- คำนำ
- คำปรารภของผู้เรียบเรียงพระประวัติ
- พระประวัติ นายพลเอก พระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๑)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๒)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๓)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๔)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๕)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๖)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉะบับที่ ๗)
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- สำเนาพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- คำอธิบายของกรมศิลปากร
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๔๓
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๔๓
เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๓
จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน
พระราชนิพนธ์
ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓ (พ.ศ. ๒๔๒๔)
----------------------------
วัน ๗ ๑ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๓ โมง พระยามหานุภาพเฝ้าถวายสารบบเร่งเงินพินัย ด้วยเดิมโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นผู้เร่งเงินพินัย บัดนี้โปรดเกล้า ฯ ให้ไปว่าราชการเมืองโคราช จึ่งเอาสารบบที่ทำเดิมมาถวาย เจ้าพระยาภาณุวงศ์เฝ้าเรื่องที่จะทำมอนุเมนต์
รับสั่งให้พระนายสรรเพธไปจัดเครื่องตั้งที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระยาราไชยถวายบานแผนกภาษีนุ่น
พระศรีสุนทรเฝ้า คิดพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระยาภาสถวายหนังสือพิมพ์ต่างๆ และบัญชีของทำบุญ แล้วเสด็จขึ้น
เวลา ๑ ทุ่มเศษเสด็จออก พระองค์สวัสดิ์เฝ้า
พระราชหัตถ์ถึงเจ้าพระยาภาณุวงศ์ส่งหนังสือกงสุลวิลันดาที่ถวายทั้งสำเนาและคำแปลให้ตรวจดู ถ้ามีอะไรค้าง ก็ให้ตอบเขาเสีย
ถึงเจ้าพนักงานคลังมหาสมบัติ สั่งเรื่องเงินขึ้นสมเด็จพระนางเจ้าที่สั่งเดิมนั้นให้งดเสีย ให้คนในภาษีอื่นๆ ที่พระคลังมหาสมบัติ พระคลังสินค้าถวาย เหมือนเช่นเงินขึ้นเดิม
วัน ๑ ๒ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๓ โมง เสด็จออก พระยาโชฎึก พระสวัสดิ์ จีนเฝ้า ถวายตุ๊กตาที่ใส่บุหรี่ และของอื่นๆ คือผ้าปูโต๊ะเป็นผ้าน้ำมัน พระยาราชสงครามเฝ้า รับสั่งเรื่องมอนุเมนต์ร้อยปี แล้วเสด็จขึ้น
วันนี้สมโภชเดือนสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิง พระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา เจ้านายขุนนางเข้าไปสมโภชตามเคยอย่างสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า
วัน ๒ ๓ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมรับสั่งสมเด็จกรมพระเรื่องจัดการที่พระที่นั่งอนันต์ และเรื่องอื่นๆ แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งสุทกไธศวรรย์ ทอดพระเนตรโรงงิ้ว แล้วเสด็จกลับประทับพระที่นั่งอนันตสมาคม มีสมเด็จกรมพระ กรมขุนเจริญ พระองค์ทอง และเจ้ากรมพระตำรวจและกรมวัง และเสด็จลงไปทอดพระเนตรโรงสลากที่พระนายไวยจัด แล้วพระยาโชฎึกถวายโปรแกรมงิ้วที่จะเล่นค่ำวันนี้ รับสั่งให้ตีพิมพ์ แล้วเสด็จขึ้น กรมพิชิตเฝ้าที่พระที่นั่งเขียว แล้วสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์เฝ้า แล้วเสด็จไปทอดพระเนตรพระที่นั่งใหม่ แล้วเสด็จไปที่พระมหาปราสาทพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ แล้วเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม วันนี้เป็นการเริ่มทำบุญวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ครบปี ๑ ที่พระที่นั่งอนันตสมาคมนั้น จัดตั้งบุบบกสลักปิดทองชั้นแว่นฟ้า ปิดทองหน้าพระที่นั่งเศวตฉัตร คือที่ตั้งโทรน ตั้งพระวันประสูติสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ ในบุษบกนั้น มีบุษบกทองคำชั้นแว่นฟ้า ทองคำตั้งข้างๆ บุษบก พระอีกข้างละองค์ คือบุษบกข้างเหนือตั้งพระอัฏฐิสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา บุษบกข้างใต้ตั้งพระอัฏฐิสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณากรณ์ พระภูษาโยงมารวมลงในวิมาน วิมานนั้นตั้งหน้าบุษบกพระ อนึ่งทางมุขพระที่นั่งอนันตสมาคมข้างเหนือ ตั้งโต๊ะจีนและเครื่องกงเต๊ก พระญวนมาสวดอยู่ที่นั้น ครั้นเสด็จออกพระวุฒิการนำสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์กับฐานา ๔ รูปเข้ามาแล้วทรงจุดเทียนทรงธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศน์บนพระที่นั่งเศวตฉัตร เทศนาจบแล้วทรงทอดผ้าไตรและผ้าขาว สมเด็จพระพุทธโฆษากับฐานาสดับปกรณ์ ถวายอติเรกพระพรลากลับ แล้วพระเทพโมฬีถวายเทศนากัณฑ์ของสมเด็จพระนางเจ้า ครั้นเทศนาจบ พระเทพโมฬีเข้าไปรับของที่ปากม่าน แล้วถวายอติเรกพระพรลากลับ แล้วพระสงฆ์คณะธรรมยุติกา ๑๐๐ รูปสดับปกรณ์ผ้าขาวพับของหลวงแล้ว พระสงฆ์คณะมหานิกาย ๑๐๐ รูปสดับปกรณ์ผ้าขาวของสมเด็จพระนางเจ้าอีก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ปราสาททอดพระเนตรงิ้วและทรงดอกไม้เพลิง มีรำโคม สิงห์โต มังกร หนัง เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๓ ๔ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ ๖๐ รูป มีหม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดาเป็นประธาน ทรงนมัสการแล้ว สมเด็จพระวันรัตถวายศีล แล้วพระสงฆ์ถวายพระพร แล้วรับพระราชทานฉัน แล้วสดับปกรณ์ผ้าไตร แล้วไปรับบริกขารที่พระยาภาส แล้วพระสงฆ์ถวายยะถา สัพพี อติเรก พระพรลา แล้วพระสงฆ์คณะธรรมยุติกาสดับปกรณ์ผ้าขาวพับ ๑๐๐ รูป แล้วพระญวนและจีนเจ้าภาษีตั้งเครื่องสังเวยแล้ว พระสงฆ์มหานิกายสดับปกรณ์รายร้อย แล้วเจ้าพระอรุณถวายเทศนา แล้วเสด็จขึ้น เวลา ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทรงโปรยมะนาว สลาก เสนาบดีข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าที่ชาลาหน้าพระที่นั่ง แล้วเจ้าพนักงานทิ้งทานบนต้นกัลปพฤกษ์ ๔ ต้น มีไม้ลอย ญวนหก ไต่ลวด แล้วเสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเมื่อเช้ามาสวดมนต์ ครั้นสวดมนตร์จบแล้ว พระถวายเทศนา แล้วพระสงฆ์ ๑๐๐ รูปสดับปกรณ์สลาก แล้วเสด็จออกพระที่นั่ง ทรงจุดดอกไม้และทอดพระเนตรงิ้ว เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๔ ๕ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๔ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดเครื่องนมัสการ พระพิมลธรรมถวายศีล ทรงศีลแล้ว พระสงฆ์ ๖๐ รูป มีสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นประธานสวดถวายพรพระแล้วเสด็จทรงประเคนพระสงฆ์ แล้วเสด็จไปทรงประเคนพระญวน ครั้นพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันสดับปกรณ์แล้ว พระราชทานพัดเปรียญมหาปุ่นเปรียญ ๔ ประโยควัดมหาธาตุด้วย เพราะพึ่งอุปสมบทเป็นภิกษุพระสงฆ์ ถวายยะถาสัพพีอติเรกพระพรลาแล้ว พระสงฆ์ราชาคณะฐานาเปรียญ ๑๐๐ รูปสดับปกรณ์ผ้าขาวพับ แล้วพระญวนและพระยาพระหลวงเจ้าภาษีตั้งเครื่องตามเคย แล้วพระสงฆ์ที่บิณฑบาตเวรสดับปกรณ์ ๑๐๐ รูป แล้วพระโพธิวงศ์ถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง ครั้นเทศน์จบแล้วพระสงฆ์สดับปกรณ์ผ้าขาวอีก ๑๐๐ รูป แล้วเสด็จบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทอดพระเนตรงิ้ว เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทรงโปรยสลากและมะนาว เทวดาบนต้นกัลปพฤกษ์ก็ทิ้งทาน เสด็จอยู่จนค่ำ แล้วเสด็จมาประทับพระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเมื่อเข้ามาสวดมนต์ ครั้นสวดจบแล้ว พระอมราภิรักขิตถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง ครั้นเทศนาจบแล้ว พระสงฆ์ ราชาคณะฐานาเปรียญ ๑๐๐ รูป สดับปกรณ์สลากแล้ว เสด็จทรงโปรยสลาก แล้วขึ้นบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ทรงจุดดอกไม้ และทอดพระเนตรงิ้ว เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๕ ๖ฯ ๗ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงนมัสการ พระธรรมวโรดมเป็นประธานาธิบตีสวดถวายพรพระแล้ว เสด็จทรงประเคนพระสงฆ์แล้ว เสด็จทรงประเคนพระญวนเหมือนเช่นวันหลัง ครั้นพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ที่ฉันสดับปกรณ์ของหลวง ๔๐ รูป ของในสมเด็จพระนางเจ้าและพระนางเธอ ๒๐ รูป ดังเช่นวันหลังมาแล้ว พระสงฆ์ถวายยะถาสัพพีอติเรกพระพรลากลับ แล้วพระสงฆ์ราชาคณะฐานาเจ้าอธิการ ๑๐๐ รูป สดับปกรณ์ผ้าขาวพับ ครั้นแล้วพระญวนและพระหลวงเจ้าภาษีตั้งเครื่องสังเวยถวายพระอัฏฐิแล้ว พระสงฆ์บิณฑบาตเวรสดับปกรณ์ ๑๐๐ รูป แล้วพระอมรโมฬีถวายเทศนา ครั้นเทศนาจบแล้ว พระสงฆ์ ๑๐๐ รูปสดับปกรณ์ผ้าขาวพับ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทอดพระเนตรงิ้วอยู่เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทรงโปรยสลากและมะนาว เทวดาบนต้นกัลปพฤกษ์ ๔ ต้นก็ทิ้งทาน แล้วทอดพระเนตรงิ้วอยู่จนเวลาย่ำค่ำ เสด็จกลับ ประทับพระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเมื่อเข้ามาสวดมนต์ ครั้นสวดจบแล้ว พระญาณรักขิตถวายเทศนากัณฑ์ ๑ ครั้นเทศน์จบแล้ว พระสงฆ์ราชาคณะ ฐานา เจ้าอธิการสดับปกรณ์สลาก ๑๐๐ รูป แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เรื่องละครม้า แล้วสดับปกรณ์พระญวนอีก ๘ รูป แล้วทรงโปรยสลาก แล้วเสด็จขึ้นบนพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทรงจุดดอกไม้ แล้วทอดพระเนตรพระญวนทำพิธี กงเต๊กแห่เทียนแลรูปที่สมมติพระนามลงไปออกประตู ไปหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ไปเดินเวียน เครื่องอุปโภคต่างๆ ที่ทำด้วยกระดาษ เวียน ๓ รอบแล้วสวดขึ้น พระยาโชฎึก พระสวัสดิ์ ก็เผารูปสมมติพระนามกร แล้วเผาเครื่องอุปโภคต่าง ๆ ที่ทำด้วยกระดาษ แล้วทอดพระเนตรงิ้ว เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น มีโขนโรง ๑ หุ่นโรง ๑ งิ้วโรงใหญ่ ๑ หนัง ๒ โรง สิงห์โต ญวนหกไม้ลอยรำโคมมังกร ดอกไม้ต่างๆ
วัน ๖ ๗ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระองค์สายและกัปตันลิชลิวเอาแผนที่เข้ามาถวาย แล้วพระยาภาสเฝ้าเรื่องละครม้า แล้วพระยานรรัตนเฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น แล้วทรงเครื่องเสด็จออกหล่อเทียนพรรษา ที่เก๋งวรสภาภิรมย์ พระยาราไชย และคลังศุภรัต คลังในซ้าย ถวายขันขี้ผึ้ง ทรงหล่อพิมพ์เทียน แล้วรับสั่งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช และเจ้านายเทขี้ผึ้งหล่อเทียนต่อไป แล้วรับสั่งกับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ แลกรมหมื่นเทวะวงศ์ แลพระยาภาส เรื่องการพระที่นั่งใหม่ และอื่นแล้ว พระสุรินทรามาตย์ นำพระยาสมบัติภิรมย์ และกรมการเมืองตะวันตกกราบถวายบังคมลาไปบ้านเมือง เวลา ๕-โมงเศษเกือบย่ำค่ำ เสด็จขึ้น ทางประตูพรหมไป เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จทรงรถพระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า และพระนางเธอ แต่ประตูพรหมไป ประทับที่โรงละครม้าหน้าโรงรถเก่าเสด็จขึ้นประทับบนพลับพลา พระบรมวงศานุวงศ์ ตำรวจมหาดเล็ก และทหารเฝ้าหน้าพลับพลา แล้วพวกละครก็เล่นเป็นกระบวนม้าวิ่งและเต้น และทำท่าทางต่างๆ คนนั้นก็เล่นต่างขี่ม้า แล้วทำท่าบ้าง ขี่ม้าหลังเปล่า และยืนบนหลังม้าวิ่งบ้าง และโยนแก้วเล็ก ๆ ใหญ่ๆ โยนมีดหลายๆ เล่ม และโยนไฟบ้าง โยนบนหลังม้าวิ่งทั้งนั้น และผู้หญิงโหนชิงช้า และหกคะเมนบนชิงช้า และทำท่าทางต่างๆ เป็นที่น่าดูนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานรางวัลพวงมาลัยแก่คนที่เล่นละครดี ประทับอยู่จนเวลา ๕ ทุ่มครึ่ง เสด็จกลับ ละครเลิก
กรมหมื่นเทวะวงศ์ ถวายรายเดือนจ่ายเงินรับเงิน บาญชีหอรัษฎาจำนวนเดือน ๕ ปีมะเส็ง ตรีศก
วัน ๗ ๘ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกทรงปิดทองหนังสือแล้ว กรมหมื่นเทวะวงศ์ เฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า แล้วสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์เฝ้าทูลเรื่องพระที่นั่งใหม่ แล้วขรัวหยาเข้ามาเฝ้าแล้ว พระยานรรัตน์เฝ้าแล้ว พระยามหามนตรีเฝ้า แล้วเสด็จออกไปทอดพระเนตรงานวัดพระแก้ว มีสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ และกรมพิชิต เจ้านายอีกหลายองค์ แล้วเสด็จกลับ เวลาย่ำค่ำ เวลา ๒ ทุ่นเศษเสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า อยู่จน ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๑ ๙ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จออก หม่อมเจ้าบงกชเฝ้า แล้วฉรมภูเฝ้า แล้วท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์เข้ามาเฝ้า รับสั่งเรื่องนายเบี้ยงและอื่นๆ จนบ่าย ๔ โมงเศษ แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า และพระยาโชฎึกเฝ้า แล้วหลวงนริศเฝ้ารับสั่งเรื่องทูลกระหม่อมใหญ่ แล้วหมอเกาแวนเฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้าอีก เวลา ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น แล้วเวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกพระที่นั่งเขียว กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์สวัสดิ์เฝ้า เวลายามเศษเสด็จไปทอดพระเนตรละครม้าเหมือนวันก่อน วันนี้ละครม้าเล่นสนุกมาก มีช้างเล่นต่างๆ และเล่นชิงช้าสนุกมาก เสด็จทอดพระเนตรอยู่จนเวลา ๕ ทุ่มครึ่งเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
วัน ๒ ๑๐ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระองค์สวัสดิ์เฝ้า ทรงพระราชหัตถ์และอื่นๆ แล้ว พระยานรรัตนเฝ้าแล้ว พระองค์สายมาเฝ้า แล้วเสด็จขึ้น แล้วออกขุนนาง พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองจันทบุรี บอกพระเสนาราชภักดียกกระบัตรป่วยเป็นโรคตกโลหิตถึงแก่กรรมแล้ว พระสุรินทรามาตย์ทูลหลวงยกกระบัตรเมืองพัทลุงกราบถวายบังคมลาไปเมืองพัทลุง แล้วพระราชทานสัญญาบัตรหลวงมหาดไทยเมืองราชบุรี เป็น พระยากาญจนบุรี ๑ หลวงสุนทรภักดีเป็นพระสิทธิศักดิ์สมุทเขตต์ปลัดสมุทรปราการ ๑ พระมหาดไทยเป็นพิไชยนครบวรวุฒิยกกระบัตรเมืองสุรินทร ๑ นายสุดมหาดเล็ก เป็นหลวงเพ็ชรคิรี ปลัดเมืองตะกั่วทุ่ง ๑ นายดำมหาดเล็กเป็นหลวงสัจจาบริรักษ์ ผู้ช่วยเมืองตะกั่วทุ่ง ๑ หลวงอร่ามเรืองฤทธิ์ เป็นพระสินธุชลสงครามปลัดเมืองสมุทรสงคราม ๑ หลวงวิชิตชลไชย เป็นหลวงอร่ามเรืองฤทธิ์ ยกกระบัตร ๑ แล้วเสด็จขึ้น เสด็จออกทางพระที่นั่งเขียว กรมหมื่นพิชิตเฝ้า เวลาย่ำค่ำเสด็จขึ้นเสวย เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า แล้วเสด็จขึ้น เวลา ๕ ทุ่ม
กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการถวายรายเดือนผู้จ่ายเงิน รับเงินบัญชีกลางหอรัษฎากรพิพัฒน์ จำนวนเดือน ๖ ปีมะเส็ง ตรีศก
วัน ๓ ๑๑ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระองค์สวัสดิ์เฝ้าแล้วสมเด็จกรมพระเฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า แล้วเสด็จขึ้นเสวย เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระยาภาศ พระองค์สวัสดิ์เฝ้า เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น
วัน ๔ ๑๒ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเสด็จออก พระองค์สวัสดิ์เฝ้า แล้วพระยาโชฎึกนำหลวงบำรุงราชากร เฝ้าถวายของในการที่จะเสด็จขึ้นไปบางปะอิน แล้วกรมหมื่นพิชิตเฝ้า แล้วเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๔ โมง
ขุนนางกรมท่านำนิวแมนกับมิสเตอร์บ๊อกเข้ามาเฝ้าไปรเวต แล้วเสด็จลงพระตำหนัก แล้วเสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกประตูพรหมเสด็จไปประทับท่าราชวรดิฐ ทรงเรือพระที่นั่งเก๋งไปประทับท่าวังสมเด็จกรมหลวงจักรพรรดิพงศ์ ไปประทับบนตำหนัก เยี่ยมประชวรสมเด็จกรมหลวงอยู่จนเวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จกลับ เวลายามเศษเสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น
วัน ๕ ๑๓ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระองค์กมลาศน์ หม่อมเจ้าบงกชเฝ้า แล้วพระยาโชฎึก พระสวัสดิ์เฝ้าถวายรังนก แล้วรับสั่งเรื่องรังนก และรับสั่งว่าจะเสด็จไปทะเลแล้วจะแวะทอดพระเนตร แล้วพระศรีสุนทรเฝ้าถวายวิสุงคามและสัญญาบัตร ทรงเซ็นสัญญาบัตร ๕ วิสุงคาม ๗ แล้วหลวงนายศักดิ์เฝ้าเรื่องพระบริสุทธิโลห และพระยานรรัตน์เฝ้า แล้วเสด็จขึ้น เวลา ๔ โมงเย็นเสด็จไปพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงฉลองพระองค์เต็มยศทหาร เจ้านายข้าราชการสรวมเสื้อเยียรบับและเต็มยศ แล้วกรมท่านำกงสุลโปรตุเกสเข้ามาเฝ้า พระยาพิพัฒน์ทูลเบิกแล้ว กงสุลโปรตุเกศสปีช แล้วทรงสปีชตอบ และทรงพระราชปฏิสันถาร ๓ นัด แล้วเสด็จขึ้น แล้วเสด็จลงตำหนัก พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศศิพงศ์ประไพสมโภชเดือนแล้วขึ้นพระอู่ แล้วเสด็จขึ้น เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออก กรมพิชิต กรมหมื่นเทวะวงศ์ พระองค์สวัสดิ์ พระยาภาสเฝ้า เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๖ ๑๔ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เช้าวันนี้ พระเจ้าลูกเธอประสูติ เป็นพระราชบุตรี เจ้าจอมมารดาสาย
เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระยานานาเฝ้ารับสั่งเรื่องประทุมวัน แล้วรับสั่งกับพระอมร ถามถึงสมเด็จเจ้าพระยา แล้วกรมพิชิต พระยาภาสเฝ้า พระองค์สาย พระยามนตรีเฝ้า
เสด็จออกขุนนาง พระยาศรีอ่านบอกว่าลาววิวาทกันฆ่ากันตายที่ปากน้ำโพ แล้วทูลลาพระยามหานุภาพไปโคราช เจ้าพรหมเทวาและปลัดกรมการ อุปฮาต ราชวงศ์ และกรมการเมืองสาลวัน เมืองสวรรคโลก และเมืองอื่น กราบถวายบังคมลาไปบ้านเมือง และนายต่วนกับพระพลไปเมืองตาก
พระนรินทร์อ่านบอกเมืองกาญจนบุรี บอกเผาศพพระยากาญจนบุรีและส่งเครื่องยศคืน แล้วทูลลา พระยาสุนทราผู้ช่วยเมืองสงขลากับบุตรกราบถวายบังคมลาไปบ้านเมือง ด้วยจะจัดแจงคอยรับเสด็จ
รับสั่งให้รออยู่ด้วยมารดาพระยาสุนทราเจ็บอยู่ พระยาพิพัฒน์อ่านบอกเมืองนนท์ ผู้ร้ายฆ่ากันตาย แล้วรับสั่งให้สืบจับ แล้วพระราชทานสัญญาบัตรพระเสนาพิพิธเป็นพระยาณรงค์เรืองฤทธิ์ ปลัดเมืองพระตะบอง พระมหาดไทยเป็น --- พระพลเป็นพระประจันปัจจนึก ท้าวโพธิราชเป็นพระธำรงไชยธวัช แล้วเสด็จขึ้น
นายเสนอรายงานนักโทษที่จำคุก หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ พระนายไวยถวายแซงชั่นเงินทำวังสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ โปรดพระราชทานแล้ว เป็นเงินพระคลังข้างที่ เจ้าพระยาสุรวงศ์ถวายรายงานภาษีฝิ่น ภาษีร้อยชักสามครบปี เวลา ๒ ทุ่มเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรละครม้าที่โรงหน้าหอพระสุรัสวดี พวกละครเล่นชิงช้า และเดินบนลูกโลก และม้าขี่รถ และระบำม้า เป็นการประหลาดมากยิ่งนัก เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๗ ๑๕ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออก พระยานรรัตน์เฝ้า แล้วกรมหมื่นพิชิต พระองค์สวัสดิ์เฝ้า ทรงหนังสือราชการ และเซ็นเรื่องราวต่างๆ แล้วพระองค์ศรีสิทธิ์ - - - เรื่องวัดพระแก้ว แล้วเสด็จขึ้น ๕ โมง เสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทอดพระเนตรงาน เวลาย่ำค่ำเสด็จขึ้น พระเจ้าลูกเธอที่ประสูติเวลาวานนี้สิ้นพระชนม์
วัน ๑ ๑ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เสด็จออกในพระที่นั่งเวลาบ่าย ทรงเซ็นเรื่องราวหลวงพิไชยวารี และ หลวงชลภูมิพานิช และเรื่องพระองค์ดิศขัดข้อง เรื่องพระยาอัษฎงค์ขอนายวอนทหารมหาดเล็กไปใช้ในการกงสุลสิงคโปร์ ทรงเซ็นให้ยอมให้ไป
บ่าย ๕ โมงเศษเสด็จประทับตำหนักแพ พระยานครศรีธรรมราชและพระสมบัตยานุรักษ์กราบถวายบังคมลา เจ้าพระยาสุรวงศ์มาเฝ้าอยู่ที่นั้นด้วย ประทับตรัสครู่หนึ่ง เสด็จลงเรือเวสาตรี ออกจากท่าราชวรดิฐ เวลาย่ำค่ำถึงท้ายเกาะบางปอิน เวลา ๕ ทุ่มครึ่งเสด็จลงเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่ง เสด็จขึ้นไปประทับบนพระที่นั่งวโรภาสพิมาน ทูลกระหม่อมพระองค์น้อยมาคอยรับเสด็จอยู่ด้วย
วัน ๒ ๒ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จออกบนพระที่นั่งวโรภาสพิมาน เจ้านายเฝ้าตามธรรมเนียม แล้วเสด็จวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ทรงกะที่ๆ จะทำเป็นที่ระลึกแห่งสมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้เชิญพระพุทธรูปซึ่งทรงสร้างพระราชทานส่วนพระราชกุศล พระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ไปตั้งในการเปรียญ แล้วเสด็จทอดพระเนตรที่ต่างๆ ทั่วทั้งพระอาราม ที่แห่งใดปรักหักพังก็โปรดเกล้า ฯ รับสั่งให้มิสเตอร์แกรซี้นองซ่อมแซมทุกแห่ง เสด็จกลับย่ำค่ำเศษ
เวลา ๒ ทุ่ม สมเด็จเจ้าพระยามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทบนพระที่นั่งวโรภาสพิมาน ๔ ทุ่มกลับไป เสด็จขึ้น ๕ ทุ่ม
วันนี้เสภาทูลกระหม่อมพระองค์น้อยมาเล่นที่กระโจมแตรข้างพระที่นั่ง
วัน ๓ ๓ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่ายโมงครึ่ง เสด็จลงเรือพระที่นั่งโสภณภควดีไปประทับบ่อโพง เสด็จขึ้นประทับรออยู่จนเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระยาช้างสำคัญเดินมาถึง กระบวนแห่ไปรับที่ต้นทาง แห่มาเข้าโรง พระสงฆ์สวดมนต์ ๑๐ รูป ทรงจุดเครื่องนมัสการแล้ว เสด็จกลับมาประทับพระราชวังบางปะอิน
วันนี้สวดมนต์ฉลองพระวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ สวดมนต์ในการเปรียญ พระสงฆ์ในวัด ๗ รูป ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณไปจุดเทียน
วันนี้โปรดให้เรือไฟไปรับเสด็จที่วัดขึ้นมา
วัน ๔ ๔ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลา ๓ โมงเช้าเสด็จวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ เลี้ยงพระในการเปรียญ และสดับปกรณ์พระทนต์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาในพระอุโบสถ พระสงฆ์ ในวัดที่ใกล้เคียงมาสดับปกรณ์ วัดนิเวศน์ ธรรมประวัติ และวัดชุมพล ๒ วัดได้ไตร พระสงฆ์วัดอื่นๆ ผ้าขาวพับ แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงโปรยที่ศาลาหน้าวัด อนึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้ชาวเกาะบางปะอินมารับทาน โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์น้อย และกรมหมื่นเทวะวงศ์ทิ้งทาน รวมเงินที่ทรงโปรย เงินสลึง ๑ ชั่ง เงินเฟื้อง ๑ ชั่ง เสด็จกลับ เช้า ๕ โมงเศษเสด็จขึ้น
วันนี้โปรดเกล้า ฯ ให้เรือไฟลงไปรับพระศรีสุนทรมาคิดชื่อพระยาช้าง
วัน ๕ ๕ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
พระราชทานนามพระที่นั่งหอสูงว่า พระที่นั่งวิทูรทัศนา เก๋งสำหรับประทับชมดอกไม้ว่า เก๋งบุบผาประพาส
บ่ายโมงเสด็จลงเรือพระที่นั่งโสภณข้างในไปด้วย ถึงบ่อโพงเสด็จเข้าในโรงช้าง ตรัสกับกรมพระปวเรศ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้แห่ช้างออกจากโรงไปลอดโขลนทวาร แล้วลงแพ เสด็จลงไปประทับในแพครู่หนึ่ง แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งล่องลงมา แพช้างจะได้ออกในวันนี้ เสด็จพระราชดำเนินมาประทับวัดพนัญเชิง ทรงปิดทองพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีละครโรง ๑ หนังโรง ๑ ทรงปิดทองแล้ว เสด็จกลับมาถึงพระราชวังบางปะอินเวลาย่ำค่ำ
วัน ๖ ๖ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เมื่อคืนนี้เวลา ๓ ยามเศษ พระนางเธอสุขุมาลประชวรพระครรภ์ โปรดเกล้า ฯ ให้เสด็จกลับลงมากรุงเทพ ฯ แต่รุ่งเช้า เวลาเช้าโมงหนึ่งเสด็จลงเรือพระที่นั่งเวสาตรี ล่องลงมาถึงกรุงเทพ ฯ เวลาย่ำเที่ยงเสด็จขึ้น ค่ำวันนี้ไม่มีราชการอะไร
วัน ๗ ๗ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก พระศรีสุนทรเฝ้ารับสั่งเรื่องชื่อช้างสำคัญแล้ว พระยานานาเฝ้า พระไชยยศเฝ้า แล้วพระยาเทพเฝ้ารับสั่งเรื่องเมืองเชียงใหม่ และพระเสมอใจเข้ามาเฝ้าด้วยกลับมาจากเมืองญี่ปุ่น เอาหนังสือที่ได้เข้ามาแต่ญี่ปุ่นถวาย แล้วกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทวะวงศ์ เฝ้ารับสั่งเรื่องเมืองญ่ปนและอื่น ๆ แล้วเสด็จขึ้น
เวลาเกือบย่ำค่ำเสด็จออกทางประตูพรหม ทรงรถพระที่นั่งไปประทับทอดพระเนตรโรงช้างและโรงโขน เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับ เวลาทุ่มเศษเสด็จออก กรมขุนเจริญเฝ้า แล้วกรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้าอีก เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๑ ๘ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จออก พระศรีสุนทรเฝ้าถวายร่างกล่อมพระเศวตสกนธ์วโรภาส แล้วพระสิทธิไชยมาเฝ้าทูลขอพระราชทานที่นาแล้วพระเสมอใจขนของที่ซื้อมาแต่เมืองญี่ปุ่น ทอดพระเนตรอยู่จนเกือบค่ำ จมื่นจงซ้ายเข้ามาเฝ้าทูลว่างานช้างนี้จะโปรดให้ข้าราชการแต่งตัวอย่างไร โปรดให้สรวมเสื้อเยียรบับนุ่งถมปักลาย แล้วทรงทอดพระเนตรเครื่องญี่ปุ่นต่อไปจนย่ำค่ำเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออก พระองค์สวัสดิ์เฝ้า แล้วกรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า จนเวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น
เซ็นเรื่องราวพระสิทธิไชยขอพระราชทานนาคลองเหลือมอ้อ ให้พระยาพลเทพมอบที่นาตำบลบ้านเหลือมอ้อให้พระสิทธิไชยทำไป
เซ็นท้ายหนังสือเจ้าพระยามหินทร์ ขอจำตรวนเร่งเงินหลวงบาลเบิกบุรีรัตน์ ด้วยเอาเงินไปใช้ในการหวยเข้าชือกับจีนซือนั้น ทรงเซ็นว่าหลวงบาลป็นคนรับสัญญาบัตร ถ้าเจ้าพระยามหินทร์จำตรวนหลวงบาลแล้ว จีนเจ้าษีก็ยังต่างคนก็เป็นหนี้อยู่มาก ถ้าใครจะจับพระยาพิศลสมบัติบริบูรณ์ พระยาภักดีภัทธรากรณ์ไปจำจอง จะเสียพระเกียรติยศหรือไม่ ให้เจ้าพระยามหินทร์เร่งร้องตามกระบิลเมือง และเร่งกับจีนซือ
วัน ๒ ๙ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออก จีนกิมเต้งข้าหลวงเดิม อยู่จันทบุรีเข้ามาเฝ้าถวายของ แล้วพระยามหามนตรีเฝ้าทูลเรื่องเรือพระที่นั่งที่จะทรงขึ้นไปรับช้างสำคัญ ถวายชื่อเรือพระที่นั่งเป็นหนังสือ...ฉะบับ แล้วพระยารัตนโกษาเฝ้าถวายหนังสือ...ฉะบับ แล้วปลัดกรมพระสุภรัตทูลเกล้า ฯ ถวายเทียนพรรษาจะเอาขึ้นไปพระพุทธบาทและเมืองพิษณุโลก และพระปฐมเจดีย์และเมืองอื่นๆ แล้วเสด็จขึ้นทรงเครื่อง
เสด็จออกห้องน้ำเงิน กรมท่าพากงสุลโปรตุเกสคนใหม่ ชื่อปรอดสเตด เฝ้าไปรเวต แล้วเสด็จประทับตรัสอยู่ครู่หนึ่ง เสด็จขึ้น แล้วเสด็จออกพระที่นั่งเขียว กรมพิชิต พระองค์สาย พระยาภาส เฝ้า แล้วรับสั่งนิดหน่อยเสด็จขึ้น
เวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออก กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า รับสั่งอยู่จนเวลา ๔ ทุ่มเสด็จขึ้น
วัน ๓ ๑๐ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จออกทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศ เสด็จไปประทับท่าราชวรดิฐ ข้าราชการแต่งตัวครึ่งยศ และตามธรรมเนียมบ้าง เสด็จลงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกรเสด็จขึ้นไปรับช้างสำคัญที่หน้าวัดละมุด ที่นั้นมี ละคร เพลง แคน มอญรำ ฉลองช้างสำคัญ ครั้นเสด็จถึงแพประทับเรือพระที่นั่งกับแพช้าง ผู้ที่มาในแพนั้นคือ กรมพระราชวัง สมเด็จกรมพระ สมเด็จกรมหลวงพระองค์น้อย สมเด็จเจ้าพระยา เจ้านาย ท่านเสนาบดี ขุนนางเฝ้าพร้อมกันในแพช้าง แล้วเอาเรืออาเล็กซันดราลากแพช้างสำคัญล่องลงมา เรือดั้งเรือกระบวนล่องเป็นกระบวนลงมากรุงเทพฯ เวลาบ่ายโมงเศษถึงท่าพระ แพช้างเข้าทอดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงเรือพระที่นั่งลอยลำทอดพระเนตรแพช้างเข้าจอดที่ แล้วเสด็จกลับประทับท่าราชวรดิฐ กลับเข้าพระบรมมหาราชวัง
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกประตูพรหมทรงพระราชยานลงยาราชาวดีทรงฉลองพระองค์เยียรบับทรงเครื่องพระราชอิสสริยยศช้างเผือก ข้าราชการแต่งตัวเต็มยศ เสด็จทางประตูวิเศษไชยศรี เสด็จลงไปท่าพระประทับบนพลับพลายกทอดพระเนตรช้างสำคัญขึ้นจากแพ มิสเตอร์ปัลเครฟเฝ้าอยู่ที่นั้นด้วย ครั้นช้างขึ้นจากแพแล้ว เสด็จจากท่าพระไปประทับพลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ทอดพระเนตรแห่ช้างสำคัญ เดินกระบวนแห่ช้าง แห่แต่ท่าพระ มีพระวิมลรัตนกิริณี พระเศวตวรลักษณ์ พระศรีสวัสดิ์เศวตวรรณ ๓ ช้างไปรับ ครั้นแห่มาถึงโรงช้างสำคัญ เข้าโรงแล้ว เสด็จเข้าโรงช้างสำคัญ ทรงประเคนไตรแพรย่ามแก่พระสงฆ์ ๓๖ รูป มีสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นอธิบดีสงฆ์ ครั้นพระสงฆ์ครองไตรแล้ว เสด็จไปทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระพิมลธรรมถวายศีล ทรงศีลแล้ว พระสงฆ์สวดมนต์ แล้วพระราชทานเสื้อเยียรบับเจ้ายุติธรรมธร เจ้านครจำปาศักดิ์ แล้วสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์นำพระแก้วขาวของพระเจ้าพรหมาพิพงศธาดาทูลเกล้า ฯ ถวาย ครั้นพระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว เสด็จประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการครู่หนึ่ง แล้วเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง ไม่ได้เสด็จออกพลับพลา วันนี้มีรำโคม สิงห์ โต มังกร หนัง ๒ โรง
วันนี้สวดสัตตปริตร
วัน ๔ ๑๑ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกทางอนันตสมาคม ทรงฉลองพระองค์เยียรบับทรงเครื่องราชอิสสริยยศตราอิตาลี ทรงพระราชยานลงยา ข้าราชการแต่งตัวเต็มยศ เสด็จประทับโรงช้างทรงจุดเทียนนมัสการ สมเด็จพระพุฒาจารย์ถวายศีล ครั้นทรงศีลแล้วพระสงฆ์ถวายพรพระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบาตร แล้วรับสั่งให้แห่สลากภัตต์กระบวนผู้หญิงทั้งนั้น ครั้นแห่อ้อมถึงประตูหลังโรงช้าง แล้วรับกระจาดสลากภัตต์เข้าไปถวายพระสงฆ์ ครั้นพระสงฆ์สวดจบ แล้วเสด็จไปทรงประเคน พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วทรงประเคนบริกขาร พระสงฆ์ถวายยะถาสัพพีอติเรกสัพพพุทธา ภวตุสัพพ ถวายพระพรลากลับ และพระยาศรีนำพระยาวิเศษฤาไชย เข้าไปถวายพลอยหินที่เกิดที่บ่อแขวงเมืองกระบิล ครั้นแล้วเสด็จประทับตรัสกับเจ้านายแล้วเสด็จขึ้นทางอนันตสมาคม
เวลาบ่าย ๑ โมง เสด็จออกพระที่นั่งเขียว กรมหมื่นพิชิต กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า ทรงเรื่องจะเสด็จประพาสทะเลและเรื่องงะบันดอ แล้วพระนายไวยมาเฝ้ารับสั่งเรื่องทหาร เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จขึ้นเสวย
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ประทับโรงช้างทรงประเคนไตรแพร พระสงฆ์ครองแล้ว ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระธรรมวโรดมถวายศีล ครั้นทรงศีลแล้วพระสงฆ์สวดมนต์ทวาทสปริตร ครั้นพระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว พราหมณ์อ่านกล่อม ๔ ลา แล้วรับสั่งให้หาเจ้าพระยาสุรวงศ์เข้าไปเฝ้ารับสั่งเรื่องที่จะเสด็จทะเลแล้ว เสด็จมาประทับตรัสกับเจ้านาย แล้วเสด็จขึ้นทางอนันตสมาคม ไม่ได้ประทับพลับพลาด้วยฝนตก
วัน ๕ ๑๒ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จออกทางอนันตสมาคมออกประตูเทวาพิทักษ์ ประทับโรงช้างทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระธรรมวโรดมถวายศีลแล้วทรงบาตร พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉัน พระสงฆ์สวดถวายพรพระเดินกระบวนแห่สลากภัตต์ แล้วพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน แล้วถวายบริกขารตามสมควร แล้วพระสงฆ์ถวายยะถาสัพพีแลสัพพพุทธาอติเรกภวตุสัพพพระพรลากลับ เสด็จขึ้นทางประตูเทวาพิทักษ์
เวลาบ่าย ๓ โมงเศษเสด็จออกตามเคย กรมหมื่นพิชิตเฝ้าแล้ว พระศรีสุนทรถวายดิโปลมา ๑ สัญญาบัตร ๓ ใบอนุญาตบวช ๗ แล้วกรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้าแล้วเสด็จขึ้น
เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ ประทับโรงช้าง ทรงประเคนไตรแพรย่ามพระสงฆ์ ๓๖ รูป มีกรมพระปรเรศวริยาลงกรณ์เป็นประธาน แล้วพระสงฆ์ครองไตร ครั้นครองแล้วทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศถวายศีลแล้ว พระสงฆ์สวดมนต์สวดสมัย สวดธรรมจักร ครั้นจบแล้วเสด็จมาประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วเสด็จไปประทับพลับพลา ทอดพระเนตรโขน เล่นเมื่อรณภักตร์ไปรบพระอินทร์ๆ แพ้ แล้วเปลี่ยนชื่ออินทรชิต เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๖ ๑๓ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาย่ำรุ่ง แล้วเสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ เสด็จประทับโรงช้างแล้วทรงจุดเทียนนมัสการ พอได้พระฤกษ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นบนเกย พระราชทานน้ำพระพุทธมนต์รดช้างสำคัญ แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้กรมพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระบำราบปรบปักษ์ กรมหลวงวรศักดา สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ กรมขุนภูวนัย กรมขุนบดินทร์ กรมขุนเจริญ เจ้าพระยาภาณุวงศ์ เจ้าพระยามหินทร์ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ รดน้ำมนต์ช้างสำคัญ ขณะนั้นพระสงฆ์สวดไชยมงคลประโคมพิณพาทย์แตรสังข์พร้อมกัน ครั้นเสร็จแล้วแต่งตัวช้างสำคัญสรวมเครื่องทองประจำยามตามอย่างแต่ก่อน แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับที่หน้าช้างสำคัญ พระสุนทรถวายอ้อยที่จาฤกษ์ชื่อว่า พระเศวตสกนธ์วโรภาส ผิวผ่องผาดเผือกเอก อุดมดิเรกวิสุทธิมงคล สมะโสภณโลมนัขเนตร ศรีสุวรรณเศวตวิเศษสรรพ์ อุโบสถพันธุพรหมตระกูล ปรมินทรนเรนทร์สูรย์สยามาธิราช พาหนนารถมหันตเดช เฉลิมอยุทธเยศดิลกภพ เกียรติขจรจบเจริญศักดิ์ ประจักษ์ผลพรุณวิบุลยสวัสดิ์สุเรนทรกรินทรรัตน ประเสริฐเลิศฟ้า ดังนี้ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงรับอ้อยที่จาฤกษ์มาพระราชทานแก่ช้างสำคัญ ๓ ท่อนทรงเจิมด้วย ขณะนั้นพระสงฆ์สวดไชยมงคลประโคมแตรสังข์พิณพาทย์แตรสังข์ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบาตร พระสงฆ์สวดถวายพรพระ แล้วเดินกระบวนแห่สลากภัตต์เช่นวันก่อน แล้วทรงประเคน พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นฉันแล้วทรงประเคนบริกขาร พระสงฆ์ถวายยะถาสัพพี อติเรกสัพพพุทธา ภวตุสัพพ ถวายพระพรลากลับ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้หาเจ้ายุติธรรมธรเข้าไปหน้าพระที่นั่ง พระราชทานตรามงกุฎสยามชั้นที่ ๒ ชื่อจุลสุราภรณ์และดิโปลมาเป็นรางวัลแก่เจ้ายุติธรรมธร เจ้านครจำปาศักดิ์ แล้วพระราชทานสัญญาบัตรให้นายนูหมอเฒ่าเป็นขุนผดุงดำริเศวต นายสิดาควาญเป็นหมื่นวิเศษประสพ ๒ คนนี้เป็นผู้คล้องได้ช้างสำคัญ แล้วพระราชทานหีบถมคนละใบเงินตราหมอ ๕ ชั่ง ควาน ๓ ชั่ง เสื้อผ้าและเครื่องใช้สรอยต่าง ๆ อย่างแต่ก่อนเป็นอันมาก แล้วพราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระเศวตสกนธ์วโรภาส เวลาเช้า ๒ โมงเศษเสด็จขึ้นทางประตูแถลงราชกิจ
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ทรงฉลองพระองค์เยียรบับทรงเครื่องราชอิสสริยยสออสเตรีย ประทับโรงช้าง พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช แล้วประทับพลับพลาทอดพระเนตรโขน แล้วพระยาเทพเฝ้า รับสั่งเรื่องมองบันดอและอื่น ๆ เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
วัน ๗ ๑๔ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่ายโมงหนึ่ง เสด็จออก พระราชโยธาเทพเฝ้า แล้วเสด็จประทับพระเก้าอี้ กรมหมื่นพิชิตเฝ้า แล้วเสด็จขึ้นทรงเครื่องใหญ่ แล้วเสด็จขึ้น
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ ทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศเยรมันชื่อ อินทรีดำ ประทับโรงช้างสมโภชเหมือนเช่นวันก่อน แล้วประทับพลับพลาทอดพระเนตรโขน แล้วสมเด็จกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์ กรมหมื่นเทวะวงศ์เฝ้า เวลา ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระบำราบปรปักษ์ ถวายหนังสือ...ฉะบับ ว่าด้วยพระองค์เจ้าหม่อมเจ้าที่จะทรงผนวช ทรงเซ็นบาญแผนกภาษี โรงร้านตึกแพที่สมเด็จกรมพระถวาย ทรงเซ็นให้ตั้งไป
ทรงเซ็นบาญแผนกภาษีไม้ดำไม้แดง ที่เจ้าพระยาภาณุวงศ์ถวาย
พระนายไวยถวายขอตั้งโรงเรียนสอนหนังสือทหาร
พระนายไวยถวายบัญชีกะทหารตามเสด็จทะเล
มีพระราชหัตถ์ถึงพระยาเทพให้เอาเงิน ๕๐๐๐ รูเปียไปส่งที่กรมท่า และสั่งเงินพระราชทานรางวัลพระยาเทพ ที่จัดการรับรองเมเยอรสตรีด ๕๐ ชั่ง
พระราชหัตถ์ถึงท่านกรมท่าให้ทำหนังสือนำให้หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ไปเมืองเยอรมัน เมืองออสเตรีย เอาของออกไปพระราชทานเจ้าในเมืองทั้งสอง และทรงเห็นว่าองค์สวัสดิโสภณ เป็นคนเฉลียวฉลาด ทรงเห็นควรจะให้ไปเรียนวิชาที่กรุงลอนดอน ให้ทำหนังสือนำไปถึงพระยาสยามธุรพาห์ ให้ให้เงินเท่ากันกับเมื่อเจ้าปฤษฎางค์ พระเสมอใจ และให้หาครูที่ดีให้
พระราชหัตถ์ไปรเวตถึงสมเด็จเจ้าพระยา ว่าจะให้เจ้าปฤษฎางค์ไปจัดซื้อปืนและตอร์ปิโดที่ท่านกรมท่าได้ตัวอย่างมา มาใส่ที่ป้อมผีเสื้อสมุทรให้รักษาไว้ กับทรงเห็นว่าองค์สวัสดิ์โสภณเป็นคนฉลาดเฉลียวแต่ไม่เรียบร้อย ถ้าจะนิ่งไว้กลัวจะไม่เรียบร้อยด้วยกำลังคะนองนัก จะให้ออกไปเรียนวิชาที่ลอนดอน เผื่อจะใช้ได้บ้าง แต่จะให้ไปภายหลังเสด็จทะเลในเดือน ๘ นี้
พระราชหัตถ์ไปรเวตถึงพระองค์เจ้าสาย ให้คิดกะทางพักตามระยะทางที่จะเสด็จประพาสทะเล
วัน ๑ ๑๕ฯ ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษเสด็จออกทางประตูแถลงราชกิจ ทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงเครื่องราชอิสสริยยศ