ตอนที่ ๔

๒๘

๏ ทั่วทวยยาจก ทุกพวกพรรณิพก
อรรธึกเดิรหน ทลิทกัปปนา
ประชาทุรพล พากันเกลื่อนกล่น
สู่ศาลาทาน  
๏ ต่างภักษโภชนา ต่างรับพัสตรา
ต่างต้องการกาญจน์ ต่างปองเอาปรัก[๑]
ตามรักร้องขาน บอกผู้พนักงาร
แจกให้ด้วยดี  
๏ ห่อนได้เลือกหน้า ตามแต่เจตนา
สิ่งสรรพ์อันมี ไป่ขู่ไป่คุก
ไป่รุกรุมตี ไป่ต้อนตื่นหนี
คำนับรับขวัญ  
๏ หญิงชายชนไร้ รับทานท่านให้
ได้โดยสัตยธรรม์ ยินดียินลาก
ออกปากนี่นัน พร้องพร่ำรำพรรณ
พรซร้องสำนาน  
๏ จงคงคุ้งฟ้า ยืนชนม์ชั่วหล้า
อย่ารู้เลวลาญ ทรัพย์สินสมบัติ
พึงพัฒนานาน ขอพึ่งสมภาร
เลี้ยงชีพจิรัง  
๏ รับทานทั่วตน เสร็จพาฝูงชน
ไปเพ่งพื้นผนัง พิศภาพเลขา
ถ้วนหน้าประนัง คนเฝ้าคอยฟัง
คอยดูอาการ  
๏ ผองผู้ดูวาด ห่อนเห็นประหลาด
เจรจาว่าขาน ไป่เศร้าไป่ศัลย์
หฤหรรษ์สำราญ ฤๅรู้ดำนาน
ราวเรื่องเบื้องใด  
๏ มีแต่ชมเชย งามยิ่งจริงเหวย
นิทานที่ไหน นำมาเลขา
โสภาพึงใจ เพรียกพร้องซ้องไป
ห่อนได้เหตุผล  
๏ ครั้นคํ่านำสาร เสนอยอดเยาวมาลย์
ไป่เห็นเงื่อนกล แต่ตั้งฟังดู
ทุกผู้หมู่ชน ห่อนได้ยินยล
วิกลอาการ ฯ  

๑๙

๏ ปางปิ่นธเรศประเวศในเวิ้งสินธุพิศาล
เสวยโทมนัสดาล อดล
๏ ฟองฟัดซัดสู่สมุทรทำรุดพิริยพล
พ่างเพียงจะวายชนม์ ชิวาตม์
๏ เหลือทนเหลือทุกขเหลือจะถอนอสประสาส
เหลือถวิลเทวษอนาถ อนิจ
๏ สุดแรงสุดที่จะร่ำรำจวนกำสรวญสุดคิด
พึ่งใครก็สุดจิตร รำพึง
๏ แสนโศกแสนทุกขแสนแสวงสำนักนิ์สำนึง
แสนร้อนเร่งร้อนรึง อุรา
๏ หาเพื่อนหาผู้จะพักพำนักนิพ้นจะหา
หาฝั่งก็เห็นฟ้า กับฟอง
๏ ใครช่วยช่วยก็บมิแลมีแต่ชลนอง
ปองรอดฤปองปอง ฤรอด
๏ กายกับชีพิตจะสถิตจะเท้งอุทกทอด
ลอยล่องบปลอดปลง เปนตน
๏ เรียมเมื้อมอดดังฤยอดยุพินจะยินจะยล
โอ้มิ่งวิมลแม่ บพาน
๏ ปานฉนี้นุชจะเนาในชลฤๅถลสถาน
มลายชีพฤชนมาน ยังมี
๏ โอ้ปางใดจึงจะพบประสบสมรชี-
วิตวอดและรอดชิวี ดุจเดียว
๏ หาเยาวยศก็เปนพ้นจะเพ่งจะเล็งจะเหลียว
ลับจักษุจริงเจียว จรลึง
๏ แต่ครวญครางอยู่ยังหว่างมหรรณพหึง
สัตวารสำนึง ชเล ฯ

๒๑

๏ ปางนั้นนาฏพนิตมหิทธิมเห- ศรศักดิมณิเม-
ขลาสมเญศเท- วกัลยา
๏ พนักงารภิบาลเบื้องมหาสา- ครสัตทิวคลา
เยือนสมุทครา ละวารกาล
๏ บัดเหิรเดิรหาวรเห็จทยาน จรอรรณพพิศาล
ยลนราบาล อันว่ายชล
๏ ทอดทิพนัยนานุสนธิยล ยุพมนุษยตน
นี้ผู้ใดดล ทุกข์ในธาร
๏ อ้าองค์สมุทรโฆษกุมารชาญ ฤทธิวิบัติบันดาล
โจรจัณฑาล มันฉกขรรค์
๏ คือพิทยาธรใจฉกรรจ์ ประทุษฐนฤปรัน
ทำผรุสทัณ- ฑโทษา
๏ ทราบเสร็จเห็จดลแดนสุรา- ลยสุทัศนธา-
นินทร์สุรินทรา บังคมทูล
๏ แห่งเหตุนฤเบศร์บดินทร์สูร อุทกภยก็พูล
เสวยทุกขาดูร กำเดาดาล
๏ สมเด็จวัชรินทรยินสาร ดำรัสวัจนบนาน
แก่วิมลมาล- ยเมขลา
๏ ท่านผู้พิทักษ์สมุทรธารา ดังฤๅบรักษชนา-
ธิปโพธา- ภิเษกสัตว์
๏ ธรรมดามหาบุรุษเจริญวัตร จริยประฏิบัติ
แสวงวิมุติฉัตร สยมภุญาณ
๏ อิกมารดาบิดาบริบาล บริบูรณศีลทาน
หนึ่งยุพาพาล ผู้ศีลทรง
๏ สามพวกผิวพ้องพิบัติลง สลิลสมุทรสง-
เคราะหปล่องปลง ชิวาวาย
๏ ช่วยโอบอุ้มจากกระแสสาย ชลชิวิตันตราย
รอดฤมอดมลาย ดำรงสกนธ์
๏ ใดเขือบเอื้อธุระทำงล มละพุทธังกุรทน
ทุกขท่องชล ฤชอบการ
๏ กิจพิทยาธรอทินทาน รัตนขัคคเปนภาร
ตูจะบรรหาร ให้คืนคง
๏ เร็วสูสู่สมุทรโอบองค์ อดิศรพุทธพงศ์
พ้นอุทกธำรง พระชนมาน
๏ เยาวเรศรับเทวโองการ รเห็จดลชลพิศาล
อุ้มนราบาล ขึ้นสู่สถล
๏ นฤเบศร์บันเทาเทวษบัดดล อมรนุชนฤมล
ลานิวัติบน อัมพรพิมาน ฯ

๑๒

๏ กษณะองค์อมเรศ สุรเชษฐผู้ชาญ
ฤทธิยาตร์คัคนานต์ ดลยังพิทยา-
๏ ธรเทิดทิพทัณ- ฑมหันตนุภา-
วกระลึงกรทา- รุณถ้อยธบัณฑูร
๏ ทุษฐโจรรันทำ กรรมแก่บดีสูร
ยศใดบกลูน และมาลักอัครขรรค์
๏ บมีพ้องกุธกิจ บมิผิดจิตรกัน
บมีเหตุมหัน- ตก็แกล้งพลการ
๏ ผิบคืนก็บคง ชิวปลงก็บนาน
บอยู่ยืนชนมาน จะพินาศนพลัน
๏ กรกวัดวชิรา ธิกอาวุธทัณ-
ฑกระลอกกระลับผัน และกระลึงคือภมร
๏ ณศิโรดมเกศ พิทเยศก็สยอน
ภยเทิดทวิกร ก็ประนตบทมูล
๏ พระจงการุณโปรด นฤโทษนุกูล
นฤไภยอย่าพูล ทุกขชีพมลาย
๏ จะขอคืนวรขรร- คจงพลันจะถวาย
บมิเพี้ยนอภิปราย สิทธิธรรมกถา
๏ ก็ประสาทวรวัจ- นสัตยสัญญา
อมเรนทรก็คลา วิชยนตวิมาน
๏ พิทยาธรก็ยาตร นฤนาถสถาน
ตระบัดดลบมินาน ก็ส่งคืนอัครขรรค์
๏ เสร็จนิวัติวนา- นุพระหาหิมวัน-
ตนิวาสแลบรรพ์ และอาไลยบมิวาย ฯ

๑๔

๏ ปางปิ่นสุธาพิภพพื้น ธได้คืนพระขรรค์หาย
ปรีดิ์เปรมเกษมสุขสบาย บำบัดทุกขอาวรณ์
๏ แผ้วพ้นที่ไภยสมัยเข็ญ อันลำเค็ญในสาคร
หิวโหยลำโบยสริรุทร ทำรุดร้างกระยาหาร
๏ หลายวันแต่สัญจรในสิน- ธุแถวถิ่นชลาธาร
ห่อนภักษโภชนประมาณ ประมวญเสร็จได้เจ็ดวัน
๏ ตรึกตราจะหาวรนิเวศ นคเรศเขตขัณฑ์
พึ่งพักพำนักนิสุขพลัน พอได้ภักษภุญชา
๏ เพิ่มพลสกนธอัตภาพ จะสืบทราบแสวงหา
ข่าวน้องยังครองชนมชิวา ฤจะวอดจะวายไฉน
๏ ตริพลางก็ปล้างบวรอา- ภรณรัตนามัย
ห่อซ่อนพฤกษาสุสิรใน วนเขตสาคร
๏ แปรเพศเปนพราหมณฉบัด แลเดิรดัดพนาดร
ดลเขตนรากรนคร นิคมซึ่งสำนึงชน
๏ ขอโภชนานิกรภักษ์ แลสำนักนิ์ทุกแห่งหน
ถามข่าวพธูบรู้ยุบล วิมลมาลย์ประการไฉน
๏ โทนเที่ยวทุราคมจรด ชนบทเวียงไชย
ทุกแคว้นทุกแผ่นภพพิไสย ก็บทราบบสบสมร
๏ เนิ่นนานประมาณกว่านวมาส แต่ลิลาสมัคคันดร
จึงถึงสำนึงนุชนคร มัทราชสถาน
๏ สืบถามในคามนิคมเขต ก็แจ้งเหตุบหึงกาล
ชีหนิ่งอำนวยนิตยทาน ประดิทินที่ศาลา
๏ ใครใดครไลยนุชสำนักนิ์ ได้พึ่งภักษโภชา
ทานวัดถุ์สรรพัดพิธประกา- ระจำแนกจำหน่ายหลาย
๏ ควรไคลไปภุญชนประโยชน์ พอหิวโหดกรรหายงาย
เสร็จดลแลยลสุขสบาย บริบูรณ์ทุกส่ำสรรพ์
๏ หญิงชายก็จ่ายพัสดุทาน อุฬารยิ่งทุกสิ่งพรรณ
เสวยสรรพรำงับทุกขจรัล รถยาทุราคม
๏ ชนเชิญไปเมิลวิจิตรวาด พิลาศลักษณชวนชม
ในผนังอันรังสฤษฎิภิรมย์ ฤทัยปรีดิหรรษา
๏ ตั้งต้นแต่เทพยธำรง พระองค์อัครชายา
เหิรหาวยังด้าววรบุรา แลถอดยอดปราสาทศรี
๏ เชิญท้าวธร่วมบรรทมบรรจฐรณ์ สมรราชบุตรี
องค์แอบแลแนบนุชนาภี บรรทับทรวงทั้งสองสม
๏ เสวยรสราคดำฤษณา ก็กรีฑาบำเทิงชม
ไสยาศสนิทนิทรภิรมย์ แล้วกลับพรากประจากกัน
๏ นางตื่นฤยลบพิตรท้าว อุระผ่าวกำสรวญศัลย์
ธารีตระอรสมรพลัน ก็บวายเทวษถวิล
๏ วาดโฉมทุกไททิพสุธา ทั้งฟากฟ้าแลแดนดิน
นางบงใช่องค์อัครนริน- ทรซึ่งมาสมสอง
๏ เลขาพระลักษณวิลาศ ก็สบราชฤทัยปอง
ชูเชิดพระโฉมขัติยตระกอง บรรทับทรวงระลวงครวญ
๏ ใช้ผู้พี่เลี้ยงนภคระไล ไปทูลไทอัญเชิญชวน
เสด็จดับรงับธุระรำจวน จิตรท้าวพธูพลัน
๏ องค์อินทรอื้นอมฤตยพจน์ ให้เตรียมรถพิไชยันต์
ยังมาตุลีมรุจรัล อัมพรรับนเรนทร์คลา
๏ โองการธสั่งภิมุขมาตย์ จงยกยาตรแสนยา
โดยเสด็จยังรมยบุรา โชมโรมรั้งสพรั่งพล
๏ ทรงเถลิงบนทิพยรถา ก็ลิลาในหาวหน
สู่สถานพิมานพิมลมน- ทิรแก้วตระกองสอง
๏ สิบท้าวธผ้ายพยุหยาตร ยังรมย์ราชธานีนอง
ค่ายรายระรอบนครปอง ประโยชน์นุชบุตรี
๏ สมเด็จบดิศรบิดร อัญเชิญศรอันไชยศรี
ออกตั้งยังท้าวทุกทุกบุรี ธจงเทิดจงทายไหว
๏ จักเวนวเรนทรธิดา กษัตราผู้เกริกไกร
จงสมอารมณฤไทย ธิบดินทร์ดั่งจินดา
๏ จึงไท้ทั้งทศบทจรัล เข้าค้อนคันสหัสถา-
มธนูจักชูฤอาจรอา จิตรยั้งพลังตน
๏ บัดท้าวธสู่สกนิกร จรด้าวมณฑลดล
ทายเทิดธนูด้วยฤทธิพล แลไกวกวัดคระวัดคระแวง
๏ ก่งสายสุธาก็กำปนาท นฤปราชผาดแผลง
เครงครื้นสทื้นภพสำแดง อดุลยเดชเจษฎา
๏ พระบาทบพิตรบิตุรงค์ ก็อวยองค์สุดาพงา
โดยราชสาสนสัญญา อันโอษฐอื้นบคืนคำ
๏ สิบท้าวธร้าวจิตรพิโรธ ประทุษฐโทษจัณฑาลทำ
ก่อกิจอมิตรกระลำ พรเพื่อจะชิงโฉม
๏ จึงไท้ธใช้ภิมุขมาตย์ ไปห้ามราชฤไทยโทม-
มนัสแหนงอย่าแข่งฤทธิจักโรม รณรงครำบาญ
๏ ท้าวทศบอดกมลมา- นคค้าคคึกหาญ
หวังต่อฤท้อทฤษฐิดาล กำเดาเดือดฤเหือดหาย
๏ เริ่มรงค์ทุกองค์นฤบดินทร์ พลพฤนทเรียบราย
สิบราชสิบรถทศนิกาย นิกรทัพลำดับกัน
๏ พระองค์ธำรงรถลิลาส พยุหยาตรยืนประจัญ
ผจญท้าวทุกด้าวนครอัน อริเริ่มมารุมรณ
๏ ตรัสถามสุสังกัลปมาตย์ ผู้ใดราชทั้งสิบตน
เฉลยชื่อและชี้ทุกทุกสกน- ธกษัตริย์ผู้ดัสกร
๏ ตรัสทราบก็ทรงศรแสลง ธผลงแผลงบำบัดบร
บรรไลยทุกไททุกทุกนคร มรณาศในสนาม
๏ จึงจอมจรรโลงภพดิลก ก็ยอยกพงางาม
เป็นคู่ประทมภิรมยกาม อภิเษกสวยมพร
๏ น้องท้าวจึงทูลยุบลกล บำบวงบลมเหศร
สุรารักษ์สำนักนิในนคร วรราชุยานศาล
๏ พระพายุพินทรไปบวง สุรสรวงสำเร็จการ
ลาไท้ครไลภพสุธาร ธิบดินทรบิตุรงค์
๏ ปางเสด็จประพาสพฤกษตระการ วนุยานยังแดนดง
พบพิทยาธรอันลง ทำลักล้มในสวนศรี
๏ บาดแผลก็แลล้นจะประมาณ วิการสิ้นทั้งอินทรีย์
แสนโศกวิโยคทุกขทวี คือจะวอดชิวาวาย
๏ ยังแพทย์พิทักษพิทยา ทิโรคาบังวายถวาย
ขรรคาวราฤทธิพรรลาย ประภาพเหิรดำเนิรโพยม
๏ พระรับพระรัตนศัสตรา ดำรัสสาธุสาส์นโสม-
นัสชวนผอูลวิบุลยตระโบม บำเทิงเที่ยวทุราสถาน
๏ ชมเฌอแลชมพนมพนัส ณจังหวัดพระหิมพานต์
มฤคาทิชากรตระการ จิตรเพลินเจริญตา
๏ โอบองค์อนงค์นุชรเห็จ เสด็จห้องวิหาคลา
ลอยแหล่งตำแหน่งพระหิมวา- ลยลุไกลาสคิรี
๏ ดลเหมคฤหาสนนิเวศน์ กินเรศนฤบดี
เสวยทิพรัตนพิพัฒนปรี- ดิสวัสดิ์สวรรยา
๏ จากเมืองอมรกินรนาถ ประพาสสร้อยสพังผา
สนุกสนานอโนดัตชลา แลฉัททันตสระศรี
๏ ชมคชโคตรบรู้กี่พันธุ์ อนันต์อเนกนาคี
เสร็จสู่พิฑูริยมณี บัลลังก์เลิศประเสริฐเสถียร
๏ ไสเยศบนรัตนบรรยงก์ ทั้งสองทรงนิทราจำเนียร
พิทยาผู้พาลหนึ่งมาเพียร ประทุษฐฉกพระขรรค์ไชย
๏ ตื่นหาบเห็นมหิทธิขรรค์ ก็แสนศัลย์รันทวยฤไทย
ลาลดรันทดทุกขพิไร พจนพรํ่ากำสรวญครวญ
๏ สองพากันคลาอรัญเขต หิมเวศทรโหยหวล
หลายวันแต่สัญจรรำจวน จิตรพ่างจะวางวาย
๏ บรรลุมหานทีพิศาล ชลธารถถั่งสาย
คลื่นคลั่งประดังประดุจทำลาย เดียรถเพียงจะเพิกภินท์
๏ ขอนงิ้วละลิ่วสลิลล่อง กษัตรสองลงสู่สินธุ์
เกาะขอนฉฉ่อนชลอนิล นภพัดแลฟัดฟอง
๏ เฟื่องฟาดก็ขาดทารุพำนัก ประหารหักออกเปนสอง
ท่อนท่องในท้องอุทกนอง กำจัดไท้อุภัยทุรา
๏ ต่างตนประจากจรวิโยค แต่ต่างโศกกรรโหยหา
สุดสิ้นตำนานที่รจนา นรราชทฤษฎี ฯ

๑๑

๏ ล้วนเรื่องนเรนทร กับอรอัครเทพี
พิศพลางธโศกี กำสรดรํ่ารำจวนครวญ
๏ ใครหนอมาริวาด ตำนานอาตมทั้งมวญ
อ้านิ่มอนงค์นวล นุชเนาตำแหน่งใด
๏ ทำไฉนจะพานพ้อง พระพักตรน้องจำเนียรไกล
ฤๅองคอ่อนไท สถิตแค่ธแลหา
๏ โศกสร่างก็ทรงสรวล สำรวลเรียกยุพาพงา
ห่อนเห็นกลับโศกา พิลาปเล่ากำเดาแด
๏ หญิงชายผู้จ่ายทาน ดูอาการพิกลแปร
ต่างต่างประหลาดแล ประเล่ห์บ้าน่าแหนงใจ
๏ จึงนำคดีพราหมณ์ ไปแจ้งความในทันใด
แก่นุชทรามไวย ให้ทราบเหตุดั่งสั่งสาร
๏ นางสดับก็ปรีดา รอยราชาสู่โรงทาน
จักสมอารมณ์ดาล อดูรดับด้วยฉับพลัน
๏ ตริพลางสุรางค์ราช ยุพยาตรผาดผัน
ลุแหล่งอันแบ่งปัน ปัตเยกอเนกทาน
๏ ทอดทัศนาพบ ประสบพักตรภูบาล
แปลงเปนทิชาจารย์ ประจักษ์แจ้งฤแหนงฉงน
๏ ตรงเข้าตระกองบาท ยุคลราชตระบัดดล
เศียรซบสยบสกนธ์ ก็พร้องพรํ่ารำพรรณศัลย์
๏ ท้าวทอดทฤษฎี ดรุณชีมาจาบัลย์
เพ่งพิศพินิจพรรณ ตระหนักแน่พระน้องนาง
๏ สองกรธสร้วมกอด เยาวยอดยุพาพลาง
รัญจวนฤจืดจาง จิตรไท้พิไรครวญ
๏ อ้าแม่เมื่อจากจร ในสาครคระโหยหวล
ห่อนรู้ผอูลอวล นุชวอดฤรอดคืน
๏ อ้าพระเมื่อยามพลัด ระลอกซัดสู้ฝ่าฝืน
ถึงฝั่งจึงยั่งยืน ชีวาตม์ท่านราบาล
๏ อ้าแม่แต่เรียมว่าย ในสินธุ์สายกำหนดนาน
นับถ้วนถึงสัตวาร เทเวศร์ช่วยไม่ม้วยชนม์
๏ อ้าพระแต่พ้นพนานต์ ยังถิ่นฐานนิคมคน
หลายวันสัญจรอรญ รำลึกราชอนาถแด
๏ อ้าแม่เมื่อเมขลา ช่วยอุ้มพาขึ้นพ้นกระแส
ชลเชี่ยวจะเหลียวแล บสบน้องยิ่งหมองทรวง
๏ อ้าพระเมื่อพะยาย ให้แหวนขายเศรษฐีตวง
ทองซื้อได้สร้างคลวง สำนักนิ์รั้งแลโรงทาน
๏ อ้าแม่เมื่อฝั่งสถิต ตระบัดพิทยาพาล
คืนขรรค์ฤทันนาน จึงแปรเพศเปนพราหมณ์จร
๏ อ้าพระเมื่อทานจ่าย แก่หญิงชายประชากร
หวังสบนเรนทร จึงวาดเรื่องแต่เบื้องบรรพ์
๏ อ้าแม่แต่สืบนุช ก็สิ้นสุดทุกเขตขัณฑ์
หลายเดือนจำเดิมจรัล บรู้ข่าวพระท้าวพธู
๏ อ้าพระคอยข่าวไท้ ยังชนใช้ผลัดเปลี่ยนดู
จึงพบสมเด็จภู- ธรเมื่อรเมียลเขียน
๏ อ้าน้องนี้บาปใด จึงจำให้ประจากเจียร
บุญใดบำเพ็ญเพียร จึงคืนพบประสบสอง
๏ อ้าท้าวอัญเชิญยาตร คฤหาสนหอทอง
ข้าพระสฤษฎิปอง ประโยชน์รับนฤบดี
๏ สร่างโศกทั้งสองไท้ จรไคลยังมนทีร์
นางลาผนวชชี บรรจงโภชน์เอมโอชถวาย
๏ เสวยเสร็จธไสยาศ บรรจฐรณ์อาสน์สำราญกาย
ลำโบยบังวายคลาย ทุกขเที่ยวทุรัถยา
๏ เสร็จพักสำนักนิ์เนา บรรเทาเทวษพาธา
ร่วมราคดำฤษณา อันนางร้างภิรมย์สม
๏ หลายคํ่าสำเริงจิตร ทั้งสนิทนิทรารมย์
สองชื่นสองชวนชม ตระกลกามตระกองสอง
๏ ขุกคิดนฤบดินทร์ ชนนินทร์ชนกครอง
กรุงไกรชไมหมอง กมลท่าทุกคืนวัน
๏ จึงหาพฤฒาหญิง มามอบสิ่งสมบัติบรร-
ดามีอเนกนันต์ ณนิเวศนิวาสสถาน
๏ เวนยายทั้งหลายกึ่ง ยังครันครึ่งจะแจกทาน
เชิญเฒ่าจงเนาสำราญ สุขข้าบูชาคุณ
๏ คฤหาศาลาทาน อุฬารเบื้องบำเพ็ญบุญ
มอบท่านทั้งทองทุน คณะทาษทั้งผอง
๏ กึ่งทรัพย์จักจับจ่าย จะจำหน่ายจำนวนทอง
แบ่งปันสุพรรณกอง ก็โกยแจกจำแนกทาน
๏ ทวยชีทิชาชาติ ประชาราษฎร์ทุกถิ่นสถาน
ทั่วโถมนาการ กระเกริกอื้ออำนวยพร
๏ เสร็จสองกษัตริย์ลา พฤฒายาตรบำราศจร
นางหิ้วห่ออาภรณ์ ก็ไต่ตามกษัตรีย์
๏ พระแกว่งพระแสงทรง แล้วโอบองค์พระเทพี
เหิรห้องวิหาลี- ลยลุสาครแขวง
๏ ลงสู่สุสิระรุกข์ ซึ่งซุกซ่อนอาภรณ์แฝง
เผจิดอาสน์พิลาสแปลง ขัติยเพศพิเศษทรง
๏ สรรพาพิภูษิต พิพิธสรรพประดับองค์
เอกอัครอนงค์นง- นุชอ่าอลงการ
๏ เสร็จอุ้มผอูลคืน ผยองพื้นโพยมทยาน
ลอยลิ่วในคัคนานต์ บรรลุรมย์บุรีศรี
๏ ยั้งอยู่ราชูทเยศ สถิตเขตนครมี
ทรงแสดงพระอินทรีย์ ปรากฏแก่อุยานบาล
๏ จึงนำจำทูลเหตุ นฤเบศร์บหึงกาล
เสด็จดลพระอุทยาน ประสบสองกษัตรา
๏ ยุพยศประนตบาท บรมนาถปรีดา
จูบเกล้าลำเภาพา- ลดนัยอุภัยพลาง
๏ สองกรตระกองสกน- ธยุคลสุดสรรพางค์
ตรัสถามคดีปาง บำราศเรื่องขุ่นเคืองไฉน
๏ จงแจ้งดำริห์ราว จึงจรด้าวสถานใด
เขือเขยเฉลยไข ที่ข้อขำอย่าอำความ
๏ ทูลท้าวฤร้าวราญ โองการราชประภาษถาม
คลาศคลาพนาราม อาวรณ์หวังแสวงชม
๏ ไพรพฤกษหิมวา วนาแนวลำเนาพนม
เถื่อนถํ้าสำเริงภิรมย์ ทุกหนห้องชรลองลหาร
๏ แถลงทูลแต่มูลเหตุ จนพ้องเภทภัยพาล
ถี่ถ้วนประมวญสาร ทุกสิ่งสรรพ์รำพรรณถวาย
๏ ทรงสดับคดีแสดง ก็กรรแสงสุชลฟาย
ฟูมเนตรสังเวชสาย- สมรคู่ไปสู่เข็ญ
๏ คาบนี้บุรีคืน จักชุ่มชื่นฤทัยเย็น
ทั่วทุกขลำเค็ญ บำราศร้างบรางมาน ฯ

๑๙

๏ สร่างโศกเสร็จจึ่งสมเด็จบดีศวรบรรหาร
ให้เริ่มสฤษฎิการ อำรุง
๏ ตกแต่งราชนคเรศพิเศษศุภผดุง
ดุจเทพสุทัศน์กรุง อมร
๏ อัญเชิญอัครอุภัยดนัยนริศร
สู่อลงกรณ์นคร ตระบัด
๏ รังเรขภิเษกกกุธภัณฑ์ถวัลยสิริรัช
สวรรเยศเศวตฉัตร ธำรง
๏ มอบมิ่งมไหสุริยางคพุทธางกูรรพิพงศ์
ผ่านภพแทนองค์ บนาน
๏ เสร็จสเด็จประเวศวรเขตพระหาพระหิมพานต์
ทรงพรตชฏิลธาร ชฎา
๏ เจริญเพิ่มเริ่มปถพีกสิณอจิณปรา-
กฏเกิดอภิญญา วิธี
๏ ทำลายชีพก็เลออำเภอสหบดี
ฌานชมภิรมย์ปรี ดิแด
๏ ปางภูมินทรปิ่นพินทุทัตธยินกระแส
สองราชอันห่างแห วิโยค
๏ คืนครองรมยบุรินทรก็สิ้นกำสรดโศก
อาโภคยุพาภาค อุไภย
๏ ส่งทูตเชิญยุพราชลิลาสพลคระไล
ยังแผ่นไผทไท ธเรศ
๏ ท้าวทราบสาสนนุสนธิใคร่ยลวรธิเบศร์
โทไท้ชนกชเนติ ชนินทร์
๏ ตรวจเตรียมจัตุรพลารถากุญชรสิน-
ธพบทจรพฤนท์ อเนก
๏ พร้อมพรั่งตั้งพยุหบาตรจักยาตรพลดิเรก
หลามไหลคระไลยเฉก ชลา ฯ

๑๕

๏ พลคชคณดาษดา ชาญชนะงา สง่าขาม
๏ พลคชชนะแง่งาม เคยผจญสงคราม บำบัดบร
๏ พลคชคณโรมรอน รงคดัสกร รนับรนาศ
๏ พลคชคณสามารถ ราญริปูปลาต ก็ลาญทัก
๏ พลคชคณหาญหัก กเรนทรปักษ์ ปราบประลัย
๏ พลคชคณเศิกกษัย เชี่ยวสมรรถชัย ชำนาญรณ
๏ พลคชคณโจษจล อาภรณดำกล ดำเกิงกาญจน์
๏ พลคชคณเหี้ยมหาญ นายหัดถาจารย์ จำทายขอ
๏ พลคชคณเมิลทมอ หมอประจำคอ ทั้งควาญท้าย
๏ พลคชคณผาดผ้าย คามณีย์ทาย จำทวยทวน
๏ พลคชคณยืนขบวร โตมรทั้งมวล ถนัดมือ
๏ พลคชคณเทิดถือ แพนกุงานกระพือ ยรรยงยาบ
๏ พลอัศวคณชำนันปราบ อเรนทรกำราบ ระอาฤทธิ์
๏ พลอัศวคณชาญชิต ผจญปัจจามิตร ประลัยหลาย
๏ พลอัศวคณเรียงราย พร้อมอาภรณ์กาย กนกเพริศ
๏ พลอัศวคณแลเลิศ อนิกัษฐาเทิด กุทัณฑ์น้าว
๏ พลอัศวคณหาญห้าว กรกระลับง้าว กระลอกไกว
๏ พลอัศวคณเกรียงไกร หอกครวัดไว คระวีคระแวง
๏ พลอัศวคณกำแหง ทวยททายแสง วว่ายโพยม
๏ พลอัศวคณรอญโรม รงคจู่โจม จรีแทง
๏ พลอัศวคณผลงแผลง ศรกำซาบแสลง สลายชนม์
๏ พลอัศวคณพยุหพหล ย่างคือย่างยนต์ เขยื้อนสาย
๏ พลอัศวคณผาดผาย เร็วเสมอหมาย พยุพัด
๏ พลอัศวคณเนกขนัด ต่างก็ตรวจจัด จำนำขบวร
๏ พลรถคณมากมวญ เล็งพิลาศควร จะพิศวง
๏ พลรถคณเทียมดุรงค์ งอนบรรเจิดธง สล้างสลอน
๏ พลรถคณอลงกรณ์ แปรกและแอกงอน ก็งามสรรพ
๏ พลรถคณดิเรกระดับ แก้วประกอบกับ กนกเนือง
๏ พลรถคณมลังมเลือง แลอร่ามเรือง จำรัสฉาย
๏ พลรถคณเรียบราย บนบลลังก์นาย จำนำสถิต
๏ พลรถคณเรืองฤทธิ์ รอญปัจจามิตร พิราไลย
๏ พลรถคณชาญชัย กุมลำแพนไกว และแกว่งกวัด
๏ พลรถคณเทิดทัด ทวนประจำหัดถ์ สง่าหาญ
๏ พลรถคณกุทัณฑ์ธาร แผลงไพรินผลาญ ก็กลากลาด
๏ พลรถคณศรศาสตร อุสุรดมดาษ เผด็จอรี
๏ พลรถคณสารถี ถือจรีคระวี คือกังหัน
๏ พลบทจรโจษจรร กรก็กุมสรร- พศาสตรา
๏ พลบทจรดาษดา ตนละตนผลา พันลึกพันลือ
๏ พลบทจรทายถือ ตาวทั้งสองมือ ก็เงือดเงื้อ
๏ พลบทจรสวมเสื้อ เกราะอเคื้อแควง คระแวงง้าว
๏ พลบทจรหาญห้าว เดิรชระเดียดอคร้าว บรู้กี่พรรค์
๏ พลบทจรแจจรร กุมกุทัณฑ์ธนู ทระน้าวสาย
๏ พลบทจรจำทาย ทวนธวัชกราย ทั้งกฤชไกร
๏ พลบทจรแกว่นไกว โล่ห์และดั้งไสว กระลับกระลอก
๏ พลบทจรหันหอก ประหัดศัตรูออก รอานุภาพ
๏ พลบทจรปรามปราบ ปวงริปูหลาบ ประลาตแสยง
๏ พลบทจรเริงแรง แขงก็แขงกล้า ก็กล้ายุทธ
๏ พลบทจรอึงอุตม์ โห่เพียงโทรมทรุด สุธาทลาย ฯ

๑๔

๏ พร้อมพรั่งประนังพลอเนก ปรัตเยกแหล่หลาย
ช้างม้ารถานิกนิกาย นิกรท้าวทหารหาญ
๏ โทท้าวธทรงพิสุทธสรร- พปิลันทนาการ
เก้าแก้วพแพร้วพรรณอุฬาร วิลาสลํ้าจำรูญเรือง
๏ เสด็จร่วมธำรงณรถอาสน์ อันโอภาสมลังมเลือง
ประดับสับดรบรรเทือง บรรเทียบรถไพชยนต์
๏ คลี่คลาคณานิกรยาตร พยุหบาตรโจษจล
จากนัคราจรอรญ รถเยศทุเรศสถาน
๏ เดิรทัพลำดับนิกรย้าย ก็ล่วงหลายทิวาวาร
ลุพรหมบุรีรัฐสำราญ รมยสุขสถาวร
๏ สองกษัตรตระบัดบทลิลาส อภิวาทชลีกร
ชนนีบดีศรบิดร ดำรัสถามถึงความหลัง
๏ ทูลแถลงแสดงอดุรเหตุ นฤเบศรยุบลฟัง
สงสารสมเด็จดนยทัง สุณิสาสุดาดวง
๏ สองราชธพาษปธารา ชลนาก็โทรมทรวง
ลาลดรทดฤทัยระลวง รลุงเศร้ากำเดาดาล
๏ เสร็จโศกก็กอบกิจอภิเษก ดิเรกราชพิธีการ
มอบมไหศวรรย์สรรพศฤงคาร ขัติยศักดิสมบูรณ์
๏ แด่องค์พระอัครปิยเอา- รสหน่อนเรนทร์สูร
ผ่านภพสันตติประยูร ธำรงแผ่นไผทแทน
๏ เสร็จเสด็จบำราศสิริสมบัติ ประเวศวนัสดงแดน
ทรงเพศเปนดาบสบแคลน ลำเค็ญเขตทุเรศอรญ
๏ เจริญจตุราพรหมวิหาร จตุตถฌานอันเพ็ญผล
พิราไลยก็ไคลยังนภมน- ทิรทิพยไกวัล
๏ จอมพงศ์พุทธางกุรกษัตร เสวยสวัสดิไอศวรรย์
สองกรุงผดุงในทศธรรม์ พิธีราชจรรยา
๏ อำรุงดิเรกภินิหาร สฤษฎิทานศาลา
จำแนกอเนกวิวิธา- นันตวัดถุเวเวียง
๏ โอวาทนุสาสนบำเพ็ญ ศิลเบ็ญจพร้อมเพรียง
ไพร่ฟ้าสุขารมยเพียง จักรพรรดิผ่านสุธา
๏ ทวยธเรศเจริญศิลและทาน อุฬารกิจภาวนา
มลายชนม์ก็ดลภพสุรา- ลยโลกแหล่หลาย
๏ จบเสร็จสรรเพ็ชญ์พุทธดิลก บัณฑูรยกอดีตภิปราย
แสดงเรื่องแต่เบื้องบุรพบรรยาย วิถารเหตุเทศนา ฯ

๑๑

๏ สฤษฎิ์สารบรรหาอรรถ อริยสัจจัตุรา
ดำรัสประมวญชา- ดกโดยลำดับดล
๏ ดูราคณาสงฆ์ ชินพงศสบสกล
พิทยาธราชน ผู้ฉกขรรค์อันธพาล
๏ คือเทพทัตจิตร จำนงคิดจำนองผลาญ
สืบขันธ์สันดานนาน คำนึงเวรฤวายไขษย
๏ สมเด็จบดินทร์พิน- ทุทัตปิ่นไผทไท
คือองคภูวไนย ชินชนกชเนนทร
๏ เอกอัครอรนุช คือองค์พุทธมารดร
มิตรมาตยากร คือราหุลดรุณสงฆ์
๏ ปุโรหิตบุตรา คือนุชาอนนท์องค์
อุปฐากสากยวงศ์ ประฎิบัติอัตรา
๏ กรุงรมย์บุรีสี่- หนระคุปตราชา
คือพระทักษิณสา- วกยิ่งปัญญายง
๏ มหิษีคือองค์มา- ตุจฉาแรกผนวชทรง
ฝ่ายภิกษุณีสง- ฆสาวิกอธิกญาณ
๏ ภูธรกินรนาถ ทุมราชนราบาล
คือโมคคลานชาญ อิทธิเอกอภิญญา
๏ จอมเมรุแมนมกุฎ คืออนุรุทธเถรา
ทรงทิพนัยนา- นุภาพพ้นบตนสมาน
๏ หนึ่งนางมณีเม- ขลาเทวนงพาล
คือองค์ผอูลอาร- ยอุบลวรรณา
๏ เยาวยอดยุพินทร์พิน- ทุมดีสุดาพงา
คืออัครชายา ยุพเยศยโศธร
๏ พระผู้บำเพ็ญโพธิ์ สมุทรโฆษธิเบศร
คือพุทธชินวร วิสุทธิเทพเจษฎา
๏ โผอนเอาดำนานเนิ่น ดำเนิรธรรมเทศนา
บัญญัติปัญญาสชา- ดกเสร็จสมเด็จแสดง ฯ

๑๖

๏ เชลงฉันท์รำพรรณพากย์จากแจง ผจงจัดอรรถแถลง
สุขุมคัมภีรพจน์  
๏ สรวมชีพกรมนุชิตชิโนรส สืบศรีสุคต
ขัติยวงศ์ทรงนาม  
๏ สถิตพระเชตุพนาราม เล็งเลิศในสยาม
พิภพอโยธยาศรี  
๏ เปนเชษฐชินบุตรชุมชี ยลฉันท์วาที
สมุทรโฆษค้างนาน  
๏ ฤๅสุดเรื่องรสบรรหาร เท่าทศพสุธาร
ธิราชธำรงธริษตรี  
๏ เลยลุล่วงหลายปางปี ปวงปราชญ์ไป่มี
ผู้เพิ่มนิพนธ์พจนา  
๏ กรมไกรสรวิชิตกนิษฐา พระสมบัติบา-
ลริอาราธนรังสรรค์  
๏ จึ่งเริ่มรจเรขฤๅทัน เสร็จสองวายชีวัน
บแล้วบลุเจตนา  
๏ ถวิลสังเวชชีวาตมา เสื่อมเศร้าปรีชา
ก็เว้นก็ว่างห่างเพียร  
๏ เงือดงดนิพนธ์พจน์จำเนียร หน่ายจิตรคิดเขียน
แลค้างสักสองพรรษา  
๏ กรมวงศาสนิทนัดดา อาราธน์ปราถนา
สัมฤทธิจิตรสืบแสดง  
๏ บัดซ้ำพรํ่าพากเพียรแถลง พลาดพลั้งยังแคลง
บเคล่าบคล่องว่องไว  
๏ โดยมุมานะหฤทัย อดสูดูไขษย
กวีฤๅแล้งแหล่งสยาม  
๏ ข้อยคิดลิขิตด้วยพยายาม ต่อแต่งเติมตาม
สติปัญญาอย่างเยาว์  
๏ ห่อนเอื้อนอุกอาจโอษฐ์เอา เคียงคู่ดูเบา
บุราณคารมฤๅหมาย  
๏ แรกเรื่องมหาราชภิปราย ไป่จบจนนารายณ์
นเรนทรสืบสรรสาร  
๏ สองโอษฐ์ฦๅสุรตำนาน เปนสามโวหาร
ทั้งข้อยก็ต้อยติดเติม  
๏ พอเสร็จสิ้นเรื่องเรืองเฉลิม ภพภูมิเผดิม
ผดุงพระเกียรติกษัตรีย์  
๏ สนองบาทบดิศวรสวามี มงกุฎกรุงศรี
อโยธยาถาวร  
๏ จงคงคู่โลกอันดร ธารธเรศอัมพร
รวิศศิแสงไขษย  
๏ สฤษฎิสรรค์ฉันทพฤติอันไพ- เราะเลิศสืบไผท
พอถ้วนประมวญบริบูรณ์ ฯ  
๏ จวบจุลศักราชได้ พรรษา สหัสแฮ
สองสตพรรษเอกา ทศอ้าง
กุกกุฏสังวัจฉรา กติกมาส หมายเฮย
อาทิตย์ดฤถีข้าง ปักษ์ขึ้นปัญจมี[๒]
๏ รังสรรค์ฉันท์เสร็จสิ้น สุดสาร
สมุทรโฆษต่อตำนาน เนิ่นค้าง
รจิตเรื่องบพิสดาร อดีตเหตุ แสดงเฮย
โดยพุทธพจนรสอ้าง อรรถแจ้งแถลงธรรม ฯ
๏ จงเปนปัจเยศเบื้อง อนาคต ภพเอย
ลุอัครสาวกยศ เลิศล้น
ทักษิณเสร็จมโนรถ ดุจปราถ-นานา
ทุกชาติ์ปราชญ์เปรื่องพ้น เพื่อนผู้หมู่กวี ฯ
๏ จบ เสร็จมหาสัตว์สร้าง สมภาร
อดีต ภพพุทธบรรหาร เหตุกี้
ดำ เนิรนิทานกาล ก่อนโพธิ์ โพ้นแฮ
นาน นับฦกลับลี้ ล่วงแล้วหลายกัลป์ ฯ


[๑] ปรัก = เงิน

[๒] วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีระกา จุลศักราช ๑๒๑๑ ตรงกับวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๙๒

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ