๗ เรื่องพระราชทานเพลิงศพเจ้าจอมมารดากรมหลวงจักรเจษฎา

ปีจอ จ.ศ. ๑๑๗๖ (พ.ศ. ๒๓๕๗)

ด้วยเจ้าพระยาอภัยภูธร ผู้ว่าที่สมุหนายกรับพระราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า เจ้าจอมมารดากรมหลวงจักรเจษฎา ถึงแก่อสัญญกรรม พระราชทานโกษฐจะได้ชักศพลงเรือศรี ณสพานริมบ้านพระยาพิบูลย์สมบัติไปเมรุวัดสุวรรณาราม ณวันเสาร์เดือน ๑๐ แรม ๑๑ ค่ำ ปีจอฉศก เวลาย่ำรุ่ง ไว้ศพ พระสงฆ์สวด ๔ สร้าง ๓๒ รูป ฉันเช้าเพล มีโขน หุ่น หนัง ดอกไม้พุ่มเพลิงระทาทิ้งทาน ครั้นรุ่งขึ้นณวันอาทิตย์เดือน ๑๐ แรม ๑๒ ค่ำ เวลาบ่ายจะพระราชทานเพลิง ให้นายนิตย์ นายชิต รับเลขต่อ พันพุฒ พันเทพราช ๖๐ คนมาผูกเรือศรี ๓ ลำ ขนานคู่กัน ๒ ลำ จะได้รองเตียงแว่นฟ้ารับโกษฐ ลำหนึ่งนั้นอยู่กลางให้ค่อนไปข้างหน้า จะได้วางเสลี่ยงพระสงฆ์เสลี่ยงปรายเข้าตอก เสลี่ยงโยงศพ ให้รับเตียงแว่นฟ้าต่อสนมตำรวจนอก ได้รับเครื่องประดับศพต่อนายเนียม นายมัจฉา ให้รับปี่กลองชนะต่อพระราชมานูลงเรือศรี ให้เอาคนในลำเรือยกโกษฐศพ ขนเครื่องประดับศพลงเรือขึ้นเมรุด้วย ถ้าแลเรือศรีไม่พอให้ไปยืมเรือศรีดำต่อเจ้าพนักงารกรมพระราชวังบวร ฯ มาลำหนึ่งให้ครบ ๓ ลำ เร่งถอยเรือศรีไปประทับรับศพให้ทันกำหนดมานี้

อนึ่งให้สนมตำรวจนอกเอาเตียงแว่นฟ้าไปตั้งรับโกษฐที่เรือศรี เอาพระเบญจาไปตั้งรับโกษฐที่เมรุ ๓ ชั้น เอาห่วงเหล็กไปติดเสาเมรุจะได้ใส่ถ้วยแก้วมุมละห่วง แล้วให้ยืมผ้าขาวต่อชาวพระคลังวิเศษไปทำผนัง ๔ มุมเมรุ เพดานในเมรุ ให้ทำเชิงตะกอน ๔ เหลี่ยม สูงต่ำเท่าใดให้ถามช่างเขียน จะได้แทงหยวกใส่เผาศพ แล้วให้เอาโคมระย้าไปแขวนแทนดอกไม้รุ่ง ๔ มุมเมรุ ให้เบิกน้ำมันมะพร้าวต่อชาวพระคลังราชการให้พอตามโคมระย้า และให้ ๘ ตำรวจทำฉนวนน้ำประจำท่า พลับพลาที่ข้างหน้าข้างใน ที่สรง ที่ลงบังคน แล้วให้ถางหญ้าในทางฉนวนอย่าให้รกอยู่ได้ ให้เอาโคมลูกฟักไปปักชักมหาบังสกุล ๓๒ ใบ แล้วให้ยืมเสลี่ยงต่อชาวพระราชยานหามพระสงฆ์ ๑ ปรายเข้าตอก ๑ โยงศพ ๑ รวม ๓ เสลี่ยง แล้วให้ยืมสัปทนต่อชาวพระอภิรมย์กั้นพระสงฆ์คัน ๑ เอาเชือกไปผูกขึงให้รวบเมรุ คลังในซ้ายจะได้แขวนโคม เอาฐานเครื่องไปตั้งที่เมรุจะได้ตั้งเครื่องเบญจา ๑๒ ฐาน

อนึ่งให้นายเนียม นายมัจฉา ช่างเขียน ช่างปั้น ช่างสลัก จัดแจงพระเบญจาเครื่องชั้นส่งให้สนมตำรวจนอกไปตั้งรับโกษฐที่เมรุ ๓ ชั้น แล้วให้เอาเครื่องสดที่ประดับศพพระยาราชสุภาวดีไปประดับพระเบญจา ให้ทำบัวรับผ้าโยงศพ แล้วบอกอย่างให้สนมตำรวจนอกทำเชิงตะกอน แล้วให้รับหยวกต่อกรมพระนครบาลไปแทงประดับเชิงตะกอนด้วย

อนึ่งให้พระสัสดีเกณฑ์ราชวัตรฉัตรเบญจรงค์ไปปักรายให้รอบเมรุ แล้วให้กั้นผ้าโรงวิเสทของคาว ของหวาน หมากพลู ให้มั่นคงจงดีทั้ง ๓ โรง

อนึ่งให้พันจันท์จัดแจงเครื่องเล่น โขน หุ่น วันละโรง หนังคืนละ ๒ โรง ดอกไม้พุ่มเพลิงรทากับฝักแคเตรียมทรงจุดเพลิง ๓ สาย แล้วให้เกณฑ์เรือคู่ชัก ๒ คู่ ให้มีเชือกชักจงทุกลำ

อนึ่งให้ชาวพระคลังศุภรัต ชาวพระคลังมหาสมบัติ เอาอาสนะไปแต่งที่ เอากระโถนไปตั้งให้พอพระสงฆ์สวดและฉัน แต่งที่ ๔ มุมเมรุ แล้วให้พระคลังมหาสมบัติเกณฑ์ผลมะกรูดมะนาว ขุนหมื่นเข้าส้มทิ้งทาน ตำรวจรักษาต้นกัลปพฤกษ์ ให้พร้อมวันละ ๔ ต้น จะเปนเงินต้นละเท่าใดให้กราบทูลฉลองแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ

อนึ่งให้สนมพลเรือนรับเครื่องกระบะมุขต่อท่านข้างใน เชิญไปตั้งบูชาพระอภิธรรม พระสงฆ์สวด ๔ สร้างวันละ ๔ สำรับ กับเทียนดูหนังสือเล่มละ ๑ บาทคืนหนึ่ง ๑๖ เล่ม เทียนสำหรับเครื่องเล่มละ ๑ บาทคืนหนึ่ง ๒ วัน ๖๔ เล่ม เทียนโคมเล่มละ ๖ สลึง ตามชักมหาบังสกุล ๖๔ เล่ม ตามรอบเมรุ ๓๒ เล่ม แล้วให้เบิกผ้าขาวต่อชาวพระคลังวิเศษมาทำผ้าโยงศพ แล้วให้เอาเสื่อ เอาม่านไปแต่งที่ข้างใน เอาตราง พล้อ ขอ คีม ไปเผาศพ ให้ยกน้ำชาหมากพลูต่อวิเสทถวายพระสงฆ์ ให้เบิกน้ำมันตามตะเกียงแก้วใช้พอ ๔ มุมเมรุ

อนึ่งให้ชาวพระคลังวิเศษไปจัดแจงโกษฐ ให้จ่ายผ้าขาวให้สนมพลเรือนโยงศพ ให้ยืมผ้าขาวให้สนมทำผนัง ๕ มุมเมรุ ให้ยืมผ้าขาวให้ตำรวจนอกให้พอทำเพดานในเมรุ เอาม่านไปผูกที่เมรุด้วย

อนึ่งให้ขุนศรีเสาวรักษ์ในกรมพระกลาโหม เอาเชือกเอารอกไปผูกติดกับเพดานเมรุ กับคนขึ้นเชือก ชักรอก ให้พร้อม

อนึ่งให้กรมพระนครบาลไปถางหญ้าหน้าพลับพลา ในสร้าง ๔ สร้างรวม ๔ ด้าน ในทางชักมหาบังสุกุล จงเตียนอย่าให้รกอยู่ได้ แล้วให้ขุดดิน ตัดต้นกล้วยให้พอเชิงตะกอนเผาศพ แล้วให้ตัดต้นกล้วยให้ช่างเขียนที่เมรุให้พอแทงหยวกประดับเชิงตะกอน แล้วให้จัดนายอำเภอเอาฆ้องไปตีลาดตระเวนเวลากลางวันกลางคืนอย่าให้เกิดเหตุการณ์ได้ ให้ไปตระเวนแต่ณวันเดือน ๑๐ แรม ๑๐ ค่ำไปกว่าจะพระราชทานเพลิงแล้ว

อนึ่งให้ชาวพระราชยาน ชาวพระอภิรมย์ เอาเสลี่ยงแว่นฟ้าไปหามโกษฐลงเรือและตั้งเมรุ เอาเครื่องเบญจาไปลงเรือศรี และตั้งที่เมรุ ๑๒ คัน แล้วยืมเสลี่ยงให้ ๔ ตำรวจสนมตำรวจ ๓ เสลี่ยง แลยืมสัปทนกั้นพระสงฆ์คันหนึ่ง

อนึ่งให้พระราชมานูจัดปี่ ๑ กลองชนะ ๕ คู่ ลงเรือศรีประโคมศพไปเมรุ อยู่ประโคมไปกว่าจะพระราชทานเพลิงแล้ว

อนึ่งให้ชาวพระคลังในซ้ายเอาฟืนแสมไปเผาศพ ๑๐๐ ดุ้น แล้วให้เอามู่ลี่ไปกั้นพลับพลาที่ข้างใน เอาไปแขวนที่เมรุ ๘ ใบ เอาแม่ขันไปตั้งน้ำเลี้ยงเพลิงคู่ ๑ แล้วให้ชาวพระคลังในซ้าย พระคลังในขวา เอาม่านไปผูกให้รอบเมรุ

อนึ่งให้ชาวพระคลังราชการเอาเสื่อลวดไปปูพลับพลาข้างหน้าและปูที่ขุนนางเฝ้า แล้วให้จ่ายไม้ให้สมุห์บาญชีจัตุสดมภ์ให้พอกั้นฝา ค้ำใบโรงโขน โรงหุ่น ให้จ่ายน้ำมันให้สนมตำรวจนอกตามโคมระย้า ให้สนมพลเรือนตามตะเกียงแก้วให้พอ ๔ มุมเมรุ

อนึ่งให้กรมนาจ่ายเข้าสารให้เเก่วิเสทหุงถวายพระสงฆ์ ๖ ถัง เลี้ยงขุนนาง ๕ ถัง เลี้ยงคนประจำการ ๑๕ ถัง ห่อเข้าห่อ ๖๐๐ ห่อ ๑๕ ถัง

อนึ่งให้สมุห์บาญชีจัตุสดมภ์ทั้ง ๔ เบิกไม้ต่อชาวพระคลังราชการ กั้นฝาค้ำใบโรงโขน โรงหุ่น ทำบันไดและหลาวไม้เสียบลูกกัลปพฤกษ์ทั้ง ๔ ต้น

อนึ่งให้ตำรวจหลัง ตำรวจวัง ไปยกสำรับของคาวของหวานถวายพระสงฆ์เช้า เพล ๓ เวลา

อนึ่งให้สังฆการีนิมนต์พระสงฆ์สวดที่สร้างฉันเช้า ฉันเพล แล้วให้รับเภสัชอังคาสน์ยาเสียงต่อวิเสทหมากพลูถวายพระสงฆ์ แล้วให้สังฆการีธรรมการ คอยห้ามพระสงฆ์ห้ามเถรเณร อย่าให้มาดูเล่นเดิรลุ่มเล้าวิวาทเกิดเหตุการณ์ได้เปนอันขาดทีเดียว

อนึ่งให้จ่าศาลาเอาเสื่อลวดไปปูศาลาลูกขุนให้เต็มทั้ง ๒ ศาลา

อนึ่งให้กรมแสงเอาหน้าเพลิงส่งให้มหาดเล็ก ให้มหาดเล็กรับหน้าเพลิงต่อกรมแสงทูลเกล้า ฯ ถวายทรงติดเพลิง ให้รับเพลิงใส่โคมแก้วส่งให้หมื่นเทวาทิตย์เอาเพลิงไปพระราชทาน แล้วให้รับเครื่องต่อท่านข้างในไปกับเพลิงสำรับหนึ่ง

อนึ่งให้หมื่นเทวาทิตย์รับโคมแก้วใส่เพลิงต่อมหาดเล็กไปพระราชทานเผาศพ

อนึ่งให้ชาวพระคลังพิมานอากาศเอาถ้วยแก้วไปใส่ห่วงเหล็ก ๔ มุม เมรมุมละใบ

อนึ่งให้ท่านพนักงารข้างในแต่งเครื่องกระบะมุขส่งให้สนมพลเรือน เชิญไปตั้งบูชาพระอภิธรรม พระสงฆ์สวด ๔ สร้างวันละ ๔ สำรับ แล้วให้ส่งเทียนดูหนังสือเล่มละบาทคืนหนึ่ง ๑๖ เล่ม เทียนสำหรับเครื่องเล่มละบาทคืนหนึ่งสองวัน ๖๔ เล่ม เทียนโคมเล่มละ ๖ สลึง ตามชักมหาบังสุกุล ๖๔ เล่ม ตามรอยพระเมรุ ๓๒ เล่ม รวม ๙๖ เล่ม แล้วให้แต่งเครื่องประทานศพส่งให้มหาดเล็กไปกับเพลิงสำรับ ๑

อนึ่งให้วิเสทกลางของคาวของหวาน แต่งสำรับถวายพระสงฆ์สวดเช้าเพล ๓ เวลา ๆ ละ ๓๒ สำรับ แล้วให้แต่งสำรับเลี้ยงขุนนางคนประจำการ ณวันเดือน ๑๐ แรม ๑๑ ค่ำเช้า คาวเอก ๕ สำรับ โท ๓๐ สำรับ ตรี ๕๐ สำรับ หวานเอก ๕๐ สำรับ โท ๔๐ สำรับ เย็น คาวโท ๒๐ สำรับ ตรี ๓๐ สำรับ หวานโท ๓๐ สำรับ ณวันเดือน ๑๐ แรม ๑๒ ค่ำเช้า คาวโท ๓๐ สำรับ ตรี ๔๐ สำรับ หวานโท ๔๐ สำรับ แล้วให้เบิกเข้าสารหุงถวายพระสงฆ์ ๖ ถัง เลี้ยงขุนนาง ๕ ถัง เลี้ยงคนประจำการ ๑๕ ถัง

อนึ่งให้วิเสทฉ้อทานเบิกเข้าสารต่อกรมนา ๑๕ ถัง หุงเข้าห่อไปเลี้ยงไพร่ชักศพ ๖๐๐ ห่อ

อนึ่งให้วิเสทหมากพลูแต่งเภสัชอังคาสน์น้ำชายาเสียง หมากพลูตั้งหัวหนังสือท้ายหนังสือ ส่งให้สังฆการี สนมพลเรือน ถวายพระสงฆ์เวลากลางวันกลางคืน

อนึ่งให้พันพุฒ พันเทพราช จ่ายเลขให้นายนิตย์ นายชิต ลงเรือศรี ๓ ลำ ๖๐ คนตามรับสั่ง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ