กัณฑ์นครกัณฑ์

ความสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส

----------------------------

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อิมํ คาถมาห
ธมฺเมน รชฺชํ ถาเรนฺตํ รฏฺฐา ปพฺพาชยิตฺถ มํ
ตฺวญฺจ ชานปทา เจว เนคมา จ สมาคตา
ทุกฺกฏญฺจ หิ โน ปุตฺต ภูรหจฺจํ กตํ มยา
โยหํ สิวีนํ วจนา ปพฺพาเชสึ อทูสกํ
เยน เกนจิ วณฺเณน ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห
มาตุยา ภคินิยาปิ อปิ ปาเณหิ อตฺตโน
[ตสฺมา โทสํ อกตฺวาน
วจนํ ตฺวํ กโรหิ เม
อิสิลิงคํ นิหริตฺวา ราชเวสํ อคณฺหสีติ]

เดิน (๑) ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต สมเด็จพระมหาสัตว์ขัตติยาธิเบศเวสสันดร เมื่อได้ทรงฟังฝูงชนมาทูลวิงวอนอาราธนา จะให้ลาผนวชเนาในสมบัติ ปิตรา สุทฺธึ สลฺลปนฺโต จึงกราบทูลแด่พระเกษกระษัตริย์สญชัยชนกาธิราชว่า ขึ้น ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺตํ เมื่อข้าพระบาทดำรงรัตนราไชมไหสวรรย์ โดยทศพิธราชธรรมประเพณี ตฺวญฺจ ชานปทา เจว ดังฤๅพระร่มเกล้ากับชาวสีพีนิคมชนบท สมาคตา ประชุมชวนกันพร้อมหมดมาเนรเทศ ให้พระลูกจากนคเรศมาแรมไพร บัดนี้มาอาราธนาให้คืนเวียงไชยเสวยศิริสมบัติ ดูนี้ก็ไม่ควรแก่เหตุอันเคืองขัดแต่หนหลัง เมื่อท้าวเธอได้ทรงฟังจึงตรัสปลอบประโลมพระโอรส เพื่อจะให้อดโทษโปรดประภาษ ว่า ปุตฺต ดูกรพ่อผู้เอกอรรคชาติเฉลิมวงศ์ สิวีนํ วจนา พระบิดานี้มาลุ่มหลงเชื่อคำชาวพระนคร ปพฺพาเชสึ อทูสกํ จึงมาขับพระหน่อนเรศราชอุทรผู้เนียรโทษ ภูนหจฺจํ กระทำให้เสื่อมสูญเสียประโยชน์วุฒิอันตราย ทุกฺกฏํ ก็เปนกรรมอันทารุณกำเริบร้ายวิปริตผิดอยู่แล้ว อนึ่งธรรมดาว่าลูกแก้วเกิดกับอก ยกอย่างอภิชาติเช่นปิโยรส ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ย่อมจะเสียสละชนมชีพแทนทดสนองคุณพระชนกชนนี โดยกิจกตัญญูกตเวทีทางธรรมวิเศษ ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห จะพึงบำบัดเสียซึ่งทุกขทเวศของพระบิดามาตุราช ทั้งพระวงศาคณาญาติราชประยูร ตสฺมา โทสํ อกตฺวาน เหตุฉนั้นพ่อจงดับอาดูรดวงกระมลพิโรธ อดโทษานุโทษแก่พระบิดร ทั้งแสนเสนาประชากรชาวพิไชยเชต อิสิลิงคํ นิหริตฺวา เชิญพ่อเปลื้องเครื่องดาบสเพศผนวชไพร ราชเวสํ อคณฺหสิ จงทรงซึ่งขัตติยวิสัยเสวยสวรรยาธิปัติ เปนปิ่นสีพีบุรีรัตนราชภารา ตามคำของพระบิดานี้เถิด

เดิน (๒) โพธิสตฺโต สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ศรีวิสุทธิเทพวงศ์ มีพระกระมูลจำนงจะครองศิริสมบัติ จึงขอพรแด่สมเด็จวชิรหัตถเทเวศ ข้อที่ทูลทัดขัดพระบิตุเรศราชนรินทร์ ด้วยเกรงประชาชนจะชวนกันดูหมิ่นว่าพระไทยเบาไม่หนักหน่วง จะล่วงเข้ามายินร้าย จึงทูลสนองโดยคลองขัตติยราโชบายดังนี้ เมื่อสมเด็จพระจอมภพสีพีตรัสอาราธนาถึงทุติยวาร ก็รับพระราชโองการว่าสาธุแล้วมิช้า ขึ้น สฎฺฐีสหสฺสา ขณะนั้นหมู่ภิมุขมาตยสหชาตทั้งหกหมื่น รู้ว่าท้าวเธอรับอาราธนาจะลาผนวชคืนเข้านคเรศ ต่างคนก็ชวนกันน้อมเกษกราบบังคมทูล ว่าข้าแต่นเรนทรสูรศรีสมมุติวงศ์ นฺหานกาโล กาลนี้ก็ควรจะเสด็จโสรจสรงสุคนธวาริน ชำระพระสรีระมลทินในสกลกาย ท้าวเธอจึงตรัสว่าท่านทั้งหลายจงยับยั้งหน่อยหนึ่งก่อน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา แล้วเสด็จบทจรเข้าสู่อาศรมสถาน โอมุญฺจิตฺวา จึงเปลื้องเครื่องดาบสบริขารเรียงลำดับไว้ ทรงเสวตภูษิตผ่องใสดังสีสังข์บริสุทธิ์สอาด แล้วเสด็จยุรยาตรยังน่ามุขพระบรรณศาลา จึงทรงพระจินตนาในพระไทย ว่า อิทํ ฐานํ โอ้พระอาศรมบทนี้ไซ้เปนที่อาตมสืบสร้างศีลบารมี นับได้เก้าเดือนกับสิบห้าราตรีเปนกำหนด ได้ทรงประพฤติพรหมพรตพิธีฌาน บำเพ็ญมหามกุฎทานอันยอดยาก เสียสละภริยบุตรบริจาคเปนมหัศจรรย์ พื้นพสุธานี้ก็มาบันลือลั่นทั่วสกลโลก นับวันแต่จะวิโยคจำไกล

[โอ้พระอาศรมศาลาลัยแลละเลื่อนฟ้า ตั้งแต่นี้จะโรยราแรมนิราศ ใครเลยจะมาแผ้วกวาด เสียดายเอ่ย แต่อาวาสหว่างจงกรม ทั้งแท่นที่ประธมศิลาแก้ว นับวันแล้วแต่จะจำไกล โอ้พระอาศรมจะประไลยด้วยเพลิงป่า ทั้งฝูงสัตว์นานาจะยื้อแย่ง จะยับเยินทั่วทุกหนแห่งเห็นเวทนา] ทรงพระอาลัยในพระบรรณศาลามิใคร่จะนิราศ ปทกฺขิณํกตฺวา แล้วกระทำประทักษิณพระอาวาสสิ้นตติยวาร ถวายทศนัขสโมธานด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วเสด็จสถิตย์ยังน่ามุขพระอาศรม ทรงพระปรีดาภิรมย์ราชหฤทัย ด้วยสมดังพรสหัสนัยนั้นแล

ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา รโชชลฺลํ ปวาหยิ
[สพฺพํ วตฺตํ จชิตฺวาน
ราชเวสมธารยีติ]
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
สีสนฺหาโต สุจิวตฺโถ สพฺพาลงการภูสิโต
ปจฺจยํ นาคมารุยฺห ขคฺคํ พนฺธํ ปรนฺตปํ
ตโต สฎฺฐีสหสฺสานิ โยธิโน จารุทสฺสนา
สหชาตา ปริกรึสุ นนฺทิยนฺตา รเถสภํ
ตโต มทฺทิญฺจ นฺหาเปสุํ สิวิกญฺญา สมาคตา
เวสฺสนฺตโร ตํ ปาเลตุ ชาลี กณฺหาชินา จุโภ
อโถปิ ตํ มหาราชา สญฺชโย อภิรกฺขตูติ

เดิน (๓) ตโต เมาะ ตทนนฺตรํ ในลำดับนั้นหมู่ภิมุขมาตย์ราชมนตรี ทั้งแสนสุรเสนีในนอกตำแหน่ง ก็เร่งรัดจัดแจงตามกระทรวง สำหรับพระราชพิธีทั้งปวงทุกประการ ขึ้น กปฺปกา ฝ่ายชาวพนักงานเครื่องต้น ก็ถวายเจริญพระเกษมัสสุมงคลควรแก่ราชกิจ แล้วเชิญบรมบพิตรสรงพระกระยาสนาน อันปรุงด้วยสุคนธ์ธารกลิ่นตระหลบ ชำระพระสรีราพยพฟุ้งขจร สพฺพาภรณภูสิตํ แล้วทรงเครื่องศิริราชวัตถาภรณ์พิจิตรจำรัส อันล้วนแล้วด้วยสัตตรัตนามาศ งามดังองค์สมเด็จวัชรินทรเทวราชอันเรืองเดช ราชเวสมธารยิ ทรงเสวยขัตติยเวศวิสุทธิวงศ์ จึงสมเด็จบรมบิตุรงค์ราชนรินทร์ ก็อัญเชิญพระเอกอรรคบดินทร์อดุลยโอรส อันรุ่งเรืองด้วยดิเรกยศราชศฤงคาร เสด็จขึ้นสู่อุทุมพรสาขพิมานอันเลิศแล้ว สถิตย์เหนือพระที่นั่งบัลลังก์แก้วกาญจนมณี เบื้องบนรัตนราษีอันโอภาศ ประดับด้วยเบญจพิธราชกกุธภัณฑ์สรรพราชูประโภคพร้อมเสร็จ อภิสิญฺจึสุ จึงอภิเศกสมเด็จพระหน่อนเรศร์ เปนบรมขัตติเยศยอดมนุษยนิกร ผ่านพระพิไชยเชตุดรดำรงราชย์ แทนองค์สมเด็จชนินทรชนกนารถในเสวตฉัตร สืบเสวยสวรรยาธิปัติปิ่นประชาชน ทั่วสกลพิภพสีพี แล้วถวายมุรธาภิสิตวารีแก่บรมกระษัตริย์ สรงด้วยสังข์ทักษิณาวัฎวิไชยมงคล แลสังขสุวรรณหิรัญวิมลทั้งสามประการ ท้าวเธอก็กอปรด้วยพระเกียรติยศไพศาลสุดซึ่งจะพรรณา เมื่อทอดพระเนตรในทิศานุทิศใด ก็ชลีกรไสวอยู่เดียรดาษ มุขมงคลิกา ขณะนั้นหมู่ทิชาชาติราชปุโรหิต ผู้เชี่ยวชาญชำนาญนิติไตรเพท ก็โอมอ่านอิศวรเวทวิษณุมนต์ อวยศรีสวัสดิมงคลถวายไชย ตุริยานิ ปคฺคณฺหึสุ ชาวพนักงานที่ประโคมขานไขมโหรทึก ทั้งดุริยางคก้องกึกแตรสังข์ เสียงฆ้องกลองประนังเนียรนาท สะเทือนท้องวนาวาศหิมวันต์ เมฆนิโฆโส วิย ดุจสำเนียงอัสสนีสนั่นในห้องมหาสมุท อมจฺจา ฝ่ายภิมุขมาตย์ราชบุรุษเสวกากร ก็ตกแต่งพระยาจัยกุญชรเสวตคช ประดับด้วยหัตถาลงกตกาญจนามัย ประทับเทียบยังเกยไชยคอยรับเสด็จ โพธิสตฺโต ส่วนพระบรมหน่อสรรเพชญ์โพธิพงศ์ ก็สอดสพักพระแสงขรรค์ธำรงวราวุธวิเศษ ปรนฺตปํ อาจมล้างอรินทรปราชเยศทั่วทิศาภาค เสด็จทรงมงคลรัตนนาคนาเคนทร์ อันเปนบรมอรรคคเชนทราอาศน์ สฏฺฐีสหสฺสานิ ฝ่ายภิมุขมาตย์สหชาตทั้งหกหมื่น ก็ชวนกันชมชื่นปรีดา ต่าง ๆ ประดับกายาด้วยศุภาภรณ์ มีอาวุธประจำกรถ้วนทุกคน ปริกรึสุ ก็แวดล้อมพระจอมภพสกลมกุฎเกษกระษัตริย์ สิวิกญฺญาโย ฝ่ายอเนกอนงนารีรัตนราชกัญญา ก็เชิญเสด็จพระสร้อยสุณิสามัทรีศรีอรรคเรศ ให้ลาดาบสินีเพศผนวชไพร นฺหาเปสุํ แล้วโสรจสรงเสาวคนธมาไลยอุทกธารา ช่วยกันขัดสีพระกายายอดเยาวมาลย์ แล้วทรงบวรวัตถาลังการวิลัยเลิศ ต่าง ๆ ก็อวยศรีสวัสดิ์ประเสริฐประสิทธิพร ให้เสวยสุขสถาวรวายทเวศ สรรพทุกข์ภัยพิบัติเหตุอย่าแผ้วพาน จงมีพระบวรสันดานชื่นชมด้วยบรมญาติ ทั้งสมเด็จพระชนกนารถราชสามี แลพระกัณหาชาลีสองกระษัตริย์ อย่ารู้มีพระไทยโทมนัศแหนงกัน จงทรงสมัคสโมสรเกษมสันต์สารภิรมย์ ด้วยมหามิตรธรรโมดมเปนนิรันดร ในพระนครนี้แล้วแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน
อานนฺทิยํ ปริกรึสุ รมฺมณีเย ศิริพฺพเช
อิทญฺจ ปจฺจยํ ลฺทธา ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน
อานนฺทจิตฺตา
สุมนา
ปุตฺเต สงคมฺม ลกฺขณา
อิทญฺจ ปัจฺจยํ ลทฺธา ปุพเพ กิเลสมตฺตโน
อานนฺทจิตฺตา ปีติตา สห ปุตฺเตหิ ลกฺขณา
เอกภตฺตํ ปุเร อาสึ นิจฺจํ ถณฺฑิลสายินี
อิติ เม ตํ วตฺตํ อาสิ ตุมฺหํ กามาหิ ปุตฺตกา
ตํ เม วตฺตํ สมิทฺธชฺช ตุเมฺห สงคมฺม ปุตฺตกา
มาตุชํปิ ตํ ปาเลตุ ปิตุชํปิ จ ปุตฺตกา
อโถปิ ตํ มหาราชา สญฺชโย อภิรกฺขตุ
ยํ กิญฺจิตถิ กตํ ปุญฺญํ มยฺหญเจว ปิตุ จ เต
สพฺเพน เตน กุลเลน อชโร อมโร ภวาติ

เดิน (๔) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรวิเศษ อุโภ ขตฺติยา อันว่าบรมขัตติเยศทั้งสองพระองค์ คือสมเด็จพระเพสสันดรพงศ์พิสุทธิเทวราช แลพระเอกอรรคอนงค์นาฎมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จึงทรงพระอนุสร อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ท้าวเธอมาได้คืนครองศิริสมบัติ สืบเสวยบวรเสวตฉัตรเฉลิมวัง ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน จึงทรงพระอนุสรคำนึงถึงความหลังตั้งแต่บรรพชิตเพศ เสวยทุกขทเวศในกลางไพร บัดนี้ก็บริบูรณ์ไปด้วยมไหสุริยศฤงคาร ควรที่จะเบิกบานทั่วพระธรณี อานนฺทเภริญฺจาราเปตฺวา จึงให้เอาอานันทเภรีอันวิจิตรด้วยพิพิธกาญจนลดามาศ ไปตีป่าวประกาศแก่มหาชน ในเวิ้งหว่างวนาสณฑ์ศีขเรศประเทศวงกฎ ว่าบัดนี้พระเอกอรรคปิโยรสราชสุริยวงศ์ เสด็จคืนครองพิภพดำรงดังก่อนเก่า พระราชอาณาจักรเปนของพระลูกเจ้าตั้งแต่นี้ไป อานนฺทิยํ ปริกรึสุ ให้จตุรงคเสนาในนิกรประชา เล่นอานันทมหามหาศพคำรบตติยวาร เสียงนี้ก็เอิกเกริกสะเทือนสะท้านวนาวาศ ขึ้น ลกฺขณา อันว่าสมเด็จพระยอดเยาวมาลย์มาศมกุฎิคณานาง อันทรงศุภลักษณสรรพางค์วิไลยเลิศ เมื่อประสบพระโอรสประเสริฐสองกุมารา ก็ทรงพระโสมนัศปรีดาด้วยพระหน่อกระษัตริย์ จึงมีพระเสาวนีตรัสปลอบประโลมพระลูกแก้วแล้วรับขวัญ ว่าเจ้าแม่เอ่ย แม่ลูกได้เห็นหน้ากันเมื่อยามยาก จำเดิมแต่วันพราหมณ์มาพรากไปจากอก พระชนนีนี้ก็แสนวิตกตั้งแต่ตรึกตรอม จนพระสรีรรูปนี้ก็มาซูบผอมผิดพิกล เสวยแต่อัสสุชลครวญคร่ำร่ำกำสรด ด้วยบำราศพระโอรสทั้งสองรา พระแม่นี้ก็มาตั้งวัตรจริยาทรมานตน เอกภตฺตํ ปุเร อาสึ เมื่อยามเสวยก็เสวยแต่วันละหนทนทุกขทเวศ ยามไสเยศก็ผธมกับปถพี ปราศจากบรรจฐรณ์แท่นที่จะรองกาย ตั้งพระไทยมั่นหมายจะประสบพบพระลูกแก้ว ตํ เม วตฺตํ สมิทฺธชฺช บัดนี้วัตรปฏิบัตินั้นก็สำเร็จแล้วด้วยลุปราถนา แม่มาได้เห็นหน้าเจ้าทั้งสององค์ ก็สมเหมือนจิตรแม่ประสงค์ในวันนี้ ปุตฺตกา ดูกรแม่กัณหาชาลีหน่อกระษัตริย์ อันว่าสิ่งแสนโสมนัศปรีดา อันบังเกิดด้วยเสนหาการุญจิตร แห่งสมเด็จบรมบพิตรผู้ชนกนารถราชชนนี ทั้งพระไอยกาธิบดีอันเรืองเดช ปาเลตุ จงรักษาเจ้าผู้ดวงเนตรทั้งสององค์ ยํ กิญฺจิตถิ กตํ ปุญฺญํ อนึ่งทั้งพระราชอานิสงษ์กุศลสัจ มีต้นว่าศีลสมาธิวัตรบวรทาน อันพระชนกชนนีมีอภินิหารมาแต่ปางก่อน ตราบเท่าถึงบรรพชากรในครั้งนี้ จงมาคุ้มครองสองศรีสุริโยรส ยชโร ตฺวํ อมโร ภว ให้เจ้าเจริญพระยศนิราศโรค สิ่งสรรพทุกข์โศกอย่าบีฑา จงยืนพระชนมพรรษาสืบสุริยวงศ์ เสวยพิภพดำรงราชอาณาเขตร ในกรุงสีพีพิไชยเชตุดรมหานครนั้นแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
กปฺปาสิกญฺจ โกเสยฺยํ โขมโกทุมฺพรานิ จ
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ
ตโต โขมญฺจ กายูรํ องคทํ มณิเมขลํ
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ
ตโต โขมญฺจ กายูรํ คีเวยฺยํ รตนามยํ
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ
อุณฺณตํ มุขผุลฺลญฺจ นานารตฺเต จ มาณิเย
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ
อุคฺคตฺถนํ คิงคมกํ เมขลํ ปฏิปาทุกํ
สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ
สุตฺตญฺจ สุตฺตวชฺชญจ อุปนิชฺฌาย เสยฺยสิ
อโสภถ ราชปุตฺตี เทวกญฺญาว นนฺทเน
สีสนฺหาตา สุจิวตฺถา สพฺพาภรณภูสิตา
อโสภถ ราชปุตฺตี ตาวตึสาว อจฺฉรา
กทฺทลี วาตา ฉุปิตา ชาตา จิตฺตลตาวเน
ทนฺตาวรณสมฺปนฺนา ราชปุตฺตี อโสภถ
สกุณี มานุสินีว ชาตา จิตฺตปตฺตา ปติ
นิโคฺรธปกฺกพิมฺโพฏฐิ ราชปุตฺตี อโสภถ
ตสฺสา จ นาคมาเนสุํ นาติวุฑฺฒํว กุญฺชรํ
สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวํ
สา มทฺที นาคมารุยฺห นาติวุฑฺฒํว กุญฺชรํ
สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวนฺติ

เดิน (๕) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิอินทรีย์ ส่วนสมเด็จพระผุสดีศรีสุนทรวิลาศ ผู้เปนบรมสัสสุราชมารดร ก็ทรงพระภูษาลังกาภรณ์อันเพริศแพร้ว ใส่ในผอบแก้วกาญจนมณี พระราชทานไปแก่พระสร้อยสุณิสามัทรีให้ประดับองค์ ล้วนแต่สรรพเครื่องทรงกระษัตรา ขึ้น กปฺปาสิกญฺจ คือพระภูษากับปาสิกพัตร เกิดแต่กรุงกาสิกรัฐบุรีรมย์ กปฺปาเสน กตํ อันนายช่างทอด้วยด้ายอุดมดูลเอียดอ่อน โกเสยฺยํ ทั้งโกไสยวัตถาภรณ์พรรณไพบูลย์ บังเกิดแต่ตระกูลโกไสยราฐ อันแล้วไปด้วยใยกิมิชาติช่างรจนา เปนสีสุวรรณอาภาพิพิธพรรณราย วิจิตรไปด้วยลวดลายนี้ก็หลายอย่าง ทั้งพื้นพรรณต่าง ๆ ปลาดกัน โขมํ มีทั้งโขมภูษาพรรณพิสุทธิเสวต อันขจิตรไปด้วยเปลือกไม้วิเศษในโขมราฐ โกทุมฺพรานิ จ อีกทั้งบวรวัตถาชาติต่างพรรณ บังเกิดแต่เขตรขัณฑ์โกทุมพรรัฐ อันนายช่างทอด้วยขนสัตว์วิจิตรบรรจง สตสหสฺสคฺฆนิกํ กำหนดราคาคงได้แสนตำลึง แต่ละผืนละผืนหนึ่งก็ค่ามาก ล้วนแต่พระภูษาหายากทั้งสี่ตระกูล อนึ่งทั้งเครื่องอลงกรจรูญเรืองจำรัส กายุรํ เมาะ สุวณฺณวลยํ คือสุวรรณพาหุรัดบวรวิลัย ล้วนสัตตรัตนามัยอันไพโร องคทํ ทั้งกุณฑลมณีโชติชัชวาล รัตตพัตรแก้วกาญจโนภาศ โขมญฺจ กายุรํ ทั้งสุวรรณรัตนราชธำมรงค์ สำหรับจะสอดสวมทรงทุกนิ้วพระหัตถ์ คีเวยฺยํ รตนามยํ ทั้งสายสร้อยนพรัตนอลงกร เปนเครื่องพระกัณฐาภรณ์บวรวิเศษ อุณฺณตํ เมาะ อุณฺหิสปสาธนํ ทั้งพระมหามกุฎวชิเรศอย่างขัตติยนารี เปนเครื่องประดับพระเกษโมลีวิลัยเลิศ มุขผุลฺลญฺจ อีกอลงกตประเสริฐสุพรรณมาลา สำหรับจะแซมใส่พระเกษานางกระษัตริย์ ล้วนแล้วด้วยพิพิธรัตนามาศ เปนเครื่องเฉลิมพระนลายอันโอฬาร อุคฺคตฺถนํ คิงคมกํ ทั้งพระปโยทรอลังการกาญจนบวร อีกพระอังสาภรณ์พิจิตรเพริศแพร้ว ปฏิปาทุกํ ทั้งฉลองพระบาทแก้วกนกมณี ล้วนแต่เครื่องต้นอย่างดีสรรพทุกสิ่ง ขึ้น ราชปุตฺตี ส่วนสมเด็จพระยอดเยาวมาลย์มิ่งมกุฎิกัญญา อันเปนบรมนเรนทรธิดาดวงกระษัตริย์ ผู้ทรงศิริสวัสดิ์วิลาศเลิศมนุษยคณานาง ด้วยบวรลักษณเบญจางค์เจริญเนตร ก็ทรงสรรพภูษิตวิเศษศุภาภรณ์ เทวกญฺญาว นนฺทเน งามดังองค์อินทรอับศรเสด็จประพาศ ยังทิพยนันทวันราชอุทยาน สุวณฺณกทฺทลี วิย พระอรองค์อ่อนระทวยปานกาญจนกัทลี บังเกิดในสวนศรีสักกเทเวศ อันชื่อจิตรลดาวัลย์วิเศษแสนศุขภิรมย์ ยามเมื่อต้องลมรำเพยพาน ก็น้อมยอดทอดก้านอยู่ไปมา วิชิมฺหมานา ผู้ใดได้ทัศนาการก็พิศวง ด้วยพระศิริลักษณลออองค์อันวิลาศ นิโคฺรธปกฺกพิมฺโพฎฺฐิ ทั้งบวรโอษฐเอี่ยมสอาดอำไภ มีพรรณดังผลไทรที่สุกสด สรรพสิ่งงามพร้อมหมดทั่วพระอินทรีย์ มานุสินีว ดุจหนึ่งนางเทพกินรีวิหคอนงค์ มีรูปทรงนี้ก็เหมือนมนุษย์บริสุทธิสมบูรณ์ ทั้งปีกหางก็วิจิตรจรูญเจริญตา แล้วบินฟ้อนร่อนราในอากาศ ตสฺสา จ นาคมาเนสุํ ขณะนั้นหมู่ภิมุขมาตย์ราชมนตรี ก็ผูกคชสารศรีพระที่นั่งต้น อันเปนมหามงคลคเชนทร นาติวุฑฺฒํ มิได้แก่อ่อนเปนมัชฌิมชาติเชื้อกุญชรเชี่ยวชาญชำนาญในพิไชยยุทธ์ สตฺติกฺขมํ อาจอดกลั้นสรรพสาตราวุธหอกปืน ไม่ย่อย่นยั่งยืนอยู่สงคราม อีสาทนฺตํ มีงาอันงอนงามดังงอนรถ ดูนี้ก็ช้อยชดเชิดขึ้นขวา อุรุฬหฺวํ ทรงพิริยกำลังกล้าว่องไว อาจจะปราบอรินทรให้ปราชัยทั่วทิศาดล ประดับด้วยหัตถาภรณ์เครื่องต้นเสร็จแล้ว ก็นำมาประทับกับเกยแก้ววิจิตรรูจี จึงสมเด็จพระมัทรีศรีวิสุทธิกัญญา นาคมารุยฺห ก็ทรงบรมไอยราคชาชาติ แวดล้อมไปด้วยดิเรกราชบริพาร อุโภ ขตฺติยา กระษัตริย์ทั้งสองก็ประดับด้วยแสนศฤงคารมหัติยศเยศ เสด็จถึงขันธาวารประเทศที่ประทับไพร ย้าย สญฺชโย ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยราชไอยกา ก็พาบรมบุตรนัดดาคณานิกรอนงค์ ทั้งหมู่พหลจตุรงคราชโยธี สิบสองโขเภนีเที่ยวประพาศ ชมพนมพนัศพนาวาศหิมพานต์ มาสมตฺตํ กำหนดได้เอกมาศประมาณโดยนิยมมา สรรพสัตว์มิได้บีฑาซึ่งกันแลกัน ในจังหวัดวนาสัณฑ์ศิงขรเขตร มหาสตฺตสุส เตเชน ด้วยบวรบุญฤทธิศักดาเดชสมดึงสบารมี แห่งหน่อพระชินสีห์นั้นแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
สพฺพมฺหิ ตํ
อรญฺญมฺหิ
ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน นาญฺญมญฺญํ วิเหฐยุํ
สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน นาญฺญมญฺญํ วิเหฐยุํ
สพฺพมฺหิ ตํ
อรญฺญมฺหิ
ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ
เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน
สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ
เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน
สพฺพมฺหิ ตํ
อรญฺญมฺหิ
ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ
นาสฺส
มญฺชู นิกุชฺชึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน
สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ
นาสฺส มญฺชู นิกุชฺชึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน

เดิน (๖) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิสังวร ปางเมื่อพระเวสสันดรอดุลยดวงกระษัตริย์ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน อันทรงประพฤติความเจริญศิริสวัสดิ์แก่ชาวสีพีราฐ เสด็จจากสักกทัตติยาวาศวนาศรม สรรพสัตว์ในพนัศพนมแนวพนาเวศ ทั่วปริมณฑลขอบเขตรทั้งสามโยชน์เปนกำหนด ซึ่งสมเด็จพระยอดประยุรยศมกุฎิกระษัตรา อันทรงแผ่พรหมวิหารสิมาไปกางกั้น คือข่ายเพ็ชรทั้งเจ็ดชั้นช่วยกำบังภัย ยาวนฺเตตฺถ ประมาณมากน้อยเท่าใดแต่บรรดามี เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ ก็มาสโมสรประชุมในประเทศที่อันเดียวดูอัศจรรย์ แล้วต่าง ๆ ก็ปรับทุกข์กันตามประสาสัตว์ ว่าพระเดชได้อยู่คุ้มสรรพอุปัทวันตราย เราท่านทั้งหลายนี้ก็กอปรไปด้วยเมตตาการุญจิตร มิได้เกิดประทุษฐกิจก่อการพาลพิบัติเหตุ บัดนี้พระปิ่นปกเกษจะจากไกล ขึ้น อิโต ปฏฺฐาย ชาวเราเอ่ยจำเดิมแต่นี้ไปจักอนาถา ลชฺชา วา น ภวิสฺสติ ต่าง ๆ จะไม่สำรวมกายละอายบาป จักริเริ่มกันทำกรรมอันหยาบอย่างบูราณกาล จะเบียดเบียนกันเปนอาหารตามประโยชน์ตน สรรพสัตว์จัตุบททวิบาทสิ้นทั้งไพรสณฑ์ชวนกันเศร้าโศก ด้วยมหาบุรุษวิโยคอาดูร นาสฺส มญฺชู นิกุชฺชึสุ มิได้เปล่งเสียงไพเราะจำรูญจำเริญใจ ให้เย็นยะเยียบเงียบสงัดไปทั่วพนาเวศ เดิน สญฺชยนรินฺโท ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยนราธิเบศธรมบิดา ก็ตรัสถามถึงมรรคมรรคาอันประดับ มุขมนตรีก็กราบทูลว่าเสร็จสรรพโดยพระราชประสงค์ ขออัญเชิญพระยอดขัตติยวงศ์มกุฎิเกษ เสด็จดำเนิรพลนิวัตนนิเวศเวียงไชย ท้าวเธอก็สั่งให้ไปทูลพระเอกอรรคดไนหน่อกระษัตริย์ เภริญฺจาราเปตฺวา แล้วให้เอาพิไชยเภรีรัตน์ไปตีประกาศ แก่หมู่จตุรงคประชาราษฎร์สิ้นทั้งปวง กำหนดจะยกพยุหทัพหลวงคืนเข้ากรุงไกรพระพิไชยสีพี มหาบุรีนั้นแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ปฏิยตฺโต ราชมคฺโค วิจิตฺโต ปุปฺผสณฺฐิโต
วสิ เวสฺสนฺตโร ราชา ยตฺถ ยาว เขตุตฺตรา
ตโต สฎฺฐีสหสฺสานิ โยธิโน จารุทสฺสนา
สมนฺตา ปริกรึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน
โอโรธา จ กุมารา จ เวสิยานา จ พฺราหฺมณา
สมนฺตา ปริกรึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา รถิกา ปตฺติการกา
สมนฺตา ปริกรึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน
กโรฏิยา จมฺมธรา ลิลฺลิหตฺถา
สุวมฺมิกา
ปุรโต ปฏิปชฺชึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน
๑๐[สมาคตา ชานปทา
เนคมา จ สมาคตา
สมนฺตา ปริกรึสุ
เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน]

เดิน (๗) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงจตุปาริสุทธศีลวิเศษ ราชมคฺโค อันว่าท่องแถวสกลวิถีทุเรศราชมรรคา ปฏิยตฺโต อันบุคคลตกแต่งประดับประดาดมโหฬาร ดุจวันวิสาขบูชากาลนักขัตรมงคล เปนต้นว่าทุบปราบให้ราบรื่น เอาทรายรายเรี่ยพื้นสอ้านสอาด วิจิตฺโต วิจิตรไปด้วยธงฉัตรกัทลีมาศมีนี้ต่าง ๆ ตั้งราชวัตรทั้งสองข้างทางเปนระยะไป อีกทั้งหม้อน้ำแลหม้อดอกไม้มีพรรณนานา ปุปฺผสณฺฐิโต ดาษไปด้วยกุสุมมาลาสรรพสิ่งพิเศษ ทุพฺภบุปฺผญจ คือดอกหญ้าแพรกแลเข้าสารสุทธเสวตกับเมล็ดพรรณผักกาด สุมนเมว จ อีกทั้งสุมนบุบผาชาติโอฬาร ลาชปญฺจมานิ มีเข้าตอกเปนคำรบห้าประการพอครบสิ่ง จัดได้ชื่อว่าของบูชาอันยิ่งอย่างบุรพประเพณี โปรยปรายไปในราชวิถีทั่วทั้งปวง ประมาณมรรคประเทศทางหลวงได้หกสิบโยชน์เปนกำหนด ตั้งแต่วงกฎบรรพตตราบเท่าถึงพระนคร

ขึ้น ฉ ขตฺติยา ส่วนสมเด็จบรมอดิศรทั้งหกกระษัตริย์ ก็ทรงวิภูษิตรัตนอลังการ แล้วต่าง ๆ เสด็จทรงคเชนทราธารพระที่นั่งต้น อันประดับด้วยหัตถาภรณ์เลิศล้นล้วนกนกมณี ตโต สฎฺฐีสหสฺสานิ ลำดับนั้นหมู่สหชาตมนตรีทั้งหกหมื่น วันเกิดร่วมวันทันคืนกับบรมนเรศ โยธิโน ล้วนแต่ทรงสุรศักดาเดชในยุทธสงคราม จารุทสฺสนา มีกายอันดูงามไปด้วยเครื่องประดับควรจะจับใจ ถืออาวุธแกว่งไกวประจำกร ปริกรึสุ ก็แห่ห้อมพระจอมพิภพเชตุดรเดียรดาษ โอโรธา จ กุมารา จ ส่วนแสนสุรางคอนงคนาฎนิกรกัญญา กับทั้งขัตติยกุมาราเหล่าประยุรวงศ ต่าง ๆ ก็ขึ้นสู่อลงกตสีวิกามาศ ทั้งรถรัตนอัศวราชชาติกุญชร โดยตำแหน่งฐานันดรแห่งตนแลตน เวสิยานา จ พฺราหฺมณา กับทั้งพราหมณ์อันชำนาญมนต์ในไตรเวท แลพ่อค้าวาณิชเพศสิ้นทั้งปวง ก็โดยเสด็จในกระบวนทัพหลวงพยุหยาตรา

๑๑[หตฺถาโรหา พวกพลคชโยธี ขึ้นขับขี่กุญชรนิกร นับตัวกเรนทรได้ละสี่คน จตุลังคบาทพลรักษาเท้า เท้าละสองประสมเข้าเปนแปดนาย นับทั้งคนคอกลางท้ายอีกสี่ กำหนดหนึ่งหัตถีมีสิบสองคน สามหัตถีสิริพลสามสิบหก ยกพยุหยาตรา

อนิกฏฺฐา พลอาชาชาติพาชี อัศวโยธีขึ้นขี่ขับ อีกชนสำหรับรักษาบาทราชาข้างละคน อาชาหนึ่งนับพลได้สามนาย ตามกันผันผายสามอาชา สิริโยธาเก้าคน จัดเปนอัสสานิกพหลหนึ่งซึ่งตรวจตรา แต่งตามอัศวโยธาพยุหสงคราม

รถิกา พลรถงอนงามเยียระยง เสนารถขึ้นดำรงบนบัลลังก์ เปนสองกับสารถีนั่งเมืองน่า ขับอาชาเบื้องย่าง อีกทหารสองข้างสองคนพลรักษารถ เปนสี่สนทั้งหมดรถหนึ่งมี สามรถทวาทสโยธีโดยขบวน จัดเปนรถานิกถ้วนกระบวนหนึ่งซึ่งตกแต่งตามตำแหน่งรถพยุหยาตรา

ปตฺติกา หนึ่งพลโยธาเดินเท้า ไต่เต้าตามกันชั้นละสี่ จัดเปนองค์ปัตตานิกโยธีหมู่หนึ่งพึงคณนา นับพลหัยรถคชโยธาเดินเท้า สิ้นทั้งสี่เหล่าเข้าขบวน คิดเปนทวยหาญหกสิบถ้วน กระบวนหนึ่งซึ่งไตรตรวจ เปนหมู่หมวดโดยนิยมดังนี้ สิริดุรงครถคชหัตถี สิ่งละหมื่นสี่สี่พรรณ ปันออกเปนสามกระบวน คิดเปนทวยหารหกหมื่นหกพันหกร้อยหกสิบหกจำนวนจำแนกกอง เศษเหลือสิ่งละสองสิ้นทั้งสามเหล่า

การกา หนึ่งพวกพลชาวงานไต่เต้าตามพยุหทัพ ทั้ง ๕ หมู่ มีพร้อมสรรพทุก ๆ คณะ คือช่างไม้ช่างทองจัดเปนหมู่หนึ่งซึ่งประจำกอง มีคนงานเปนคำรบสองก็สี่อย่าง คือช่างหม้อช่างชุนช่างทอหูก ช่างฉลาดร้อยตรองผูกภู่พันบุบผา หมู่สามพวกอุสุการากระทำธนู และหมู่ช่างย้อมพร้อมพลชาวงาน มีจอบเสียมสำหรับการขุดบ่อสระ ปะที่ขัดสนชลวารี หมู่คำรบสี่ล้วนช่างกลบกและช่างวาด กับช่างสานเสื่อสาดกวาดเทอยากเยื่อเชื้อชานดอกไม้ อีกช่างเหล็กช่างกลึงไปในกองทัพ หมู่ห้ามีพร้อมสรรพทุก ๆ คณะ คือช่างหนังช่างกระทำรถ ครบจำนวนถ้วนหมดอยู่ทุกกอง เสียงสินธพดุรงค์ร้องหือฤๅหรรษ เสียงกเรนทรคำรนสนั่นเนียรนาทดง เสียงรถผัดผันกงสะเทือนสะท้าน เสียงพลโยธาหาญโห่ร้องก้องกึกในกลางป่า]

ย้าย หตฺถาโรหา พวกพลคเชนทรเชี่ยวชาญ ขับขี่สารดูนี้องอาจ อนิกฏฺฐา พลอาชาชาติเรี่ยวแรง ล้วนแต่เข้มแข็งว่องไว รถิกา พลรถเรียงไสวแลเปนทิว ธงชายปลิวปัดปลายงอน ปตฺติการกา พลบทจรดูนี้ก็เหี้ยมหาญ ล้วนชำนิชำนาญในการศึก หมู่พหลจตุรงคพิลึกแลทั้งสี่เหล่า งามเพริศเพราไปด้วยเครื่องประดับสรรพสรรพางคพิลาศ กโรฏิยา สวมหมวกมาศพื้นทอง ใส่เกราะกรองเสื้อหนัง อาจป้องกำบังสรรพาวุธ เครื่องพิไชยยุทธณรงค์ ลิลฺลิหตฺถา มีมืออันทรงศรธนูชูโล่ห์ดั้งแลดาบเขนเปนขนัดแน่น แสนเสโลห์โตมรกุทัณฑ์ทวน ตามกระบวนยุทธพยุหยาตรล้วนแต่สามารถมหิมา อาจง้างเอางาคชเมามัน มิได้ถอยหนีกันด้วยกล้าแขง ต่าง ๆ ก็ถืออาวุธกวัดแกว่งสำแดงเดช ปุรโต ปฏิปชฺชึสุ ก็แห่เสด็จบรมขัตติยาธิเบศรเปนกระบวนหน้า คงเดิม เนคมา จ สมาคตา ฝ่ายฝูงประชาชาวนิคมชนบท ก็ตามแวดล้อมพระจอมประยุรยศยอดขัตติยวงศ์ ท้าวเธอก็ให้ขยายเขยื้อนพยุหจตุรงคราชโยธี มาโดยลำดับสถลวิถีแถวเถื่อนทุเรศ ประทับร้อนแรมในหิมเวศตามระยะทาง ให้เดินนิกรแสนเสนางคแต่วันละโยชน์เปนกำหนด พลางชมพนมพนัศบรรพตพฤกษคณา ทั้งห้วยละหานเหวผาศิลาลาศ เสนาะเสียงปักษาทิชาชาติร้องระงมไพร ทั้งเสียงจักกระจั่นพรรณเรไรระรี่เรื่อย ฟังนี้ก็ฉ่ำเฉื่อยชื่นอาวรณ์ หกกระษัตริย์เสด็จโดยพนาดรดูมโหฬาร ด้วยแสนสุรังคพลาหาญแหนแห่แลพิลึก สนั่นเสียงหัยรถคชก้องกึกในกลางดง สฏฐีโยชนมคฺคํ สิ้นมรรคาลัยไพรระหงหกสิบโยชน์โดยนิยมมา เดิน ถ้าจะนับแต่วันบรรพชากำหนดนาน ถึงเจ็ดเดือนจึงได้พระราชทานสองกระษัตริย์ ชูชกพารีบรัดมาโดยมรรคา สิบห้าวันจึงถึงพระภาราเชตุดร แต่ตระเตรียมพลนิกรอยู่เจ็ดวัน จึงยกไปยังเขตรขัณฑ์คิรียวงกต กว่าจะบัลลุพระอาศรมบทถึงเดือนหนึ่งกับยี่สิบสามราตรี แต่ยับยั้งอยู่ในพนาลีได้เดือนเศษ จึงยกพลนิวัตนนิเวศเวียงไชย สองเดือนก็ถึงกรุงไกรพระพิไชยสีพี สิริเปนปีหนึ่งกับสิบห้าราตรีไม่เคลื่อนคลา จึงคืนเข้าพภารานี้แล้วแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
เต ปาวึสุ ปุรํ รมฺมํ พหุปาการโตรณํ
จิตฺตา ชานปทา อาสุํ เนคมา จ สมาคตา
อนุปฺปตฺเต กุมารมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเน
เจลุกฺเขโป ปวตฺเตตฺถ อาคเต ธนทายเก
นนฺทิมฺปเวสิ นคเร พนฺธโมกฺโข อโฆสถาติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ชาตรูปมยํ วสฺสํ เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท
เวสฺสนฺตร ปวิฏฺฐมฺหิ สิวีนํ รฎฺฐวฑฺฒเนติ

เดิน (๘) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรอินทรีย์ เต ขตฺติยา อันว่าบรมนราธิบดีทั้งหกกระษัตริย์ เสด็จถึงบุรีรัตน์สีพีราฐ พหุปาการโตรณํ อันประกอบด้วยซุ้มทวารกาญจนามาศอยู่เรียงราย ทั้งปราการป้อมค่ายนี้ก็มั่นคง ดูก็สูงทรงเงื้อมตระหง่านงาม อาจป้องกันสรรพสงครามหมู่อมิตรราชปรปักษ์ อุเปตํ อนฺนปาเนหิ บริบูรณ์ด้วยอเนกนานรรครสโภชน์ ทั้งอัฏฐบานเอมโอชอันอุดม นจฺจคีเตหิ จูภยํ กับสิ่งทั้งสองประเสริฐสมสำหรับนคร คือดุริยางค์ขับฟ้อนแสนศุขบรรเทิง เปนที่เกษมสำเริงราษฎรประชาชาวพิไชยเชต หกกระษัตริย์เสด็จประเวศราชธานี พรั่งพร้อมด้วยแสนสุรชาติโยธีอันแห่แหน ตามท้องถนนแน่นอยู่เนืองนันต์ ขึ้น จิตฺตา ชานปทา อาสุํ ฝูงประชาชนก็ประชุมชวนกันสิ้นทั้งปวง มานั่งเบียดเสียดทั้งสองข้างถนนหลวงอยู่แออัด ต่างคนก็โสมนัศยินดี คอยรับเสด็จพระยอดขัตติยาภิเษกศรีสมมุติวงศ์ อันอาจให้สรรพสิ่งประสงค์ทรัพย์โภไค เจลุกฺเขโป ปวตฺเตตฺถ บ้างก็เปลื้องผ้าห่มทำเปนธงไชยขึ้นโบกโบยเหนือเศียรเกล้า บูชาสมเด็จพระลูกเจ้าจอมกระษัตริย์ ต่าง ๆ ก็อวยศิริสวัสดิ์ถวายพร ท้าวเธอก็เสด็จขึ้นสู่คฤหรัตนอลงกรกาญจนพิมาน ประดับด้วยมไหสุริยศศฤงคารควรจะเปรมปรีดิ์ เสด็จเสวยอุฬาริกราชกามสมังคีศรีสุขุมศุขแสนสารภิรมย์ อันยิ่งด้วยพระยศอุดมดูวิลาศ เดิน นนฺทึ ปเวสิ จึงให้เอาอานันทเภรีตีประกาศแก่ชนชาวพระนคร ให้ปล่อยสัตว์นิกรที่กักขัง โดยต่ำมีกำหนดตั้งแต่วิฬาร์อย่าขังไว้ ให้ได้ทุกขเวทนาเร่งปล่อยไป ปจฺจูสกาเล ครั้นเมื่อราตรีภาคปัจจุสสมัย จึงทรงพระปริวิตก ว่า เสฺว เวลาพรุ่งนี้นี่ฝูงยาจนทั่วทั้งปวง แจ้งว่าอาตมเสด็จคืนยังเมืองหลวงจะชวนกันปรีดา ต่าง ๆ ก็จะแตกตื่นกันมาคอยรับพระราชทาน จะภูลเพิ่มบวรกฤษฎาภินิหารมหาบริจาค เออไฉนจะได้ทรัพย์อันใดโดยมากมาแจกจ่าย ให้อิ่มพระกระมลที่มุ่งหมายในครั้งนี้ ขึ้น ตสฺมึ ขเณ ขณะนั้นก็ร้อนถึงอาศน์โกสีย์สักกเทวราช จึงยังห่าฝนสัตตรัตนามาศมีพรรณนานา คือสุวรรณหิรัญมุกดาเวฑุริยจำรัส ทั้งวิเชียรมณีรัตนประพาฬ ก็ครบเจ็ดประการสรรพสิ่งวิเศษ ให้ตกเต็มสกลนคเรศทั่วทุกลำเนา ชานุมตฺตํ ลึกประมาณเพียงเข่าควรจะยินดี แต่ในบริเวณจังหวัดปราสาทศรีท่วมถึงสะเอวดูอัศจรรย์ จึงป่าวประกาศให้ราษฎรชวนกันมาคุ้ยขน เปนของประชาชนตามคามเขตร เหลือนั้นให้ขนเข้าในนิเวศท้องพระคลังหลวง ฝูงชนทั้งปวงก็ชวนกันชื่นบาน ทานมุเข อุปฏฺฐเปสิ ท้าวเธอก็ตั้งบำเพ็ญพระบรมโพธิสมภารทานบารมี โดยพุทธางกูรประเพณีนั้นแล

ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย
กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ สคฺคํ โส อุปปชฺชถาติ

เดิน (๙) เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าสมเด็จบรมขัตติยาธิบดินทร์ อสัมภินวงศ์เวสสันดรมหาราช สปปฺญฺโญ อันประกอบไปด้วยพระปรีชาฉลาดในที่จะบำเพ็ญทาน ทานํ ทตฺวาน ทรงสืบสร้างพระกฤษฎาภินิหารทานบริจาค อันมากบริบูรณ์แก่พระอัชฌาสัย ตราบเท่ากำหนดพระชนมชีพได้ร้อยยี่สิบพระวรรษา กายสฺส เภทา ก็ทำลายปัญจุปาทานักขันธ์สวรรคคต ขึ้นไปอุบัติปรากฎเปนสันดุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติในรัตนพิมานมาศเมืองสวรรค์ชั้นดุสิตเทวพิภพ

ทำนองธรรมวัตกลาย (๑๐) สตฺถา อิมํ คาถาสหสฺสปติมณฺฑิตํ มหาเวสฺสนฺตรชาตกํ ยาหริตฺวา สมเด็จบรมนราศภศาสดาจารย์ มีพระพุทธบริหารบัณฑูรพระธรรมเทศนา ซึ่งมหาเวสสันดรชาดก อันประดับด้วยพระคาถาพันหนึ่งจบลงแล้วก็มีพระพุทธดำรัสว่า ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ทั้งปวง อันว่าห้วงแห่งมหาเมฆพลาหก ให้ตกซึ่งห่าฝนโบกขรพรรษปวัตนาการลง ในตำแหน่งบวรพันธุพงศ์สมาคมแต่ในกาลก่อน ครั้งพระตถาคตเสวยพระชาติเปนบรมขัตติยเพสสันดร ด้วยประการดังนี้ ทำนองธรรมวัตแท้ ตโต สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ลำดับนั้นสมเด็จพระชินสีห์ก็มีพระพุทธภาษิตสำแดงพระจตุราริยสัจธรรมทั้งสี่ มีทุกข์สัจเปนต้นมีมรรคสัจเปนอวสานที่สุด เมื่อจบพระพุทธเทศนาแล้วก็ประมวญมาซึ่งอดีตชาดกยกเปนโอสานคาถา ว่า ชูชโก พฺราหฺมโณ ลุทฺโธ ดูกรสงฆ์ อันว่าชูชกชราลุทธชาติฉกรรจ์ กาจ กลับชาติมา คือพระเทวทัตยโสธรราชอนุชา อมิตฺตตาปนา จ นางอมิตดาพราหมณ์นั้น กลับชาติมา คือนางจิญจมาณวิกา อันเปนดิตถิยสาวิก เจตปุตฺโต อันว่านายเจตบุตรมิคลุทธพรานป่านั้น กลับชาติมา คือพระฉันนเถระ อันเปนสหชาตกับพระตถาคต ตาปโส พระอจุตดาบสนั้น ครั้นกลับชาติมา คือพระอรรคทักษิณสาวกธรรมเสนาบดี สกฺโก สมเด็จวชิรปาณีสุราธิบดีเทวราช กลับชาติมา คือพระมหาเถระอนุรุทร์ วิสฺสุภมฺโม พระวิสสุกรรมเทพบุตรนั้น กลับชาติมา คือพระมหาโมคคัลลานะอุตรอรรคสาวก ผู้ยกเอตทัคคฝ่ายอิทธิฤทธิ์อภิญญา มคฺครุมฺหิ สีโห ราชา เทพยดาที่นฤมิตรเปนพระยาไกรสรสีหราช กลับชาติมา คือพระอุบาฬีมหาขีณาสพ เทพยดาที่แสร้งสรรสรีราพยพเปนพยัคฆราช กลับชาติมา คือพระมหาอริยสงฆ์สิมพลี เทพยดาที่ประวัติกาอินทรีย์เปนทีปิราช กลับชาติมา คือพระจุลนาคมหาเถระ ทารเก รกฺขติ เทโว เทพยดาที่นิรมิตรเปนพระบรมพุทธางกูรเพสสันดรราชดาบส มาอภิบาลสองสุริยราโชรสในมัคคันดรประเทศนั้น กลับชาติมา คือพระมหากัจจายนะนราสภสาวก นางเทพธิดาที่นิรมิตรเปนพระมัทรีมารักษาสองขัตติยโปดกนั้น กลับชาติมา คือนางวิสาขามหาทายิกาบริจาค ปจฺจยนาโค วารโณ พระยาเสวตคเชนทรปัจจัยนาคนั้น กลับชาติมา คือพระมหาอริยกัสสปสังฆวุฒาจารย์ กเรณุกากาสจารินี นางกเรณุเสวตสารผู้มารดาปัจจัยนาคนั้น กลับชาติมา คือนางกีสาโคตมีสากิยวงศ์ มทฺทราชา สมเด็จบรมกระษัตริย์มัททราชบิตุรงค์แห่งพระมัทรีนั้น กลับชาติมา คือพระยามหานามสากยราช อพฺภนฺตเร มหามจฺโจ อันว่าอำมาตย์ผู้เปนนายนักการนำข่าวสารอันเดือดร้อน ไปกราบทูลสมเด็จพระเวสสันดรนั้น กลับชาติมา คือพระอานนทเถระพุทธอุปัฏฐาก ทานเวยฺยาวจฺจามจฺโจ อำมาตย์ผู้ได้จัดแจงบริจาคสัตตสดกมหาทาน ประวัติสืบสันดานมา คืออนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี สญฺชโย สมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยชนกาธิบดี กลับชาติมา คือสมเด็จบรมพุทธบิดาสุทโธทนมหาราช ผุสฺสตี เทวี พระผุสดีชนนีนารถนั้น กลับชาติมา คือสมเด็จพระศิริมหามายาเทพบุตรพุทธชนนี พระมัทรีราชเทวีนั้น กลับชาติมา คือพระนางยโสธรพิมพาผู้เปนมารดาพระราหุล ชาลีกุมาโร พระชาลีดรุณขัตติยกุมาร ประวัติสืบสันดานมา คือพระราหุลชิโนรสาธิราช นางกัณหาชินานารถนั้น กลับชาติมา คือนางอุบลวรรณาเถรี ปริสา สหชาตา จ อันว่าสหชาตโยธีทั้งหกหมื่นนั้น กลับชาติมา คือคณานิกรพุทธเวไนยทั้งหลายนี้ เวสฺสนฺตโร สมเด็จพระเวสสันดรนราธิบดีนั้น กลับชาติมา อหํ เอว คือองค์พระตถาคตอันบัลลุโลกุตมาภิเศกสัมโพธิบารมี สิริฆโณ ทรงซึ่งศิริโสภาคย์ฉัพพิธพรรณรังษีรัศมีทึบทั้งแท่ง มีพยามปภามณฑลโดยรอบข้างละวา สพฺพญฺญู ตรัสรู้ซึ่งนานาเนกวิธธรรมทั้งปวงทั่วไปในอัทธานทั้ง ๓ คืออดีตกาล อนาคตกาล ปัจจุบันกาล สมฺมาสมฺพุทโธ ตรัสรู้พุทธาภิเศกสัมโพธิญาณด้วยพระองค์มีอาการอันมิได้วิปริต ธาเรถ ชาตกํ ดูกรจตุพิธบรรพสัตว์ทั้งปวง จงตั้งโสตประสาทสดับซึ่งพระมหาเวสสันดรชาดก แล้วพึงมนสิการกำหนดไว้ โดยนัยพุทธภาษิตกถา อันพระตถาคตบัณฑูรพระสัทธรรมเทศนามาฉนี้ เอวํ ก็มีด้วยประการดังนี้แล

นครปฺปเวสนกณฑํ นิฏฐิตํ

ประดับด้วยพระคาถา ๔๘ พระคาถา

----------------------------

  1. ๑. ในวง ยุ. ไม่มี

  2. ๒. ในวงว่าเปนความสมเด็จกรมพระปรมานุชิต ทรงแทรกทีหลัง

  3. ๓. ในวง ยุ. ไม่มี

  4. ๔. ยุ. อานนฺทิ วิตฺตา

  5. ๕. ยุ สพฺพมฺหิ ตมฺหิ

  6. ๖. ยุ สพฺพมฺหิ ตมฺหิ

  7. ๗. ยุ สพฺพมฺหิ ตมฺหิ

  8. ๘. ยุ. นาสฺสุ

  9. ๙. ยุ. ขคฺคหตฺถา

  10. ๑๐. ในวงยุ. ไม่มี

  11. ๑๑. ในวงว่าเปนความกรมสมเด็จพระปรมานุชิต ทรงแทรกทีหลัง

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ