กัณฑ์ชูชก

ความ วัดสังกระจาย

----------------------------

๏ ตทา กลิงครฏฺเฐ ทุนฺนนิวิฏฺฐพฺราหฺมณคามวาสี ชูชโก นาม พฺราหฺมโณ ภิกฺขาจริยาย กหาปณสตํ ลภิตฺวา เอกสฺมึ พฺราหฺมณกุเล ฐเปตฺวา ปุน ธนํ ปริเยสนตฺถาย คโตติ ตสฺมึ จิรายนฺเต พฺราหฺมณกุลํ วลญฺเชตฺวา ปจฺฉา อิตเรน อาคนฺตฺวา โจทิยมานํ กหาปเณ ทาตุํ อสกฺโกนฺตํ อมิตฺตตาปนํ นาม อตฺตโน ธีตรํ ตสฺส อทาสิ

ขึ้น (๑) ตทา กาเล ในกาลเมื่อสมเด็จพระบวรหน่อนราธิราชทั้งสองกระษัตริย์ ผู้เปนมิ่งมกุฎิเกษเขตรขัตติยยิ่งยอดสมมุติวงศ์ คือสมเด็จพระจอมจักรพรรดิพงศ์เพศยันดรดวงดิลกเทเวศร์ อันเปนยอดญาณสยัมภูเพทพุทธางกุรกฤษดาภินิหาร หนึ่งคือพระมิ่งวิมลมาลยมหิตถิยมหิษี สุนทรสาวสวัสดิเทพนารีมัทรีศรีศุภกระษัตริย์ขัตติยวรวงศ์ เธอพาพระวิสุทธิสวัสดิ์ขัตติยทั้งสององค์อรอุ้มแอบอุรนิราศ คือพระชาลีศรีดรุณวงศ์วิสุทธิชาติเลิศลักษณภิเศกทรง พงศ์พิภพพระเจ้าสีพี อิกทั้งพระกฤษณแก้วกัณหากุมารีศรีวรพนิต กระนิษฐอนุชงค์อนงค์นาฎชินานาง กระษัตริย์สี่พระองค์เธอทรงสร้างพรตพรหมจริยา อย่างปรเมฏฐสิกขาอิสิวาวรเวศ อันเปนอุกฤษฐเพศมหาภิเนกขัมมบรรพชาบารมี สถิตย์ณแห่งห้องนัคคินทรคิรีรัตนราชวงกฎ โดยสัตตมาสกำหนดนับได้เจ็ดเดือนดังนิยมมา

เดิน ทีนี้จะกล่าวถึงพราหมณพฤฒาทลิทยากยิ่งยาจก อันจะได้ไปยอยกซึ่งพระทานธุระ อันพระองค์เริดร้างละฝังไว้นี่ช้านาน ขึ้น เอโก พฺราหฺมโณ ยังมีทลิททาจารย์พราหมณผู้เถ้า อันบังเกิดแต่ตระกูลล้วนเหล่ายัญญหุตพุชงค์ สืบสันดานสัมพันธพงศ์โภวาทิกชาติ เถ้ามีสันนิวาศเคหฐาน อยู่ในคามเขตรละแวกบ้านทุนวิฐติดเนื่องกับเมืองกลิงคราฐบุรี ทชีตาแกเปนคนจนอับปรีไร้ญาติยิ่งสถุล ทุคคตแค้นเคืองขุ่นข้องเข็ญใจ ภิกฺขาจริยาย ตาแกก็เที่ยวภิกขาจารไปปานด้วยเพศสกปรก เปรียบด้วยวรรณิพกยาจกจนจัณฑาล เถ้าค่อยประสมประสานทรัพย์ไว้ทีละน้อย กหาปณสตํ ลภิตฺวา ได้ทองถึงร้อยกระษาปณ์เปนลาภตามเข็ญใจ ครั้นจะเอาไว้กับตัวก็กลัวภัยคิดไปเห็นรวนเร เอกสฺมึ พฺราหฺมณกุเล ตาแกจึงรีบเร็วระรี่เร่อไปหาสกุลเกลอแห่งหนึ่ง อันเปนที่ชอบพึงพอจะไว้ใจกันมาแต่ก่อน ทชีก็ปรับทุกข์ร้อนทางจะอวดมี ว่าออเจ้าเอ๋ยออเจ้า เราค่อยมั่งคั่งขึ้นถึงเพียงนี้มีเสียกว่าออเจ้า แต่ว่าตัวเรานี้แก่เถ้าเที่ยวไปค้างคืน เกลือกว่าค่ำมืดดึกดื่นพอหลับไหล ปะอ้ายคนจนโจรจรรไรเข้าแก้พก มันก็จะย่องหยิบยกยักเอาไปได้ ก็จะแคบขัดเข็ญใจจนไม่พอที่จะยาก ฐเปตฺวา เถ้าก็เฝ้าฝากพร่ำแล้วพร่ำเล่า ว่าเรามิให้ท่านเฝ้าเปล่าป่วยการ แล้วเถิดเราจะทดแทนคุณท่านให้ถึงใจเมื่อภายหลัง ปุน ธนํ ปริเยสนตฺถาย คโต เถ้าโลโภตาแกโลภลาภไม่หยุดหย่อน ก็เที่ยวภิกขาจารกระเจิงจรไปจนจบ ครบคามเขตรน้อยใหญ่ ด้วยว่ามักจักใคร่ได้ให้จงหนักหนา ด้วยโลภเจตนานั้นแล

ขึ้น (๒) ตสฺมึ พฺราหฺมเณ ในเมื่อพราหมณ์พรหมวงศ์วิศณุเวศ ผู้เปนยาจกทลิทเชฐชาติเชื้อนิคคาหกพราหมณ์ เถ้าไปเที่ยวพยายามภิกขาขอ เข้าที่ไหนก็ได้ที่ไหนก็ได้ ได้เท่าใดใดก็ไม่พอผ่อนผันที่ว่าจะกลับ จิรายนฺเต ไปๆ ก็จนลี้ลับล่วงกำหนดเกิน ยิ่งเที่ยวมันก็ยิ่งได้ ยิ่งไปมันก็ยิ่งเพลินเกินกำหนดนานแล้วไม่กลับมา ตํ พฺราหฺมณกุลํ ส่วนตระกูลพราหมณ์ทั้งสองที่รับฝากทองของออเถ้า มันให้พเอินอาจจิตรคิดใจเบาเบื้องแต่ว่าจะได้ ไม่รู้ว่าความเข็ญใจยากไร้จะมาถึงตัว จึงยกเอาทองของออเถ้าออกมาแล้วก็ยิ้มหัวพูดแก่กันซู้ซี้ ว่าออเถ้ามันหายไปหลายปีปานฉนี้ยังไม่กลับมา ส่วนตัวอ้ายเถ้าก็แก่ชราลงร่างร้าย นี่มันจะมิไปซุกซมล้มตายเสียแล้วหรือหือหานะออเจ้า ของนี้ก็ตกอยู่ในมือเราทั้งสองคน เอออะไรนี่จะมานั่งนิ่งจนๆ นี่จนย่อยยับ จะมาเปนภูตเฝ้าทรัพย์นี่มันไม่ต้องการ เมื่อออเถ้ามันกลับมาเมื่อไร เราจึงค่อยแก้ไขคิดอ่านผ่อนผันต่อเมื่อปลายมือ วลญฺเชตฺวา ก็เอาทรัพย์ออกแจกจ่าย ขายซื้อซุกซนทำโว้เว้ อิตเรน อาคนฺตวา ฝ่ายว่าเถ้าชราเจ้าของทรัพย์ คิดขึ้นมาได้ก็หวนกลับกลัวเกลือกเกลอจะทำวุ่น หมุนมาประเดี๋ยวก็ถึง อึงคนึงไปทั้งบ้าน ร้องว่าฮ้าเฮ้ยอยู่หรือหาไม่ท่านทั้งสองคน สองผัวเมียก็จวบจนจวนเจียนจะเจอะตัว ตกใจอยู่ระรัวตัวนี่สั่นอยู่ริบๆ ทำแต่ตานั้นปริบๆ ปรับทุกข์กันหน้าขาว ส่วนออเถ้าก็ก้าวขยิกขยั้นเหยียบยืนขึ้นบันได ผัวเมียก็จนใจไม่รู้ที่ว่าจะผันผ่อน ครั้นจะซุกจะซ่อนก็ไม่ทันที ครั้นจะหลบหลีกหนีนั้นก็ใช่ ครั้นจะผลุนผลันผลุดไปนั้นก็จวนตัว จึงร้องว่าอยู่คะเจ้าขรัวเชิญตัวท่านขึ้นมานั่ง โจทิยมานํ ส่วนออเถ้ายังไม่ทันที่จะนั่งก้นกระทั่งฟาก ก็ทวงว่าทองของเราที่เอามาฝากแก่ท่านไว้ เอามาให้ๆ ทันที เอามาประเดี๋ยวๆ นี้ขมีขมัน ทาตุํ อสกฺโกนฺตํ ผัวเมียก็อัดอั้นนั่งงันอยู่เปนครู่ เถ้าก็ยิ่งครืดครอกตะคอกขู่ หาเปนไรจึงมาแลดูนิ่งอยู่เล่า คุณเจ้าขาคุณตาเจ้า ดีฉันจะขอทุเลาเลื่อนไปอิกสักน่อย เห็นข้าพเจ้าประหนึ่งว่าชั่วถ่อยหาความคิดไม่ แต่หยิบๆ ยืมเอาทองของคุณตาเจ้าไปใช้จนหมดสิ้น จนพ่อออฉิมเขาโกรธเขาคาดโทษอยู่ว่าจะตี ดีฉันจะขอนัดผัดผ่อนสักทีแต่พอให้ห่างๆ จะได้ขวนขวายบ้างหามาตระเตรียม แต่พอให้ยืดยาวย่างเยี่ยมเข้าปีน่า ข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหามาให้ มิให้เคืองแค้นรำคาญใจ เออออเจ้านี่ว่ากะไรหาว่ากะไร เห็นทำได้ก็ทำเอาอาจใจถึงเพียงนี้ คิดดูให้จงดีนะเองกับกูนี้จะผิดกันเสียเปล่าๆ คุณเจ้าขาคุณตาเจ้า เมื่อจะขอทุเลาแล้วก็ไม่โปรด จะให้ท่านโกรธไปไย เสมือนเกวียนหักลงกับที่ของนั้นมันจะหนีไปไหน เสียหนึ่งนิ่งไว้นานไปคงได้สอง เสมือนหนึ่งของท่านหายมีที่ไว้ ข้าพเจ้าคงจะหามาให้ไม่ให้เดือดร้อน ยอมเสียกำไปก่อนนั่นแลจึงจะได้กอบ ข้าพเจ้าจะตอบจะโต้ไป ว่าแล้วก็ร้องไห้หันเข้าไปในห้อง อมิตฺตตาปนํ นาม อตฺตโน ธีตรํ จึงจูงเจ้าทองอมิตตดาออกมาสะเออะอวดหน้าเสนอนวล ให้ทำจริตกระบิดกระบวนสบิ้งสบัด ให้นั่งท้าวแขนแอ่นหยัดแล้วเยี่ยมหน้า แล้วจึงว่าคุณเจ้าขาคุณตาเจ้า จะเดือดร้อนไปไยเล่าเร่งเคืองแค้น ท่านว่ามีเงินนั่นหรือจะไร้ของ มีทองนั่นหรือจะไร้แหวน ข้าพเจ้าจะทดแทนประชดเชิญ เห็นว่าของๆ ข้าพเจ้าจะเกือบเกินกว่าเสียอิกสักหน่อยก็ทำเนาเถิดหนาไม่คิด จะได้เปนมิตรกันบ่อยๆ ไปเบื้องน่า ตามแต่คุณตาเจ้าจะกรุณานับเนื้อกันมาแต่ก่อน จะเลี้ยงไว้กับเอวอู่หรือจะให้เปนคู่เคียงหมอน หรือจะให้นอนที่ปลายตีน ข้าพเจ้าก็ยินยอมพร้อมสิ้นเสร็จแล้วไม่ว่า หวุยออตานี่ว่ากะไรไม่เข็ดขาม จริงหนอเขาว่ามีเงินมีทองแล้วพูดได้ มีไม้มีไล่ปลูกเรือนงาม กระนั้นก็ตามแต่ออเจ้าเถิดซี ถ้าหันเข้าหากันบ้างอย่างนี้ที่ไหนเราจะว่า ตสฺส อทาสิ สองเถ้าก็ยกเจ้าอมิตตดาดวงสวาท มอบให้เปนสิทธิ์ขาดแก่พราหมณ์แก่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าพ่อแม่มันไม่ดี มันมักเพิ่มภูลหนี้ให้ติดตัว จึงตระเวนความชั่วให้เห็นประจักษ์แก่ตาโลก ลูกเต้าก็พลอยวิโยคระยำยับอัปรภาคยากเสียเปล่าๆ เพราะว่าใจจิตรมันคิดเบา จึงเปนหนี้ออเถ้านั้นแล

เดิน (๓) โส ชูชโก วันนั้นชูชกเถ้าชรา ตํ ทิสฺวา เมื่อเห็นรูปเจ้าอมิตตดายุพเยาวแรกรุ่นสุนทรเด็กดรุณี แน่งน้อยหน้านวลฉวีวรรณเพริศพริ้งพราย ชะชวยฉาดเฉิดฉายโฉมเฉลา ดังว่าพฤฒิโคเค้าเถ้าชราจร ครั้นแลว่าแลเห็นเหยื่อหญ้าอ่อนออกโอชะโอษฐ์อ้า ละลนละลานแลบชิวหาหูหางระเหิดหัน เถ้าก็มีจิตรเกษมสันต์โสมนัศยวนยิ่ง จึงนึกว่าวาศนากูนี้หนอต่อจะดีจริงจึงประจวบใจประสงค์เฟื่องฟูขึ้นหนักหนา ชรอยว่าชตาตามมาส่งเสริมเมื่อภายแก่ ยิ่งเหลียวๆ แลๆ ดูนี่ก็ยิ่งเห็นงาม เถ้าก็รับรองความตามคดี ว่าถ้าท่านทั้งสองจะปรานีฉันจริงไซ้ ฉันจะขอลาพาหล่อนไปในวันนี้ ส่วนพราหมณ์ทั้งสองศรีก็ยินยอมไม่ห้ามปราม เถ้าก็ลาสกุลพราหมณ์ลงจากเรือนมิทันนาน พานางอมิตตดาไปสู่บ้านทุนวิฐ อยู่ร่วมภิรมย์สมสนิทเสนหา ตามโลกธรรมดานั้นแล

ขึ้น (๔) สา อมิตฺตตาปนา ส่วนว่านางอมิตตดานั้นเปนลูกเหล่าตระกูลไม่เสียชาติ คิดว่าตัวเปนทาสมิได้นึกว่าเปนสาวได้ผัวแก่ คิดแต่ว่าทุกข์ของพ่อแม่กรรมแล้วก็ตามกรรม สมฺมา ปฏิชคฺคิ เจ้าก็หาหุงต้มตักตำทุกค่ำเช้าไม่ขวยเขินลอายเพื่อน เวลาเช้าเจ้าก็ทำ เวลาค่ำเจ้าก็มิให้เตือน ทั้งการเรือนเจ้าก็มิให้ว่า ทั้งฟืนเจ้าก็หักผักเจ้าก็หา เฝ้าปฏิบัติเถ้าชรา ทุกวันแลเวลานั้นแล

ขึ้น (๕) อญฺเญ ตรุณพฺราหฺมณา อันว่าพราหมณ์ทั้งหลายหนุ่มๆ ในบ้านนั้นสิชุมชายจะมาก ทั้งผู้ดีแลผู้ยากนี่ก็หนักหนา อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ครั้นได้เห็นเจ้าอมิตตดาเด็กดรุณี มีวัตรจริยาดีรู้ปฏิบัติ ทุกสิ่งสารพัดจะบำเรอเถ้าชรา ครั้นคิดถึงเมียของตนขึ้นมาก็ให้หมกมุ่น บ้างก็ฮึดฮัดหันหุนหวนเหมา บ้างก็เดินแดกด่าเดือดพิโรธ ต่างคนต่างก็โกรธกรากมาสู่เรือน เสียงสะทกสะท้านสะเทือนนั้นหนักหนา ตีเมียกันนั้นฉาวฉ่าอึกทึกไปทั้งบ้าน บ้างก็โกรธงุ่นง่านเงื้องอศอก ภริยาโย ตชฺเชนฺติ บ้างก็ขู่ตะคอกขบเคี้ยวฟัน บ้างก็ฮึกฮักหุนหันหวนเข้าจับไม้ บ้างก็วิ่งเวียนไล่แล่นอึงคนึง บ้างก็มัดมือขึงแขวนไว้กับขื่อ อ้ายบ้างก็ฮึดฮือหักซี่ฟาก บ้างก็ร้องสำรากพิไรร่ำว่า บ้างก็ดุเดือดด่าขู่เขี้ยวเข็น ว่าอีชาติชั่วอีเสียเช่นชาติมันไม่ดี อยํ อมิตฺตตาปนา ส่วนนางทองอมิตตดานี้ใครเขาสอนสั่ง มหลฺลกพฺราหฺมณํ ได้ผัวแก่ยังแต่ว่าจะตาย สมฺมา ปฏิชคฺคิ แต่ว่าความดีของแม่แกนี่มากมายหมั่นปฏิบัติผัว ถึงรูปร่างของแม่แกก็ไม่ชั่วเฉิดกว่าเองสักสิบเท่า กึ ปมชฺชถ เองเอ๋ยกระไรเลยประมาทเราช่างไม่เกรงกลัว นี่เองสำคัญว่ากูเปนผัวหรือว่าเปนข้า หรือว่าเองช่วยกูมาสักกี่ชั่ง เองเอ๋ยกระไรเลยจะคิดดูมั่งก็เปนไร กว่ากูจะได้มึงมาเปนเมีย ทั้งทุนก็สิ้นสินสอดก็สู้เสียเสร็จสิ้นนี่ทุกอย่าง ทั้งเครื่องขันหมากหอห้างกูก็หามานี่เสร็จสรรพ ควรหรือมึงมาลามลวนกลับสำรากไม่อยากกลัว จะรู้จักปฏิบัติผัวแต่สักนิดหนึ่งนี่ก็ไม่มี อีหญิงเยี่ยงอย่างนี้นี่มันไม่รู้อาย ชอบแต่ว่าจะจับจูงมือมันไปขายให้มันอายเขาสิ้นทั้งบ้าน ให้เขาใช้กรากกรำกระทำการนี่จงหนักหนา แล้วจึงค่อยไปไถ่ถอนมันออกมาต่อเมื่อภายหลัง นั่นแลมันจึงจะรู้เข้ามั่งที่สำนึกยาก กูคิดๆ แล้วจะใคร่กำจัดจากออกไปเสียให้พ้น หาหัวเอาใหม่อิกสักคนให้มันงามพ้นไปกว่าเพื่อน ให้มันเหมือนหนึ่งนวลนางน้องเจ้าทองอมิตตดา อันเปนเมียเถ้าชรานั้นแล

ขึ้น (๖) ตา อิตฺถิโย อันว่าหญิงทั้งหลาย ที่เปนอย่างกันกะนั้นนะมากมายหมดทุกเรือน ครั้นว่าผัวเขาติเตือนเขาตั้งใจจะให้ดี กลับเดือดโดดโลดหนีลงจากเรือน ไปหาเหล่าพวกเพื่อนทุกถ้วนหน้า โรทมานา ร้องไห้เช็ดน้ำตาเข้าหากัน มันให้แค้นขบฟันถกเขมนมั่นหมดทุกคน บ้างก็เที่ยวเสือกสนสื่อข่าวกัน ว่าข้างเรานี้มันเปนกะนั้น ข้างท่านมันเปนกะนี้ หรือว่าข้างเอ็งมันดีสงบอยู่ แต่ว่าข้างกูนี่มันเปนกะนั้น เองเอ๋ยอย่าว่าไปเลยมันก็เหมือนกัน มันให้เกิดกุลีลั่นสนั่นไปแล้วสิ้นทั้งบ้าน วันนี้มันช่างร้ายรุกรานรอมันไม่ติด หรือว่ามันยัดห่ายาพิษอะไรเข้าไป เรามิรู้มันได้มันจึงร้ายขึ้นจริงๆ นี่เราจะนิ่งเสียหละหรือหือหาอีชาวเรา ทั้งนี้ก็เพราะใครเล่า เพราะอีสาวส่ำสามซัดเซบ้าน ผัวเราจึงรุกรานร้ายขึ้นถึงเพียงนี้ จำเราจะเล่นมันเสียสักที แต่ว่าจะเล่นมันที่ไหนดี นทีติตฺถาทีสุ อย่าเลยนะเราจะไปซุ่มซ่อนอยู่ที่ท่าน้ำ อีอมิตตดามันมาเวลาเย็นเราเล่นเสียให้ยังค่ำ ร่ำเอาเสียให้สิ้นตำรา จะประดังแดกด่าว่ามันเสียให้เจ็บ แม่เสือจะลองเล็บเล่นแล้วในวันนี้ จะพิไรพิรี้ร่ำเอาเสียให้สิ้นโคตร ถ้ามันโกรธเราจะกรูเข้าคร่า ถ้ามันด่าเราจะดื้อเข้าเดียง ถ้ามันเถียงเราจะถูเข้าถอง ถ้ามันร้องเราจะร่าเข้ารอ ถ้ามันต่อเราจะตามเข้าตบ ถ้ามันสู้เราจะเอาเสียให้บัดซบสับให้หัวเปนแสกเสี่ยง ใคร่เขาจะเอาเยี่ยงอย่างอีซนซุก อีสุกก่อนห่าม มันมาอยู่สักกี่วันกี่เดือน นี่มันจะมาตั้งเตือนต่อก่อความให้ขุ่นไปทั้งบ้าน ถึงจะเสียสักเท่าไรก็ไม่คิด ผิดก็ไปเปนเมียตระลาการไม่น้อยหน้า อิมมฺหา คามา เมื่อมันทนมือทนด่าเราไม่ได้ มันก็จะหนีเราไปเสียจากบ้าน ผัวเรากับเราก็จะค่อยสำราญ เหมือนดังเคยแต่ก่อนกาล นั้นแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อหุ วาสี กลิงฺเคสุ ชูชโก นาม พฺราหฺมโณ
ตสฺสาปิ ทหรา ภริยา นาเมนามิตฺตาปนา
ตา นํ ตตฺถ คตาโวจุํ นทีอุทกหาริยา
ถิโย นํ ปริภาสึสุ สมาคนฺตฺวา กตูหลา
อมิตฺตา นูน เต มาตา อมิตฺโต นูน เต ปิตา
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
อหิตํ วต เต ญาตี มนฺตยึ รโห คตาสุ
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
ทุกฺกฏํ วต เต ญาตี มนฺตยึสุ รโห คตา
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
ปาปกํ วต เต ญาตี มนฺตยึสุ รโห คตา
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
อมนาปํ วต เต ญาตี มนฺตยึสุ รโห คตา
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
อมนาปิ วาสํ วสิ ชิณฺเณน ปตินา สห
ยา ตฺวํ วสสิ ชิณฺณสฺส มตนฺเต ชีวิตา วรํ
น หิ นูน ตุยฺหํ กลฺยาณี ปิตา มาตา จ โสภเณ
อญฺญํ ภตฺตารํ วินทึสุ
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
ทุยิฏฐนฺเต นวมิยํ อกตํ อคฺคิหุตฺตกํ
เย ตํ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เอวํ ทหริยํ สตึ
สมเณ พฺราหฺมเณ นูน พฺรหฺมจริยปรายเน
ยา ตฺวํ โลเก อภิสฺสสิ สีลวนฺเต พหุสฺสเต
ยา ตฺวํ วสสิ ชิณฺณสฺส เอวํ ทหริยํ สํตึ
น ทุกฺขํ อหินา ทฏฐํ น ทุกฺขํ สตฺติยา หตํ
ตญฺจ ทุกฺขญฺจ ติปฺปญฺจ ยํ ปสฺเส ชิณฺณกํ ปตึ
นตฺถิ คิทฺธา นตฺถิ รติ ชิณฺเณน ปตินา สห
นตฺถิ อลฺลาปสลฺลาโป ชคฺฆิตุํปิ น โสภติ
ยทาปิ ทหโร ทหรา มนฺตยึสุ รโห คตา
สพฺเพ โสกา วินสฺสนฺติ เย เกจิ หทยนิสฺสิตา
ทหรา ตฺวํ รูปวตี ปุริสานํภิปตฺถิตา
คจฺฉ ญาติกุเล อจฺฉ กึ ชิณฺโณ รมฺมยิสฺสตีติ

เดิน (๗) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ศรีวิสุทธิวงศ์อรรคชิโนรสวิเศษ ผู้ทรงศีลสมณเพศพวกบรรพชา ขึ้น พฺราหฺมโณ อันว่าเถ้าชราทิชาชาติเชื้อพราหมณพรหมวงศ์ศิโรเพศพิสัยใจกระลี อหุ วาสี ตาชีมีปรกติอยู่ในบ้านทุนวิฐ เปนเขตรแคว้นแดนติดกับเมืองกลิงคราฐ ทหรา ภริยา เถ้ามีดรุณนาฎนางหนึ่งนั้นงามจริง ภริยา เมาะ ปาทปริจาริกา เปนทาสภริยาหญิงสาวสุดสวาท นาเมนามิตฺตาปนา นามอนงคนาฎชื่อว่านางอมิตตดา นทีติตฺเถ คตา เจ้าก็ยุรยาตรมุ่งมาจะตักน้ำ ไม่รู้ว่าเขาจะคอยยท่าทำเย้าเย้ยเยาะให้อาย อิตฺถิโย อันว่าหญิงทั้งหลายล้วนเหล่าที่ใจร้ายรานรามา นทึ อุทกหาริยา ที่คอยท่าหาเจ้าอยู่ที่ท่าน้ำ ครั้นเห็นเข้าแล้วก็ร่ารำรุกเร็วแร่เข้ามา บ้างก็ร้องว่าเข้าเถิดสิเหวยเข้าเถิดสิวาวิ่งวุ่นวาย สมาคนฺตฺวา เมาะ สมนฺตโต ปริกฺขิปิตฺวา เอ็งก็เข้าข้างซ้ายกูก็เข้าข้างขวา เอ็งล้อมข้างหน้ากูล้อมข้างหลัง ทำละล้าละลังแล่นละลุกลน กตูหลา เมาะ โกตูหลา ชาตา เปนโกลาหลละลนละลานไล่เลี้ยวล้อม เข้าแห่โหมโห่ห้อมหุ้มอยู่วะวู่วาม อุลูกญฺเจว วายสา ดุจหนึ่งว่าฝูงกาเข้าเต้นตามตอมนกเค้า บ้างก็แย่งหยิกยะเยาะเย้าเย่อยะยุ่ง ตา นํ ตตฺถ คตาโวจุํ มุ่งมะเมียงมองแล้วก็ร้องประกาศ นํ ปริภาสึสุ ส่งเสียงบริภาษพ้อด้วยวาจา ว่า นูน ฮ้าเฮ้ยเหวยเจ้าอมิตตดา เช่นออเจ้านี้หนากูไม่เคยเห็น เอออะไรจะมาเปนแต่อย่างนี้ จะมาเปนคนตะกละกาลีไม่เข้าเรื่องให้เลื่องฦๅ นี่เจ้าทำใส่ตัวเจ้าเองหรือ ๆ ว่าใครเขาทำให้แก่เจ้า หรือว่าญาติโคตรเค้าเขาขัดใจ จึงแกล้งเสือกไสเสียแต่พอให้พ้นมือ [

นูน เต มาตา ธรรมเนียมแม่นี้หรือเขาย่อมรักลูกจะปลูกฝังให้เปนภักษ์ผล เพราะว่าได้นอนแนบแอบอกตนแต่เลี้ยงมา อยากจะตกแต่งให้งามหน้าไม่อดสู อมิตฺตา นี่แม่ของเจ้ากลับเปนศัตรูกรากกรำใจ อมิตฺโต นูน เต ปิตา ทั้งพ่อเชื้อญาติผู้ใหญ่ก็ยิ่งชิงชังเจ้า เอวํ ทหริยํ สตึ เมาะ ทหรตรุณี รูปโสภคฺคปฺปตฺตา เออก็ผู้ใหญ่กระไรช่างโฉดเฉาไม่คิดอ่าน รูปร่างของเจ้าก็สอาดสอ้านอ้อนแอ้นตะละหนึ่งว่าเขียน ถึงนายช่างจะประจงเลียนเขียนรูปเจ้าก็จะไม่เหมือนอย่าง ไยจึงไม่ไปเปนเมียที่ขุนนาง กลัวแต่ว่าจะไม่เหินห่างหันเข้าแนบน้อง ถึงว่าจะเปนเมียที่พระหลวงกินเจียดเงินแลพานทองดูท่วงทีก็จะพอได้ ชิณฺณสฺส ปาทํสุ เออนี่พ่อแม่เขาจะชังเจ้าจริงๆ แล้วจึงเสือกไสเสแสร้งส่งซนแต่พอให้พ้นธุระ อหิตํ วต เต ญาตี หรือว่าเจ้าทำกักขละลามเลียมเลียนล้อให้เข้าขึ้งโกรธ ให้เขาเห็นเปนคนเฉาโฉดชาติชั่วช้า ปาปกํ วต เต ตั้งแต่ว่าจะเตือนต่อด่าหน้าชะเล้นเล่นคนองใจ เขากลัวว่ายืดไปมันจะเกิดความลอายขายหน้า เขาจึงให้อ้ายเถ้าชราเสียตามชัง อมนาปํ วต เต เสือกไสให้มันเซซังสมที่เจ้าทำให้หนำใจ เขาจึงแกล้งยกให้เจ้าเปนเมีย] แก่อ้ายเถ้าส่ำเสียเซอะซานสกปรก นี่มึงอยู่หาไหนไม่รู้หรือ ว่ามันชื่ออ้ายชูชกเฉาโฉดชั่วชาติเชิงจะขอทาน ชิณฺเณน ปตินา สห เออนี่เองช่างอยู่กระไรได้ไม่รำคาญขัดข้องเขินขวยด้วยผัวแก่ ยา ตฺวํ วสสิ เมื่อยามสบายจะชายตาแล ดูเล่ห์ดังลิงหลอกเห็นน่าชัง มตนฺเต ชีวิตา วรํ ถ้าเจ้าอายเหนียมน้อยหน้านึกดูมั่งตายเสียเถิดดีกว่าเกิดอยู่เปนคน น หิ นูน ตุยฺหํ กลฺยาณี แต่ว่าจะหาผัวที่มันดีที่ชอบกล ที่เขาเปนคนไม่โว้เว้ ปิตา มาตา จ โสภเณ ไหนนี่หรือว่าพ่อแม่นี้มีมั่ง ที่จะตบจะแต่งตั้งส่งมาให้เปนเมีย อญฺญํ ภตฺตารํ ไฮ้เจ้าอย่าอยู่ยืดยาวอย่าหัวมันเสียหาผัวใหม่ฟังพี่ว่า ทุยิฏฺฐนฺเต นวมิยํ เมาะ ทุยิฏฐนฺเต นวมิยา หรือว่าเจ้าอมิตตดาได้บูชาเชิญโชคไชย ทั้งธูปเทียนดอกไม้ธงทุนทศยา จะเชื้อเชิญเทวดาประเดียงเคย ครบเครื่องกระยาสังเวยวางไว้นี่พร้อมเพรียง เปนทีทางจะแสร้งเสี่ยงแสวงหาผัว แต่ว่าบูชาของเจ้านั้นมันชั่วมันไม่ต้องตำรา ปะเปนวันที่ฤกษ์พาพานจะไม่สู้ดี นวมิยํ เมาะ กาฬปกฺเข นวมิยา พอเปนวันกาฬปักษ์ดิถีแรมเก้าค่ำ พอสบวันทักทินทรทึกมฤตยูยมขันขัดโชคไชย ยาคปิณฺโฑ ก้อนเข้าของพลีกรรมที่วางไว้หมายจะเสี่ยงทาย ปฐมํ คหิโต อ้ายกาแก่เข้าโฉบฉายฉาบฉวยชิงเอาไปได้ ก็เสียพิธีเชิงไชยโชคสวามี เพราะอ้ายกาแก่บัดสีนั้นมันเข้ากินก่อน จึงเปนนิมิตรสังหรหากให้ได้ผัวแก่ ถึงตัวเจ้าเล่าแหล่ก็จะกริ่งๆ ใจ อกตํ อคฺคิหุตฺตกํ หรือว่าเจ้าขาดบูชากูณฑ์ไปไฟจึงให้โทษ ทั้งสองโสดเข้าแทรกซ้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นตามตัว ชิณฺณสฺส ปาทํสุ จึงพเอินให้ได้ผัวแก่เถ้าชราแร่ มันช่างแก่นี่เหลือแก่แก่นี่กระไรไม่น้อยหนอ แทบว่าจะเปนพ่อพ่อของตัวก็ว่าได้ สมเณ พฺราหฺมเณ นูน หรือว่าเจ้าอมิตตดานี้ไซ้ได้ประมาทบริภาษสมณพราหมณ์ พฺรหฺมจริยปรายเน อันเพ็ญเพิ่มพยายามประพฤติพรตพรหมจรรย์ สีลวนฺเต พหุสฺสุเต ทั้งท่านผู้ทรงศีลขันธ์เปนพหูสุตสิ้นกิเลศแล้วในสันดาน กรรมอันนั้นจึงตามต้านติดตัวได้ผัวแก่ น ทุกฺขํ อหินา ทฏฺฐํ เออนี่แน่นะเจ้า ถ้าแม้นงูเขียวหรืองูเห่าเลื้อยลอดเข้ามาตอดขบให้สลบอยู่กับที่ สตฺติยา หตํ ถ้าหาไม่ก็ชายอันพ่วงพีพิลึกล่ำสัน ถือหอกนั้นโตใหญ่ไล่แทงถูกที่อกเจ้า ให้ดิ้นแดดะเด่าๆ ดูอนาถจริง ตญฺจ ทุกฺขํ อันความทุกข์ทั้งสองสิ่งเราไม่แสร้งว่า เมื่อสิ้นบุญวาสนาแล้วก็ตามที ก้มหน้าตายไปเปนผีดีกว่าอยู่เปนคน ยํ ปสฺเส ชิณฺณกํ ปตึ มันไม่เหมือนอยู่กับอ้ายเถ้าทรพลที่เขาชังชิงนี่ถ้วนหน้า นตฺถิ คิทฺธา นตฺถิ รติ เออก็ความยินดีนี่มันจะมีมาแต่ข้างไหน เพราะอ้ายผัวผีจรรไรรูปร่างอย่างเดนห่า นตฺถิ อลฺลาปสลฺลาโป ถ้าอ้ายเถ้าจะพูดจาเย้ายวนหยอกเจ้าเล่น ชคฺฆิตุํปิ น โสภติ อ้าปากออกนี่มันเหม็นฟุ้งฟันฟางก็ห่างหักเห็นเวทนา ทหโร ทหรา อันประเพณีมักมีมาในสงสาร ที่จะก่อการกวนกิเลศให้ยินดี สามิโก ตรุโณ ภริยา ตรุณี ถ้าข้างฝ่ายชายสามีนั้นหนุ่มน้อยอยู่ช้อยชื่น ฝ่ายข้างสัตรีนี่ก็สดสวยระรวยรื่นแตกเนื้อนวลขึ้นควรกัน มนฺตยึสุ รโห คตา ก็จะปริดิ์เปรมเกษมสันต์ในที่รโหฐาน ตามวิสัยในการประเวณี เย เกจิ หทยนิสฺสิตา ถึงว่าโทสะจะบังเกิดมีมุ่นมากที่ดวงใจ สพฺเพ โสกา หรือว่าโศกซึมเศร้าสักเท่าไรก็จะละเลิงละลายลืมละเสียได้เพราะผัวดี ขึ้น ทหรา ตฺวํ เออเจ้าก็ยังระเร่อรุ่นดรุณี อภิรูปา ทรงลักษณราษีโสภาคย์ แม่กลัวหรือจะหายากที่สามี รูปชีวี มีรูปราษีเปนโภคทรัพย์ แม่อย่าคิดเลยนะที่ว่าจะอาภัพฟังพี่ว่า ปุริสานํภิปตฺถิตา พี่กลัวแต่ว่าเหล่าชายนั้นมันจะฉาวฉ่าชอบใจเจ้า ไยจะมาขืนแค่นอยู่ด้วยอ้ายโทนเถ้าทนทุกขเวทนา แม่ไปเสียเถิดดีกว่าเชื่อพี่เถอะนะเจ้า แม่จะมาด้านดื้อดึงทึ้งโครงเปล่าให้เขาร้องแรก แม่จะมาแบกความอายนี่ไม่ขายหน้าหรือ แม่จะมาเปนกระสือเสียพงศ์ แม่จะมารักดงนี่หรือกว่าเย่า แม่จะมารักเหานี่หรือกว่าผม จะมารักลมนี่หรือกว่าน้ำ จะมารักถ้ำนี่หรือกว่าเรือน จะมารักเดือนนี่หรือกว่าตวัน เออนี่แม่จะมารักออเถ้านั้นยิ่งกว่าตัวเล่า ดูนี่ก็โฉดเฉาชั่วชวนชังน้ำหน้า คจฺฉ ญาติกุเล ไปเสียเถิดนะนางอมิตตดาเจ้าอย่าอยู่ฟังพี่ว่า ไปหาญาติกาที่เขามีความเอนดู ให้เขาหาผัวให้ใหม่ให้มันแก่กว่าออตาแลปู่ จะได้ประชันคู่กับออเถ้า อีเซ่อเซอะนี่มึงจะมาเฉอะแฉะเน่าเฉาเฉื่อยอยู่ฉนี้ กึ ชิณฺโณ จะมารักใคร่อ้ายคนแก่กระลีกระดางลาง ใครนี่เขาจะมีบ้างในเมืองคน รมฺมยิสฺสติ กูมาน้อยใจด้วยว่าอีจำใจจำจนเจ่าอยู่ฉนี้ มันจะเอาความยินดีมาแต่ไหนนั้นแล

น เต พฺราหฺมณ คจฺฉามิ นทึ อุทกหาริยา
ถิโย มํ ปริภาสนฺติ ตยา ชิณฺเณน พฺราหฺมณาติ
มา เม ตฺวํ อกรา กมฺมํ มา เม ตฺวํ อุทกมาหริ
อหํ อุทกมาหิสฺสํ มา โภติ กุปฺปิตา อหุ
อหํ อุทกมาหิสฺสํ ยํ ตฺวํ อุทกมาหริ
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ น เต วจฺฉามิหํ ฆเร
สเจ เม ทาสํ ทาสึ วา นานยิสฺสสิ พฺราหฺมณ
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ น เต วฺจฉามิ สนฺติเก
นตฺถิ เม สิปฺปชานํ วา ธนธญฺญญฺจ พฺราหฺมณิ
กุโตหํ ทาสํ ทาสึ วา อานยิสฺสามิ โภติยา
อหํ โภตึ อุปฏฐิสฺสํ มา โภติ กุปฺปิตา อหูติ
เอหิ เต อหมกฺขิสฺสํ ยถา เม วจนํ สุตํ
เอส เวสฺสนฺตโร ราชา วงเก วสติ ปพฺพเต
ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ยาจสฺสุ ทาสํ ทาสิญฺจ พฺราหฺมณ
โส เต ทสฺสติ ยาจิโต ทาสํ ทาสิญฺจ ขตฺติเยติ
ชิณฺโณหมสฺมิ ทุพฺพโล ทีโฆ จทฺธา สุทุคฺคโม
มา โภติ ปริเทเวสิ มา โภติ วิมนา อหุ
อหํ โภตึ อุปฏฐิสฺสํ มา โภติ กุปฺปิตา อหูติ
ยถา อคนฺตฺวา สํคามํ อยุทฺเธว ปราชิโต
เอวเมว ตุวํ พฺรเหฺม อคนฺตฺวาว ปราชิโต
สเจ เม ทาสํ ทาสึ วา นานยิสฺสสิ พฺราหฺมณ
เอวํ พฺราหฺมณ ชานาหิ น เต วจฺฉามิหํ ฆเร
อมนาปนฺเต กริสฺสามิ ตนฺเต ทุกฺขํ ภวิสฺสติ
นกฺขตฺเต อุตุปุพฺเพสุ ยทา มํ ทกฺขสิ ลงกตํ
อญฺเญหิ สทฺธี รมมานํ ตนฺเต ทุกฺขํ ภวิสฺสติ
อทสฺสเนน มยฺหนฺเต ชิณฺณสฺส ปริเทวโต
ภิยฺโย วงกา ปลิตา จ พหู เหสฺสนฺติ พฺราหฺมณาติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ตโต โส พฺราหฺมโณ ภีโต พฺราหฺมณิยา วสานุโค
อทฺธิโต กามราเคน พฺราหฺมณึ เอตมพฺรวิ
ปาเถยฺยํ เม กโรหิ ตฺวํ สํกุโล สํกุลานิ จ
มธุปิณฺฑิกา สุกตาโย สตฺตุภตฺตญฺจ พฺราหฺมณิ
อานยิสฺสํ เมถุนเก อุโภ ทาสกุมารเก
เต ตํ ปริจริสฺสมฺติ รตฺตินฺทิวมตนฺทิตาติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อิทํ วตฺวา พฺราหฺมณพนฺธุ ปฏิมุญจิ อุปาหนํ
ตโต โส อามนฺตยิตฺวาน ภริยํ กตวา ปทกฺขิณํ
ปกฺกามิ โส รุณฺณมุโข พฺราหฺมโณ สหิตพฺพโต
สิวีนํ นครํ ผีตํ ทาสปริเยสนํ จรนฺติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
โส ตตฺถ คนฺตฺวา อวจาสิ เย ยตฺถาสุํ สมาคตา
กุหึ เวสฺสนฺตโร ราชา กตฺถ ปสฺเสมุ ขตฺติยํ
โส ชโน ตํ อวจาสิ เย ตตฺถาสุํ สมาคตา
ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกฺกโต อติทาเนน ขตฺติโย
ปพฺพาชิโต สกา รฏฺฐ วงเก วสติ ปพฺพเต
ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกฺกโต อติทาเนน ขตฺติโย
อาทาย ปุตฺตทารญฺจ วงเก วสติ ปพฺพเตติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
โส โจทิโต พฺราหฺมณิยา พฺราหฺมโณ กามคิทฺธิมา
วเน พาฬมิคากิณฺเณ ขคฺคทีปินิเสวิเต
อาทาย เวฬุวํ ทณฺฑํ อคฺคิหุตฺตํ กมณฺฑลุํ
โส ปาวีสิ พฺรหารญฺญํ ยตฺถ อสฺโสสิ กามทํ
ตํ ปวิฏฐํ พฺรหารญฺญํ โกกา นํ ปริวารยฺํ
วิกนฺทิ โส วิปฺปนฏโฐ ทูเร ปนฺถา อปกฺกมิ
ตโต โส พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา โภคลุทฺโธ อสญฺญิโต
วงกสฺโสหรเณ นฏโฐ [
สุนเขหิ ปริวาริโต
รุกฺขสฺมิญฺจ นิสินฺโนว] อิมา คาถา อภาสถาติ

เดิน (๘) ตาสํ สนฺติกา ปริภาสํ ลภิตฺวา วันนั้นนางอมิตตดาสาวศรี เมื่อได้ฟังนางพราหมณีทั้งหลายมาเยาะเย้า นางก็หุนหันหิ้วหม้อเปล่ากลับแต่กลางหน กะเดียดทนนร้องไห้อกใจขุ่น เดินขมีขมันมุ่นมือเช็ดน้ำตา ส่วนออเถ้านั่งคอยท่าคาเคียงบันได จึงร้องทักถามลงไปว่าเปนไรนะน้อง เจ้าจึงร้องไห้สอึกสอื้น หรือว่าเจ้าลุยเลนเลือกลื่นแล้วล้มลง ถ้าแลว่าหม้อน้ำมันหนักนักเจ้าจงส่งเสือกขึ้นมา หรือจะให้พี่เถ้าชรานี่ลงไปรับ จะได้พยุพยูงจูงจับหิ้วปากคนละข้าง ฝ่ายว่านางกำลังโกรธกระทืบเท้าเสทือนสท้าน กลับเคืองขุ่นงุ่นง่านเอาออเถ้า แล้วบอกเล่าเนื้อความพลาง ว่า ขึ้น น เต พฺราหฺมณ คจฺฉามิ ออพราหมณ์เอ๋ยออพราหมณ์เถ้า ทีนี้แลหนามันฉ่าฉาวขึ้นแล้วที่ตีนท่า แต่วันนี้ออเถ้าอย่าพักว่าต่อไปเลย กูจะนั่งนิ่งเฉิดเฉยไม่นำพา ทั้งหุงเข้าปิ้งปลาหาฟืนไฟ กูจะทำไปไยให้เหนื่อยมือ ทั้งแผ่นดินตีนท่าหรือกูมิอยากไปย่ำกราย กูจะนั่งแบกความอายไปไยมี ทั้งความชอบแลความดีมันก็ไม่มีมั่ง ถิโย มํ ปริภาสนฺติ อีพราหมณีบ้านนี้นี่มันหนักหนา มันเคียงคอยกูอยู่ที่ท่าทางจะตักน้ำ กูจะได้ว่าอะไรมันสักคำหนึ่งนี่ก็ไม่มี ใจอะไรเช่นนี้นี่มันช่างร้ายเหลือ ราวกับว่ายักขินีผีเสื้อก็บ่มิเท่า มันมารุมกันร่ำว่าด่ากูเล่นเปล่าๆ เข้ามานี่หรือออกมากมุง ตะละว่าฝูงกาเข้ามาเต้นตามตอมรุ้งก็บ่มิปาน ทั้งโคตรเค้าเผ่าปราณมันด่าเล่น ชิณฺเณน ปตินา สห กูแค้นแต่มันว่ากูนี้อีจำใจจำเปนจำมามีผัว แก่แทบจะเปนพ่อของพ่อตัวก็ว่าได้พราหมณ์เอ๋ย กูอายเขานี่กระไรเลยอายเสียจริงๆ แทบประหนึ่งว่าจะกลั้นใจนิ่งตายเสียก็ว่าได้ ทั้งนั้นทั้งนี้ก็เพราะใครเล่าสิหว่า เพราะออเถ้าชรานี่มันไม่เจียมตัว ทำเปนหนุ่มน้อยระริกระรัวระเร่อเร้า มันจึงแคะไค้ขุดเอาโคตรเค้าขึ้นข้อนว่านี่หรือทุกอัน มา เม ตฺวํ เออเปนเหตุเท่านั้นดอกหรือนะแม่อมิตตดาผู้รูปงาม มันให้เกิดวิบากเปนขวากหนามขึ้นกับเพื่อนบ้าน อกรา กมฺมํ ทีนี้งานการเจ้าอย่าได้ทำ ทั้งหุงต้มตักตำตามใจเจ้าเถิดนะแม่ ขอแต่ว่ามานั่งให้พี่นี้แลๆ พอให้ชื่นใจ พี่ก็จะรับร่ำกระทำไปไม่ละเลย มา ตฺวํ อุทกมาหริ เจ้าจงนั่งนิ่งเฉิดเฉยอย่าเหยียบย่างไปตีนท่า อหํ อุทกมาหิสฺสํ พี่จะตักน้ำตำเข้าเฝ้าหอบหามาเลี้ยงเจ้า มิให้นางน้องแม่หมองเศร้าสลดนวล พี่จะอุส่าห์ครุ่นครวญกระทำไปให้ทุกเวลา นาหนฺต มฺหิ กุเล ชาตา เอ๊ะๆ เปนกระไรกระนี้หนาท่านพราหมณ์เอ๋ย อันญาติกาของกูนี้ไม่เคยจะเปนเหมือนเช่นว่า ตัวเปนภริยาท่านนะหรือจะหาญใช้สามีเล่นต่างทาส ให้ผิดบูราณราษฎร์แต่ก่อนเก่า ถ้าแม้นท่านรักเราจะอยู่ไปด้วยกัน จงผ่อนผันขวนขวาย หาข้าหญิงชายมาให้กูใช้ ถ้าไม่หามาก็อย่าสงสัยว่ากูจะอยู่ร่วมประเวณี กูจะรีบรี่หนีกลับไปบ้านหาพ่อแม่ นตฺถิ เม สิปฺปชานํ วา โอ๋ยตายจริงแล้วแลในครั้งนี้ อ้ายเรือนคนก็จะเงียบเปนเรือนผีเล่ห์ดังป่าชัฎ ด้วยเจ้าอยู่นี้เปนที่สวัสดิ์สว่างอารมณ์ อนึ่งศิลปศาสตร์วิทยาคมแลความรู้ พี่ก็มิได้ศึกษาในสำนักครูให้มันรู้กับเขามั่ง อันที่จะบังเกิดบุรณะธนังโง่ทั้งนั้น ธนธญฺญญฺจ พฺราหฺมณิ อมิตตดาเอ๋ย ทุกวันนี้พี่เคยขยันก็แต่ว่าจะเที่ยวขอทานมันก็ไม่สู้ได้มาก ได้แต่สักทนานถ้วยถุงหุงใส่ปากไปค่ำเช้า ลางวันขอไม่ได้ก็จนเจ่าจำใจอด ทุกสิ่งสรรพม้วยหมดไม่มีเลย ถ้าแลว่าพี่มั่งคั่งดังเคยแต่เก่าก่อนก็จะเปนไรมี ทั้งทาสาทาสีแลเงินทองของนานา มิให้น้องต้องออกปากว่า พี่จะหามาบำเรอเจ้านี่จริงๆ อหํ โภตึ นิ่งเสียเถิดนะเจ้า จะร้องไห้ไปไยเล่าฟังพี่ว่า จะเสียนวลเสียน้ำตาเสียเปล่าๆ ทุกสิ่งสรรพพี่เถ้าไม่ขัดข้อง พี่จะปฏิบัตินวลน้องเจ้าทองอมิตตดา ทุกวันทุกเวลานี้แล

เดิน (๙) สา เทวตาวิคฺคหิตา หุตฺวา วันนั้นนางอมิตตดา เทวตา เมาะ ภุมฺมเทวตา มีภูมินทรเทพยดามเหศรศักดิ์สุรเทเวศร์ เคยอนุเคราะห์พระเพศยันดรผู้เรืองเดชดวงราชรวิวงศ์ อันมีมโนปณิธิประสงค์สร้อยสรรเพชญ์ดาญาณ คอยจะก่อเกื้อกระทำการพุทธการก ครั้นเมื่อพระองค์ทรงยอยกสัตตสดกมหาทานก็สำเร็จ เพราะเทพยเจ้าเปนทูตกรรมนำยุบลข่าวสาสนไปแจ้งเหตุ แก่กรุงกระษัตริย์รัตนนิเวศน์ทุกเขตรขันธ์ จึงได้มารับพระราชทานทันในเมื่อเวลาเช้า อันครั้งนี้เล่าก็เหมือนกัน เทพยเจ้าเธอก็ยังกระนั้น มหาสตฺตํ ปุตฺตปริจาคํ กตฺตุกามตาย ปราถนาเพื่อจะยังพระมหาสัตว์ พระเพศยันดรจอมจักรพรรดิ์พงศ์ เชื้อชิเนศรนามอนงค์หน่อพุทธางกูร จะให้พระองค์ทรงเพิ่มภูลพระบารมีนิยมยอดยิ่งมกุฏทาน คือพระปิยบุตรเยาวมาลยบริจาค เปนปรมัตถบารมีอย่างยอดยากยิ่งผู้จะทำได้ วิคฺคหิตา ภุมฺมฏฺฐาย เทพยเจ้าจึงบันดาลดลใจนางอมิตตดา ให้รู้จักกรุงพระภารารัตนพิเชต ทั้งเนื้อหน่อนามนเรศรราชวรวงศ์ อิกทั้งพระญาติประยูรยงยิ่งสากล กิตติศัพท์ที่เหตุผลให้รู้แจ้ง เทพยเจ้าเธอเสแสร้งสังหรหากเข้าดลใจ นางอมิตตดาจึงว่าได้ฉนี้ ว่า ขึ้น เอหิ เต เอ๊ะๆ ออพราหมณ์เอ๋ยออพราหมณ์เถ้า ถอยไปไยเล่าถอยออกไปไย กะถดเข้ามาให้ใกล้ๆ เข้ามาให้ถึงนี่ เถ้ายังจะรู้อะไรมีหรือว่ารู้อยู่มั่ง อหมกฺขิสฺสํ กูจะเล่าให้ฟังที่ริมหูรู้แล้วอย่าแพร่งพราย ถ้าแลออเถ้ามิวุ่นวายเห็นจะสมคะเน ยถา เม วจนํ สุตํ ออเถ้ายังมิได้ฟังมั่งหรือแต่ก่อน ชาวพระนครเขาพูดกัน กิติศัพท์มี่สนั่นกูรู้แจ้ง จริงๆ นะเถ้าอย่าแคลงว่ามุสา เอส เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าสมเด็จพระบรมหน่อนรารัตนภิเศกสรง อรรคราชเอกองค์อุดรพิเชต ผู้ผ่านพิภพพงศ์เพศเพียงจุลจักร คือพระเวสสันดรหริรักษ์เรืองพระเดชา อันเกิดในตระกูลวงศาสญชัยสีวิราช ท้าวเธอทรงประสิทธิ์ประสาทคเชนทรหัศดินทร์ ปัจจัยนาคนาคินทร์ค่าควรพระนคร แก่พฤฒิพงศ์ทิชากรทั้งแปดคน ชาวสกลพระนครเขาร้อนรนร้องทุกขราษฎร์ ให้ขืนขับเข่นพิฆาฏคงโทษเปนสองสถาน สมเด็จพระจอมจักรพาฬพระบิตุเรศ จึงเสริมสั่งให้เนรเทศจากพระเวียงไชย ท้าวเธอก็ไม่ทุกข์พระหฤทัยโทมนัศ ก็พาพระตระกูลแก้วเกษกระษัตริย์ทั้งสามองค์ คือพระยุพยงเยาวดี ทั้งพระหน่อนารถดรุณีที่น้อยๆ เสด็จสัญจรคล้อยคลาศประพาศโพนพง วงฺเก วสติ ปพฺพเต สี่กระษัตริย์พระองค์ทรงสำนัก ทรงหนังอชินพยัคฆจัมมาเพศ ทางสิกขาบทปรเมฏฐปฏิบัติ ยังคิรีรัตนบรรพตนครราชวงกฏา หนทางกำหนดที่จะไปก็ไม่ไกลหนักหนาไม่กี่ร้อยกี่พัน จะข้ามคืนค้างนั้นไม่สักกี่วันก็จะกลับมา ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ยาจสฺสุ ท่านจงอุส่าห์ไปเสียหน่อยหนึ่งจึงจะดี ลาภจงจะเกิดมีนี่จริงๆ ทาสํ ทาสิญฺจ พฺราหฺมณ พราหมณ์เอ๋ย ถึงเข้าแล้วอย่านิ่งจงทูลขอ ซึ่งดรุณน้อยหน่อทั้งสองพระองค์ โส เต ทสฺสติ ยาจิโต เห็นท้าวเธอก็จะทรงอุทิศประทานให้ ทาสํ ทาสิญฺจ ขตฺติเย ก็จะได้ขัตติโยรสมาใช้เปนทาสในกลางเรือน ทั้งหุงต้มตักตำจะได้เตือนให้หุงหา นั่นแลกูจะค่อยเทียมหน้ากับเพื่อนบ้าน เออก็นี่ตัวท่านจะว่ากะไร จะไปหรือๆจะไม่ไปก็อย่านิ่ง ชิณฺโณหมสฺมิ โอ๋ยทีนี้พี่ตายจริงแล้วสินะเจ้า ทุกวันนี้พี่ก็แก่เถ้าลงร่ำระ ทุพฺพโล ทั้งกำลังกายพละนี้ก็ล้าเลื่อย แต่จะขึ้นเรือนก็เหนื่อยให้หิวหอบ มักมึนม่อยหมอบคาบันไดอยู่เปนครู่ ทุกวันนี้พี่มาชื่นชูอยู่ด้วยเจ้าผู้แม่เรือน ถึงว่าจะระงกระงันงมเงื่อนเหงาหง่อยพี่ก็ไม่คิด ด้วยว่าน้ำใจพี่นี้ติดจะเปนหนุ่มอยู่สักหน่อย ถึงว่าเจ้าจะใช้สรอยเสร็จสิ้นในการเรือน ก็เห็นจะขยีขยันขเยื่อนยืดยาวไม่เหยาะแหยง เพราะว่ามันใกล้ๆแม่แรงก็ไม่ถดถอย ทีโฆ จทฺธา แม่เอ๋ยหนทางวงกฎนี้มันไม่น้อย ตั้งแต่เจ็ดแปดเก้าร้อยขึ้นไป นี่เจ้ารักหรือว่าชังจึงจะใช้ให้พี่ไปอย่างนี้ มา โภติ ปริเทเสสิ ปลอบเจ้าสักเท่าใดก็ไม่มีที่ว่าจะหายวายน้ำตา มา จ ตฺวํ วิมนา ยังจะมาขอดคิ้วนิ่วหน้าทำฮึดฮัด จะทุมโนโทมนัศน้อยใจไปไยนะน้องหญิง อหํ โภตึ อุปฏฺฐิสฺสํ เอ็นดูพี่มั่งเถิดนะแม่ ด้วยตัวพี่นี้ก็แก่ถึงเพียงนี้ ยอมแล้วสิว่าจะเปนทาสีแลทาสา มา โภติ กุปฺปิตา เจ้าจะยังหันหน้าหันหลัง หายโกรธเสียมั่งเถิดสินะแม่ ยิ้มเสียหน่อยแล้วก็แลแลมาข้างนี้นิดเถิดนะเจ้า แต่พอล่อล่อให้พี่เถ้านี้เริงรื่นชื่นน้ำใจ ยถา อคนฺตฺวา หาหาว่ากะไร อ้ายเถ้าจัญไรนี่จะไม่ไปหรือ จึงมาครวญคร่ำครั่นครือให้ใจอ่อน ทำอิดออดอ้อนวอนพเน้าพนึง ออกมาได้คำหนึ่งก็ว่าแก่เถ้า สองคำซ้ำเล่าว่าทางไกล ช่างขลาดนี่กะไรไปเหลือขลาด ตะละว่ายักขินีปีศาจมันจะหักเอาฅอไป นี่ออเถ้าได้ไปเมื่อไรจึงล่วงรู้ สํคามํ อยุทฺเธว ปราชิโต กูดูดูออเถ้าเหมือนบุรุษที่โฉดเฉามีชาติอันขลาด ยกซึ่งพลรถคชปรัติอัศวราชจัตุรงค์ พร้อมด้วยสรรพาวุธยุทธยงยกออกไป ยังมิทันที่จะได้สักครึ่งทาง ได้ยินแต่เสียงศัพทปืนตึงผึงโผงผางทางพวกพลทัพน่า อยุทฺโธว ยังไม่ทันจะได้ยุทธนาการเข้าชิงไชย ปราชิโต ร้องว่าโอ้เรานี้ไซ้ปราไชยแพ้เขาแล้วยุบยับ ชวนกันถอยราล่าทัพกลับเสียเถิดนะชาวเรา เอวเมว ตุวํ พฺรหฺเม กูดูดูออเถ้ามันช่างแสนอุบาทว์ ขลาดนี่กะไรไปสิ้นหมด หดนี่กะไรไปสิ้นอย่าง ยังไม่ทันไปได้แต่สักย่างทำหน้าเปนหน้างั่งเหงาหง่อยโง่ อคนฺตฺวาว ปราชิโต ร้องว่าโอ้หนทางไกล เกียจกะไรไปเกียจเหลือ ใครเขาจะไปเชื่อเถ้าจรรไร ใครเขาจะไปตามใจเถ้าโว้เว้ สเจ เม ทาสํ ทาสึ วา แม้ออเถ้ามิไปหาข้าหญิงชายมาให้กูใช้ ก็อย่าสงสัยที่กูจะอยู่สันนิวาศหรืออย่าสำคัญ อ้ายที่ไหนที่นั่นที่ออเถ้าไม่ชอบใจ ที่มันแค้นจนเลือดตาไหลได้วันยังค่ำ กูก็จะรีบเร่งกระทำร่ำไปให้หลายเล่ห์ นกฺขตฺเต ถึงยามตรุษยามสงกรานต์ ฝูงชนชาวบ้านท่านทั้งหลาย เขาแต่งตัวกันเฉิดฉายทั้งชายหญิง กูก็จะแต่งขึ้นบ้างให้เพราพริ้งเพริดพร้อมลม่อมหมดอยู่สดสวย แล้วกูก็จะร่าเริงสำรวยระแร่เล่นให้สำราญ ที่ไหนมีมโหรทึกฉิ่งฉับขับขานประสานซอ กูก็จะวนเวียนเข้าไปเลียนล้อเล่นตาให้ติดใจ ออเถ้าเห็นกูก็จะดูไม่ได้ด้วยความแค้น ก็จะโศกเศร้าเหลือแสนสุดเวทนา ภิยฺโย วงฺกา ปลิตา จ อ้ายโรคชราก็จะกำเริบแรงขึ้นทุกวัน อ้ายหลังที่โกงนั้นมันก็จะโกงหนักเข้าทุกที หน้ามึงก็จะซีดเปนหน้าผีผ่ายผอมตรอมใจตาย เพราะออเถ้ามิตามใจกูนั้นแล

เดิน (๑๐) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ศรีรัตนวงศ์วิสุทธิชาติ ผู้มีญาณวุฒยุตรยิ่งเปรมปราชญ์ประหานหักกิเลศ โส พราหฺมโณ อันว่าพราหมณ์เถ้าพฤฒิเพศสัมพันธพงศ์ทิชพราหมณ์ ภีโต พราหฺมณิยา อ้ายจิตรใจนั้นให้ครั่นคร้ามกลัวภรรยา วสานุโค เมาะ วสํ อนุโค ด้วยเถ้าชราละเลิงหลงลุอำนาจมาตุคาม อทฺธิโต กามราเคน อันกามราคตัณหาหากเบียดเบียน ให้จิตรนั้นแปลกเปลี่ยนโปล่งเปล่าเฝ้าฟั่นเฟือน ตาแกกลัวหนักกลัวหนากลัวนางอมิตตดาจะจากเรือนแร่ไปคบชาย จึงละเลิงละลายเลื่อนเสียจากถ้อยถอยคำที่พูดจา ว่าใครเขาได้ว่าหาว่าจะไม่ไป เมื่อเจ้าจะใช้ให้พี่ไปพี่ก็ไม่พรั่น ทำไมกับเขาวงกฎแค่นั้นทางสักกี่พันกี่ร้อย แต่ก่อนร่อนชะไรพี่ก็เคยไปอยู่บ่อยๆ ถึงว่าจะให้พี่เดินเกินเขาวงกฎไปอิกสักหน่อยพี่ก็ไปได้ สุดแต่เจ้าจะใช้พี่ไปถึงไหนพี่ก็จะไปได้จริงๆ พฺราหฺมณึ เอตทพฺรวิ ตาแกจึงว่าเร็วๆ เข้าเถิดอย่านิ่งนะเจ้าอมิตตดา ไวๆ เข้าเถิดสิหนาอย่ามัวนั่ง ปาเถยฺยํ เม กโรหิ ตฺวํ เจ้าจงแต่งเสบียงกรังกระทำให้อักโข สํกุโล เมาะ ติเลน กตขชฺชกํ ทั้งขนมแขงเปนก้อนกัด งาตัดเข้าตอกขั้วถั่วงาแลแดกงา สํกุลานิ เมาะ ขุทฺเทน ปึสิตฺวา กตปุเว ขนมรำเรเร่ฉ่ำ ทั้งขนมเทียนทำทั่วทุกสิ่ง มธุปิณฺฑิกา เมาะ สกรมธุกํ โยเชตฺวา อิกทั้งขนมผิงหินฝนทอง เปนเสบียงของค้างไว้ได้นานๆ ใส่น้ำผึ้งน้ำตาลเติมน้ำอ้อยเหลว สุกตาโย กระทำให้เร็วๆ ล้วนแต่หลากๆ สตฺตุภตฺตํ ทั้งเข้าตูเข้าตากแต่งให้ต่างๆ เปนของข้ามคืนค้างเครื่องเสบียงกรัง ขึ้น อานยิสฺสํ พี่ก็จะเที่ยวเซซังไปแสวงหา พระเวสสันดรขัตติยาเข้าแค่นขอ เมถุนเก ซึ่งพระดรุณน้อยหน่อเจ้าทั้งคู่ อุโภ ทาสกุมารเก เอาพระจอมจุ้ยจุกน้อยๆ น่าเอนดูมาเปนทาส รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา ใช้สรอยก็จะไม่นิราศหลบลี้ ทุกทิวาราตรีไม่เลินเล่อ ปริจริสฺสนฺติ จะได้บำรุงบำเรอติดตามเจ้า ก็จะงามหน้าพี่เถ้าทุกเวลา พวกอีหญิงปากกล้าใจสามาญ ที่มันแกล้งว่าด่าประจานเยาะเย้ยเจ้า ก็จะต้องประสมประสานกลับคืนเข้าขอดีด้วย เจ้าก็จะระรี่ระริกกระซิกกระซวยรวยระเริดเพริศพริ้ง จะได้เปนเจ้าจอมหม่อมหญิงอย่างมีบุญ เขาก็จะเรียกว่าเจ้าจอมดรุณคุณแม่อมิตตดา เพราะว่ามีทาสีแลทาสานั้นแล

เดิน (๑๑) สา ขิปฺปํ ปาเถยฺยํ ปฏิยาเทตฺวา วันนั้นนางอมิตตดาสาวสี เมื่อจะแต่งเสบียงกรังให้ทชีไปทางไกล ออเถ้าสั่งสิ่งใดเจ้าก็ทำได้สิ่งนั้น ทุกสิ่งสรรพเสร็จสรรพสำหรับจะเดินทาง ทั้งลูกเดือยเข้าฟ่างต่างๆ ไม่อย่างเดียว เข้าเหนียวเข้าเจ้าเข้าเม่าเข้าพอง เปนของเดินป่า ถั่วงาสาคู เข้าตูเข้าตาก หลากๆ ไม่น้อย ที่ใส่น้ำอ้อย อร่อยดีล้ำ น้ำผึ้งหวานฉ่ำ น้ำตาลหวานเฉื่อย เหน็จเหนื่อยแก้ร้อน ผ่อนลงถุงไถ้ ยัดใส่ย่ามละว้า หนักหนาซับซ้อน ที่ไหนกินก่อน ผ่อนไว้ข้างบน ที่ไหนเมื่อจน จะกินกลางทาง จัดไว้ข้างล่าง ต่างๆ สารพัด พฺราหฺมณสฺส อาโรเจสิ จึงบอกแก่ท่านตาพราหมณ์ ว่าเสบียงเครื่องย่ามก็พร้อมเสร็จอยู่ถ้วนถี่ จะไปก็ไปเสียเดี๋ยวนี้เร็วๆ เข้าอย่าอยู่ อ้ายคนอื่นมันรู้มันจะจู่ไปเสียก่อน จะเสียทุนเสียรอนเข้าของเครื่องเสบียงกินสิ้นเสียเปล่าๆ โส เคหทุพฺพลฏฺฐานํ ถิรํ กตฺวา ฝ่ายออเถ้าพฤฒาทลิทก ให้คิดวิตกพะว้าพะวัง ด้วยอมิตตดาจะยังตัวสิจะไป ทชีมิไว้ใจด้วยเคหา เก่าคร่ำคร่าซวนโซเซ อ่อนโอ้เอ้เอียงโอนเอน กลัวจะเครนครืนโครมลง โย้ให้ตรงกรานไม้ยัน ค้ำจันทันจุนจ้องไว้ เกลากลอนใส่ซีกครุคระ มุงจะจะจากห่างๆ แลข้างล่างโล่งตลอดฟ้า ขึ้นหลังคาครอบจากหลบ ก้งโค้งกบกดซีกกรอบ ผ่าไม้ครอบคร่อมอกไก่ ไม้ข้างควายแขวะเปนรู สอดเสียบหนูแน่นขันขัด ปั้นลมดัดหายหักห้อย กบทูย้อยยกแครกคราก จั่วจัดจากให้หายห่าง ฝาน่าต่างแต่งให้มิด ล่องถุนปิดปกซี่ฟาก ตงรอดครากเครียดรึงรัด เตาหม้อขัดค้ำขึงขัง ทฺวารํ ปฏิสํขริตฺวา จักตอกมามัดเปนเกลียว ผูกแน่นเหนี่ยวหน่วงประตู ห่วงหิ้วหูชูชักชิด ปิดมืดมิดไม่เห็นห่าง ใส่กลอนกลางกลัดเหน็บแนม ลิ่มเสียดแซมซ้ำให้ชิด ไม่เคยปิดอย่าพักเปิด เท้าถีบเถิดถูกไม่ลื้น บันไดขึ้นขันชะเนาะ มั่นเหมาะเจาะจ้องจุนชาน ทำลนลานโน่นนี่เสร็จ กอบสะเก็ดกวาดผงแผ้ว ทำเรือนแล้วแล่นเข้าป่า ทารูนิ อาหริตฺวา เที่ยวหักหาหอบฟืนแห้ง ได้พอแรงรวบรัดเกี่ยว แบกทอดเดียวเดินดุ่มดิ่ง ถึงทอดทิ้งแทบเตาไฟ จัดแจงให้ไม่หยุดยั้ง ฆเฏน อุทกํ อาหริตฺวา ฉวยหม้อมาหมุนตักน้ำ เดินผลีผลำมาผลอยๆ สพฺพภาชนานิ ปูเรตฺวา ใส่ภาชนทอยนอกในเรือน ไม่ต้องเตือนให้หยุดพัก เต็มเติมตักจนสิ้นหมด ตาปสเวสํ สมาทยิตฺวา เปนดาบสเบี่ยงบ่ายเพศ โยคีเวศหวังพ้นภัย ไปทางไกลเกลือกอันตราย เฉียงบ่าซ้ายสอดสังวาลย์ เตรียมครบการเครื่องไสยศาสตร์ พฺราหฺมณึ โอวทิตฺวา เถ้าจึงให้โอวาทสั่งสอนนางอมิตตดาว่า ขึ้น ภทฺเท ดูกรเจ้าผู้มีพรรณผิวหน้าอันเจริญ อิโต ปฏฺฐาย แม่เอ๋ย ตั้งแต่นี้พี่จะห่างเหินไปจากเจ้า แม่จงอยู่กับเย่าเฝ้าอยู่แต่กับเรือน อย่าเที่ยวพูดจาคบเพื่อนจะเสียตัว อันชาติเช่นชายชั่วมันมักจะหยอกเอิน ถ้ามันจะกรีดกรายเกริ่นกระแอมแอบเข้าเกี้ยวพาน แม่อย่าได้สามาญด้วยวาจา มันจะตามถ้อยคำเข้ามาประสมประสาน เกลือกเยียมันสาธารณ์เจ้าจะอดสู ค่อยก้มหน้าต่ำตาอยู่แต่ในเคหา วิกาเล มา นิกฺขมิ ค่ำมืดผิดเวลาอย่าลงล่าง ปิดประตูน่าต่างเข็นบันได ทั่งลิ่มกลอนสลักใส่ให้แน่นแฟ้น ถ้ามาตรแม้นมันจะกระแอมแอบเข้ามา แม่อย่าได้พูดจาทักทาย มันจะรู้แยบคายว่าพี่ไม่อยู่ อันนักเลงเจ้าชู้แยบคายมันมีมาก ทีจะพูดแล้วก็หวานแต่รากตลอดปลาย ทำเปนประเปรยปรายเข้ามาแอบอิง ทำทีเล่นทีจริงไม่ยิ้มแย้ม ทำเปนสนิทสนมเหน็บแนมน้อมตัวเข้าไป ใครมิรู้เชิงชายก็ตายใจหลงไปด้วย มันก็จะระรี่ระรวยริบจนสิ้นตัว อันเมียงามกว่าผัวนี่นะมักได้ความเดือดร้อน เจ้าจงฟังคำพี่สั่งสอนให้โอวาท อปฺปมตฺตา แม่เอ๋ย จงอย่าได้ประมาทหมั่นระวังตัวของเจ้า ยาว มม อาคมนา ตราบเท่าพี่เถ้าจะกลับมา จากอรัญราวป่า โน้นเถิด

เดิน (๑๒) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์สยัมภูญาณพงศ์พุทธเวไนย ผู้มีอุกฤษฐญาณูปนิสัยสุดสิ้นเสร็จกิเลศสงคราม พฺราหฺมณพนฺธุ อันว่าพฤฒิพราหมณพันธุเพศ ผู้สืบสัมพันธโคตรเค้าทิชาเชฐเชื้อนิคคาหกพราหมณชาติ ขึ้น อิทํ วตฺวา เมื่อทชีให้โอวาทสั่งสอนอนงคนาฏนางอมิตตดา ทุกสิ่งสรรพเถ้าชราจะพร่ำสอน พิรี้พิไรชอ้อนรำพันว่า จนสุดสิ้นสติปัญญาด้วยความรัก กลัวนางอมิตตดาจะหนี ทชีก็ทำเปนคึกคักแขงน้ำใจ ปสิพฺพกํ เถ้าก็ยกย่ามใหญ่ใส่สรรพสเบียง หิ้วสายสอดสพักพาดเฉวียงวะวามวู่ดูพรุงพรัง ปฏิมุญฺจิ อุปาหนํ ยังเท้าทั้งสองสวมใส่เกือกกันรองรกเรี้ยวจะรับหนาม ทำด้วยหนังน้อยนั้นบางๆ เบาแต่ชั้นเดียว เชือกกระหวัดรัดแน่นเหนี่ยวหน่วงเน้นให้ถนัด ถึงจะวิ่งเท่าวิ่งก็ไม่พลัดพลาดล้มก็ไม่หลุดหาย เถ้าก็อุตตลุดวุ่นวายแต่งตัวพว้าพวัง โส อามนฺตยิตฺวาน ภริยํ จึงเรียกนางอมิตตดาว่ามาเถิดนะแม่มา มาแต่พอให้พี่ได้เห็นหน้าเสียยังแล้ว แต่พอให้พี่นี้ผ่องแผ้วภิรมย์รื่นระงับโศก ด้วยจะวิปปวาสวิโยคจากเจ้าไปทั้งรัก กตฺวา ปทกฺขิณํ เถ้าก็ยังอมิตตดาดรุณเรศ ให้นั่งในทักขิณประเทศสืบสายสำเนียน แล้วกระทำประทักษิณวนเวียนวงได้สามรอบ ตามฉบับระบอบไสยศาสตร์เพท ว่าทั้งผู้อยู่ก็จะไม่มีภัย ทั้งผู้ไปก็จะไม่มีเหตุ หากให้เจริญศุขสวัสดิ์ทั้งสองข้าง เปนจารีตเยี่ยงอย่างว่าเกิดคุณ โส รุณฺณมุโข ออเถ้าชราตาขุ่นมีแต่น้ำตาไม่หยุดยั้ง ไหลละลุมหล่อคลอถั่งคลุ้มคลั่งน้ำใจตน สยดสยองพองขนตนสั่นประพรั่นกลัว ให้ป่วยปวดเวียนหัวมัวมืดทั้งหน้าตา ดังจะดับเด็ดดวงชีวาชีวิตจะม้วยมรณ์ ปิ้มประหนึ่งว่าจิตรใจจะจรไปจากร่าง หากเปนนิมิตรลางล้วนแต่อัปรี ทั้งเหงื่อกาลก็ไหลระรี่ลงโทรมกาย ส่อเหตุให้เห็นว่าจะไปตายมิได้กลับ สหิตพฺพโต เถ้าก็ประดิษฐ์ประดับกาย เปนดาบศเบือนบ่ายจำแลงเพศ สำหรับจะได้เดินดั้นดงทุเรศทางไกล สำคัญว่าจะนิราศภัยไม่บีฑา เถ้าก็ลงจากเคหาพว้าพวัง เหลียวแลดูเรือนรังที่เคยอยู่ ว่าโอ้โอ๋อกกูในครั้งนี้ นี่มันจะเปนเรือนกูหรือเรือนเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งสร้อยเศร้าโศกสลดระทดถอย หันหน้าหันหลังยับยั้งอยู่บ่อยๆ ถอยไปแล้วแล้วก็ถอยมา ดูนี่ก็เวทนาน่าลำบาก อทฺธิโต กามราเคน ทั้งนี้ก็เพราะว่ากามราคหากรุมเร่งเอาตัวมา จึงให้มีจิตรคิดกล้าเที่ยวเซซังไม่ยั้งกลัว มรณนฺติเกน วา อนึ่งจะว่าโชคชตาพาตัวของออเถ้าชรานั้นก็มี เปนมรณโชคราษีมรณันติกลาภ จวบจวนมรณภาพใกล้ตายจะมีบุญ จึงพเอิญให้อาจหวนหุนมุมุ่งมาระร่าระรวย เพราะไฟราคก็กล้าทั้งชตาก็มาเปนด้วย จึงพุ่งพวยไปได้ในทางเปลี่ยว ละลนละลานหลีกเลี้ยวลัดลอดมา สิวีนํ นครํ เถ้าก็ตั้งหน้ามายังสีวิราฐธานี ผีตํ เมาะ หิรญฺญสุวณฺณํ อันมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ ทุกสิ่งสรรพสารพัดจะบริบูรณ์ เปนต้นว่าสัตตรัตนก็เพียบภูลอยู่มูลมอง ทั้งอลงกรวัตถุพัศดุแลเงินทองก็นองเนือง อนันตอเนกด้วยเครื่องสุรศฤงคาร ทั้งพลรถคชพาหนะยานอเนกา ทั้งขัชชกโภชนาภัตตาหารอเนกนอง ทาสปริเยสนํ จรํ ทชีก็เที่ยวเซซังสืบเสาะแสวงหายุบลเหตุ จะใคร่รู้ว่าสมเด็จพระศรีวิสุทธิเมธบรมมิ่งมาศ ยังค่อยเสด็จศุขสันนิวาศหรือนิราศแรมไกล ถ้ายังอยู่ก็จะจู่เข้าไปเสนอขอ ซึ่งสองกุมารน้อยหน่อไม่มีสดุ้ง เย ยตฺถาสุ ํ สมาคตา เห็นนรชาตินราที่ไหนกลุ้ม สันนิบาตประชุมชวนกันพูดจา โส ตตฺถ คนฺตวา ทชีก็แอบอ้อมดะดุ่มด้อมเดินเข้ามาทำเมียงม่าย ประสมประสานทักทายที่จะปฤกษา ว่า กุหึ เวสฺสนฺตโร ราชา ฮ้าเฮ้ยนะชาวเจ้าทุกวันนี้ อันว่าสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าธรณีธรรมิกาธิเบศร์ ผู้ผ่านพิภพเวียงวิเชตเอกอรรคนครเลิศโลก กตฺถ ปสฺเสมุ ขตฺติยํ ยังอยู่เปนบรมศุขหรือทุกข์โศกแค้นเคืองพระหฤทัย เสด็จประทับทางทิศที่ใดใครยังจะรู้มั่ง ว่าให้แจ้งจริงจังอย่าเท็จโทษ โส ชนา ตํ อวจาสิ สิ้นบรรดาคนทั้งนั้นเขาก็โกรธเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคำรามร้องว่าเหม่ๆ ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ดูรุอ้ายเจ้าเล่ห์ทำเสแสร้ง พูดจานี่แอบแฝงเปนแยบคาย ใครเขาจะไม่รู้เชิงชายชาติอ้ายขี้ขอ ล้วนเหล่าอ้ายยกยออ้ายย่ามใหญ่ มึงนี้สุดแท้แต่ว่าใครเขายิ่งให้ก็ยิ่งจะไปเวียน ยาจเนน อุปทฺธุโต แต่มันชวนกันเบียดเบียนขอนี่ทุกอย่าง อติทาเนน ขตฺติโย แล่นเข้าขอเอาช้างแก้วกุญชรชาติไปได้ ปพฺพาชิโต จนชาวเมืองเขาขัดใจจำให้เนรเทศ สกา รฏฺฐา จนพระองค์ต้องจรจากนิเวศน์เวียงวัง อาทาย ปุตฺตทารํ พาพระหน่อน้อยทั้งมเหษี เสด็จสัญจรสู่พนาลีพงพนัศ วงฺเก วสติ ปพฺพเต สี่กระษัตริย์เธอทรงประพาศพักเปนนักพรต อยู่ยังเขาศิงขรบวรวงกฎไปตามเข็ญ เดิน เลณฺฑุทณฺฑาทิหตฺถา ฮ้าเฮ้ยอ้ายชาวเราเอาให้พอแรง บ้างก็ฉวยได้ไม้ค้อนก้อนดินที่แขงเข่นเขี้ยวขยิกตาม พฺราหฺมณํ อนุพนฺธึสุ บ้างก็ทอดทิ้งวิ่งวะวู่วามตามติดร้องว่าเอาวา บ้างก็ร้องเหวยเถ้าชรากลับมาก่อนอย่าเพ่อไป พรุ่งนี้เช้าท้าวเธอจะแจกทานให้ทั้งหญิงชาย บ้างก็วิ่งก้าวเกินสกัดก่ายกั้นกันเปนพรวน บ้างก็ไล่แข่งเสียดสวนสกัดหน้า เถ้าก็ร้องว่าออเจ้าอย่าเข้ามามิใช่การ ช้างม้าที่ไหนกูได้ไปขอทานจริงๆ หรือฟ้าผ่า เขาก็เหวี่ยงวิ่งทิ้งถูกที่แข้งขาผวาหกล้มลงนอนกลิ้ง เถ้าก็ลุกขึ้นร้องว่ามึงจะลองหรือเอาจริง หรือว่าทิ้งทางที่จะหยอกเล่น ถ้าจะเล่นก็เล่นกัน ถ้าใครดีใครขยันก็สันเข้ามาทีละคน เถ้าก็วิ่งระเหระหนหันไม้เท้าจ้อง ทำท่าทางทีพลองแผละสามส้าว แล้วร้องท้าว่าออเจ้าจัดกันเข้ามาทีดีๆ จะเล่นกันทางกระบองกระบี่ตีไม้สั้นไม้ยาว หรือจะซัดสามส้าวสอบกันด้วยมวยหมัด อันกูนี้ถึงแก่ก็แก่หัดหัดกันดูสักตั้ง หรือจะเล่นกันทางเสโลห์ดั้งดาบเดี่ยวดีก็เข้ามา ปากออเถ้านั้นกล้าว่าไม่กลัว แต่อ้ายใจนั้นสั่นระรัวตัวก็สั่นอยู่จริงๆ อ้ายตีนพาวิ่งรั้งไม่อยู่ เถ้าก็คอยมองดูเดินขวะไขว่ คเนได้คเนเสียพอหมายมั่น เถ้าก็ผละผลุนผลันผลุดวิ่งออกวงนอก ผินหน้ามาแล้วก็แลบลิ้นหลอกบอกว่ากูขี้คร้านอยู่ เขาแล่นไล่สพรั่งพรูพรวดเดียวก็เข้าป่า

ขึ้น โส เทวตาวิคคฺหิโต หุตฺวา ฝ่ายเทพยเจ้าเข้าดลใจให้ออเถ้าล่วงเข้าพงไพรพนัศพรหา โส โจทิโต พฺราหฺมณิยา ทั้งนี้ก็เพราะว่านางอมิตตดาเจ้าหากใช้ จึงตะโพงโด่งเข้าป่าได้ดูเวทนา กามราเคน คทฺธิมา เหตุกระพัดรัตตาด้วยไฟราค เร่งร้อนรนทนทุกขลำบากเหลือกำลัง อฆนฺตํ ปฏิเสวิสฺสํ เมาะ ทฺวิทุกฺขํ อนุภวิฏฺฐ คือทุกขเวทนาทั้งสองสิ่งแสร้งมาประทะกัน มหาชเนน อนุพนฺธนทุกฺขํ หนึ่งทุกขลำบากยากนั้นด้วยชาวเมือง เขาแล่นไล่ติดตามเนืองนวดเน้นไม่ปรานี ที่ไม่ทันนั้นก็ทิ้งที่วิ่งถึงนั้นก็ตีตามพาโล วนปริโยคาณฺหทุกฺขํ อนึ่งทุกข์ลำบากยากเซซังเซอะซวนเข้าป่าชัฏ วเน พาฬมิคากิณฺเณ อันอาเกียรณ์ไปด้วยสิงห์สัตว์สารพัดพาฬมฤคราช ขคฺคทีปินิเสวิเต ล้วนเหล่าสรรพจตุบาทแรดร้ายเรือง ทั้งพยัคฆราชสีห์เสือเหลืองออกเนืองแน่น โส ปาวิสิ พฺรหารญฺญํ เถ้าก็หลงเข้าสู่ดงแดนแคว้นนายเจตบุตรลุทธเวทยาคุง โกกา นํ ปริวารยุํ ฝูงสุนัขนายเจตบุตรนี่นักหนา วิ่งนำหน้าแล่นไปก่อน บ้างก็วิ่งแซงเสียดซุกซ้อนสีนั้นต่างๆ พรรณดอกดำแด่นแดงด่างดาษดื่นไปทั้งไพร บ้างก็เห่าหอนแห้โหมไล่เลี้ยวล้อมเข้าเปนวง เถ้าก็วิ่งกรวดตรงขึ้นต้นไม้ รุกฺขสฺมิญจ นิสินฺโนว ขึ้นบนค่าคบได้ดำรงตัวให้มั่นคง แลดูแต่ล้วนพงพนัศหิมเวศทุเรศกันดาร เมื่อพฤฒาจารย์จะรำพันถึงคุณพระเวสสันดรราช ก็กล่าวเปนบาทพระคาถาว่า

โก ราชปุตฺตํ นิสภํ ชยนฺตมปราชิตํ
ภเย เขมสฺส ทาตารํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
โย ยาจตํ ปติฏฐาสิ ภูตานํ ธรณีริว
ธรณูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
โย ยาจตํ คติ อาสิ สวนฺตีนํว สาคโร
อุทธูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
กลฺยาณติตฺถํ สุปิวํ สิตูทกํ มโนรมํ
ปุณฺฑรีเกหิ สญฺฉนฺนํ ยุตฺตํ กิญฺชกฺขเรณุนา
รหทูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
อสฺสตฺถํว ปเถ ชาตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ
สนฺตานํ วิสเมตานํ กิลนุตานํ ปฏิคฺคหํ
ตถูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
นิโคฺรธํว ปเถ ชาตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ
สนฺตานํ วิสเมตานํ กิลนุตานํ ปฏิคฺคหํ
ตถูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
อมฺพํ วิย ปเถ ชาตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ
สนฺตานํ วิสเมตานํ กิลนุตานํ ปฏิคฺคหํ
ตถูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
สาลํ วิย ปเถ ชาตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ
สนฺตานํ วิสเมตานํ กิลนฺตานํ ปฏิคฺคหํ
ตถูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
ทุมํ วิย ปเถ ชาตํ สีตจฺฉายํ มโนรมํ
สนฺตานํ วิสเมตานํ กิลนฺตานํ ปฏิคฺคหํ
ตถูปมํ มหาราชํ โก เม เวสฺสนฺตรํ วิทู
เอวญจ เม วิลปโต ปวิฏฺฐสฺส พฺรหาวเน
อหํ ชานนฺติ โย วชฺชา นนฺทึ โส ชนเย มม
ตาย โส เอกวาจาย ปสเว ปุญฺญํ อนปฺปกนฺติ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
ตสฺส เจโต ปฏิสฺโสสิ อรญฺเญ ลุทฺธโก จโร
ตเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกฺกโต อติทาเนน ขตฺติโย
ปพฺพาชิโต สกา รฏฺฐา วงเก วสติ ปพฺพเต
ตุเมฺหหิ พฺรเหฺม ปกฺกโต อติทาเนน ขตฺติโย
อาทาย ปุตฺตทารญฺจ วงเก วสติ ปพฺพเต
อกิจฺจการี ทุมฺเมโธ รฏฐา วิวนมาคโต
ราชปุตฺตํ คเวสนฺโต พโก มจฺฉมิโวทเก
ตสฺส ตฺยาหํ น ทสฺสามิ ชีวิตํ อิธ พฺราหฺมณ
อยํ หิ เต มยา นุนฺโน สโร ปาสฺสติ โลหิตํ
สิโร เต วชฺฌยิตฺวาน หทยํ เฉตฺวา สพนฺธนํ
ปนฺถสกุณํ ยชิสฺสามิ ตุยฺหํ มํเสน พฺราหฺมณ
ตุยฺหํ มํเสน เมเทน มตฺถลุงเคน พฺราหฺมณ
อาหุตํ ปคฺคเหสฺสามิ เฉตฺวาน หทยํ ตว
ตํ เม สุยิฏฺฐํ สุหุตฺตํ ตุยฺหํ มํเสน พฺราหฺมณ
น จ ตฺวํ ราชปุตฺตสฺส ภริยํ ปุตเต จ เนสฺสสีติ
อวชฺโฌ พฺราหฺมโณ ทูโต เจตปุตฺต สุโณหิ เม
ตสฺมา ทูตํ น หนฺนติ เอส ธมฺโม สนนฺตโน
นิชฺฌคฺคา สิวิโย สพฺเพ ปิตา นํ ทฎฺฐุมิจฺฉติ
มาตา จ ทุพฺพลา ตสฺส อจิรา จกฺขูนิ ชิยฺยเร
เตสาหํ ปหิโต ทูโต เจตปุตฺต สุโณหิ เม
ราชปุตตํ นยิสฺสามิ ยทิ ชานาสิ สํส เมติ

ขึ้น (๑๓) โอ้พระเวสสันดรพุทธพงศ์ผู้ทรงพระเดชา อันเปนยอดขัตติยวราเรืองพระยศ ชยนฺตมปราชิตํ ข้าศึกย่อมระทดทั่วประเทศ สท้านสเทือนทั่วทุกขอบเขตรขันธสีมา ทรงพระราชศรัทธานี้ล้นพ้น ปติฏฺฐาสิ ภูตานํ เปนที่พึ่งแก่อกสัตว์ผู้ขัดสน ธรณีริว เปรียบดังพสุธาดลแผ่นดินดาล เปนที่ประดิษฐานแก่ฝูงสัตว์ย่อมอาศรัยสืบกันมา สาคโรว มิฉนั้นดังสายกระแสสินธุสาครคงคา อันมีคุณคณนานับมิได้ อสฺสตฺถํว ปเถ ชาตํ มิฉนั้นดังว่าต้นโพธิ์แลต้นไทร เปนที่อาศรัยแก่มหาชนอันเดินหนเมื่อยามร้อน อันพระศรัทธาของพระพุทธพงศ์เพสสันดรก็เหมือนกันดังนี้ไม่มีผิด ทำทานนี่สนิทไม่เลือกหน้า จะหาไหนมาเทียมเทียบเปรียบประเสริฐเสมอสองดังนี้ไม่มีเลย เอวญฺจ เม วิลปโต โอ้ตัวอาตมาเอ๋ย มาหลงอยู่ในพนัศพงไพรใครเขาจะปรานี เห็นก็เปนสุดที่มีแต่ว่าจะตาย โย ปุคฺคโล แม้แลว่าบุคคลผู้ใดใครเขาเดินมา วชฺชา เมาะ วเทยฺย จะพึงกล่าววาจามาเกริ่นกราย ประหนึ่งว่าจะรู้จักทักทายถึงทุกข์เรา ทางที่จะปรานีทชีเถ้าที่นี้บ้าง ว่า อหํ ชานํ ท่านเอ๋ย อย่าร้องไห้ไปเลยมันไม่ต้องการ เราจะบอกแก่ตัวท่านให้แจ้งใจ อันหนทางที่จะไปเรารู้จัก ยังพระอรัญญิกาวาศตำหนักไม่เนิ่นนาน สู่สำนักพระจอมจักรพาฬอรรคราชฤษี นนฺทึ โส ชนเย มม จะร่ำไปไยมีที่ขอบคุณ เสมือนหนึ่งจะเกิดเปนกองบุญแก่บุคคลผู้นั้น เพราะว่ายังความเกษมสันต์สุดที่จะยินดี ให้ชื่นชมบังเกิดมีแก่อาตมา ปสเว ปุญฺญํ เมาะ ปสเว ปุญฺญผลํ บุคคลผู้นั้นก็จะได้เสวยผลานิสงสบุญ ในมัคคุทเทศทุรกันดาร อนปฺปกํ เมาะ อนปฺปมาณํ จะนับจะประมาณมิได้ส่ำ เพราะวจีกรรมบอกบัดเดี๋ยว ตาย โส เอกวาจาย ด้วยถ้อยคำอันเดียวนั้นแล

เดิน (๑๔) ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์สมาทานธุดงค์อรัญญิกาวาศ ผู้สิ้นเสียสันโดษปลิโพธข้องข่มขาดควรจะคำนึง เอโก วนจรโก ยังมีกระทาชายพนายหนึ่งหนุ่มนั้นอรัญจบเจนจร ทั้งน้ำใจเพื่อนก็เหี้ยมห้าวหาญหักห้างนอนเนาเนินชำนาญป่า ลุทฺโธ เมาะ มิคลุทฺธโก กวดเก่งการหยาบช้าทารุณหุนหักกักขละล้วนร้ายกาจ แต่เพื่อนฆ่าเสียซึ่งมฤคชาตินี่มิใช่น้อย ทั้งน้ำใจก็ไม่ระทดถดถอยทนสู้ตาย ศัตรูสู่สิ้นไม่ระคายเคืองสดุ้ง ทั้งรูปร่างก็ใหญ่เยี่ยมทรงสูงสุดทหารเห็นสมตัว ทั้งน้ำใจก็มุทลุกุกะไม่คิดกลัวแกล้วกล้าหน้าขมึงทึง ทั้งอกไหล่ก็ผายผึ่งผง่านโงเงื้อมเขื้อมขยัน ทั้งคิ้วก็เขียวเข้มขันซ้ายขวาหน่วยตาเปนมันเขม้นมุ่งมะเมียงมอง ทั้งไฝแลหนวดดังลวดทองทลุมุมะไม่คิดใคร ครังเคราครุคระขึ้นรำไรอกอ้นขนเขียวขึ้นขดแขง เผ้าผมก็ยุ่งยิ่งหยักหยิกยะหยองแหยง หนวดแดงงอหงิกเงี้ยวดูดังเขี้ยวงะโง้งงอน ผ้าประเจียดประจงจับจีบซ้อนสรวมเศียรแสร้งตะแบงบิด โพกผูกพันสักกระสันสามรวดรัดกระหมวดกระหมุดกระหมิดฉุดชิดชักชายน้อยห้อยหูกระต่าย ทั้งเรี่ยวแรงแขงขึงขังทั้งกาย แขงข้อมือถือน่าไม้ลูกเหลาล้วนแหลม ลานพับสลับแซมใส่ส้นไว้เปนใบบิด ปลายก็ซึมซาบอาบยาพิษสพักสพายแล่ง ผ้าคาดพุงพันขันตะแบงแขย่งเข่นคร่าพร้าขัดเอว ทั้งเดินเหินก็รวดเร็วร่ายร้องตระเวนด่าน เจโต เมาะ เจตปุตฺโต เพื่อนเปนลูกของชาวบ้านเจตรัฏฐนคร เปนโคตรเค้าสัมพันธพเนจรเนื่องมาแต่บิดา จึงชื่อว่าเจตบุตรพรานป่านามบัญญัติ อารกฺขณตฺถาย ฐปิโต อันกรุงมาตุลรัฏฐเจตราชทั้งหกหมื่น มีพระหฤทัยชมชื่นประสาทสั่งสะพรั่งพร้อม ปฤกษาเสร็จแล้วก็ยอมมอบอาญาสิทธิ์ ให้พเนน้อยคอยระวังกระบถปัจจามิตรหมู่อรินทรราช ถ้าพบเข้าแล้วก็อย่าว่างเว้นเข่นพิฆาฏคอยตระเวนไพร อรญฺเญ ลุทฺธโก จโร เมื่อเพื่อนเที่ยวจรจบตระเวนไปปะเข้าที่นั่น สทฺทํ ปฏิสฺโสสิ ได้ยินเสียงเถ้าครวญครั่นสนั่นไปทั้งไพร เอ๊ะนี่จะเปนเสียงอะไรฟังไปก็ไม่ได้ศัพท์ ค่อยเอียงเอี้ยเงี่ยหูลงสดับดูก็เห็นหลาก นี่ใครหนอมาทำอะไร เสมือนหนึ่งเสียงร้องไห้อยู่วากๆ หว่างพงที่ตรงนี้ อย่าเลยจะเดินเข้าไปดูสักทีย่างย่องเข้าไปแต่ค่อยๆ ย่างเข้าไปทีละนิด ชิดเข้าไปทีละน้อย ค่อยเข้าไปให้ใกล้ เห็นแล้วก็ฮึดฮือ อุเหม่กูคิดว่าใครหรือ มิรู้ก็อ้ายจรรไรอ้ายพราหมณ์เถ้า มันมาร้องไห้หาจอมจักรพรรดิพระลูกเจ้าจะเจตนาอันใดหนอ อันอ้ายพันนี้ดีก็แต่ว่าจะขอขนไม่รู้อาย ถ้ากูนิ่งให้เข้าหาเห็นจะวุ่นวายเกิดกระลี แม้ไม่ขอพระโอรสก็พระมเหษีสักสิ่งจริง ถ้ากูเนิ่นนานนิ่งให้ชีวิต ความผิดนี้ก็จะมีมาถึงกู นี่อ้ายศัตรูแล้วสิหว่า ถ้ามิพิฆาฏฆ่าก็จะผิดด้วยรับสั่ง ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เพื่อนจึงถกเขมนขึ้นจั้งมั่งรั้งรัดขัดกระเบนเขม้นมุ่งหมอบยอบเข้าไป จึงปลดเปลื้องปลงน่าไม้ชักลูกหลุดออกจากแล่ง ใส่ปากเข้าขบคาบคั้นขยันแขย่งเขยื้อนขยดเข้ามา ธนุํ อาโรเปตฺวา จึงยกเท้าหน้าเหยียบคันข่มลงไว้ ก้มสอดสายสพักพาดไหล่ใส่เฉลี่ยงแล่งท้าย มือกระหวัดหน่วงเหนี่ยวสายสนสอดขึ้นกับคัน จึงนั่งเหยียดยกสองเท้าทอดกระทันถีบคันดันให้ถนัด กลับสายน้าวโอบอ้อมสพัดพาดสรวมใส่หลัง ชิยํ อากฑฺฒิตฺวา สองมือเข้าเข่นคร่าฉุดกระชากลากสายชัก เสียงดังกะกิกกักชักสายพาดขึ้นกับไก จึงเอาลูกลงวางใส่กับสายสรวมกรวมร่องราง แล้วลุกขึ้นยงโย่เหยียดหยัดยะแย่ย่างย่อเท้าหน้ายั้ง ขดคู้เข่าย่อเท้าหลังศอกหนึ่งตั้งขึ้นบนเข่า ยกส้นรางประทับกับแก้มเข้าแล้วเลงหลิ่วนิ้วแน่นึกจะยิง แล้วก็ตริตรึกกริ่งนิ่งคิดอยู่เปนครู่ ดูๆ ก็เห็นเปนใจเบา ถ้ากูยิงอ้ายนี่เดี๋ยวนี้ก็ตายเสียเปล่าไม่น่าทำ อย่าเลยนะจะถามมันสักคำฟังมันดู ตชฺเชสิ ก็ตวาดขู่รู่ร้องว่าเหม่ๆ ขึ้น ตุเมฺหหิ พฺรหฺเม ปกฺกโต ดูหรุอ้ายเฉโกโว้เว้ทำเล่ห์หลอก นี่มึงออกมาไยถึงที่นี่ที่กลางป่า นี่มึงเบียนบีฑาท้าวเธอจนหมดสิ้นแล้วหรือ จึงด้นดั้นดื้อออกมาถึงพงไพร ขอขอเข้ายกยอขอเอาที่ใหญ่ๆ ใส่เอาที่โตๆ อติทาเนน ขตฺติโย แล่นเข้าขอเอาแก้วกุญชโรกุญชรชาติช้างเปนศรีเมือง ปพฺพาชิโต จนชาวสีวิราฐเขาแค้นเคืองให้ขับไล่ สกา รฏฺฐา พระองค์ต้องจรจากพระเวียงไชยนิราศยศ อาทาย ปุตฺตทารํ กับทั้งพระราชโอรสอรรคมหิษี วงฺเก วสติ ปพฺพเต ไปทรงพรตพิธีเปนดาบศเพศ ในห้องหิมเวศบวรวงกฏ ทุมฺเมโธ อ้ายทรยศโง่หือรือโหดหาปัญญามิได้ อกิจฺจการี จะได้ไปรู้เอาใจใส่ทำไร่นาก็ไม่มี ดีก็แต่จะเที่ยวขอทาน รฏฺฐา วิวนมาคโต นี่ใครบอกแก่มึงหรือจึงดื้อดึงซมซานเซอะเซิงมาถึงนี่ ใครเขาจะปรานีอ้ายชั่วชาติ ราชปุตฺตํ คเวสนฺโต ยังจะมาทำโอดโอ้ โรทมาโน ร้องไห้หาพระจอมกระษัตริย์แสร้งพิไรทำไมหรือ มึงนี้สุดแท้แต่ว่าใครเขาให้ก็จะไปฮือแห่โหมเอาให้สิ้น อ้ายเสือเถ้าจำศีลใครเลยจะรู้เล่ห์ พโก มจฺฉมิโวทเก ทำเสแสร้งซนซอก ดังหนึ่งว่านกยางกรอกซอกซึมเซา เท้าสื่อแส่ซ้ำสับปลา ตสฺส ตฺยาหํ น ทสฺสามิ กูเอาเถิดสิหนาไหนมึงจะเปนคน ที่มึงจะหนีกูไปพ้นอย่าพึงคิด อิธ ชีวิตํ กูกลัวแต่ว่าหัวมึงจะขาดกระเด็นดิดดิ้นระแด่วๆ ลงกลางดินพอสิ้นใจ อยํ หิ เต อาวุธของกูนี้ไซ้ใส่ยางน่อง มยา นุนฺโน เมาะ มยา วิสฺสฏฺโฐ กูจะลัดลั่นลองเล่นสักฉับ จะกระหยับยกยิงเล่นสักเป้ง กลัวแต่ว่าจะไม่ผิดเองอย่าอวดอาจ ปาสฺสติ โลหิตํ อ้ายลูกศรมันจะดื้อดาษดูดดื่มเอาโลหิต สิโร เต วชฺฌยิตฺวาน ศีศะเองก็จะเด็ดกระเด็นเปนปลิดตกตามไม่ต้านทาน ดังกระโหลกลูกตาลหล่นหลุดลงจากขั้ว หทยํ เฉตฺวา สพนฺธนํ แล้วกูจะผ่าอกออกให้ทั่วแถกเถือถึงหัวใจ ทั้งเนื้อหนังแลพุงกะเพาะตับไตไส้สั้นยาว จะคุลีกรรมขยำเข้ากับเครื่องปรุง ตุยฺหํ มํเสน เมเทน มตฺถลุงฺเคน กูจะประดิษฐประดุงดูให้มันย่อง กับเนื้อซีกสันมันสมองในตัวมึง จะใส่ตับคาบนาบแพนงนึ่งให้สรรพเสร็จ อาหุตํ ปคฺคเหสฺสามิ แล้วกูจะปลูกศาลสี่เสาใส่เจว็ดวางเครื่องพลีกรรมทำที่ชายป่า ปนฺถสกุณํ ยชิสฺสามิ กูจะสรวงเส้นเทวาอารักขศาสตร์ ปันถสกุณเทวราชที่ริมทาง อันสิงสถิตย์ที่ย่านกว้างพระไพรพฤกษ์ เห็นก็จะสมมโนนึกในใจคเน ตํ เม สุยิฏฺฐํ สุหุตํ กูเห็นจะเปนเล่ห์เล่นกันในวันนี้ เทพยเจ้าก็จะยินดีด้วยเครื่องกระยาเสวย อันกูบวงสรวงสังเวยศักดิ์สิทธิ์ขึ้นทุกวัน ขึ้น น จ ตฺวํ กูเห็นเองนี่ก็จะตายเปนแม่นมั่นไม่สมคิด อันกูจะให้ชีวิตอย่าสงสัย เอาให้สาแก่ใจอ้ายโว้เว้ ภริยํ ปุตฺเต จ เนสฺสสิ แล้วมึงจึงค่อยโซเซซุกซนออกไปขอ อนงคนาฏน้อยหน่อต่อเมื่อเปนผี กูเอานะเอาเข้าเดี๋ยวนี้เน้นขึ้นไปดูสักฉับ เอาให้หัวนั้นหันหกกลับลงตำดินตีนขึ้นชี้ฟ้า เอานะเอาสักผาง เอาให้คว้างๆ คว่ำลงมาดินดิ้นอยู่เทาๆ เอาให้ตายห่าบนอากาศ ขาดใจบนกลางหาวหันลงมาที่กลางย่าน นั่นแลมึงจึงจะรู้จักฝีมือกูผู้ชื่อว่าเจตบุตรพราน อันถีบทางตระเวนด่านนั้นแล

เดิน (๑๕) โส ตสฺส ตํ ผรุสวจนํ สุตฺวา วันนั้นเถ้าชราทิชาชงค์ เมื่อได้ฟังเจตบุตรพรานพงศ์เพื่อนห้าวหาญ กล่าวแต่คำสามาญกักขละวาท ล้วนแต่ตคอกขู่ตวาดว่าสารพัด มรณภยตชฺชิโต พื้นแต่พาโลโฉวัดหวังว่าจะยิงให้ตาย เถ้าก็ตื่นตกอกใจหายตะครั่นคร้าว ตัวนั้นสั่นอยู่ทาวๆ แทบจะพลัดตก เถ้าจึงเอาอกเข้าแอบอิงกับกิ่งไม้ให้ถนัด ยกแต่มือขึ้นป้องปัดโบกไม้เท้า นึกว่ากูจะปดอ้ายนี่สักคราวเอาตัวรอดแต่สักครั้ง เถ้าจึงร้องว่า ขึ้น มา เม กโรหิ ตฺวํ อย่านะอย่าเหนออย่าเพ่อลั่น กระไรจะมาทำหุนหันไม่ยั้งหยุด เจตปุตฺต สุโณหิ เม เอ๊ะๆ เจ้าเจตบุตรจงหยุดก่อน อย่าดุดันเดือดร้อนทำร้องแรก อย่าห้าวนักมันมักแตกต่อไม่ติด เออเองนี่กระไรช่างไม่พินิจคิดคเนดูหน้าตา จะเปนหน้านายหรือหน้าข้าคิดดูให้จงมาก จะเปนผู้ดีหรือคนยากยาจกหรือมิใช่ อย่างกูนี้หรือจะเปนพราหมณ์ไพร่พลัดแพลงมาขอทาน พฺราหฺมโณ ทูโต กูเปนพราหมณ์มหาศาลปุโรหิต ทั้งเปนเสวกทูตสำเร็จกิจการพระนคร อวชฺโฌ เมาะ อวชฺฌรูโป เองรู้หรือหาไม่แต่ก่อนแต่ไรใครเขาบ่ห่อนฆ่า นี่เองกะไรจะไปเปนบ้าบุ่มบ่ามทำผางโผง ไม่รู้จักความฉิบหายตายโหงฮึกฮักไป มึงมีแต่น่าไม้มุมุ่นไม่เห็นผิด ตสฺมา ทูตํ น หนนฺติ ถ้าใครฆ่ากูให้สิ้นชีวิตวายชีวาตม์ ทั้งเจ็ดชั่วโคตรประยูรญาติยับสิ้นทั้งนั้น เอส ธมฺโม สนนฺตโน อันนี้นี่ก็เที่ยงธรรม์ทางบุราณราช ไม่มีใครจะฆ่าพิฆาฏมีแต่ว่าจะนับถือ นี่มึงจะยิงกูจริงๆ เจียวหรือหวา หรือว่าเปนทางทีจะสัพพะยอก เฮ้ยอ้ายชาวป่าหน้าบ้านนอกมากูจะบอกคดี สิวิโย สพฺเพ ในทุกวันนี้ชาวสีวิราฐ คลายจากอาฆาฏไม่ทุษฐจิต นิชฺฌคฺคา เมาะ นิทฺโทสภาวํ สญญฺตา รู้แล้วว่าพระลูกเจ้าไม่มีผิดหาโทษบ่มิได้ จะให้คืนเข้าเวียงไชยเชิญราชาภิเษกกระษัตริย์จะนิวัตินิเวศเวียงวัง ปิตา นํ ทฏฺฐุมิจฺฉติ ทั้งพระอิศราธิบดีศรีสญชัยบิตุเรศ ก็มีพระกระมลจิตรเจตน์ค่อยเคลื่อนคลาย ประทุษโทษนั้นเหือดหายเห็นรักใคร่ กลับโศกเศร้าสิเนหะให้หันหา มาตา จ ทุพฺพลา ตสฺส อนึ่งสมเด็จพระมารดาผุสดีดวงกษัตรีย์ ก็มีแต่ทรงพระกรรแสงโศกีพิไรร่ำพิลาป จนพระกระมลทุพลภาพพ่างเพียงจะวอดวาย ถึงพระโอรสสืบสายศรีสุดสวาทเวสสันดร สองพระหัตถเธอรุมรันข้อนอุระควรจะเอนดู อจิรา จกฺขูนิ ชิยฺยเร จนพระเนตรนางทั้งคู่เปนคราบคร่ำ ตั้งแต่ว่าจะทรงพิไรร่ำปริเทเวศ อสฺสูนิ จนน้ำพระไนยเนตรนองเปนธารา ถ้าว่าเนิ่นนานเห็นพระโรคาจะเคืองระคาย ถ้ามิต่อมต้อก็ดีร้ายจะเปนหมอกมัว เราคิดๆ แล้วน่ากลัวเกลือกไม่หยุดยั้ง เตสาหํ ปหิโต ทูโต ท้าวเธอจึงตรัสสั่งเฉภาะแก่ตัวเรา เห็นว่าเปนพฤฒิพราหมณ์เถ้าแท้มหาศาล มีตระกูลประกอบด้วยศฤงคารวรวงศ์บุรีรัมย์ พอที่จะสำเร็จทูตกรรมกิจการแจ้งเฉลย เจตปุตฺต สุโณหิ เม นี่แน่นายเจตบุตรเอ๋ยฟังคำเราว่า เราผู้ถือราชสาส์นตราตรงมาถึงนี่ หมายจะไปให้กระทั่งถึงที่พระตำหนักไพร ถึงว่าทางจะไกลเท่าไกลก็มิได้คิด จะสู้ไปให้สำเร็จราชกิจตามรับสั่ง ราชปุตฺตํ นยิสฺสามิ จะไปให้กระทั่งถึงหิมเวศ จะได้เชิญพระศรีวิสุทธินฤเบศรมกุฎโมลี ให้ลาพรตพิธีทั้งสี่พระองค์ นำเสด็จจากแดนดงกลับมาผ่านเชตุดร เจ้าเจตบุตรพเนจรจงคิดดูให้จงดี ถ้าหาเหตุไม่ใครเขาจะมาที่นี่ที่สัตว์ร้าย เราคิดว่าจะอาศาเจ้าจนตัวตายตามสุภาษิต ถ้าพ่อน้อยนายพรานหลานมีความคิดก็ตริตรองดูให้รอบคอบ จะคิดควรหาความชอบก็จะเปนไร ตาจะไปทูลสน่ำเสนอให้ฦๅความชอบท่าน กลัวแต่ว่าจะรวยเรือนฝากระดานสามสี่ห้าห้อง ทั้งทาสทารเงินทองถ้วนทุกสิ่ง ทั้งยศศักดิ์ก็จะยวดยิ่งเปนเจ้าจอมหม่อมเจตบุตร ลูกหลานก็จะได้ยั้งหยุดนั้นจริงๆ อย่ากริ่งตริ กลัวแต่ว่าจะกินเข้าเหนียวน้ำกระทิทุกวันไม่ไหว ยทิ ชานาสิ ถ้าเจ้าเจตบุตรแจ้งใจหนทางที่จะจร ยังเขาศิงขรวรวงกฏ จะเปนทุเรศกำหนดเนิ่นนานสักเท่าใด ช่วยแนะนำนิเทศให้เราไปได้คล่องๆ ตาก็จะช่วยทูลยกย่องอย่าปรารมภ์ ว่ามาได้ในไพรพนมเพราะพรานป่า สํส เมาะ มคฺคํ กเถหิ ท่านจงบอกมรรคาให้เราไป เราจึงจะทูลความชอบให้แก่ท่านนั้นแล

เดิน (๑๖) โส ตสฺส ตํ มุสาวาทํ สุตฺวา ส่วนนายเจตบุตรพรานป่า เมื่อได้ฟังเถ้าชราร่างร้าย ทุกสิ่งสรรพ์บรรยายเท็จสิ้นทั้งนั้น ก็หายประทุษฐโทษทัณฑ์ทั้งโทโส โสมนสฺสปฺปตฺโต ก็ชื่นชมโสมนัศประสาทน์ ว่าพระจอมดิลกลีลาศเลิศโลกพระลูกเจ้า จะได้คงคืนพิภพดังเก่ากอบด้วยพระเกียรติยศ จึงเลื่อนลดน่าไม้แล้วก็ห้อยไว้กับกิ่งพฤกษา ก็สมใจเพื่อนจินตนานึกคเน สุนเข พนฺธิตฺวา จึงเอาเครือวัลวลีมาทำเปนบ่วง บิดเปนห่วงหูหันกระชั้นชิดฉุดกระชากชัก ใส่สรวมกรวมคอสุนัขเข้าไว้ให้มั่น ปลายเชือกข้างหนึ่งสอดกระสันสัดรัดเข้าไว้กับกอหญ้า พฺราหฺมณํ โอตาเรตฺวา จึงยังเถ้าชราทิชาพงศ์ ให้ขยดเขยื้อนเลื่อนลงทีละน้อยๆ เข้าประคับประคองแต่ค่อยๆ พยุพยุงถุงแลย่าม ได้ยินเสียงกรุกกรักก็ทักถามว่าอะไรนั่นเจ้าข้า ตาแกก็กลับกลักพริกกลักงาว่ากลักใส่สารตราพระราชสีห์ เจตบุตรก็ยินดียกขึ้นทูนหัว เถ้าก็ร้องสำทับว่ารับแต่ค่อยๆ ของมันหนัก กลักนี้มิใช่ชั่วอย่าเหวี่ยงวางลงให้ราบ เจตบุตรก็ปูผ้าลงกราบๆ นึกว่าจริง ไหว้กลักพริกกลักขิงไม่สงสัย เถ้าก็นึกว่าเอาให้สาแก่ใจอ้ายคนใจร้าย มันขู่มันว่ามันด่ากูนี้มากมาย เอาให้มันไหว้ให้จงหนักหนา ขึ้น สาขสณฺฐเร นิสีทาเปตฺวา เจตบุตรจึงเชื้อเชิญเถ้าชราทิชาชาติ ให้นั่งบนใบไม้ลาดเปนอาศน์ป่า กระทำสักกัจจะคารวาเรียกว่าตาลุง โภชนํ ทตฺวา เฝ้าบำเรอบำรุงด้วยของกินตามประเทศแถวถิ่นทางกันดาร ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เมื่อเพื่อนจะกระทำปฏิสันถารโดยโสมนัศ ก็กล่าวเปนอรรถคาถา

ปิยสฺส เม ปิโย ทูโต ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต
อิทญฺจ มธุโน ตุมฺพํ มิคสตฺถิญฺจ พฺราหฺมณ
ตญฺจ เต เทสมกฺขิสฺสํ ยตฺถ สมฺมติ กามโทติ

ขึ้น (๑๗) พฺราหฺมณ ข้าแต่ท่านผู้เปนพราหมณ์พร้อมพฤฒิศาสตร์ไสยทรง ศิวเวทบวรรามวงศ์ธรหัตถไตรศุลี อันว่าท่านอาจารย์มานี้ก็ดีดูดุจภิเษกสม ด้วยว่าเปนพฤฒิพราหมณ์พรหมพร่ำเสนออนุสนธิ์ ทูโต เมาะ ทฺวินฺนํ กิจฺจการสมตฺโถ สามารถจะนำยุบลทั้งสองข้าง เพราะเหตุเปนวิสุทธิทูตทางท่วงทีดังพรหเมศร ปิโย เมาะ เวสฺสนฺตรสฺส ปิโย ก็จะสมพระไทยเสฏฐเกษมโสด ทางปิยปราโมทย์โสมนัศ ทุกสิ่งสรรพเจริญสวัสดิ์พระลูกเจ้า จะค่อยประเทืองทุกบันเทาในหิมเวศ ด้วยจะเชิญให้ลาพรตบรรพชาเพศผ่านสมบัติ ปิยสฺส เม เวสฺสนฺตรสฺส อันพระองค์เจ้ากับหลานเล่าก็ประดิพัทธ์ภักดีด้วยพระบาท โดยเสวกราชสวัสดี อาศาอยู่ที่นี่พิทักษ์รักษา ททามิ เต พอมาพบท่านพฤฒาเข้าที่นี่ เร็วกระทั่งทันทีด่วนจะไป ถ้าจำวัดค้างคืนหนึ่งจะได้ยิงเนื้อสดให้ฉัน พล่ากับมูลอ่อนนี่ขยันยิ่งพอใจ นี่จวนแล้วก็จะจัดแจงแต่งให้ไปเปนเครื่องเสบียงกรัง อิทญฺ มธุโน ตุมฺพํ ทั้งกระบอกน้ำผึ้งพื้นแต่ใสสด เปนมธุรสหวานยิ่ง ปกฺกมิคสตฺถึ หนึ่งขาทรายย่างสิ่งแต่ละอย่างละอย่างกัน ฉันกับน้ำผึ้งที่คมสันวิเศษเปนของป่า ปุณฺณปตฺตํ เมาะ อชฺฌาสยปูรณตฺถํ หลานก็จะให้สมปราถนาเพิ่มอัชฌาสัย ด้วยรีบเร็วเร่งจะไปเอาราชการ อันหนทางที่ท่านจะไปไม่กันดารเดินได้ไม่ลดเลี้ยว เปนเอกปทิทางบทจรผู้เดียวไม่เรี้ยวรก หลานก็จะเปนมัคคุทเทศนายกรับเปนพนักงาน เวสฺสนฺตโร อันว่าสมเด็จพระบรมจอมจักรพาฬพิภพพงศ์เพศ ผู้ผ่านพิชิตพิเชตพิไชยพระนคร พุทธพงศ์เพสยันดรดวงดิลกเลิศโลก กามโท เมาะ สพฺพกามสมิทฺธิโท ให้สำเร็จซึ่งอาโภคภูลมโนรถ เรืองพระเกียรติปรากฎกอปรด้วยพระทานัชฌาสัย สรรพยาจกอันจนใจบ่นพิไรร่ำ ดังว่าต้นกัลปพฤกษ์นึกได้ดังใจฉ่ำชะชื่นชม ยตฺถ สมฺมติ เธอทรงพระภิเนกษกรมก่อสร้าง สืบซึ่งพรตพรหมจรรยทางสุนทรพิธี ด้วยพระราชบุตรบุตรีอัครทาเรศร สถิตย์ในหิมเวศสักกทัตติยาวาศ หว่างพนัศพนมมาศเวียงไพร อันท้าวสหัสนัยทิพยจักษุเทเวศรบริรักษเรืองพระเดชา หากใช้ให้พระวิศุกรรมมานฤมิตรสาปสร้าง ในพนัศแถวทางทุเรศแนวเนินไศล ณทางทิศที่ใดในพนัศแห่งห้องหิมวันต์ ตญฺจ เต เทสมกฺขิสฺสํ หลานก็จะพร่ำรำพันไม่อำพราง ตามระยะย่างที่ทิวทางใกล้แลไกล จึงจะบทจรเจริญเชิญท่านอาจารย์ไป ตํ ปเทสํ สู่ประเทศที่นั้นแล

ชูชกปพฺพํ นิฏฺฐิตํ

ประดับด้วยพระคาถา ๗๙ พระคาถา

----------------------------

  1. ๑. ความที่ในวง นักเทศมักตัดออกเสีย ไม่ว่า

  2. ๒. ในวง ยุ. ไม่มี

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ