กัณฑ์สักกบรรพ
ความสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
----------------------------
๏ เอวนฺเตสุ อญฺญมญฺญํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺเตสุ สกฺโก เทวราชา จินฺเตสิ อยํ เวสฺสนฺตรมหาราชา หิโย ชูชกสฺส ปถวึ อุนฺนาเทตฺวา ทารเก อทาสิ อิทานิ โกจิ หีนปุริโส อุปสงกมิตฺวา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนํ สึลวตึ มทฺทึ ยาจิตฺวา ราชานํ เอกกํ กตฺวา มทฺทึ คเหตฺวา คจฺเฉยฺย ตโต เอส อนาโถ นิปฺปจฺจโย ภเวยฺย ยนฺนูนาหํ พฺราหฺมณวณฺเณน นํ อุปสงกมิตฺวา มทฺทึ ยาจิตฺวา ปารมิกูฏํ คาหาเปตฺวา กสฺสจิ อวิสชฺชนียํ กตฺวา ปุน ตํ ตสฺเสว ทตฺวา อาคมิสฺสามีติ
ขึ้น (๑) เตสุ ขตฺติเยสุ ในเมื่อสองสุริยราชนรินทรอสัมภินพงศ์พิสุทธิกระษัตริย์ ทรงพระโสมนัศในปิยบุตตทาน ต่างพระองค์ทรงสโมสรเกษมสานต์สนทนา ด้วยสัมโมทนียกถาทางทานบริจาค ยิ่งภูลเพิ่มพระปรีดาปราโมทย์มากในกมลหฤทัย เดิน สกฺโก เทวราชา ส่วนสมเด็จสหัสนัยอรรคเทวราช ก็ทรงพระอนุสรคำนึงถึงบรมบาทบรรพชิตเชตเพสสันดรดาบศ ว่า ขึ้น หิโย วานนี้พระองค์ทรงสละพระโอรสทั้งคู่แก่ชูชกพฤฒาจารย์ มหัศจรรย์ก็บันดาลดินฟ้าสาครกัมปนาท โกจิ หีนปุริโส แม้นว่ามีชาย หินชาติผู้ใดผู้หนึ่ง จะสืบเสาะแสวงมาถึงพระอาศรมสำนัก เข้าทูลขอพระเลิศลักษณ์กัลยาณี มัทรีผู้ทรงศีลวัตรวรวิเศษ ท้าวเธอก็จะทรงบำเพ็ญพระทานบารเมศมหาภริยบริจาค เอกกํ กตฺวา จะกระทำให้เสวยทุกข์ลำบากอยู่เอองค์ บำราศไร้ผู้รองบาทบงสุ์ที่จะปฏิบัติ ก็จะหม่นหมองในคลองพรหมจริยวัตรหวังประโยชน์พระบรมโพธิญาณ ยนฺนูนาหํ ควรอาตมจักรจากสถานสุทัศนเทวบุเรศ นิมิตรเพศเปนทชีชรา จะเข้าไปทูลขอพระเกษแก้วกันยาเยาวลักษณวิลาศ แล้วจะทูลถวายพระนุชนาฎให้คืนคง จะขอปฏิญาณไว้อย่าให้พระองค์ทรงประสาทสละ แก่ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งจะมาพานพะณเถื่อนทาง จะซ้ำขอพระน้องนางสืบไปในภายน่า แล้วจะถวายอัญชลีลานิวัตนาการ สู่สุราลัยพิมานนี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห | |
ตโต รตฺยา วิวสเน | สุริยสฺสุคฺคมนํ ปติ |
สกฺโก พฺราหฺมณวณฺเณน | ปาโต เนสํ อทิสฺสถาติ |
กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ | กจฺจิ นุ โภโต อนามยํ |
กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปถ | กจฺจิ มูลผลา พหู |
กจฺจิ ฑํสา จ มกสา | อปฺปเมว สิรึสปา |
วเน พาฬมิคากิณฺเณ | กจฺจิ หึสา น วิชฺชตีติ |
กุสลญฺเจว โน พฺรเหฺม | อโถ พฺรเหฺม อนามยํ |
อโถ อุญฺเฉน ยาเปม | อโถ มูลผลา พหู |
อโถ ฑํสา จ มกสา | อปฺปเมว สิรึสปา |
วเน พาฬมิคากิณฺเณ | หึสา มยฺหํ น วิชฺชติ |
สตฺต โน มาเส วสตํ | อรญฺเญ ชีวิโสกินํ |
อิทํปิ ทุติยํ ปสฺสามิ | พฺราหฺมณํ เทววณฺณิกํ |
อาทาย เวฟุวํ ทณฺฑํ | ธาเรนฺตํ อชินิกฺขิปํ |
สฺวาคตนฺเต มฺหาพฺรเหฺม | อโถ เต อทุราคตํ |
อนฺโต ปวิส ภทฺทนฺเต | ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต |
ติณฺฑุกานิ ปิยาลานิ | มธุเก กาสมาริโย |
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ | ภุญฺช พฺรเหฺม วรํ วรํ |
อิทมฺปิ ปานิยํ สีตํ | อาภตํ คิริคพฺภรา |
ตโต ปิว มหาพฺรเหฺม | สเจ ตฺวํ อภิกงขสีติ |
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน | เกน วา ปน เหตุนา |
อนุปฺปตฺโตสิ พฺรหารญฺญํ | ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโตติ |
ยถา วาริวโห ปูโร | สพฺพกาลํ น ขียติ |
เอวนฺตํ ยาจิตาคญฺฉึ | ภริยํ เม เทหิ ยาจิโตติ |
เดิน (๒) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิสังวร ตโต รตฺยา วิวสเน ปางเมื่อพระอาทิตย์อุทัยทิวากรกระจ่างจำรัส สกฺโก ส่วนสมเด็จวชิรหัตถเทเวศ ก็แปรเปนทวิชาเชษฐเดินดง มีทั้งเครื่องบูชาพรตตามพราหมณพงศ์พิธีกุณฑ์ ดูเสงี่ยมเสี่ยมสารสุนทรสวัสดิภาพ ค่อยยอบย่อยาตราเข้ามากรานกราบการอัญชลี สมเด็จพระบรมดาบสดาบสินีทั้งสองกระษัตริย์ ซึ่งทรงสถิตย์ในน่ามุขพระอาศรมนิเวศน์วัดวงกฎศิขเรศ แล้วก็ทูลถามยุบลเหตุอันเนาผนวชไพร กระทำประพฤติปราไสว่า ขึ้น โภ ตาปส ข้าแต่พระบาทบรมราชนักสิทธิ์ ตั้งแต่พระองค์มาบรรพชิตในห้องหิมวันต์ ยังนิราศไร้โรคันขันธมาร เสวยสวัสดิศุขสำราญอยู่ฤๅพระพุทธเจ้าข้า อุญฺเฉน ยาเปถ ทรงเสวยมูลผลาเลี้ยงพระชนมชีพด้วยง่ายไม่ลำบาก ทั้งเหลือบยุงบุ้งทากไม่ขบกัด ฝูงทีฆชาติมิได้มากระทำภัยพิบัติเบียดเบียน วเน พาฬมิคากิณฺเณ ในพนสัณฑ์สิอาเกียรณ์ไปด้วยพาฬจัตุบาท ยังมีมาบีฑาถึงพระอาวาสบ้างฤๅว่าหามิได้ เดิน ท้าวเธอจึงตรัสตอบว่าขอบใจธอาจารย์ ซึ่งท่านถามทุกสิ่งนั้นก็สำราญบริบูรณ์มิได้เดือดร้อน สตฺต โน มาเส วสตํ ตั้งแต่เนาพนาดรก็ได้ถึงเจ็ดเดือน เลี้ยงชนมชีพในแถวเถื่อนทุรัศพนมระทมไปด้วยความโศก ด้วยเสวยทุกขวิโยคแรมร้างพระภารา ทุติยํ ปสฺสามิ พึ่งเห็นท่านสัญจรมาเปนคำรบสอง พิศผิวพรรณผุดผ่องเพียงพรหมพฤฒาจารย์ ทั้งกิริยาอาการกอปรไปด้วยมารยาตร ถือไม้เท้าสีเหลืองวิลาศเล่ห์ผลมะตูม อุ้มเครื่องกระยาพรตพิธี ทั้งนุ่งห่มหนังพยัคฆีเครื่องอิสีเพศ สฺวาคตนฺเต ท่านมานี่เปนศรีสวัสดิวิเศษสารภิรมย์ มาแต่ไกลก็เหมือนใกล้ได้สมาคมเคยคุ้น เปนกัลยาณมิตรสโมสรสุนทรสถาพร อนฺโต ปวิส ภทฺทนฺเต เชิญทชีเข้าไประงับร้อนในโรงน้ำนั้น จงล้างเท้าแล้วอาบฉันสินธุใสสอาด เรานำมาแต่หุบห้วยศิลาลาดลหานธาร แล้วบริโภคมูลผลาหารล้วนเปนของป่า กับน้ำผึ้งสดรดโอชาตามแต่จะชอบใจ ขึ้น เกน วา ปน เหตุนา อนึ่งท่านจะประสงค์สิ่งใดฤๅธอาจารย์ จึงด้นดัดพนัศสถานมาถึงเรา อย่าเกรงใจงบอกเล่าโดยสารคดี ในกาลบัดนี้เถิด
เดิน (๓) อถ สกฺโก ลำดับนั้นท้าวโกสีย์สักกเทวราช เมื่อจะทูลขอพระเยาวมาลย์มาศมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จึงชักทำเนียบเปรียบพระราชศรัทธาในทานบารเมศ ว่า ขึ้น วาริวโห เมาะ ปญฺจ มหานทิโย พระพุทธเจ้าข้า อันว่ากระแสสายสินธุวาเรศในปัญจมหานทีธาร ย่อมไหลหลั่งสังสันทนาการไม่รู้ขาดสาย สรรพนิกรสัตว์ทั้งหลายได้กินอาบ ก็เย็นทราบสรีรอินทรีย์ เกษมสานต์สำราญรมย์ฤดีดับอาดูรเดือดร้อน บันเทาทุกข์ทั่วทิศาดรสันดานสัตว์ ก็เสมอเหมือนพระกระมลโสมนัศในมหาทาน ด้วยพระการุญวิบุลญาณหยั่งไปทั่วทุกตัวประชาชาติ ในไตรโลกสันนิวาสไม่เว้นตน ข้างทชีนี้ขัดสนยากไร้ ไม่มีผู้ใดที่จะปฏิบัติ จะขอพระเกษแก้วกระษัตรีย์นารีรัตนไปร่วมภิรมย์ จะได้เปนคู่ครองสองสมในครั้งนี้ จงทรงประสาทพระมัทรีให้เปนทาน แก่ข้าพฤฒาจารย์นี้เถิด
ททามิ น วิกมฺปามิ | ยํ มํ ยาจสิ พฺราหฺมณ |
สนฺตํ น ปฏิคุยฺหามิ | ทาเน เม รมเต มโนตึ |
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห | |
มทฺทึ หตฺเถ คเหตฺวาน | อุทกสฺส กมณฺฑลุํ |
พฺราหฺมณสฺส ทา ทานํ | สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒโน |
ตทาสิ ยํ ภึสนกํ | ตทาสิ โลมหํสนํ |
มทฺทึ ปริจฺจชนฺตสฺส | เมทนี สมกมฺปถ |
เนวสฺส มทฺที ภกุฏี | น สนฺธิยติ น โรทติ |
เปกฺขเตวสฺส ตุณฺหิยา | เอส ชานาติ ยํ วรนฺติ |
โกมารี ยสฺสาหํ ภริยา | สามิโก มม อิสฺสโร |
ยสสิจฺเฉ ตสฺส มํ ทชฺชา | วิกิเณยฺย หเนยฺย วาติ |
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห | |
เตสํ สงกปฺปมญฺญาย | เทวินฺโท เอตทพฺรวิ |
สพฺเพ ชิตา เต ปจฺจูหา | เย ทิพฺพา เย จ มานุสา |
นินฺนาทิตา เต ปถวี | สทฺโท เต ติทิวงคโต |
สมนฺตา วิชฺชุตา อาคู | คีรีนํว ปติสฺสุตา |
ตสฺส เต อนุโมทนฺติ | อุโภ นารทปพฺพตา |
อินฺโท พฺรหฺมา จ ปชาปติ จ โสโม ยโม เวสฺสวโณ จ ราชา | |
สพฺเพ เทวา อนุโมทนฺติ | ทุกฺกรํ หิ กโรติ โส |
ทุทฺททํ ททมานานํ | ทุกฺกรํ กมฺมกุพฺพตํ |
อสนฺโต นานุภุพฺพนฺติ | สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย |
ตสฺมา สตญฺจาสตญฺจ | นานา โหติ อิโต คติ |
อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ | สนฺโต สคฺคปรายนา |
ยเมตํ กุมาร อททา | ภริยํ อททา วเน วสํ |
พฺรหฺมยานมโนกฺกมฺม | สคฺเค เต ตํ วิปจฺจตูติ |
เดิน (๔) มหาสตฺโต สมเด็จพระบรมพงศ์พุทธางกูรมหาสัตว์ ได้ทรงสดับอรรถสารคดี ซึ่งทชีมาทูลขอพระเยาวมาลย์ ก็ทรงพระโสมนัศเบิกบานปรีดา มิได้ทรงพระจินตนาดังนี้ ว่าเมื่อวันวานได้ประสาทสองกุมารกุมารีโอรสแล้ว วันนี้จะอำนวยนางแก้วกะไรได้ ไม่ย่อท้อพระหฤทัยถอยหลัง พระสติดำริห์ตั้งต่อพระโพธิญาณ จึงมีพระราชโองการว่า ดูกรทชี ท่านมาขอพระมัทรีศรีเสาวภาค อันเปนเพื่อนพเนจรจากพระนครเมื่อยามไร้ จิตรเราก็ผ่องใสโสมนัศในทาน มิได้หวั่นไหวด้วยมัจฉริยหมู่มารมลทิน อันเปนทานราคินหินโทษ จะยกให้สำเร็จประโยชน์พฤฒาจารย์ แลกเอาพระสัพพัญญุตญาณในภายน่า พลางทรงพระเจ้าอุทธวารี แล้วกุมพระกรมิ่งมหิษีสุขุมกระษัตริย์มัททราชวงศ์ จึงหลั่งอุทกให้ตกลงเหนือมือทชี ก็เปล่งพระปณิธานวาทีบัณฑูรประกาศ ขึ้น ว่า พราหมณ์เอ่ย อันองค์เอกอรรคราชกัญญา เราก็แสนเสนหาดังดวงหทัยแลไนยเนตร ปิยตรํ แต่เรารักพุทธรัตนสวรรเยศวิเศษสุด ยิ่งกว่าองค์อนงค์นุชสักแสนเท่า อิทํ ทานํ อันว่าภริยทานของเราจงให้สำเร็จ แก่พระสร้อยสรรเพชญ์ดาญาณ ในอนาคตกาลโน้นเถิด
เดิน (๕) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิอินทรีย์ ปางเมื่อพระปิ่นภพสีพีพุทธางกูรนราธิเบศร ทรงสละพระอรรคเรศราชพงางามในยามนั้น ก็บังเกิดมหามหัศจรรย์จลาจล ทั่วสกลจังหวัดจักรวาฬ ขึ้น พื้นพสุนธราธารก็ไหวหวั่น ทั้งขุนเขาสัตตบริภัณฑ์สิเนรุราช ต่างน้อมยอดอย่างจะอภิวาทประกาศก้องซ้องสาธุการ สะเทือนท้องพระหิมพานต์เพียงจะเพิกพังภินทนาการถล่มทำลาย มหาสาครก็ตีฟองคนองสายสินธุธาราฉะฉ่าฉาน ฝูงทวยเทพอุโฆษนาการประนมกรน้อมเกษ อนุโมทนาพระอุปบารเมศมี่สำเนียง เสียงเสนาะสนั่นเนียรนาท เบื้องต่ำตั้งแต่อัชฎากาศเท่าถึงภวัคพรหม สะท้านสะทึกพิฦกรดมเปนอันหนึ่งอันเดียวดังนี้ ปางเมื่อท้าวเธอยกยอดพระบารมีมหาภริยทาน แก่อินทพฤฒาจารย์นั้นแล
เดิน (๖) สมเด็จพระยอดกันยานารีรัตนมัททราชบุตรี เมื่อพระบรมราชสามีทรงประสาทพระราชทานแก่พฤฒาจารย์วันนั้น นางท้าวจะได้ไหวหวั่นพรั่นพระไทยโทมนัศรันทด ถึงพระภักตร์เศร้าสลดอัสสุชลคลอคลองพระไนยนานั้นหามิได้ พิมพ์พระภักตร์ผ่องใสบริสุทธิศิริวิลาศ ดุจดวงบงกชผกามาศอันแบ่งบาน ด้วยทรงพระวิจารณจินตนา ว่าท้าวเธอทรงพระราชศรัทธาบริจาค ซึ่งนางแก้วอันหายากอย่างอาตมา ด้วยพระไทยมิได้กรุณาแหนงหน่าย เหตุเคลือบแคลงระแวงเรื่องร้ายสิ่งใดก็มิได้มี ประสาทเพราะประสงค์ศรีสรรเพชญ์โพธิสมบัติ จะแลกเอาพระพุทธรัตนวรญาณ อันเปนเอกอริยธนสารพิสุทธิพิเศษ จะข้ามสัตว์ให้พ้นเขตรสงสารสาคร น้องท้าวเธอทรงพระอนุสรดังนี้ ก็บานเบิกพระกระมลเปรมปรีดิ์ปราโมทย์ ไม่มีมุขวิการโทษยินยอมพร้อมด้วยพระราชศรัทธา ท้าวเธอจึงทอดทัศนาพิมลภักตร์ พระน้องรักจักวิกลประการใด จะมัวหมองฤๅผ่องใสในครั้งนี้ จักร่วมบำรุงพระทานบารมีฤๅหม่นหมอง เมื่อพิศภักตร์พระนางน้องเห็นผ่องผุด เพียงศศิธรบริสุทธิสว่างเมฆ ก็ทราบว่านางนี้เปนเอกอรรคนารี เปนคู่สร้างพระบารมีมาแต่ก่อนกาล ทรงพระเกษมสานต์โสมนัศนิ่งนึกในพระไทย พระมัทรีก็ทราบอัชฌาสัยพระภัศดา ขึ้น จึงทูลว่า ข้าแต่พระจอมจุฬาจรรโลงโลก จะนำนิกรชนให้พ้นจตุรโอฆสาคร ดังฤๅมาทรงพระอนุสรเคลือบแคลงแหน่งในข้าพระบาท ผู้ได้ฉลองลอองบทเรณุมาศพระร่มเกล้า แต่แรกรุ่นตรุณยุพเยาว์ยามเสวยสวัสดิ์ มิได้เคยระคายขุ่นหมองข้องขัดพระอาชญา ก็ย่อมทราบอยู่ใต้พระบาทาที่ชั่วดี เมื่อพระเปนเจ้าจะบริจาคข้าผู้ทาสีให้แก่ผู้ใด จะนำไปเปนทาสช่วงใช้ฤๅจะจำนงจำหน่าย ด้วยมีกระมลมุ่งหมายประสงค์ทรัพย์ ฤๅปราถนาเนื้อเลือดจะเชือดสับให้สิ้นชีวาสัญ ก็ตามแต่เจตนาผู้นั้นจักปองประโยชน์ ข้ามัทรีนี้มิได้มีมนัศพิโรธให้เคืองข้อง จะเอาชีวิตแลกายนี้ถวายฉลองพระเดชพระคุณ วิบุลบงกชบาทพระราชสามี ด้วยกตัญญูกตเวทีทางธรรมสุจริต ขอพระองค์อย่าทรงพระอาโภคพินิจนึกแหนงพระไทย จงมีพระกมลผ่องใสโสมนัศเปรมปรีดิ์ ด้วยภริยทานบารมีคือข้าพระบาท อันยินยอมพร้อมด้วยพระราชศรัทธา ในกุศลเจตนานั้นแล้วแล
เดิน (๗) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลาธิคุณพิเศษ สมเด็จท้าวสหัสเนตรจอมสิเนรุราช เมื่อทราบพระกระมลประสาทสองกระษัตรา ทรงสโมสรศรัทธาภิรมย์ร่วมฤทัยในพระทานบารมี จึงเปล่งสุนทรเทววาที่อนุโมทนาว่า ขึ้น พระพุทธเจ้าข้าบรรดามัจฉริยหมู่มาร อันเปนปัจจนิกทานมลทิน อาจจะห้ามมิให้ได้ทิพยโภคามานุษยสมบัติทั้งสิ้นก็พ่ายแพ้พินาศ ด้วยพระองค์ทรงพระประสาทภริยมหาทาน บังเกิดมหัศจรรย์บันดาลจลาจลทั่วสกลพิภพโลกา ฝูงเทพยอนุโมทนาสาธุการ ทุกฺกรํ หิ กโรติ โส พระร่มเกล้าบำเพ็ญปุตตทารทานอันยอดยาก บุคคลผู้ใดใครจะบริจาคได้ดังนี้ พฺรหฺมยานํ จักได้ชื่อว่าเปนพรหมยานประเสริฐศรีสุนทรสวัสดิ เหตุละล่วงวิถีทางอบายพิบัติภยันตราย วัปจฺจตุ จักเปนปัจจัยให้สำเร็จพระกระมลที่มุ่งหมายปรมัตถปรมาภิเศกสมโพธิพุทธภูมิบารมีญาณ โดยดังพระปณิธานนี้แล้วแล
เดิน (๘) เมื่อสมเด็จท้าววัชรินทรปิ่นสุทัศนเทพธานีตรีเนตร ตรัสโมทนาพระทานบารเมศแล้ววิจารณจินดา ว่า ควรอาคมจะคืนถวายพระเกษแก้วกันยาเยาวมาลย์มาศ จะได้อยู่บำรุงบำเรอบรมบาทดุจก่อนกาล ก็มีมธุรเทวบรรหารตรัสประภาษ ด้วยบาทพระคาถา
ททามิ โภโต ภริยํ | มทฺที สพฺพงคโสภณํ |
ตฺวญฺเทว มทฺทิยา ฉนฺโท | มทฺที จ ปตินา สห |
ยถา ปโย จ สงโข จ | อุโภ สมานวณฺณิโน |
เอวํ ตุวญฺจ มทฺที จ | สมานมนเจตสา |
อวรุทฺเธตฺถ อรญฺญสฺมึ | อุโภ สมฺมถ อสฺสเม |
ขตฺติยา โคตฺตสมฺปนฺนา | สุชาตา มาตุเปติโต |
ยถา ปุญฺญานิ กยิราถ | ททนฺตา อปราปรนฺติ |
สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท | อาคโตสฺมิ ตวสนฺติเก |
วรํ วรสฺสุ ราชิสิ | วโร อฎฺฐ ททามิ เตติ |
ขึ้น (๙) เทว ข้าแต่พระมิ่งโมลิยมกุฏิสมมุติเทพวงศ์ ข้าทชีนี้เปนเผ่าพงศ์หินเพศพวกภิกขาจาร ทั้งชรารูปวิการเกือบจะวายชีวาตม์ ไม่ควรครองพระน้องนาฏนางกระษัตริย์ ขอคืนถวายไว้ปฏิบัติบวรบาทบงสุ์ ควรแต่คู่ครองสองสุริยวงศ์บวรวิสุทธชาติ ทั้งพระหฤทัยก็ใสประสาทส่องเหมือนพระราชศรัทธา สมทั้งสองครองพรหมจรรยาพิธีศีลพิเศษ ยถา ปโย สงโข จ ดุจดังสังฆเสวต กับกระแสกระษิรวารี ก็ขาวผ่องพรรณพิสุทธิ์สีเสมอสมานปานประดุจนั้น ปุญฺญานิ กยิราถ ทั้งสองพระองค์จงทรงแสวงกุศลสรรพสุจริตบำเพ็ญพุทธการกกิจกอบก่อบวรกฤษฎาธิการ อย่ารู้อิ่มพระบวรสันดานพึงภิยโยภาพ กว่าจะบรรลุโลกุตรลาภเลิศในธาตรี เมื่อท้าวเทพโกสีย์จักถวายวรวรัษฎาพร แด่สมเด็จพระบรมหน่อชินวรรวิวงศ์ จึงกราบทูลว่าข้าพระองค์นี้ใช่พราหมณ์ชราทิชาชาติ เทวินฺโท เปนท้าวเทวราชสุราธิบดี มาสู่พระองค์ประสงค์จะประสาทศรีสถาวรสวัสดิอัฏฐวเรศ พระร่มเกษจักปราถนาพระพรอันใด ก็ตามพระราชหฤทัยจงบัณฑูรแถลง แล้วท้าวสุชัมบดีก็แสดงเทวศักดาเดช แปรพระกายินทรีย์เปนตรีเนตรเหาะระเห็จทยาน เหนือห้องท้องทิฆัมพรคัคฌานต์ในขณะนั้น เปล่งทิพยรังษีมีพรรณโอภาษ ดุจดวงดรุณภาณุมาศอุทัยทิวากร ยังยอดยุคันธรศิงขรนั้นแล
เดิน (๑๐) ตโต โพธิสตฺโต ลำดับนั้นพระบรมพุทธพงศ์โพธิสัตว์ขัตติยาธิเบศร เมื่อจะขอบวรอัฏฐวเรศแด่วัชรินทร์ ปิ่นอมรคณาสุราสุรเทพบรรพสัช ก็ดำรัสโดยสารพระคาถา
วรญฺเจ เม อโท สกฺก | สพฺพภูตานมิสฺสร |
ปิตา มํ อนุโมเทยฺย | อิโต ปตฺตํ สกํ ฆรํ |
อาสเนน นิมนฺเตยฺย | ปฐเมตํ วรํ วเร |
ปุริสสฺส วธํ น โรเจยฺยํ | อปิ กิพฺพิสการกํ |
วชฺฌํ วธมฺหา โมเจยฺยํ | ทุติเยตํ วรํ วเร |
เย วุฑฺฒา เย จ ทหรา | เย จ มชฺฌิมโปริสา |
มเมว อุปชีเวยฺยุํ | ตติเยตํ วรํ วเร |
ปรทารํ น คจฺเฉยฺยํ | สทารปสุโต สิยํ |
ถีนํ วสํ น คจฺเฉยฺยํ | จตุตฺเถตํ วรํ วเร |
ปุตฺโต เม สกฺก ชาเยถ | โส จ ทีฆายุโก สิยา |
ธมฺเมน ชิเน ปถวึ | ปญฺจเมตํ วรํ วเร |
ตโต รตฺยา วิวสเน | สุริยสฺสุคฺคมนํ ปติ |
ทิพฺยา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ | ฉฎฺฐเมตํ วรํ วเร |
ททโต เม น ขีเยถ | ทตฺวา นานุตปฺเปยฺยหํ |
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ | สตฺตเมตํ วรํ วเร |
อิโต วิมุจฺจมานาหํ | สคฺคคามี วิเสสคู |
อนิวตฺติ ตโต อสฺสํ | อฏฺฐเมตํ วรํ วเรติ |
ขึ้น (๑๑) สกฺก ดูกรท้าวเทวอดิศรสุรมเหสักข์มัฆวาน ผู้เคารพในทานเบื้องบุเรชาติ สพฺพภูตานมิสฺสร เปนองค์อรรคอิศราธิราชหมู่อมรแมน เรานี้มีประสงค์ให้พระบิตุรงค์ระงับเคืองแค้นที่โทษา จงยกพยุหแสนยาพลากร ออกมารับเราคืนนครเสวยสวรรเยศ ปฐเมตํ วรํ วเร พระพรนี้เปนประถมวเรศให้แก่เรา ประการหนึ่งปางเมื่อคืนเข้าครองพิภพสีพี สำเร็จบรมกระษัตราภิเศกศรีสวัสดิมไหสวรรย์ ฝูงนักโทษที่รับราชทัณฑ์พันธนาการ ให้ได้ปล่อยเปลื้องทุกข์ทรมานจากจำจอง ทุติเยตํ วรํ พระพรนี้เปนคำรบสองจงประสิทธิประสาท อนึ่งอเนกนิกรประชาราษฎร์ที่หนุ่มแก่แลปานกลาง จะเลี้ยงชีพก็ขัดขวางด้วยค่นจน จะพากันสัญจรเกลื่อนกล่นมาสู่สำนักเรา ขอจงได้ทำนุกปลูกเลี้ยงเหล่าทรพลชนอนาถา ให้บริบูรณ์ด้วยพิพิธโภคากระยาหาร สรรพวัตถาลังการอันอุดม ตติเยตํ วรํ พระพรนี้ให้เสร็จสมเปนคำรบสาม อนึ่งขออย่าให้ลุอำนาจมาตุคามกอปรด้วยกายทุจริต ในปรทารกรรมอธรรมกิจกามครุโทษ จงปรีดาสทารสันโดษบริสุทธิสันดาน อย่ามุ่งหมายฝ่ายมิจฉาจารจำนองจิตร จตุตฺเถตํ วรํ วเร พระพรนี้เปนสี่ประสิทธิให้แก่ข้า อนึ่งซึ่งองค์อรรคโอรสาเกิดกับอกองค์ จงมีชนมายุยืนยงยิ่งด้วยยศศักดิ์ ให้ปราบปรามหมู่ปรปักษ์ปราชเยศ โดยทศธรรมทั่วธเรศธำรงภพ ปญฺจเมตํ วรํ พระพรนี้นับเปนคำรบห้าประการ อนึ่งปางเมื่อถึงบุรีรมย์สถานกาลอรุโณภาษ ให้แสนสัตตรัตนามาศทิพพิรุณธารา จงตกเต็มสกลมหานครพิศาล ฉฏธเมตํ วรํ พระพรนี้ให้เสร็จสมปณิธานเปนคำรบหก อนึ่งเบื้องว่าบริจาคทานแก่ยาจกทั่วทั้งธรณินทร์ พระราชทรัพย์อย่ารู้สุดสิ้นสรรพโภคา อย่าพึงท้อถอยศรัทธาอาดูรเดือดร้อน จงโสมนัศสาทรอำนวยทาน สตฺตเมตํ วรํ พระพรนี้นับเปนเจ็ดประการโดยกำหนด อนึ่งเมื่อเราดับขันธ์ทิวงคตจงอุบัติบันดาล ในดุสิตเทวสถานทิพาวาส แล้วจุติสู่ปัจฉิมชาติในมนุษยโลกา จงบรรลุพระปรมาภิเศกสมโพธิ์ อฎฺฐเมตํ วรํ พระพรนี้ให้สำเร็จประโยชน์เปนแปดประการ ท้าวมัฆวานจงประสิทธิ์สมมโนรถจำนง โดยดำริห์ประสงค์นี้แล้วแล
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห | |
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา | เทวินฺโท เอตทพฺรวิ |
อจิรํ วต เต ตาโต | ปิตา ตํ ทฏฐุเมสฺสติ |
อิทํ วตฺวาน มฆวา | เทวราชา สุชมฺปติ |
เวสฺสนฺตรสฺส วรํ ทตฺวา | สคฺคกายํ อปกฺกมีติ |
เดิน (๑๒) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรสิกขา เทวินฺโท สมเด็จท้าวเทพสุเรนทราธิบดินทรเทวราช ทรงสดับบวรวัจนาตถ์นราธิเบศร์ ก็ตรัสประสาทอัฏฐวเรศให้ประสิทธิสมประสงค์ ขึ้น อจิรํ วต เต ตาโต ไม่นานนักบรมอรรคบิตุรงค์ก็จะกรีฑา ทวยหาญพหลพยุหแสนยาพลากร ออกมารับเสด็จคืนพิไชยเชตุดรดำรงราชาฉัตร เสวยพิภพสีพีบุรีรัตนราชมไหสูรย์ อย่าทรงพระจินดาอาดูรมิเปนใด คงจะเสร็จสมภิรมยฤทัยทุกสิ่งสรรพ อปฺปมตฺโต โหหิ จงมีพระกระมลมั่นอย่าประมาท ในพรหมจริยวาสเสวยสุขวิเวกเนกขัมบรมัตถบารมี โดยพุทธางกูรพิธีนั้นแล
ขึ้น (๑๓) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิญาณ เทวราชา สมเด็จท้าวมฆวานวัชรินทรเทเวศร ผู้เฉลิมมกุฎิเกษแสนสุรคณา ทั้งสองสวรรค์ชั้นกามาวจรเทพธานี สุชมฺปติ เปนพระราชสามีองค์อับศรสุรางค์พิลาศ สุชาดาสมรมาศมิ่งวิมลมาลย์ วรํ ทตฺวา ถวายพระพรแปดประการแก่พระมหาสัตว์ แล้วเสด็จนิวัติทิวังคนิเวศน์วรเวชยันต์ ในดาวดึงษาสวรรค์นั้นแล
สกฺกปพฺพํ นิฏฐิตํ
ประดับด้วยพระคาถา ๔๓ พระคาถา
----------------------------