เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๔๑

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน

ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๔๑

----------------------------

วันที่ ๓๗๘๕ วัน ๑ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเป็นสัมฤทธิ๑๑ศก ๑๒๔๐

(๒๓ มีนาคม ๒๔๒๑)

เวลาเช้าเลี้ยงพระสดัปกรพระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยตามเคยเป็นงานปี แล้วสดัปกรพระบรมอัฐิในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในการทำบุญวันสวรรคต แลพระราชก๊าดอักษรพระนามแด่พระบรมวงษานุวงษ์ข้าราชการด้วยแลทรงรับก๊าดของผู้ที่ถวายนั้น

หนังสือ

(๑) เจ้าพระยาสุรวงษ์ ถวายร่างตราพระยามนตรีพระราชวังสรร เรื่องจีนฆ่าพระอิศราธิไชยตาย ร.ญ.ที่ ๑

(๒) เจ้าพระยาสุรวงษ ร่างหนังสือไปรเวตของสมุหพระกระลาโหมเอง ร.ญ.ที่ ๒

(๓) กงซุลเยอรมันถวายไชยมงคลในวันปีใหม่ และถามพระอาการที่ทรงพระประชวน ร.ญ.ที่ ๓

(๔) กรมขุนบดินทร์ถวายริโปตศาลเจ้า

(๕) พระราชหัถเลขาตอบกงซุลเยอรมัน ป.๔๑/๑ ต่อร.ญ. ๑/๔๑

(๖) พระราชหัถเลขาถึงสมเดจเจ้าพระยาเรื่องพระยากระสาปน์ มาที่วังสมเดจกรมพระกับเรื่องที่จะเปลี่ยนตัวนั้นจะให้พระรัตนโกษาเป็นผู้ทำต่อไป กับเตือนเรื่องท่านจะไปฟังกงซุลอังกฤษ ป. ที่ ๒/๔๑ ต่อ ร.ญ. ๖๘๘ ต่อไป ร.พ. ๔

(๗) กรมหมื่นนเรศรถวายเรื่องราวจีนเกียฮีนขอประมูลเงินเรื่องหวยอีก ที่ ๒ โปรดให้ว่าใหม่เซนไปใบที่ ๑

(๘) กรมหมื่นนเรศรถวายบานแผนก ที่ ๓

วันที่ ๓๗๘๖ วัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเป็นสัมฤทธิ๑๑ศก ๑๒๔๐

(๒๙ มีนาคม ๒๔๒๑)

เสดจออก กรมหมื่นนเรศรเฝ้ากราบทูลว่า สมเดจกรมพระให้กราบทูลถามว่าการถือน้ำพรุ่งนี้นั้น จะเสดจออกที่ไหน แต่งกันอย่างไร เวลาค่ำกรมหมื่นนเรศรกลับไปทูลสมเดจกรมพระที่วัง

มีการสวดมนต์ถือน้ำที่วัดพระศรีรัตนสาศดาราม เจ้านายมีกรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ พระองค์เจ้ากระเษมสันต์๑๐ พระองค์เจ้ากมลาศน์๑๑ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่๑๒ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงษ๑๓ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ๑๔ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์๑๕ เท่านั้น แต่สมเดจกรมพระท่านประชวนจึงหาได้เสดจไม่

(๑) สมเดจเจ้าพระยาตอบพระยาหัถว่า พระยารัตนโกษาที่จะให้ไปทำทองนั้นดีแล้วกับกงซุลกำหนดจะมาพรุ่งนี้ ท่านจะลงไปเยี่ยมเองกับเรื่องความในคำปฤกษาว่าด้วยเรื่องทำทองท่านได้เติมมาให้ เหนจะใช้ได้ คำนั้นติดมาด้วย ร.พ. ที่ ๔ ต่อ ป. ที่ ๑/๔๑ ต่อไปร ที่ ๓/๔๑

วันที่ ๓๗๘๗ วัน ๓ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒๕ มีนาคม ๒๔๒๑)

เวลาเช้า สมเดจกรมพระบำราบปรปักษเสดจไปเปนอธิบดี พราหมณ์แช่งน้ำแล้วข้าราชการแต่งเตมยศรับพระราชทานน้ำพระพิพัฒน์สัตยาแล้ว มาคอยเฝ้าที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เวลาบ่ายโมงเสศเสดจออกพระบรมวงษานุวงษทรงเครื่องตามธรรมเนียมรับพระราชทานน้ำพระพัฒน์สัตยาแล้วเสดจประทับที่พระที่นั่งสนามจันทรถวายบังคมพระบรมอัฐิแล้วเสดจขึ้น เวลาบ่ายเสดจออกครู่หนึ่ง เวลาค่ำเสดจออกพระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงษ พระยาภาษกรวงษ๑๖เฝ้า ทรงร่างพระราชสาสน์ถึงกวินวิกตอเรีย โปรดให้เอาดาบหัวนาคฝักทองคำไปทำหีบ สำหรับพระราชทานปรินซ์ออฟเวล๑๗กับกาทองพระราชทานปรินอาเทอ๑๘ ค่ำวันนี้สวดมนต์พระราชพิธีคเชนทรัสวสนาน.

หนังสือ

(๑) สมเดจกรมพระ เรื่องจะเอาช้างขึ้นจะสวดมนต์ พรุ่งนี้มรืนนี้จะเอาขึ้น ร.ม.ที่ ๕

(๒) พระองค์เจ้ากาพย์กระนกรัตน์๑๙ ถวายหนังสือว่าจมื่นวิชิตจับหลวงวิทธยากับมรกฎภรรยา ซึ่งเปนชู้กันมาส่งไว้ที่ออฟฟิซว่าจับได้ที่บ้านหม่อมราชวงษร้ายกำลังนอนอยู่ด้วยกัน ได้รับตัวไว้แล้ว แต่จมื่นวิชิตจะแต่งเรื่องราวถวาย

(๓) พระราชหรรถถึงเจ้าพระยาภาณุวงษ์๒๐ เรื่องทูตจะไปกับให้เจ้าปฤษฎางค์๒๑เป็นล่าม. ร. ที่ ๑/๔๑

(๔) พระราชหัถถึง หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ร. ที่ ๒/๔๑

วันที่ ๓๗๘๘ วัน ๔ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒๖ มีนาคม ๒๓๒๑)

เสดจออก พระยาศรีสิงห์เทพ๒๒เฝ้าอ่านบอกพระยาประชุน๒๓มาแต่เมืองเชียงใหม่ ๒ ฉบับ ๆ หนึ่งว่าด้วย เจ้าเมืองมรแมนมีหนังสือมาว่าด้วยออฟฟิศเซออังกฤษจะเข้ามา ได้มีหนังสือถึงเจ้าราชสัมพันธวงษ๒๔ให้จัดทางแลช้างม้ารับรอง ฉบับ ๑ ว่าเจ้าราชสัมพันธวงษขอขึ้นโปลิสไปเปลี่ยนใหม่ว่าสั้น ๆ ยาว ๆ ดูไม่งาม ขอให้เสมอกัน ฉบับ ๑ ว่าด้วยตรวจดูความค้างเก่า ๆ ไม่มี มีเรื่องเดียวแต่ความมองอิดติดอยู่ที่เมืองมรแมนต์ ฉบับ ๑ ว่าด้วยออกไปตั้งเมืองเชียงแสนเมื่อเดือน ๓ ให้เจ้าบุรีรัตน์ไป ฉบับ ๑ ว่าด้วยเงินค่าตอไม้ จะให้หลวงสิงหฬลงมาส่งกับเจ้าราชบุตรก็ติดการออฟฟิศเซอจะมาเสีย ฉบับ ๑ ว่าด้วยมีตราน้อยไปให้ส่งบุตรมองซอยอัดให้มองบันดอนางคำทิพย์ไม่ยอมส่ง เวลาเช้าเลี้ยงพระที่พระที่นั่งสุทธัยสวรรย์แล้วสมเดจพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลากรมพระบำราบปรปักษเสด็จไปให้เจ้านายเจ้าจอมที่ทรงครรภ์เสวยน้ำ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา๒๕ ๑ เจ้าจอมบัว ๑ เวลาเยนแห่คเชนทรัสวสนาน.

หนังสือ (๑) เจ้าพระยาภาณุวงษ เรื่องได้รับบอกเมืองจันทบุรีว่าพระยาจันทบุรีเป็นไข้ตาย แต่วัน ๕ ๔ ค่ำ แล้วท่านมีตราไปให้ปลัดว่าราชการกว่าจะมีเจ้าเมืองใหม่ ร.ม.ที่ ๖

(๒) เจ้าพระยาภาณุวงษถวายสำเนาพระยาสยามบอกข่าวราชการที่ยุโรป ร.ม.ที่ ๗

(๓) ท้าวราชกิจถวายคำแปลหนังสือพิมพ์เมืองพม่า สมเดจเจ้าพระยาส่งมาถวาย ร.ม.ที่ ๘

(๔) จมื่นวิชิตถวายเรื่องราวกล่าวโทษหลวงวิทธยาว่า เปนชู้กับมรกฏภรรยา ทรงเซนพระราชทานให้ พระองค์เจ้ากาพย์ พระยาอนุรักษ์๒๖} ชำระที่โรงทหาร ร.ม.ที่ ๙

วันที่ ๓๗๘๙ วัน ๕ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒๓ มีนาคม ๒๔๒๑)

เวลาเช้า ๓ โมง พระปรีชากลการ๒๗มาถึงกรุงเทพฯ มาตัวเรือซันบีมใหญ่ของเขา

เวลา ๔ โมง สมเดจเจ้าพระยาสั่งให้ท้าวราชกิจมากราบบังคมทูลเตือนว่าควรจะให้หาตัวมาทำเสีย ถ้าช้าไปปัญญาจะออกจะเกินไปเสีย อยากเฝ้ารับสั่งว่ารอก่อนทำเสียก่อนจึงมา รับสั่งให้หาพระพิเรนทร์เทพ๒๘เข้าไปข้างในให้ตำรวจไปหาตัวพระยากระสาปน์พระปรีชาเข้ามาในวัง พระพิเรนทร์ออกไปเวลาบ่าย ๒ โมง แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้ากาพย์กระนกรัตน์นั่งคอยฟังความ ตำรวจไปหาตัวพระยากระสาปน์พระปรีชาเข้ามาเวลาบ่าย ๔ โมง แล้วโปรดให้กรมหมื่นนเรศรเขียนกาดให้พระไกรศรีเชิญเสนาบดีแลเคาน์ซิลออฟสเตต ปิริวิเคานซิลประชุมที่เก๋งวรราชสภาพิรมย์เวลาพรุ่งนี้ ๔ โมงเช้า แล้วร่างคำปฤกษาหาสั่งให้ท้าวราชกิจไปตามสมเดจเจ้าพระยาเข้ามาเฝ้า เวลาบ่าย ๕ โมง สมเดจเจ้าพระยาเฝ้าพระราชทานคำปฤกษาให้ดู แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้ไปเชิญเสดจ สมเดจกรมพระมาปฤกษาราชการ ส่งให้ตำรวจนอนประจำในพระบรมมหาราชวัง การข้างนอกให้พระยามหามนตรี๒๙เตรียมทหาร ข้างในให้พระองค์เจ้ากาพย์กระนกรัตน์เตรียมแต่อย่าให้เป็นการตื่นเต้น.

หนังสือ (๑) มีพระราชหัถถึงพระพิเรนทร์ว่า พระปรีชากลการทำการดูถูกดูหมิ่นอาณาแผ่นดินนักให้พระพิเรนทร์เอาตัวจำเสีย ร. ที่ ๓/๔๒ ต่อ ร.ม.ที่ ๔ ต่อไป ๑๐

(๒) สมเดจเจ้าพระยาให้นายสรรพวิไชยไปรับหนังสือที่วังน่า ด้วยสมเดจเจ้าพระยาให้วังน่าไปชิมมิสนอกซ์ที่ปากน้ำได้หนังสือขึ้นมาถวายว่า มิสนอกซ์๓๐ขอไม่ให้ทำโทษ ว่าทำไมไม่ทำเสียแต่แรก ร.ม.ที่ ๑๐ ต่อ ร.ที่ ๓ ต่อไป ร.ม.ที่ ๑๑

(๓) พระยามหามนตรีถวายหนังสือเรื่องจัดการรักษา. ร.ม.ที่ ๑๑ ต่อ ๑๐

(๔) พระพิเรนทร์เทพ ริโปตพระปรีชาพูดในที่ขัง ร.ม.ที่ ๑๒ ต่อ ๑๑

----------------------------

วันที่ ๓๗๙๐ วัน ๖ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒๘ มีนาคม ๒๔๒๒)

เวลาเช้า ๒ โมงเสศ กรมหมื่นนเรศรเข้ามาในวังเช้า ๓ โมงเสศ เสดจออกทรงกับด้วยการจะปฤกษาทำโทษนายปรีชา.

รับคำโทรเลขเรือมา ๒ ลำ ๆ หนึ่ง อิตเซนนอรเว ๒ เสาครึ่ง ๒๗๔ ยูเลียนสิงคิบลำหนึ่ง แอตวันซ, กรุงเทพฯ สองเสาครึ่ง ๓๓๖ จีน, สิงคโปร์, เรือออกลำหนึ่งชื่อกรมท่า ไฟ, อังกฤษ, ๒๙๔, วินเซอเรกลิก, สิงคโปร์.

พระพิเรนทรถวายริโปตพระปรีชา มีหนังสือไปบ้านว่าการครั้งนี้แขงแรงนักเหนจะไม่พ้นถูกเฆี่ยน เหนอยู่แต่สมเดจเจ้าพระยาคนเดียวให้เร่งคิดเสีย (ร.ม.ที่ ๑๓ ต่อที่ ๑๒ ต่อไปที่ ๑๔)

เวลา ๔ โมงเคาน์ซิลมาพร้อมกัน สมเดจเจ้าพระยาก็มาคอยอยู่ที่ประตูพรหม รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศเอาคำปฤกษาไปส่งให้ขุนหลวงพระไกรศรีอ่านให้เคาน์ซิลฟัง กรมหมื่นนเรศออกไปถึงประตูพรหม พบสมเดจเจ้าพระยาท่านขออ่านคำปฤกษา แล้วท่านให้กรมหมื่นนเรศออกไปก่อน ท่านตามไปภายหลัง ท่านไปนั่งอยู่หลังวังน่า นั่งที่เก๋งกรสภาพิรมย์ เราเอาคำปฤกษาให้พระไกรศรี (ร.ม.ที่ ๑๔ ต่อที่ ๑๓ ต่อไปที่ ๑๕)

สมเดจกรมพระเจ้ามาจึงได้ปฤกษาพร้อมกันรวมเคาน์ซิล ๓๐ กรม หลวงวรศัก๓๑ สมเดจกรมพระ กรมขุนบดิน กรมขุนเจริญ สมเดจกรมหลวงจักร กรมหมื่นนเรศ กรมหมื่นพิชิต๓๒ กรมหมื่นอดิศร๓๓ กรมหมื่นภูธเรศ๓๔ พระองค์เจ้าสาย๓๕ เจ้าพระยาภาณุวงษ เจ้าพระยามหินธร พระยากระสาปน์ พระยาภาษกรวงษ พระยาอภัยรณฤทธิ์๓๖ พระยาราชภักดี๓๗ พระยากระลาโหมราชเสนา พระยามหามนตรี พระยารองเมือง พระยานรนารถ เจ้าหมื่นสรรพเพธ เจ้าหมื่นศรี พระพิเรนทร พระสุนทรา พระไพรัช รวม ๓๐ คน เสนาบดีคือเจ้าพระยาสุรวงษ เจ้าคือ สมเดจเจ้าฟ้าภาณุรังษี๓๘ เสนาบดี ๑ เจ้า ๑ เวลานั้นมิศเตอกลูค์มาก็ไม่มีใครห้าม สมเดจเจ้าพระยาทูลลาหนีกลับไปก่อน เจ้าพระยาสุรวงษก็ไป เจ้าพระยาภาณุวงษเรียงคำแล้วกลับไปไม่เซนชื่อว่าขออยู่ในเสนาบดีเซนชื่อกันแล้วเรากลับไปข้างใน ท้าวแพทูลเรื่องมิศเตอนอกซ มิศเตอกลูค์ เจ้าพระยาภาณุวงษโปรดให้ไป ปฤกษาสมเดจเจ้าพระยาเรื่องร่างคำสั่งทำโทษแล้วเราเฝ้า

หน้าต้นสมุดจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน

ลายพระหัถสมเด็จ ฯ กรมพระยาเทววงศ์วโรประการ

ทรงเทียบปฏิทินสุริยคติกับจันทรคติถวาย

รับคำปฤกษาเคาน์ซิลเหนพร้อมกัน ขุนหลวงพระไกรศรีถวาย (ร.ม.ที่ ๑๕ ต่อที่ ๑๔ ต่อไปที่ ๑๖)

กรมพิชิตเอาคำเคาน์ซิลปฤกษาพร้อมกัน รังเกียจพระยากระสาปน์ พระนายศรีเรื่องทำอุบายอ่านคำปฤกษา ขอให้ออกจากเคาน์ซิล ลงชื่อ ๑๘ คน (ร.ม.ที่ ๑๖ ต่อที่ ๑๕ ต่อไป ป. ๓/๔๑ แล้วท้าวแพเอาร่างเข้ามาถวาย

ป. ๓/๔๑ มีพระราชหัถถึงสมเดจเจ้าพระยาให้ท่านเข้ามาเฝ้าจะได้ทำโทษต่อ (ร.ม. ที่ ๑๖ ป.ร. ๔/๔๑)

สมเดจเจ้าพระยาเข้ามาทรงปฤกษาที่ตั้งตระลาการรับบาญชี ท่านทูลสมเดจกรมหลวง๓๙ กรมหมื่นนเรศ พระยาราชภักดี เจ้าพระยามหินทร แต่การที่เคาน์ซิลร้องพระยากระสาปน์ พระนายศรีนั้นขอยกไว้ก่อนจะทำโทษ เพราะเรื่องนี้ใหญ่โตไปแล้วให้พระพิเรนทรเข้ามาส่งให้ลงพระราชอาญา แต่ให้ปิดประตูเสียก่อน

ร.ที่ ๔/๔๑ มีพระราชหัถส่งให้ลงพระราชอาญาว่า พระปรีชากลการประพฤติการกำเริบหมิ่นประมาทหนักไม่มีความยำเกรงต่อผู้ใหญ่ ให้พระพิเรนทรเทพย์เอาตัวออกมาเฆี่ยนเสียยกหนึ่ง ๓๐ ที อย่าให้ข้าราชการประพฤิตามสืบไป (ต่อ ป.ที่ ๓/๔๑) ต่อไปที่ ๕/๔๑ ได้เอาตัวลงพระราชอาญาที่น่าโรงทอง

รับหนังสือกงซุลเยอรมันว่าด้วยวันประสูตรเอมเปรอเยอรมัน เคยโปรดให้ท่านกาพย์ไปพระราชท่านพร ครังนี้เห็นหายไปแล้วเชิญท่านกาพย์ไปดินเนอในวันนั้น ก็ตอบโดยแรงไม่ลงไปด้วย (ร.ม.ที่ ๑๖ ต่อไป ป.ที่ ๕/๔๑)

/*๑๐วันที่ ๓๗๙๑ วัน ๗ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒๙ มีนาคม ๒๔๒๑)

ท้าวแพ๔๐ว่ามิศนอกซ์โกรธ

กรมหมื่นนเรศราชวรฤทธิ์ เข้าไปเฝ้ารับสั่งให้ไปหาสมเดจเจ้าพระยาว่าด้วยการจะตั้งผู้รับบาญชี ถ้าจะเอาเจ้าพระยามหินธร๔๑เข้าไปกลัวจะเปนแส่หาทางด้วยไม่ใช่พนักงาน ประการหนึ่งบาญชีจะชำระครั้งนี้ ที่จะจับเหตุจับผลเหนจะยังไม่ได้ หยากจะให้เปนแต่เพียงเจ้าพนักงานรับบาญชีตรวจไปพอเปนแต้ม ขัดอยู่ในหนักงานคลังเอง ท่านก็เหนด้วยตามพระกระแส

ร. ที่ ๕/๔๑ จึงมีพระราชหัถเลขาสมเดจ ให้เจ้าพนักงานตรวจบาญชี (ต่อร.ที่ ๔/๔๑ ต่อไป ร.ม.ที่ ๑๘)

รับหนังสือสมเดจเจ้าพระยาให้นายสรรพวิไชย ถือว่าท่านได้รับหนังสือกงซุลฝรั่งเศสมีขึ้นเปนไปรเวต เวลาบ่ายโมงท่านได้ร่างตอบ ส่งเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวายจะตอบพรุ่งนี้เช้า (ร.ม. ที่ ๑๘ ต่อ ร. ที่ ๕/๔๑ ต่อไป ป. ที่ ๔/๔๑)

หนังสือกงซุลฝรั่งเศสเตือนสติสมเดจเจ้าพระยาฉบับ ๑ (ร.ม. ที่ ๑๙)

สมเดจเจ้าพระยาร่างตอบชี้แจงการฉบับที่ ๑ (ร.ม. ที่ ๒๐)

ป. ที่ ๔/๔๑ มีพระราชหัถตอบสมเดจเจ้าพระยาฉบับที่ ๑ ให้ขยายความ (ต่อ ร.ม. ที่ ๒๐ ต่อไป ร.ม. ที่ ๒๑)

ป. ที่ ๕/๔๑ มีพระราชหัถตอบหนังสือกงซุลเยอรมันเมื่อวานนี้ จะให้ท่านกาพย์ไปให้พรวันจันทร (ต่อ ร.ม. ที่ ๑๗/๔๑)

รับหนังสือมิศเตออาลบาสเตอ๔๒ถวายเตือนในการเรื่องนี้ ขอให้ทำการช้าๆ (ร.ม. ที่ ๒๑ ต่อ ป. ที่ ๔/๔๑ ต่อไป ร. ที่ ๖/๔๑)

พระยาภาษเฝ้าถวายคำแปลหนังสือแกรฮาน พระยาสยามธุรานุรักษ ๓ ฉบับๆหนึ่งว่าด้วยตราไทย ที่จะพระราชทานคนฝรั่งเศสในการเอกษหิบิเชน จดบาญชีคนที่กองได้เขามา (ร.ม. ที่ ๒๒) ฉบับ ๑ ขอให้พระราชทานให้แมกมาฮ่อนเปรซิเดนเก่า (ร.ม. ที่ ๒๓) ฉบับ ๑ ถวายไชยมงคลปีใหม่ ๑๘๙๗ (ร.ม. ที่ ๒๔)

พระยาภาษทูลว่าคำปฤกษาเคาน์ซิลที่กรมท่าไปแปลนั้นดูเหมือนไม่ว่าทรงพระราชดำริพร้อมด้วยท่านเสนาบดี จึงมีพระราชหัถให้จ่ายวดไปขอคำปฤกษาที่แปล เปนคำปฤกษาที่แปลเปนอังกฤษเข้ามา

จ่ายวดกลับมาถวายคำแปลเปนอังกฤษทรงตรวจดูความนั้นมีแล้ว แต่ความข้างท้ายที่ว่าพระราชอาญาเปนล้นเกล้า ฯ โทษนั้นจะควรประการใดแล้วแต่จะโปรดเกล้า ฯ นี้ยังไม่มี กับที่สั่งลงพระราชอาญานั้นยังไม่ถูกต้อง

ร. ที่ ๖/๕๑ จึงมีพระราชหัถถึงเจ้าพระยาภาณุวงษว่า อาลบาสเตอยังแปลความขาดอยู่ ได้โปรดเกล้าให้ท่านเทวัญ๔๓ไปหามิศเตออาลบาสเตอให้แก้ความหนังสือสมเดจเจ้าพระยาจะถึงกงซุลฝรั่งเศสส่งคำปฤกษานั้น ขอให้ส่งให้ถูกต้องด้วย (ต่อ ร.ม. ที่ ๒๑ ต่อไป)

รับหนังสือริโปรดพระพิเรนทรว่าพระปรีชามีหนังสือแฟนีอย่าให้เปนทุกขด้วยลงพระราชอาญาแล้วก็หาย ว่าวุ่นวายไปตัวจะผิด ถ้ารักษแล้วให้อ้อนวอนในหลวง ฤๅสมเดจเจ้าพระยา (ร.ม. ที่ ๑๕ ต่อ ร. ที่ ๖/๔๑ ต่อไป ร.ม. ๒๖)

/*วันที่ ๓๗๙๒ วัน ๑ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๓๐ มีนาคม ๒๔๒๑)

ท้าวราชกิจเอาหนังสือถ้อยคำมิสเตออาลอฟแจ้งความกับเจ้าพระยาภาณุวงษมาทูลเกล้า ฯ ถวาย ว่ามิสเตอนอกซ์ไปพูดการเรื่องนี้กับกงซุลฝรั่งเศสๆ บอกกับเขา ๆ จึงมาเล่าให้ฟัง (ร.ม. ที่ ๒๖ ต่อที่ ๒๕ ต่อไปที่ ๓๓)

รับหนังสือเจ้าพระยาสุรวงษฉบับ ๑ ส่งร่างท้องตราถึงเมืองสงขลา ว่าด้วยราชการเมืองกลันตัน เมืองระแงะ} เมืองตานี เมืองยะหริ่ง} ๔ ฉบับ เข้ามาขอเรือหารหักสตรูให้พระยาสมบัติพิรมย์๔๔เชิญตราไป (ร.ม.ที่ ๒๘) ตราถึงเมืองสงขลาว่าด้วยเขตรแดนเมืองกลันตันเมืองระแงะ ฉบับ ๑ (ร.ม. ที่ ๒๘) ตราน้อยถึงเมืองกลันตันเรื่องเขตรแดน (ร.ม. ที่ ๒๙) ตราถึงสงขลาเรื่องเมืองตานี (ร.ม. ที่ ๓๐) เมืองยะหริ่ง (ร.ม. ที่ ๓๑)

รับหนังสือหมอแมกฟาแลนด์ ว่าด้วยสกูลหลวงที่วังนันท์ (ร.ม. ที่ ๓๒)

พระพิเรนทรริโปดที่จำพระปรีชาว่าด้วยแขกเอากับเข้ามาส่งพูดอังกฤษกับพระปรีชาว่าลงพระราชอาญาเฆี่ยนจำ} ก็แล้วขอให้ได้ออกเรวๆเถิด (ร.ม. ที่ ๓๓ ต่อที่ ๒๖ ต่อไป ร.ม. ที่ ๓๔)

วันที่ ๓๗๙๓ วัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๓๑ มีนาคม ๒๔๒๑)

เวลาเช้า ๓ โมง ๓๘ นาที เจ้าจอมมารดาแสงประสูตรพระราชบุตรี๔๕

มีพระราชหัถถึงเสดจที่วัด๔๖ ขอดวงพระชันษา (ป.ที่ ๖/๔๑)

ท่านถวายมาลงเวลาผิดลงเปน ๓๖ นาที ทรงสอบดู นวางค์ตรียางค์ไม่เคลื่อนจึงพูดเลขแก้

ป. ที่ ๗/๔๑ จึงมีพระราชหัถทูลไปที่ท่าน ไปให้ท่านทราบ

ท้าวแพถวายคำพระยาจำนงษรไตรย มาแจ้งกับสมเดจเจ้าพระยา เรื่องมิศนอกซ์ไปวังน่า ว่าด้วยเรื่องพระปรีชา (ร.ม. ที่ ๓๔ ต่อที่ ๓๓ ต่อไป ร. ๗/๔๑)

แล้วแกทูลเรื่องได้ทราบว่ามิศนอกซ์จะคิดแก้การเรื่องนี้ ด้วยจะให้พระองค์กมลาศแต่งงานกับลูกสาวคนเลก จะให้ขออนุญาตก่อน สมเดจเจ้าพระยาท่านให้ทูลว่าควรจะยอมให้แต่งด้วยความเรื่องเราทำนี้จะได้สูงขึ้นเพราะไม่ขออนุญาต ทรงพระราชดำหริว่าควรจะยอมจริง แต่เหนเสียอยู่สองอย่าง จะล้วงใส้ในวังอย่างหนึ่ง พวกฝากขะโน้นขอแต่งจะลำบาก จึงทรงจะให้มีข้อบังคับ ๓ ข้อ

ร. ที่ ๗/๔๑ มีพระราชหัถถึงสมเดจเจ้าพระยาถึงเรื่องที่จะยอมให้พระองค์กมลาศแต่งงาน จะต้องออกประกาศความ ๓ ข้อ (ต่ย ร.ม. ที่ ๓๔ ต่อ ร.ม. ๓๕/๓๖)

เซนบาญแผนกภาษีเยื่อเคย ภาษีพริกไทย ฉบับ (ที่ ๔)

รับสั่งกับท้าวราชกิจให้ไปบอกสมเดจเจ้าพระยาให้คิดจัดเรือไฟให้ใครไปรับหนังสือที่พระยาจ่าแสน๔๗ สมเดจท่านมีหนังสือมาขอหลวงๆที่สมเดจ

วันที่ ๓๗๙๔ วัน ๓ ๑๐ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๑ เมษายน ๒๔๒๒)

เวลาเช้าก่อนโมงสมเดจกรมพระท่านรับสั่งให้หลวงสิริยามาตย์ ไปหาสมเดจเจ้าพระยา ๆ สั่งให้พระยาศรีมีหนังสือไปถึงพระยาจ่าแสนเปนหนังสือรับสั่งสมเดจกรมให้รีบส่งความเข้ามาฉบับ ๑ มีถึงพระปราจิณ ปลัดให้หาความฉบับ ๑ กับหนังสือพระยาศรีถึงจ่าแสนฉบับ ๑ หลวงสุริยามาตย์ได้ลงเรือไปทวนนิครอบเจ้าพระยาภาณุวงษลงไปปากน้ำ ไปลงเรือบุศลาเวลา ๓ โมงเช้า

ท้าวราชกิจนำหนังสือสมเดจเจ้าพระยา ว่าด้วยวังน่าให้พระยาจำนงมาบอกความขึ้นถวายว่า พระยากระสาปน์ขอแฟนีไว้ในบ้าน ไม่ให้ไป (ร.ม. ที่ ๓๖ ต่อที่ ๓๔ ต่อไปที่ ๔๒)

เจ้าพระยาภาณุวงษเฝ้าถวายหนังสือพระยาอัศฎงค์ว่า ได้รับเตลิคราฟเมซั่นมีมาว่าฟอเรนออฟฟิซลอนดอนว่าการที่จะจัดทูตเชิญตราไปนั้น เดิมได้ทราบว่ามิสเตอนอกซ์จะเอาไปเหนว่าไม่ต้องจัดการเปลี่ยนใหม่ ส่งสำเนาเตลิคราฟมา (ร.ม. ที่ ๓๗) เตลิคราฟ (ร.ม. ที่ ๓๘ มากับ ๓๗) แล้วทูลว่าสมเดจเจ้าพระยาไม่สู้สบาย ได้ยินว่านอกซ์จะมีหนังสือมา บ่นว่าสมเดจกรมพระไม่ช่วยหาความมาให้ บาญชีชำระก็ช้า ได้ยินพระยารองเมืองว่าอินชเนียนอกว่าทำทองพระปรีชาเอาเข้ามาแต่ก่อนมาได้ทองวันละเท่านั้นเท่านี้ ขอให้ทรงสั่งทูลกระหม่อมพระองค์ใหญ่ เอามาไล่เลียงดูควรจะจับได้จะได้จับเอา แล้วว่าได้ยินว่า เรื่องความอ้ายเกิดนั้นเปนพี่น้องพระโทรเลขได้หาตัวไปว่าให้ร้องก็ว่ากลัวเจ้าคุณทหาร๔๘สมเดจเจ้าพระยาได้สั่งให้ไปหาพระยามหามนตรี ให้ทำเรื่องราวยื่น

ได้รับสั่งให้หาทูลกระหม่อมพระองค์ใหญ่เข้ามาสั่งให้เอาพระยารองเมืองมาไล่เลียงดูเหนมั่นคงควรถามอินชเนียได้จึงให้ถาม

รับสั่งให้กรมหมื่นนเรศไปทูลสมเดจตามความที่ว่า แล้วให้ท่านหาพระยามหามนตรีมาถามเรื่องความอ้ายเกิดด้วย

พระยาภาษถวายหนังสือพระยาอัศฎงค์บอกมาเรื่องรับเตลิคราฟเรื่องทูตด้วย (ร.ม. ที่ ๓๙)

รับหนังสือพระยาธุรพาหถวายพระยาภาษส่งเข้ามาว่า

รับหนังสือกงซุลเยอรมันตอบพระราชหัถเลขาขอบพระเดชพระคุณ} ที่ให้ท่านกาพย์ไปถวายพรเอมเปรอเยอรมัน (ร.ม.ที่ ๔๑)

รับหนังสือพระยามหามนตรีไปรเวต ว่าสมเดจเจ้าพระยา เจ้าพระยาภานุวงษให้พระโทรเลขภานายรักษน้องอ้ายเกิด ที่พระปรีชาเฆี่ยนตาย ให้มาทำเรื่องราวฟ้องพระปรีชา ได้ส่งเรื่องราวเข้ามาถวาย (ร.ม. ที่ ๔๒ ต่อที่ ๓๖ ต่อไป ร.ม. ที่ ๔๔) เรื่องราวนายรัก (ร.ม. ที่ ๔๓ มากับที่ ๔๒)

มีพระราชหัถปลอกโนต ถึงพระยามหามนตรี สั่งให้คัดเรื่องราวใหม่ให้ยื่นพระพิเรนทรเยนวันนี้ แล้วให้ท้าวแพนำเรื่องราวไปให้สมเดจเจ้าพระยาดู

ท้าวแพกลับมาว่า สมเดจเจ้าพระยาสั่งเข้ามาว่าให้ตั้งตระลาการเสีย ตามตัวที่เจ้าพระยาภาณุวงษกราบบังคมทูลพระกรุณา แล้วถวายต้นหนังสือมิสเตอนอกซ์มีมาเมื่อบ่าย ๕ โมงนี้ ต้นหนังสือมิศเตอนอกซ์คัดไว้ (ร.ม. ที่ ๔๔ ต่อที่ ๔๓)

รับหนังสือเจ้าพระยาสุรวงษฉบับ ๑ ส่งบอกพระยามนตรีว่าด้วยจีนเจียจองจิ๋วบุตรจีนเจียเปกอี้ ไปพูดกับจีนเจียเปกอี้ฉบับ ๑ กับสำเนา ๗ ฉบับ บอกเรื่องไปเยี่ยมเจ้าพระยาไทรฉบับ ๑ ถวายหนังสือมิศเตอนอกซ์ขอคำหาคำพญาน} ฉบับ ๑ (รวม ๑๐ ฉบับ ร.ม. ที่ ๔๕) บอกพระยามนตรีเรื่องจีนเจียจองจิ๋วพูดกับจีนเจียเปกอี้ (ร.ม. ที่ ๔๖) หนังสือมิศเตอเออรวิงถึงพระยามนตรี (ร.ม. ที่ ๔๗) กงซุลเกาะหมากถึงพระยามนตรีที่ ๑ (ร.ม. ที่ ๔๘) พระยามนตรีตอบกงซุลเกาะหมากฉบับที่ ๑ (ร.ม. ที่ ๔๙) คำจีนเจียจองจิ๋วพูดกับบิดา (ร.ม. ที่ ๕๐) หนังสือพระยามนตรีถึงกงซุลเกาะหมากฉบับ ๒ (ร.ม. ที่ ๕๑)

สำเนากงซุลเกาะหมากมีมาฉบับ ๒ (ร.ม. ที่ ๕๒) สำเนากงซุลเกาะกับเลบเตอแนนคอเวอเนอเกาะหมาก (ร.ม. ที่ ๕๓) บอกพระยามนตรีเรื่องไปเยี่ยมเจ้าพระยาไทร (ร.ม. ที่ ๕๔) หนังสือกงซุลอังกฤษขอคำหาคำพญาณ}ความเรื่องฆ่าพระอิศรา (ร.ม. ที่ ๕๕) (ตั้งแต่ ๔๖ ถึง ๕๕ มากับ ร.ม. ที่ ๔๕ ทั้งนั้น)

พระพิเรนทรรับเรื่องราวอ้ายเกิดแล้วส่งเข้ามาถวาย แล้วพระอมรเอาหนังสือเจ้าพระยาภานุวงษมาถึงท้าวราชกิจให้ทูลให้กำชับพระพิเรนทร กลัวพระปรีชาจะกินยาตาย (ร.ม. ที่ ๕๖ ตอนที่ ๔๔ ต่อไป ป. ที่ ๘/๔๑)

ป. ที่ ๘/๔๑ มีพระราชหัถถึงสมเดจเจ้าพระยาเรื่องจะตั้งตระลาการให้ท่านเลือกร่างคำสั่งไปด้วย (ต่อ ร.ม. ที่ ๕๖ ต่อไป ร.ม. ที่ ๕๗)

เวลา ๔ ทุ่ม รับหนังสือทูลกระหม่อมพระองค์ใหญ่ ว่าด้วยเอาพระยารองเมืองมาไล่เลียงได้ความก็เหลวไหล (ร.ม. ที่ ๕๗ ต่อ ป. ที่ ๘/๔๑ ต่อไป ป. ที่ ๙/๔๑)

ป. ที่ ๙/๔๑ มีพระราชหัถตอบสมเดจกรมหลวงฉบับ ๑ ให้ระวังให้ดี อย่าให้พูดถลำตัวให้ได้สำคัญจึงพูด (ร.ม. ที่ ๕๗ ต่อไป ร.ม. ที่ ๕๘)

พระอมรนำหนังสือสมเดจเจ้าพระยาส่งมาถวายว่าให้ตั้งตระลาการ ๒ คราวครั้งนี้ชำระแต่ความราษฎรก่อน (ร.ม. ที่ ๕๘) ต่อ ป. ที่ ๙/๔๑ ต่อไป ป. ที่ ๑๐/๔๑ ให้กรมหมื่นนเรศไปปฤกษาสมเดจกรมพระ ยังไม่ยอมให้ชำระ

ป. มีที่ ๑๐/๔๑ มีพระราชหัถถึงพระยามหามนตรี เรื่องจะงดความยังไม่ให้ชำระถ้าสมเดจเจ้าพระยาถาม ให้ตอบความว่าโจทก์ยังไม่มั่นคง (ต่อ ร.ม. ที่ ๕๘ ต่อไป ป. ที่ ๑๑/๔๑)

ป. ที่ ๑๑/๔๑ มีถึงสมเดจเจ้าพระยาด้วยเรื่องความยังไม่มั่นคงจะงดไม่ตั้งตระลาการก่อน (ต่อ ป. ที่ ๑๑/๔๑ ต่อไป ๕๙)

รับริโปดพระพิเรนทรที่จะจำพระปรีชา (ร.ม. ที่ ๕๙ ป. ที่ ๑๑/๔๑ ต่อไป ร.ม. ที่ ๖๐)

วันที่ ๓๗๙๕ วัน ๔ ๑๑ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๒ เมษายน ๒๔๒๑)

รับหนังสือสมเดจเจ้าพระยาตอบพระราชหัถเลขา ว่าความที่จะชำระนั้นงดไว้ก่อนเหนจะชอบตามพระกระแส (ร.ม. ที่ ๖๐ ต่อที่ ๕๙ ต่อไป ป. ที่ ๑๒/๔๑)

พระองค์เทวัญเข้ามาได้แวะเฝ้าสมเดจกรมหลวงที่หอรัษฎาท่านถวายสมุดความเหนของท่านที่คิดจะจักชำระเข้ามาถวาย

ป. ที่ ๑๒/๔๑ มีพระราชหัถถึงท่านฉบับ ๑ ว่าการที่จะจับนี้ต้องจับให้มั่นจึ่งจะดีอย่าให้ลื่นไปได้ ถ้าหลุดไปได้เหมือนบอกบริสุทธิให้เขา เราจะทำดีอีกก็ยาก เปนการพาโลใส่ความไป ให้ท่านกับพระยาราชภักดีไปหาสมเดจเจ้าพระยาให้ท่านชี้แจงลู้ทางให้ (ต่อ ร.ม. ที่ ๖๐ ต่อไป ๖๑)

กรมท่าส่งร่างตอบมิสเตอนอกซ์ทอดพระเนตรแล้วยังไม่โปรดความคลาดข้อไป (ร.ม. ที่ ๖๑ ต่อไป ๑๒/๔๑ ต่อไป ร. ที่ ๘๔๑)

แล้วรับสั่งให้กรมหมื่นนเรศไปเฝ้าสมเดจกรมพระ ทูลความเรื่องที่ชำระกับท่านเหนทางหนึ่งจึงจะไม่เปนการพาโลโสคลุมให้รับกวยโรงคงจะจับบาญชีได้เมืองส่งของตรวจบาญชี กรมหมื่นนเรศกลับมาทูล ทรงพระราชดำริห์เหนด้วย

ร. ที่ ๘/๔๑ มีพระราชหัถถึงเจ้าพระยาภานุวงษให้แก้ร่างตอบมิสเตอนอกซ์ (ต่อ ร.ม. ที่ ๖๑ ต่อไป ป. ที่ ๑๓/๔๑)

ป. ที่ ๑๓/๔๑ มีพระราชหัถถึงสมเดจเจ้าพระยาตามความคิดสมเดจกรมพระที่กรมหมื่นนเรศทูลให้กรมหมื่นนเรศนำความไปหาฤๅท่าน (ร.ม. ที่ ๘/๔๑ ต่อไป ร.ม. ที่ ๖๒)

เจ้าพระยาสุรวงษจดหมายถึงเจ้าเข่ง๔๙เตือนบอกพระยามนตรีกับสำเนาหนังสือต่าง ๆ ที่ถวายวานนี้ คืนโดยเรวว่าจะตอบไปให้กงซุลแล้วจะต้องแปลเปนอังกฤษการจะช้าอยู่ เรือเมล์จะออกขอให้กราบทูลขอพระราชทานคืนไปโดยเรว

เจ้าหมื่นสรรพเพธถวายบาญชีเพชรจัดใหม่ขึ้นคลังเพชร ๖๖๕๒ ซีกกรัตละ ๓๕ บาท รายหนึ่งหนัก ๗๑, ๔/๑ กรัตละ ๓๓ บาท ๒ รายหนัก ๓๗๒ ๑/๒ รวมหนัก ๔๔๓ ๓/๔ เงิน ๑๘๔ ชั่ง ๖๖ บาท ๑๖ สลึง จะเบิกเงินคลัง

กับถวายบาญชีซ่อมตำหนักแถวตำหนักเข้าจอมบัว (มโหรี) จะประสูตร ซื้อของ ๙ ชั่ง ๘๑ ตำลึง ๑ บาท ค่าจ้าง ๒๑ ชั่ง ๕ ตำลึง รวมเงิน ๒๒ ชั่ง ๓ ตำลึง ๑ บาท ๒ สลึง (ไปใช้วัน ๕ ๑๒ ๕ ค่ำ)

กรมหมื่นนเรศถวายหนังสือพระปรีชา มีถวายสมเดจกรมพระ เจ้าจร๕๐เป็นคนให้คนนำไปถวายพระนายศรีฝากมาในหนังสือขอโทษให้ช่วย ท่านจึงตอบถึงพระนายศรีฉบับ ๑ ว่าหนามยอกให้เอาหนามบ่งจึงจะถูกทาง ถ้าผิดทางหนามยอกให้เอาหอกบ่งไม่เปนการ ถ้าเชื่อก็ช่วยได้ถ้าไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้

รับริโปดพระพิเรนทรที่จำพระปรีชา ว่าด้วยนายหนูว่าหนังสือไปแล้วฤๅยังว่าให้คนไปแล้ว ถามล่างใช้ฤๅบนใช้ว่าล่างใช้แล้วใช้คนมาบอก แล้วว่าบนไปแล้วแต่เวลาบ่ายถามว่าเมื่อไรจะกลับตอบว่าวันนี้เยน พระปรีชาว่าเหนจะไม่ทันกับแฟนนี๕๑มีหนังสือมาฉบับ ๑ ว่าได้ยินว่าในหลวงไม่กริ้วมาก

ทรงตรวจดูในริโปดพระพิเรนทรไม่มี จึ่งให้มาถามก็ไม่ได้ความไปไล่เลียงดูแล้ว

พระพิเรนทรริโปดมาว่าผู้คุมที่ทราบไปกินเข้าเสีย ได้ความว่าไปเอากระดาดมาแต่บ้าน เขียนถึงเจ้าจรว่าให้ทูล เจ้าจรว่าทูลไม่ได้ ให้จดหมายทูลเอาเอง เขาจึงได้เขียนไป (ร.ม. ที่ ๖๒ ต่อ ป. ที่ ๑๓/๑๔ ต่อไปที่ ๖๕)

วันที่ ๓๗๙๖ วัน ๕ ๑๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๓ เมษายน ๒๔๒๒)

เวลาเช้าโมงหนึ่งกรมหมื่นนเรศไปบ้านสมเดจเจ้าพระยา ไปหาท่านบนหอนั่งหลังบ้าน เจ้าคุณทหารอยู่นั่นด้วย เอาพระราชหัถเลขาให้ท่านดู แล้วท่านพูดว่าการบ่อทองนั้นที่จะทำต่อไปไม่ได้ทองไม่มีแล้ว อินชเนียก็กลับไปหมดยังเหลืออยู่คนเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่อาจกราบบังคมทูลกลัวจะมีความผิด แล้วปฤกษาเจ้าคุนทหารๆ ว่ากวยโรงจะไปตรวจอย่างไรเปนของคอเวอนแมนต์ เปนแต่ให้จัดข้าหลวงในมหาดไทยฤๅคลังมหาสมบัตไปตรวจของที่มีอยู่เหนจะดีกว่า ด้วยพระปรีชามาตกอยู่ของจะเสียหายอย่างไร ให้รวมเสียจะได้ทำการต่อไป แต่อย่าให้ในหลวงทรงส่งให้สมเดจกรมพระเจ้าของกรม ๆ มหาดไทยสั่งสมเดจเจ้าพระยาท่านก็เหนด้วย คนที่จะเอาไปให้สมเดจกรมพระเลือกดูเพราะท่านว่าอยู่ทั้ง ๒ กรม แล้วให้กรมหมื่นนเรศกลับมากราบทูล

เวลาบ่ายโมงกรมหมื่นนเรศกลับมากราบบังคมทูลรับสั่งให้กลับไปทูลสมเดจกรมพระ ๆ ท่านเหนทางใหม่อีกทางหนึ่ง ให้เปนคอนเวอนแมนต์มีความสงใสยด้วยทองจะมีฤๅไม่มี ถ้ามีจะได้ทำไป ถ้าไม่มีจะได้คิดการต่อไป เมื่อข้าหลวงไปตรวจกลับมาแล้ว ถ้าทองมีเราก็ปรับเอาว่าพระยากระสาปน์ช่อทยงไม่ส่ง ถ้าไม่มีก็ว่าปดเอาเงินไปเปล่าช่อข้าหลวงที่จะไปท่านเหนว่าเจ้าพระยาภานุวงษฤๅเจ้าพระยามหินธร เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์๕๒ กรมหมื่นนเรศกลับมาทูลทรงพระราชดำริห์เหนด้วย โปรดเกล้าฯให้กรมหมื่นนเรศไปหาสมเดจเจ้าพระยาอีก ไปภบท่านขี่รถกลับแต่สวนท่าน เจ้าพระยาภานุวงษพูดกับท่านบนรถท่านเหนด้วย ว่าเจ้าพระยาภาณุวงษต้องเอาไว้ไช้ราชการกรุงเทพฯ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ก็มึนนัก เอาเจ้าพระยามหินธรเถิด ให้ทรงสั่งกับเขาเสีย พระยากระสาปน์ก็เรียกเข้ามาสั่งด้วยๆ เขายังไม่มีความผิดอันใด การนี้ต้องค่อยๆทำ จะรวบรัดเอาเรวไม่ได้

กรมหมื่นนเรศกลับมาทูลทรงพระราชดำริห์ว่าที่จะสั่งเปนพระราชหัถจึงจะดีจะได้อ้างปฤกษาพร้อมกัน ได้สั่งไปให้สมเดจกรมพระให้ท่านสั่งอีกทีหนึ่ง จึงทรงสั่งท้าวราชกิจให้ไปปฤกษาสมเดจเจ้าพระยาท่านก็เหนด้วย ตามพระกระแส

รับโทรเลขฉบับ ๑ เรือมาลำหนึ่ง ปากน้ำ, ไฟ อังกฤษ ๓๕๙, โลบันเสง, สิงคโปร์, เรือออกลำหนึ่ง ไปโฮ, เยอรมัน, สองเสาครึ่ง, ๒๕๑, สิล, ห้องกง

พระยาไพบูลย์สมบัตถวายเรื่องราวกล่าวโทษพระยารองเมืองเรื่องตลาดตำบลสำเพง เดิมออกหมายให้แกทำแล้ว ต่อมาเมื่อเดือน ๔ หลวงสวัสนัคเรศรับเงินล่วงน่าจำนวนปีเถาะให้แกทำต่อไปแล้ว กลับให้จีนโปตั้งทำในที่ของแกอีกต่อไป (ร.ม. ที่ ๖๓ คัดไว้) ถวายหมายตั๋วใบเสรจที่หลวงสวัสนัคเรศ รับเงินเข้ามาด้วย (ร.ม. ที่ ๖๔ คัดไว้) เซนท้ายเรื่องราวให้พระยารองเมืองแจ้งความเรื่องนี้มาถวาย (เรื่องราวนี้ไม่ได้ส่งไปเพราะท่านเทวัญลืมเสีย หลงอยู่แต่การเรื่องนี้ ทรงกับพระยาราชรองเมืองเปนการตกลงให้พระยาไพบูลยทำไป แล้วคืนหมายกับตั๋วพระราชทานพระองค์เจ้าสุขุมาลย์๕๓ไปวัน ฯ ค่ำ)

รับคำแปลคำปฤกษาเคาน์ซิล คำเคาน์ซิลทูลเกล้า ฯ ถวาย คำสั่งลงพระราชอาญาเปนคำอังกฤษ เจ้าพระยาภาณุวงษส่งมาทูลเกล้า ฯ ถวาย (คำแปล ร.ม. ที่ วัน ๖ ๕ ค่ำ)

พระพิเรนทรริโปดพระปรีชาพูดในที่จำ ความเหมือน ร.ม. ที่ ๖๒ (ร.ม. ที่ ๖๕ ต่อ ๖๒ ต่อไป ร. ที่ ๙/๔๑)

วันที่ ๓๗๕๗ วัน ๒ ๑๓ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๔ เมษายน ๒๔๒๒)

รับคำโทรเลขฉบับ ๑ เรือออกลำหนึ่ง กงษีเรือไฟ, อังกฤษ, ๖๙๕, มากวน,

*22. ที่ ๔๑ มีพระราชหัถสั่งสมเดจกรมพระให้สั่งเจ้าพระยามหินธร พระยาสมบัตยาภิบาลไปตรวจแร่ทอง สั่งให้พระยากระสาปน์สั่งไปถึงอินชเนีย ถ้าเจ้าพระยามหินธรบังคับการอย่างไรให้ฟังบังคับ (ต่อ ร.ม. ที่ ๖๕ ต่อไป ร.ม. ที่ ๖๖)

พระพิเรนทรถวายริโปดพระปรีชาพูดในที่จำ นายหนูว่าเรือได้แล้วค่ำ ๑ ๒ ค่ำเปนแน่ พระปรีชาบ่นคอยหนังสือตอบสมเดจ (ร.ม. ที่ ๖๖ ต่อ ร. ที่ ๙/๔๑ ต่อไป ร.ม. ที่ ๗๒)

วันที่ ๓๗๙๘ วัน ๗ ๑๔ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๕ เมษายน ๒๔๒๒)

รับหนังสือพระยาภาษถึงหม่อมเจ้าเข่งได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า เวลาวานนี้โพตบุตรชายถึงแก่กรรมเปนซาง กับส่งความเหนเรือจะไปทูตที่จะมีผู้ถามถึงการกรุงสยาม แลจะได้พูดโต้ตอบเปนข้อ ๆ เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย กับว่าด้วยการซื้อของทูลเกล้า ๆ ถวาย มอบให้อุปทูตเปนธุระ แล้วร่างคำแอดเดรสตามแบบเก่าเข้ามาด้วยต้นหนังสือพระยาภาษ (ร.ม. ที่ ๖๗) คำถามเปนข้อ ๆ (ร.ม. ที่ ๖๘) คำตอบ (ร.ม. ที่ ๖๙) ร่างแอดเดรส (ร.ม.ที่ ๗๐) ที่ ๖๘ ๖๙ ๗๐ มากับ ๖๗)

ป. ที่ ๑๔/๔๑ มีพระราชหัถถามข่าว แล้วให้มาเฝ้าพรุ่งนี้ด้วย

ท้าวราชกิจถวายสำเนาหนังสือหลวงสยามานุเคราะหกงซุลสยามเมืองรางกุณมีมาถึงสมเดจเจ้าพระยาตอบเรื่องที่ท่านถามไปด้วยข่าวเมืองพม่าฆ่าเจ้านาย ตอบว่าอังกฤษเปนธุระด้วย เหนพม่าจับคนในเรืออังกฤษไม่บอกขออนุญาตก่อน แลอังกฤษยกทหารไปที่เขตรแดนพม่าต่อกับอังกฤษ (ร.ม. ที่ ๗๑)

<img>ตัวอย่างลายมือที่จดบันทึกจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน เล่มปีเถาะ เอกศก พุทธศักราช ๒๔๒๒ ซึ่งคัดขึ้นพิมพ์คราวนี้

วันนี้เสดจออกหน่อยหนึ่งไม่มีราชการอะไร

รับริโปตพระพิเรนทร ซึ่งพระปรีชาต้องจำว่าบ่าวมาหาว่าแฟนนีใช้ให้มาดูเขาฤๅกันว่าพระปรีชากินยาตาย พระปรีชาให้ไปบอกว่าอย่าตกใจเลยไม่กินดอก แล้วเขียนหนังสือไปด้วยยาใส่แผลที่ให้มาใหม่ใส่ดูวันนี้เหนจะถูกสบาย กับพระพิเรนทรไปถามด้วยพระสวดมนต์เมื่อแต่งงานไม่บอก (ร.ม. ที่ ๗๒ ต่อที่ ๖๖ ต่อไปที่ ๗๗)

ค่ำมีพระราชหัถเลขาปรับทุกขถึงเสดจที่วัดเรื่องพระเคราะห์ต่างๆ

วันนี้สมโภชสามวัน พระเจ้าลูกเธอ๕๔ประสูตรใหม่เสดจลงกรมหมื่นนเรศเข้าไปด้วย เมื่อเสดจไปทอดพระเนตรตำหนักพระองค์เจ้าสุนันทา๕๕ให้หากรมหมื่นนเรศไปด้วย

วันที่ ๓๗๙๙ วัน ๑ ๑๕ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๖ เมษายน ๒๔๒๒)

พระองค์มนุษย์๕๖ถวายหนังสือเสดจที่วัดท่านเหนพ้นแล้วไม่เปนอะไรต่อไป

รับสำเนาหนังสือกรมท่าส่งเปนสำเนาหนังสือพระยาสยามธุรภาหว่าด้วยข่าวราชการในยุโรปต่าง ๆ (ร.ม.ที่ ๗๓) ฉบับ ๑ หนังสือหลวงสยามานุเคราะห์กงซุลสยามเมืองรางกุนว่าด้วยข่าวเมืองพม่า (ร.ม.ที่ ๗๔) ฉบับ ๑ หลวงทวีปสยามกิจกงซุงสยามเมืองปินัง ส่งสำเนาหนังสือเลบเตอแนนคอเวอเนอเมืองปีนังว่าด้วยจีนเจียจองจิ๋วไปพูดกับบิดาว่า ไทยทำการกดขี่จึงต้องรับ (ร.ม.ที่ ๗๕) สำเนาหนังสือเลบเตอแนนคอเวอเนอเมืองปีนัง (ร.ม.ที่ ๗๖)

วันนี้เสดจออก พระยาภาษเฝ้าเรื่องจะไปทูต

พระพิเรนทร ริโปดพระปรีชาอยู่ในเวรจำ ถามนายหนูว่าเรือจะได้ฤๅไม่ได้ นายหนูว่าเขารับแขงแรง ครั้นเวลาบ่ายบ่าวเอาเจ้ามาส่งว่ามาแต่ปราจิณ พระยาจำแสนออกไปถึง เอาคนโทษมาถามเปนคำให้การใหม่ ครั้นนายหนูมาพระปรีชาถามว่า พระยาจ่าแสนออกไปได้ความอย่างไรบ้าง นายหนูบอกเหมือนบ่าวว่า กับพระราชรินทรสืบได้ความว่า พระที่ไปสวดมนต์เมื่อแต่งงานนั้น พระวัดราชบุรณะ พระโพธิวงษ ๑ พระอมรโมฬี ๑ พระอันดับคณะพระโพธิวงษ ๓ รูป ครั้นสวดมนต์พระโพธิวงษอาพาธให้อันดับมาแทน สวดมนต์แล้วประน้ำมนต์ให้ทั้ง ๒ คน เขาถวายไตรยองค์ละไตร เงินองค์ละตำลึง เข้าไม่ได้ฉัน (ร.ม.ที่ ๗๗ ต่อ ๗๒ ต่อไปที่ ๗๘)

วันที่ ๓๘๐๐ วัน ๒ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๗ เมษายน ๒๔๒๒)

วันนี้เช้าไม่มีการอไร บ่ายเสดจออก แต่พระแผลยังไม่สู้จะหายดี รับริโปดใบสัจกรมภูธเรศ กับพระยาอนุชิตถวายสารบบรับฟ้องศาลหลวง

เจ้าพระยามหิธรเฝ้าทูลลาไปราชการ ทรงชี้แจงการเปนไปรเวตให้เจ้าพระยามหินธรมาก แล้วเจ้าพระยามหินธรถวายจดหมายเปนจดหมายเรื่องราวเมื่อประชุมเคาน์วิล วัน ๖ ๕ ค่ำ ว่าการที่ประชุมเคาน์ซิลนั้น เคลิกเปนคนใหม่วิตกไปว่าจะไม่ได้จดถ้อยคำเคาน์ซิลพูดในเมื่อเวลาประชุม การที่คิดไว้พร้อมกับเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ พระยาราชวรานุกูล๕๗ว่าทรงปฤกษาแล้ว จะว่าโทษเปนล่วงสาบาลถือน้ำข้อที่คนไทยต่างด้าวท้าวต่างแดน ให้แรงไว้แล้ว จึงทูลเกล้า ฯ ถวายให้ทรงตัดรอน แก่การที่เปนไปครั้งนี้ผิดกับความคิดทีเดียว จึงได้จดถ้อยคำไว้ เพื่อการต่อไปภายน่าเปนเหตุอย่างไร จะได้เอาคำเคาน์ซิลที่ปฤกษาแรงนั้นขึ้นยกพูดบ้าง (ร.ม.ที่ ๗๘ ต่อที่ ๗๗ ต่อไปที่ ๗๙) แล้วถวายจดหมายข้อความแกสืบมาได้แต่คนยุโรปคือกัปตันเอมๆ ได้มาแต่ริชแมนกงซุลออศเตรีย ๆ ได้ความมาแต่มิศเตอเฟรนคนในกงซุลอังกฤษมากินเข้าที่บ้านเขา ว่าด้วยกงซุลมีหนังสือถึงคอเวอนแมนต์ เรื่องทำโทษพระปรีชา แกเหนควรว่าเราควรจะมิถึงเมชันให้ทราบไว้เพื่อเขาถาม (ร.ม. ที่ ๗๙ ต่อที่ ๗๘ ต่อไปที่ ๘๐)

ค่ำ พระพิเรนทรเทพ ริโปดพระปรีชาพูดจาว่า นายสายบ่าวเข้ามาส่งเข้าแล้วบอกว่าเขาพูดกันว่าโปรดให้เจ้าพระยามหินธรออกไปเมืองปราจิณ แล้วพระปรีชาถามแกเอง ว่าเจ้าพระยามหินธรจะออกไปทำไมพระยาจ่าแสนก็ไปคนหนึ่งแล้ว แก่ตอบว่าทราบแต่พระยาจ่าแสนไปคนเคียว แล้วพูดว่าท่านผู้ใหญ่ออกไปคงทราบการเหนการที่ใช้เงินมากแต่ดูกิริยาไม่สู้สบาย (ร.ม.ที่ ๘๐ ต่อที่ ๗๙ ต่อไปที่ ๘๑)

วันที่ ๓๘๐๑ วัน ๓ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิ๑๑ศก ๑๒๔๐

(๘ เมษายน ๒๔๒๒)

เสดจออก พระยาศรีถวายร่างตราถึงพระยาเจริญราชไมตรี พระยาเทพประชุน} ข้าหลวงเมืองเชียงใหม่ ว่าด้วยความพระปรีชา อย่าให้พระยาเจริญมีความหวาดหวั่นการที่เปนโทษคราวนี้ เปนแต่ส่วนตัวพระปรีชาไม่ได้ถึงบิดามารดา ให้พระยาเจริญราชไมตรีทำราชการหาความชอบเถิด กับอ่านบอกเมืองตากเมืองป่าไม้ ว่ามีป่าไม้ชื่อป่าแม่ละ เดิมเจ้ากาวิโลรศได้ถวายเรื่องราวว่าที่ป่านี้เดิมเปนแขวงเมืองเชียงใหม่ เมืองตากปกคลุมเข้าไป ก็ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานให้เปนแขวงเมืองเชียงใหม่ กับว่าด้วยส่งพระยาเจริญขึ้นไปเมืองเชียงใหม่แล้ว

เวลา ๔ ทุ่มเศศ รับสำเนาหนังสือกรมท่า ส่งเปนสำเนาหนังสือมิศเตอนอกซ์มีมาเรื่องความพระปรีชา ว่ามิศเตอกลูค์ถือมาส่งเวลา ๒ ทุ่ม อธิบายในข้อที่เรา ดูถูกดูหมิ่นเราทำการครั้งนี้เปนการแกล้ง อธิบายความยืดยาว (ร.ม.ที่ ๘๑ ต่อที่ ๘๐ ต่อไป ๘๒)

พระยาภาษจดหมายไปรเวตถวายด้วยเส้นดินสอเข้ามาฉบับ ๑ ว่า เมื่อคืนนี้มีเรือโบดเก๋ง ๔ แจว ผู้หญิงอยู่ในนั้นร้องสักรวาแจวขึ้นข้างบนตั้งแต่ปากคลองโอ่งอ่างไปจนน่าบ้านเจ้าพระยามหินธร แล้วกลับมาอีกแล้วล่องลงไปล่าง ผู้ฟังเขาจำไว้ได้ สงไสยกันว่าจะเปน Calohne บุตรสาวมิศเตอนอกซ์ ความว่า “สักวาวันนี้พระปรีชา ต้องรับอาญาพระเจ้าอยู่หัว กำเริบจิตรคิดการห่ามเกินตัว ทั้งพันพัวราชทรัพย์ก็นับพัน กลับออกไปก็ไม่ได้บังคมบาท ถืออำนาจผู้ใดกระไรนั่น ทรงการุณชุบเลี้ยงถึงเพียงนั้น ฤๅหมายมั่นพึ่งใครให้ว่าเอย”

พระพิเรนทรริโปด พระปรีชาพูดในเวรจำกับผู้คุมว่า เจ้าพระยามหินธร พระยาจ่าแสนบดี ออกไปเมืองปราจิณ ก็เปนที่บาดหมางในใจกันกับพระปรีชามาแต่ก่อน เวลานี้น้ำลงหลักตอก็จะมีขึ้นการน้อยจะเปนมาก อนึ่งผู้ร้ายที่รับเปนสัตยจำไว้มีมาก ถ้าเอาตัวมาถามอีกก็จะให้การกลับคำหมด ตั้งแต่ทราบว่าเจ้าพระยามหินธรออกไป ดูกิริยาไม่สบาย (ร.ม.ที่ ๘๒ ต่อที่ ๘๑ ต่อไปที่ ๘๕).

วันที่ ๓๘๐๒ วัน ๕ ๕ ค่ำ ปีเถาะ ยังเปนสัมฤทธิศก ๑๒๔๐

(๙ เมษายน ๒๔๒๒)

เวลาเช้าย่ำรุ่งวันนี้เจ้าพระยามหินธร พระยาสมบัตยาธิบาลไปเมืองปราจิณไปด้วยเรือแหวดไปในคลอง

กรมท่าส่งสำเนาหนังสือเข้ามาเปนสำเนาคำแปลหนังสือพิมพ์สยามวิกลี แอดเวิดไตเซอ ลงวันที่ ๔ เดือนเอปริล ๑๘๗๙ ตรงกับวัน ๗ ๑๔ ๕ ค่ำ ว่าด้วยเรื่องจีนฆ่าพระอิศราธิไชยที่ไทยชำระจีนเจียเปกอี้ ซึ่งเปนจีนสัปเยกต์ (ร.ม.ที่ ๘๓)

หนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ ทูลเกล้าฯ ถวายฉบับ ๑ ว่าด้วยกงซุลอเมริกันมาหาแจ้งความว่ากงซุลได้รับหนังสือเยเนอราลแกรนต์มีมาถึงกงซุลว่า เยเนอราลแกรนต์จะออกจากสิงคโปร์ เข้ามาในกรุงเทพฯ ในวันที่ ๙ ฤๅวันที่ ๑๐ เดือนเอปริลนี้ จะมาด้วยเรือกงษี กงซุลว่าถ้าคอเวอน์เมนต์สยามจัดเรือกลไฟไปรับที่เมืองสมุทเปนการเชื้อเชิญเหมือนคอเวอเนอเข้ามาเหนจะดี แต่จะควรประการใดแล้วแต่จะโปรด ถ้าโปรดเกล้าฯ แล้ว กงซุลขอให้เรือลงไปวัน ๗ ๕ ค่ำ จะให้มิศเตอตอรีลงไปด้วย (ร.ม.ที่ ๘๔)

ร.ที่ ๑๐/๔๐ มีพระราชหัถตอบไปฉบับ ๑ ว่าการเมื่อครั้งรับคอเวอเนอนั้น เขามาทางราชการแล้วมาเรือรบเข้าไม่ได้ด้วย จึงต้องจัดเรือไฟลงไปรับเยเนอราลแกรนต์มาครั้งนี้เปนไปรเวต แล้วมาเรือเมล์คงจะเข้ามาจนถึงที่ ถึงจะไม่มีเรือไฟไปรับก็ได้ แค่เขาเปนเปรซิเดนต์เก่า ไปที่ไหนเขาก็รับรอง ก็ควรจะมีเรือไฟลงไปรับ ให้มีขุนนางกรมท่าแลทหารลงไป แล้วจัดที่บ้านราชทูตให้เขาอยู่ รับเปนการไปรเวตเฝ้าเหมือนคราวเคาน์ซิจีก็ได้ แต่การที่จะเฝ้าแหนให้ถามเขาดูก่อน เมื่อเขาจะเอาเกียรติยศอย่างไร จึงว่าให้ตกลงกัน

ออกขุนนาง พระนรินทรทูลบอกพระยามหามนตรี ว่าได้รับท้องตราที่ส่งให้ไปให้ตราพระยาภุเกต ได้รับที่เมืองตรังแล้ว ได้ไปเมืองภุเกตพระราชทานตราแล้ว ราชการที่เมืองถลางพระพลสงครามถึงแก่กรรม ได้ให้หลวงรองเมืองว่าราชการแทนไปก่อน แล้วตัวแกกลับไปเมืองตรังกับเมืองชุมภรส่งเงินค่านาปีฉลู นพศก เงิน ๙๔ ชั่ง /๗ ตำลึง ๑ บาท ๒ สลึง เมืองกาญจนดิฐส่งเงินภาษี เงิน ๓๕ ชั่ง ๒ สลึง เมืองไชยา เมืองสงขลา ส่งเงินเข้ามาสมโภชพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์๕๘ สงขลาเงิน ๒๐๐๐ เหรียญ ไชยาเงิน ๑ ชั่ง โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาภาษจัดของแถมพกส่งไป

รับหนังสือเจ้าพระยาภาณุวงษ ๒ ฉบับ ๆ หนึ่งว่า หลวงสุริยามาตย์เข้ามาถึงกรุงเทพ ฯ เวลา ๒ ทุ่ม แล้วถือหนังสือพระยาจ่าแสนไปให้สมเดจเจ้าพระยา กับว่าราษฎรเข้ามาพร้อมกันกับหลวงสุริยามาตย์ ๑๒ ราย มาทางในที่หลวงสุริยามาตย์มาช้าไปนั้น เพราะเรือไฟเสียที่เมืองปราจิณต้องทำอยู่ที่โรงจักรถึง ๒ เวลา ครั้นมาถึงปากน้ำเรือเสียอีก บอกเตลิคราฟขึ้นมาท่านจึ่งจัดให้เรือสติมลอนลงไปรับ กลับแต่บ้านสมเดจเจ้าพระยาแล้วได้ไปที่วังสมเดจกรมพระ (ร.ม.ที่ ๘๕ ต่อที่ ๘๒ ต่อไป ป.ที่ ๑๕/๔๑)

ฉบับ ๑ ว่าด้วยการรับเยอเนอราลแกรนต์ ท่านได้พูดกับกงซุลเยอรมันแล้วว่าจะรับเปนการไปรเวต สมเดจเจ้าพระยาท่านเหนว่าที่รับคราวนี้ ต้องรับให้ดีอย่าให้เขาเปนที่เสียใจในการรับรองเลยศักอย่าง ด้วยจะได้เอาไว้เปนพวกของเรา การที่จะเฝ้าให้รับอย่างใหญ่ แต่ให้นั่งเก้าอี้เฝ้า (ร.ม.ที่ ๘๖)

ป.ที่ ๑๕/๔๑ มีพระราชหัถเลขา ตอบเจ้าพระภาณุวงษ ว่าด้วยหลวงสุริยามาตย์เข้ามาดีพระไทย แต่การที่ให้ออกไปจะได้ฤๅมิได้ประการใด ทรงพระวิตกอยู่ กับเล่าเรื่องที่อาลบาสเตอจดหมายมาถึงท่านเทวัญว่า อ้ายตอรีมาหาพูดว่า เยเนอราลแกรนต์เหนจะยังไม่เข้ามา ว่ามีหนังสือถึงหมออเมริกันคนหนึ่งว่าได้ยินว่ามิศเตอนอกซ์เรียกเรือรบในเมืองไทย เหตุจะมีเหตุใหญ่จะลำบากไม่เข้ามา แต่เรื่องนี้อาลบาสเตอว่าเหนจะไม่จริง รับสั่งมาให้ทราบไว้ กับพระพิเรนทรส่งริโปดว่า พระปรีชารอเรือรบนัดส่งริโปดไปให้ท่านดู แล้วให้คืนกลับมา (ต่อ ร.ม.ที่ ๘๕ ต่อไป ร.ม.ที่ ๘๗)

ร.ที่ ๑๑/๔๑ มีตอบไปเรื่องเปรซิเดนแกรนต์ ให้เจ้าพระยาภาณุวงษทำโปรเกรมกะการเสีย เอาตามแบบคอเวอเนอสิงคโปร แต่การที่ต้องลำบากมากนั้นให้ยกเสีย แล้วจึงจะได้ทรงสั่งการไป ทหารนั้นจะให้จมื่นวิชิตไชยศักดาวุทไป

เสดจลงไปซ้อมลครปีใหม่ที่โรงข้างพิมารรฐยาด้านตวันตกเวลา ๔ ทุ่ม กลับขึ้น ๒ ยาม

วันนี้พระเจ้าลูกเธอซึ่งประสูตรใหม่ประชวนหละ พระอาการมาก เจ้าจอมมารดาก็ไม่สู้สบายมักเปนลม โปรดเกล้า ฯ ให้ไปรับหมอเชลยศักชื่อยายเกตเปนคนเข้ารีดรักษาหละดี มารักษาพระอาการค่อยคลายแล้ว

ป.ที่ ๑๖/๔๑ มีพระราชหัถ พระราชทานพระนามในวันนี้ พระนามว่าพระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ์ ตามวรรคอายุ

พระพิเรนทรถวายริโปดพระปรีชาพูดวันนี้กับผู้คุมว่า เมื่อคืนนี้ฝันว่าคนรูปงามมาบอกว่าอีก ๑ ๒ วัน จะออกได้ เวลาทุ่มเสศนายหนูมาว่าเรือจะได้วันศุกรแน่ เมื่อนายหนูจะไปพระปรีชาสั่งว่า วันนี้มีความวิตกมากนักเหนแต่แม่แฟนคนเดียวให้เปนธุระมาก ๆ พระปรีชาพูดกับนายหนูพูดกันต่างคนต่างน้ำตาไหลแล้วก็ไป (ร.ม.ที่ ๘๗ ต่อ ป.ที่ ๑๕/๔๑ ต่อไป ร.ม.ที่ ๘๘)

  1. 1. พิมพ์ตามฉบับเดิมโดยไม่ได้แก้ไขตัวสะกดการันต์

  2. 2. วันที่รัชกาล

  3. 3. เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค)

  4. 4. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๓ กรมหลวงบดินทร์ไพศาลโสภณ ต้นราชสกุล สิงหรา

  5. 5. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)

  6. 6. โหมด อมาตยกุล

  7. 7. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๒ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ต้นราชสกุล มาลากุล

  8. 8. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ต้นราชสกุล กฤดากร

  9. 9. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๓ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ ต้นราชสกุล ชมพูนุช

  10. 10. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ต้นราชสกุล เกษมสันต์

  11. 11. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร ต้นราชสกุล กมลาศน์

  12. 12. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ต้นราชสกุล ทองใหญ่

  13. 13. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมพระยาเทววงศ์วโรประการ ต้นราชสกุล เทวกุล

  14. 14. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ต้นราชสกุล สวัสดิกุล

  15. 15. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ต้นราชสกุล โสณกุล

  16. 16. เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)

  17. 17. พระเจ้า เอดเวิร์ด ที่ ๗

  18. 18. Prince Arthur, Duke of Connaught.

  19. 19. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔

  20. 20. เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกศาธิบดี (ท้วม บุนนาค)

  21. 21. พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ (ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๓ กรมขุนราชสีหวิกรม)

  22. 22. หรุ่น ศรีเพ็ญ

  23. 23. พระยาประชุมประชานารถ (แก้ว)

  24. 24. โอรสพระเจ้ามโหตร์ประเทศราชบดินทร (มหาวงศ์)

  25. 25. สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

  26. 26. พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (เผือก เศวตนันท์)

  27. 27. สำอาง อมาตยกุล

  28. 28. พระพิเรนทรเทพ (จุ้ย ภูมิรัตน์)

  29. 29. พระยามหามนตรี (อ่ำ อัมรานนท์)

  30. 30. มิสเตอร์ทอมัส จอร์จ นอกซ์ กงสุลอังกฤษขณะนั้น ภายหลังได้เป็นเซอร์

  31. 31. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๒ กรมหลวงวรศักดาพิศาล ต้นราชสกุล อรุณวงศ์

  32. 32. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ต้นราชสกุล คัดณางค์

  33. 33. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ต้นราชสกุล สุขสวัสดิ์

  34. 34. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ต้นราชสกุล ทวีวงค์

  35. 35. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์

  36. 36. แย้ม บุณยรัตพันธุ์

  37. 37. ทองคำ สุวรรณทัต

  38. 38. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช ต้นราชสกุล ภาณุพันธุ์

  39. 39. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ ต้นราชสกุล จักรพันธุ์

  40. 40. ท้าวราชกิจวรพัฒน์ (คุณหญิงแพ) เป็นธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เป็นพนักงานกำกับเครื่องเสวย

  41. 41. เจ้าพระยามหินทรศักดิธำรง (เพ็ง) ต้นสกุล เพ็ญกุล

  42. 42. นายเฮนรีอาลบัสเตอร์ ชาวอังกฤษ เข้ามาประเทศไทยตั้งแต่รัชกาลที่ ๔ เป็นต้นสกุลเศวตศิลา

  43. 43. พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ต่อมาได้เฉลิมพระยศขึ้นเป็นสมเด็จฯ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรประการ ต้นราชสกุล เทวกุล

  44. 44. พระยาสมบัติภิรมย์ (ชุ่ม ณ สงขลา) ภายหลังเป็นพระยาวิเชียรคีรี

  45. 45. พระองค์เจ้าหญิงเจริญศรีชนมายุ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๔๕๙ พระชันษา ๓๘ ปี

  46. 46. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

  47. 47. พระยาจ่าแสนบดี (เดช)

  48. 48. เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน (วร บุนนาค)

  49. 49. พระองค์เจ้ายี่เข่งพระเจ้าหลานเธอในกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงเป็นสนองพระโอฐ

  50. 50. พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ (ในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาบำราบปรปักษ์)

  51. 51. แฟนนี ลูกสาวกงสุลนอกซ์ ภรรยาพระปรีชากลการ

  52. 52. เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค)

  53. 53. พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี ในรัชกาลที่ ๗ ได้ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

  54. 54. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ

  55. 55. สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์

  56. 56. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญานวโรรส

  57. 57. พระยาราชวรานุกูล (รอด กัลยาณมิตร) ภายหลังเป็นเจ้าพระยารัตนบดินทร์

  58. 58. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ กรมขุนสุพรรณภาควดี

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ