั้นเชาวน์ ให้เข้าที

เป็นต้องมี วันเรียบ ใยเฉียบชิง

ห้าทุ่มกว่า ลาผะทม ชมฉลาด

พระยาศรี ธรรมะราช และคุณหญิง

แม้เมืองไท เลือกใช้ ใครดีจริง

ทัวทุกกิ่ง ราชะกิตย์ ต้องผิดตา

หลงเสนียด เกียจกัน ฉันท์เราเขา

คลั่งแต่เขา ตั้วหนัง ขึ้นตั้งหน้า

ก็ป้วนเปี้ยน เพียรเปล่า เข้าตำรา

ตักน้ำคว้า ตะกร้าตวง น้ำร่วงพรู

คำเส้นผม บังภูเขา เราดูถูก

แต่ท่านผูก คำเปรียบ เฉียบนักอยู่

ทุกชายหญิง หยิ่งยวด ชอบอวดรู้

ใครเป็นครู ใครเป็นทาส มักคาดพลั้ง

แต่ลงท้าย ก็ตาย ตามตามกัน

เหมือนความฝัน ควันหลง ทนงคลั่ง

จริงแต่กรรม ทำไฉน ผลไหลยั้ง

อนิจจัง อนัตตา ชั่วคราคึก

ข้อแปลกสุด พุทธองค์ ด่งพระคุณ

ยิ่งสกุล จักระพรรดิ์ กำจัดศึก

เหตุฉนี้ นิทัสนีย์ นี่ดีลึก

อยู่เป็นปึก แผ่นย้วย ช่วยประชา

ถึงรวยสิน ถิ่นที่ หรือมีบุญ

เอกอดุล อำนาจ วาศนา

ชีวิตดับ หายวับ ไปกับตา

จริยา เท่านั้น ยืนวันเนา ฯ ๑๔๒ คำ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ